ทำเนียบ 18 ก.ค.- รัฐบาลย้ำดูแลเยียวยากำลังพลที่ได้รับบาดเจ็บอย่างเต็มที่ ด้าน ทภ.2 อยู่ระหว่างพิสูจน์หลักฐานว่าเป็นของเก่ายุคเขมรแดงหรือปัจจุบัน ขณะที่ “แพทองธาร-บิ๊กเล็ก” รุดเยี่ยมให้กำลังใจทหารทุกนายที่ปฏิบัติหน้าที่ชายแดนไทย-กัมพูชาอย่างเข้มแข็ง นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า รัฐบาลและกองทัพกำลังเร่งตรวจสอบเพื่อทำความจริงให้ปรากฏ ขณะเดียวกันขอให้เจ้าหน้าที่ทุกนายใช้ความเข้มงวด และความระมัดระวังในการปฏิบัติภารกิจในพื้นที่มากขึ้น และรัฐบาลไทยยังคงยึดมั่นแนวทางสันติวิธี เพื่อรักษาไว้ซึ่งอธิปไตยของไทย และให้พื้นที่ชายแดนกลับคืนสู่ความสงบและปลอดภัยโดยเร็ว ทั้งนี้ รัฐบาลได้รับรายงานว่า กองทัพภาคที่ 2 (18 ก.ค. )ได้ส่งหน่วยเก็บกู้วัตถุระเบิดและพิสูจน์หลักฐานไปที่จุดเกิดเหตุเข้าไปเก็บหลักฐานเพิ่มเติม เพื่อนำมาพิสูจน์ทราบ โดยก่อนหน้านี้ กองทัพภาคที่ 2 ได้ส่งหมวดก่อสร้างทั่วไปที่ 2 กองพันทหารช่างที่ 202 กรมทหารช่างที่ 2 ฉก.1 ช่องบก (ช.2 พัน.202) อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี ในส่วนชุดปฏิบัติงานก่อสร้างเส้นทางยุทธวิธี ได้ออกเคลียร์พื้นที่ เพื่อที่จะสร้างเส้นทางลาดตระเวนในพื้นที่ช่องบก ตั้งแต่เดือน มิ.ย. 68 จนถึงปัจุบัน ได้ตรวจพบวัตถุทางการทหารหลายรายการ ซึ่งอยู่ระหว่างการตรวจสอบว่าเป็นระเบิด ยุทโธปกรณ์หรือยุทธภัณฑ์ทางการทหารตั้งแต่ยุคสมัยกองทัพเขมรแดงหรือเพิ่งนำมาใช้ในปัจจุบัน นายจิรายุ กล่าวต่อไปว่า […]

กระทรวงมหาดไทย 18 ก.ค.-“ภูมิธรรม” สั่งสอบ สถ.หลังมีเอกสารชี้แจงงบกระตุ้นเศรษฐกิจหลุด ชี้ทำโดยไม่ผ่านขั้นตอน สงสัยเอกสารออกได้อย่างไร อธิบดีอยู่ระหว่างถูกคำสั่งเปลี่ยนแปลงตำแหน่ง พร้อมยืนยันสั่งเกลี่ยงบท้องถิ่นกระตุ้นเศรษฐกิจใหม่มีข้อมูลทั้งหมด นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีกรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่น (สถ.) ส่งเอกสารถึงสื่อมวลชนชี้แจงปมถูกกล่าวหา งบกระตุ้นเศรษฐกิจยืนยันว่างบไม่กระจุก พร้อมกระจายหลักเกณฑ์และไม่พบงบ 700 ล้านบาท ในอบต. หรือ อบจ. ในจังหวัดบุรีรัมย์และสุรินทร์ ว่า เดี๋ยวจะให้คนที่ทำเอกสารมาชี้แจงกับตน เพราะสิ่งที่ชี้แจงออกมา ไม่เป็นไปตามกระบวนการ ตนก็จะเรียกมาถามว่าเกิดขึ้นได้อย่างไร พร้อมยืนยันข้อเท็จจริงที่ตนได้พูดไปถูกต้องทั้งหมด สิ่งที่ออกมาชี้แจงมีเพียงเรื่องเดียวคืองบ 1.57 แสนล้านบาท แต่ที่ตนพูดเรื่องงบกระจุกตัว มันเกิดขึ้นตั้งแต่ปี 67-68 มาแล้ว เป็นงบที่ใช้กับท้องถิ่นจังหวัดบุรีรัมย์มีบาง อบต. มี 700 กว่าโครงการและได้เงินไปทั้งหมดซึ่งตัวเลขตนจำไม่ได้ แต่มีโครงการหนึ่งได้เงินไปถึง 700 ล้านบาท ตัวเลขทั้งหมดมีตรวจสอบได้เพราะฉะนั้นการชี้แจงออกมาตนก็จะสอบถามว่าหวังวัตถุประสงค์อะไรและได้ตอบคำถามที่ตนได้ถามไปหรือไม่ ซึ่งตนจะดำเนินการไปตามกระบวนการกฎหมาย “ตนยืนยันว่าเอกสารที่ออกมาเมื่อวานนี้ เป็นเอกสารที่ไม่ได้ยื่นออกมาเป็นทางการมีผู้เสนอมาซึ่งเราก็ต้องไปตรวจสอบว่าออกมาได้ยังไงและการชี้แจงก็ชี้แจงเพียงจุดเดียวเพื่อตอบปัญหาที่ตนพูดทั้งหมดซึ่งไม่เป็นความจริงอย่างนั้น ตนไม่ได้พูดอะไรผิดเลยทั้งหมดยืนยันข้อมูลก็ต้องมีการดำเนินการให้จบแล้วค่อยว่ากัน” นายภูมิธรรม กล่าว เมื่อถามว่าการเรียกมาชี้แจงหมายถึงอธิบดีใช่หรือไม่ นายภูมิธรรม ระบุว่า […]

พรรคกล้าธรรม 18 ก.ค.- “สะถิระ” ชี้ ร่าง พ.ร.บ.ประชามติ ผ่านสภาฯ ทำให้ ปชช.มีสิทธิ์ตัดสินอนาคตประเทศ แต่ต้องไม่มีกระบวนการบิดเบือนเสียง เพราะ รธน.ต้องมาจากเสียงบริสุทธิ์ของคนไทย นายสะถิระ เผือกประพันธุ์ สส.ชลบุรี พรรคกล้าธรรม(กธ.)กล่าวว่า รู้สึกยินดีที่ร่างพระราชบัญญัติว่าด้วยการออกเสียงประชามติ ฉบับที่ … พ.ศ. … ได้รับความเห็นชอบจากที่ประชุมสภาฯ และได้ดำเนินการกลับไปยังรัฐบาลแล้ว การผ่านร่างกฎหมายฉบับนี้ถือเป็นการเน้นย้ำความสำคัญของกระบวนการประชามติ ซึ่งเป็นกลไกสำคัญที่สะท้อนถึงอำนาจอธิปไตยของประชาชนอย่างแท้จริง นายสะถิระ กล่าวต่อว่า ที่ผ่านมาประเทศไทยมีรัฐธรรมนูญทั้งหมด 20 ฉบับ โดยในจำนวนนั้นมีเพียง 8 ฉบับที่กำหนดให้มีการออกเสียงประชามติ แต่กลับมีการจัดประชามติจริงเพียง 2 ครั้งเท่านั้น ได้แก่ การออกเสียงประชามติรัฐธรรมนูญฉบับปี 2549 และรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราวปี 2557 ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงข้อจำกัดของกลไกการมีส่วนร่วมของประชาชนในการตัดสินใจเรื่องสำคัญของประเทศ “แม้ประชาชนจะออกมาใช้สิทธิ์มากน้อยเพียงใด แต่สุดท้ายผลของประชามติคือ สิ่งที่ต้องยอมรับร่วมกัน เพราะเป็นกระบวนการที่ทุกฝ่ายเห็นพ้องให้ใช้เป็นมาตรฐานในการตัดสินใจในเรื่องที่มีความสำคัญสูงสุด เช่น การร่างหรือแก้ไขรัฐธรรมนูญ” นายสะถิระ กล่าว นายสะถิระ กล่าวต่อว่า ตนยังมีความกังวลโดยเฉพาะเรื่องความโปร่งใส และความยุติธรรมของการจัดประชามติ […]

ป.ป.ช. สนามบินน้ำ 18 ก.ค.- “ประธาน ป.ป.ช.” เผย ส่งหนังสือเข้ารับทราบข้อกล่าวหาทางไปรษณีย์ ถึง “พีระพันธุ์” แล้ว ชี้ เจ้าตัว ต้องมาแจงข้อกล่าวหาภายใน 15 วัน นายสุชาติ ตระกูลเกษมสุข ประธานกรรมการ ป.ป.ช. กล่าวถึงกรณีที่นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีและรัมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน นั้นไม่ เดินทางไป รับทราบข้อกล่าวหา ป.ป.ช. คดีแจกถุงยังชีพ เพราะติดประชุม และขอส่งทางไปรษณีย์แทน นั้นว่า เมื่อวันที่ 15 ก.ค.ที่ผ่านมานั้น นายพีระพันธุ์ ได้ส่งเรื่องขอเลื่อนเดินทางไป รับทราบข้อกล่าวหา หลังจากที่ ป.ป.ช.เราได้ส่งหนังสือให้เจ้าตัวเดินทางไปรษณีย์รับทราบข้อกล่าวหาตามระเบียบ และถือว่าตัวทราบแล้วและ ต้องมารับทราบข้อกล่าวหาภายใน 15 วัน ส่วนเรื่องที่นายพีระพันธุ์ขอให้ทางป.ป.ช.ส่งหนังสือมาให้ผ่านทางไปรษณีย์แทนนั้นก็เป็นไปตามระเบียบ เมื่อเจ้าตัวไม่มาทราบข้อกล่าวหา เรานัดให้นายพีระพันธุ์ มาในวันที่ 16 ก.ค. ช่วงเช้าและหนังสือดังกล่าวก็ขึ้นมาที่คณะ และคิดว่าเจ้าตัวคงไม่มาเราจึงส่งหนังสือแจ้งข้อกล่าวหาทางไปรษณีย์ ตามระเบียบ.312 .-สำนักข่าวไทย