ทิพยประกันภัย คว้ารางวัลบริษัทประกันวินาศภัยบริการยอดเยี่ยม ปี 2025
กรุงเทพฯ 17 ก.ค. – ทิพยประกันภัย คว้ารางวัล “บริษัทประกันวินาศภัยบริการยอดเยี่ยม” ปี 2025 ดร.สมพร สืบถวิลกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ทิพย กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน) เข้ารับรางวัลเกียรติยศ “บริษัทที่มีบริการยอดเยี่ยมด้านประกันวินาศภัย” จาก ดร.เศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย ซึ่งให้เกียรติเป็นประธานมอบรางวัล ภายในงาน Money & Banking Awards 2025 ณ โรงแรมไฮแอท รีเจนซี กรุงเทพฯ โดยมีนายสันติ วิริยะรังสฤษฎ์ ประธานบรรณาธิการ วารสารการเงินธนาคาร ร่วมแสดงความยินดี รางวัลอันทรงเกียรตินี้มาจากการสำรวจความคิดเห็นของประชาชนผู้เข้าร่วมงานมหกรรมการเงิน Money Expo ทั้งในกรุงเทพฯ และภูมิภาค รวม 7 ครั้ง ระหว่างปี 2566-2567 […]
OR คว้า 5 รางวัล Marketeer No.1 Brand Thailand 2025 สะท้อนความเชื่อมั่น
กรุงเทพฯ 17 ก.ค. – บมจ.ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก (OR) คว้า 5 รางวัล จากเวที Marketeer No.1 Brand Thailand 2025 แบรนด์ยอดนิยมอันดับหนึ่งในใจผู้บริโภคใน 5 หมวดธุรกิจหลัก ตอกย้ำศักยภาพของ OR ในฐานะผู้นำธุรกิจค้าปลีกครบวงจรที่อยู่เคียงข้างคนไทยและชุมชนอย่างแท้จริง OR แจ้งว่า 5 หมวดธุรกิจหลัก ที่ได้รับรางวัลที่ได้รับได้แก่ Café Amazon ในหมวดร้านกาแฟ, PTT Lubricants ในหมวดน้ำมันเครื่องรถยนต์, PTT Station ในหมวดสถานีบริการน้ำมัน, EV Station PluZ ในหมวดสถานีชาร์จรถไฟฟ้า และก๊าซหุงต้ม ปตท. ในหมวดถังก๊าซหุงต้ม การได้รับรางวัล Marketeer No.1 Brand Thailand 2025 ทั้ง 5 หมวด สะท้อนถึงความเชื่อมั่นของผู้บริโภคที่มีต่อแบรนด์ในเครือ OR ในทุกมิติ […]
ผบ.ตร.ยันไม่ก้าวล่วงกรณีอดีต รอง ผบ.ตร.ร้องศาลปกครองฯ
บช.ก. 17 ก.ค. – ผบ.ตร.แจงกรณีอดีตรอง ผบ.ตร.ร้องศาลปกครองสูงสุดขอความเป็นธรรม ยันไม่ก้าวล่วงการพิจารณาของตุลาการ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) เปิดเผยถึงกรณีที่อดีตรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) ได้ยื่นคำร้องต่อศาลปกครองสูงสุด เพื่อขอความเป็นธรรมกรณีถูกคำสั่งให้ออกจากราชการ โดยกล่าวหาว่าคำสั่งดังกล่าวมิชอบด้วยกฎหมาย พร้อมขอให้ตรวจสอบและดำเนินการทางวินัยกับตุลาการเจ้าของสำนวน ฐานมีพฤติกรรมฝ่าฝืนจริยธรรมร้ายแรงว่า เป็นสิทธิของอดีตรอง ผบ.ตร.ในการดำเนินการตามกระบวนการยุติธรรม พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ กล่าวว่า เรื่องนี้เคยกล่าวไว้ก่อนหน้านี้แล้วว่า เป็นสิทธิของอดีต รอง ผบ.ตร.ที่จะดำเนินการตามกระบวนการทางกฎหมาย ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลปกครอง ตนเองในฐานะข้าราชการตำรวจและหัวหน้าหน่วย ไม่สามารถเข้าไปก้าวล่วงการพิจารณาของตุลาการแต่ละท่านได้ เพราะตุลาการล้วนเป็นผู้มีความรู้ ความสามารถ และมีประสบการณ์ในวิชาชีพอย่างลึกซึ้ง “แม้ตนเองจะเป็นผู้รักษากฎหมาย ก็ต้องยอมรับว่าไม่อาจเทียบเคียงกับองค์ความรู้ของตุลาการได้ ไม่ว่าผลการพิจารณาจะออกมาอย่างไรก็พร้อมน้อมรับคำตัดสินด้วยความเคารพอย่างสูง และจะไม่วิพากษ์วิจารณ์ใด ๆ ทั้งสิ้น” พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ ยังย้ำด้วยว่า ตุลาการไม่ว่าจะอยู่ในศาลใด ต่างเป็นผู้มีความรู้ทั้งในข้อเท็จจริงและข้อกฎหมาย มีความมั่นคงในวิชาชีพ และสามารถวิเคราะห์พิจารณาคดีได้อย่างเป็นธรรม ส่วนตัวให้ความเคารพทั้งต่อกระบวนการยุติธรรม และต่ออดีตรอง ผบ.ตร. ที่ได้ใช้สิทธิทางกฎหมายอย่างเต็มที่ ทั้งนี้ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ บอกว่า ไม่ว่าผลคำพิพากษาจะออกมาในทางใด สำนักงานตำรวจแห่งชาติก็พร้อมจะน้อมรับ และดำเนินการตามแนวทางบริหารงานบุคคลให้เหมาะสม […]
ผบ.ตร.หวังกัมพูชาจะร่วมมือส่ง “ก๊กอาน” มาดำเนินคดี
บช.ก. 17 ก.ค. – ผบ.ตร.หวังกัมพูชาจะให้ความร่วมมือส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดน “คดีก๊กอาน” หากเมินเฉย ถือเป็นเอกสิทธิ์ของแต่ละประเทศ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) เปิดเผยความคืบหน้าคดีก๊กอาน ว่า คดีนี้ตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยีได้ออกหมายจับผู้ต้องหาทั้งหมด 7 คน แบ่งเป็นสัญชาติไทย 5 คน และสัญชาติกัมพูชา 2 คน ซึ่งตอนนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบว่า ผู้ต้องหาสัญชาติไทย 5 คนนั้น ได้สัญชาติไทยมาได้อย่างไร รวมถึงอยู่ระหว่างการตรวจสอบที่มาของบัตรประชาชนคนไทยด้วย ส่วนเรื่องการติดตามจับกุมตัวมาดำเนินคดีนั้น ผบ.ตร. กล่าวว่า ด้วยความที่เป็นคดีนอกราชอาณาจักรจึงต้องให้พนักงานอัยการเป็นผู้พิจารณา ขั้นตอนหลังจากนั้นก็จะออกหมายแดงประสานตำรวจสากล ให้ช่วยติดตามจับกุมตัว เพราะในบรรดาแต่ละประเทศก็มีสนธิสัญญาการส่งผู้ร้ายข้ามแดนอยู่แล้ว เมื่อถามถึงความคาดหวังที่จะได้รับความร่วมมือจากตำรวจกัมพูชานั้น พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ บอกว่า เราต้องมีความคาดหวังจากหมายแดง แต่ถ้าหากกัมพูชาไม่ส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนมาให้ก็ถือว่าเป็นเอกสิทธิ์ของประเทศนั้น ซึ่งทางตำรวจไทยก็จะทำทุกวิถีทางเพื่อให้ได้ตัวมาดำเนินคดีให้ได้.-419-สำนักข่าวไทย
ผอ.สำนักพุทธฯ ยอมรับการทำงานมีปัญหาจริง ย้ำไม่มีการหมกเม็ด
บช.ก. 17 ก.ค. – ผอ.สำนักพุทธฯ ยอมรับที่ผ่านมาการทำงานมีปัญหาจริง ย้ำไม่มีการหมกเม็ดช่วยเหลือกัน เผยมีหลายหน่วยงานที่ต้องร่วมแก้ไข นายอินทพร จั่นเอี่ยม ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ เปิดเผยหลังเข้าประชุมกับศูนย์ทำนุบำรุงพระพุทธศาสนาและส่งเสริมพระธรรมวินัยนานกว่า 2 ชั่วโมง เพื่อกำหนดแนวทางป้องกันปราบปรามการกระทำผิดที่ส่งผลกระทบต่อพระพุทธศาสนา ระหว่างที่นายอินทพร กำลังเดินขึ้นรถตู้และกำลังจะออกจากอาคารพิทักษ์สันติ กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง สื่อมวลชนได้เข้าไปสอบถามว่าหลังเข้าประชุมวันนี้เรียบร้อยดีหรือไม่ นายอินทพร บอกว่า วันนี้เรียบร้อยดี มีการประชุมในภาพรวมกับหลายหน่วยงาน ส่วนเมื่อถามว่ายอมรับหรือไม่ว่าที่ผ่านมาการทำงานของสำนักพุทธฯ นั้นมีปัญหา นายอินทพร กล่าวว่า “ยอมรับครับ” “มีหลายหน่วยงานที่ต้องมาแก้“ทั้งนี้ ได้สอบถามว่าวันนี้ตกลงกับหลายหน่วยงานได้หรือไม่ นายอินทพร บอกว่า “ได้ๆ ไม่มีปัญหา” สื่อยังถามอีก แล้วจริงหรือไม่ ที่เรื่องการร้องเรียนต่างๆ มักไปตันอยู่ที่สำนักงานพระพุทธศาสนาและมักมีการหมกเม็ดกันเอง นายอินทพร กล่าวสั้นๆ ว่า “ไม่มีหรอกครับ” ก่อนที่รถตู้จะเคลื่อนตัวออกไป.-419- สำนักข่าวไทย
หุ้นไทยปิดพุ่งแรง 40.48 จุด
กทม. 17 ก.ค.- SET ปิดวันนี้ที่ 1,198.11 จุด เพิ่มขึ้น 40.48 จุด(+3.50%) มูลค่าการซื้อขาย 63,374.58 ล้านบาท การซื้อขายหุ้นวันนี้ ดัชนีแกว่งกรอบแคบ โดยดัชนีทำจุดสูงสุดที่ 1,199.14 จุด ต่ำสุดที่ 1,162.70 จุด ส่วนหลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงวันนี้เพิ่มขึ้น 387 หลักทรัพย์ ลดลง 112 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 150 หลักทรัพย์ -สำนักข่าวไทย
5 บริษัทชิงสิทธิ์สำรวจปิโตรเลียมครั้งที่ 25
กรุงเทพฯ 17 ก.ค. – กรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ เผยมีผู้ยื่นขอสิทธิสำรวจและผลิตปิโตรเลียม สำหรับแปลงสำรวจบนบก (ครั้งที่ 25) ภายใต้ระบบสัมปทาน จำนวน5 ราย 8 คำขอ หลังจากเปิดรับข้อเสนอ 1-16 ก.ค.68 คาดการพิจารณาจะแล้วเสร็จภายในเดือน ธ.ค.68 นายวรากร พรหโมบล อธิบดีกรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ เปิดเผยว่า มีผู้ยื่นขอสิทธิฯ ครั้งนี้ มีจำนวน 8 คำขอ และมีผู้ที่ยื่นขอสิทธิฯ จำนวน 5 ราย ได้แก่ นายวรากร กล่าวว่า หลังจากนี้จะพิจารณาและประเมินข้อเสนอของบริษัทฯ ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดอย่างรอบคอบ โปร่งใส และเป็นธรรม คาดว่าจะแล้วเสร็จภายในเดือน ธ.ค.68 หลังจากนั้นจะนำเสนอผลการคัดเลือกต่อคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่อพิจารณาอนุมัติ และเมื่อ ครม.อนุมัติแล้ว กรมเชื้อเพลิงธรรมชาติจะดำเนินการประกาศผลผู้ชนะ และลงนามในสัมปทานต่อไป ซึ่งการที่มีบริษัทชั้นนำ ทั้งในและต่างประเทศให้ความสนใจเข้าร่วมครั้งนี้ ถือเป็นสัญญาณที่ดี ซึ่งจะส่งผลเชิงบวกต่ออุตสาหกรรมสำรวจและผลิตปิโตรเลียมของไทย รวมถึงภาคการลงทุนในธุรกิจต่อเนื่องต่าง ๆ เนื่องจากไม่ได้มีการเปิดให้ขอยื่นสัมปทานในพื้นที่ใหม่บนบกมาตั้งแต่ปี […]
ผบ.ตร.ยันไม่ขัดแย้งสำนักพุทธฯ ชม “บิ๊กเต่า” ตั้งใจทำงาน
บช.ก. 17 ก.ค. – ผบ.ตร.ยันไม่ขัดแย้งสำนักพุทธฯ หลังพูดคุยในที่ประชุมตั้งศูนย์ตรวจสอบพระสงฆ์ ชม “บิ๊กเต่า” ตั้งใจทำงาน ส่วนคดีพระสมณศักดิ์สูงกว่าคดี “สีกากอล์ฟ” ได้รับรายงานแล้ว ยันเหตุเกิดในต่างจังหวัด เกี่ยวข้องสีกาเช่นเดียวกัน พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) พร้อมด้วย นายอินทพร จั่นเอี่ยม ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ และนายชัยพล สุขเอี่ยม อธิบดีกรมการศาสนา และเจ้าหน้าที่จากสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ และสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมประชุมกำหนดแนวทางป้องกันปราบปรามการกระทำความผิดที่ส่งผลกระทบต่อพระพุทธศาสนา ที่กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ภายหลังการประชุมกว่า 2 ชั่วโมง พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ กล่าวว่า เราได้มีการจัดตั้งศูนย์ร้องเรียนการกระทำผิดของพระสงฆ์ขึ้น โดยเป็นการร่วมมือกันหลายหน่วยงาน ประกอบด้วย ตำรวจ, ป.ป.ช., ป.ป.ท., ปปง. และสำนักงานพระพุทธศาสนา โดยจะมีการประสานแลกเปลี่ยนข้อมูลกัน ซึ่งการจัดตั้งศูนย์ครั้งนี้ถือเป็นการจัดตั้งเฉพาะกิจขึ้นมาก่อน โดยให้ทางผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลางเป็นผู้อำนวยการศูนย์ แต่ในอนาคตคงจะต้องยกระดับให้เป็นเรื่องของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยการแบ่งหน้าที่กันนั้น จะให้ทางสำนักงานพระพุทธศาสนาตรวจสอบว่าวัดไหนบุคคลใดไม่ปฏิบัติตามกฎเกณฑ์และแนวทางที่วางไว้ ก็จะผิดเรื่องวินัยสงฆ์ หากผิดในเรื่องอาญาตำรวจจะเป็นผู้ดำเนินคดี ซึ่งตัวเองไม่อยากให้เหมารวม ให้แยกเป็นเรื่องของบุคคล ส่วนการแสดงทรัพย์สินวัดนั้น ก็จะให้ทาง […]
ทภ.2 ยันมุ่งมั่นดูแลพื้นที่ชายแดน รอผลวิเคราะห์ “ทุ่นระเบิด”
17 ก.ค.- กองทัพภาคที่ 2 ยืนยันมุ่งมั่นดูแลความปลอดภัยพื้นที่ชายแดน ขอให้รอผลวิเคราะห์รายละเอียด “ทุ่นระเบิด” อย่างเป็นทางการ คาดใช้เวลา 2-3 วัน เพื่อความถูกต้องและป้องกันการสับสน เมื่อวันที่ 17 ก.ค.68 กองทัพภาคที่ 2 ได้ออกเอกสารข่าวชี้แจงกรณี ที่มีการเผยแพร่ข้อมูลเกี่ยวกับเหตุการณ์กำลังพลประสบเหตุจากการเหยียบกับระเบิด ในพื้นที่ช่องบก อำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี โดยมีข้อสันนิษฐานว่าเป็นการวางทุ่นระเบิดใหม่ นั้น กองทัพภาคที่ 2 ขอชี้แจงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม 2568 ที่ผ่านมา กำลังพลจากหน่วยร้อย ร.6021 ได้ปฏิบัติภารกิจลาดตระเวนรักษาความสงบในพื้นที่ช่องบก และประสบเหตุเหยียบกับระเบิด ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 3 นาย หน่วยจึงได้ดำเนินการถอนกำลังออกจากพื้นที่เกิดเหตุทันที เพื่อเร่งนำผู้ได้รับบาดเจ็บส่งรักษาที่โรงพยาบาลค่ายสรรพสิทธิประสงค์ โดยในขณะนั้นยังไม่ได้ทำการพิสูจน์ทราบพื้นที่ เนื่องจากเกรงว่าจะเกิดอันตรายเพิ่มเติม ต่อมาในช่วงบ่ายของวันที่ 17 ก.ค.68 พลโทบุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ได้สั่งการให้หน่วยเก็บกู้และตรวจสอบวัตถุระเบิด เข้าดำเนินการตรวจสอบพื้นที่เกิดเหตุอย่างละเอียด พร้อมเก็บรวบรวมหลักฐาน เพื่อส่งให้หน่วยผู้เชี่ยวชาญด้านวัตถุระเบิดทำการวิเคราะห์ว่า ทุ่นระเบิดดังกล่าวเป็นชนิดใด และมีแหล่งที่มาอย่างไร […]