กสม. ประณามกัมพูชาโจมตีพลเรือน-รพ. เป็นอาชญากรรมสงคราม

กสม. 25 ก.ค.-กสม. ประณามกัมพูชาโจมตี พลเรือน-รพ. เป็นอาชญากรรมสงครามละเมิดสิทธิมนุษยชน กฎหมายสากล เรียกร้องเคารพศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ วอนทุกฝ่ายหยุดการสร้างความเกลียดชังทางเชื้อชาติรวมถึงกับชาวกัมพูชาที่อยู่ในไทย คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) ออกแถลงการณ์ ประณามการโจมตีพลเรือนและพื้นที่โรงพยาบาลบริเวณแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ระบุว่าตามที่ปรากฏเหตุปะทะระหว่างทหารไทยกับทหารกัมพูชาบริเวณชายแดนเมื่อช่วงเช้าวันที่ 24 กรกฎาคม 2568 ที่บริเวณปราสาทตาเมือนธม กระทั่งลุกลามไปในหลายพื้นที่ตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา เป็นเหตุให้มีพลเรือนไทยเสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บจำนวนมาก กสม. ขอแสดงความเสียใจไปยังครอบครัวผู้เสียชีวิตทุกคนและขอประณามการกระทำอันไร้มนุษยธรรมของทหารกัมพูชาที่เปิดฉากโจมตี และมุ่งเป้าไปที่พลเรือนและโรงพยาบาล การโจมตีสถานที่ดังกล่าวถือเป็นอาชญากรรมสงคราม (war crimes) ที่ละเมิดหลักสิทธิมนุษยชนสากลและกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศ (international humanitarian law: IHL) โดยเฉพาะอนุสัญญาเจนีวาและธรรมนูญกรุงโรม อย่างไม่อาจยอมรับได้ กสม. ในฐานะสถาบันสิทธิมนุษยชนระดับชาติของไทย ขอเรียกร้องให้ทหารกัมพูชาเคารพศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์และหลักสิทธิมนุษยชนสากล ยุติการกระทำความรุนแรงต่อพลเรือนและกลุ่มเปราะบางในพื้นที่ความขัดแย้งโดยทันที และขอแสดงความห่วงใยและส่งกำลังใจไปยังทหารและผู้ปฏิบัติหน้าที่ในส่วนต่าง ๆ บริเวณแนวหน้า ขอให้ทุกหน่วยงานดูแลพลเรือนในพื้นที่เสี่ยงอย่างเต็มกำลัง และขอเรียกร้องให้ทุกฝ่ายหยุดการสร้างความเกลียดชังทางเชื้อชาติ ไม่ส่งต่อและไม่ยอมรับการสร้างความเกลียดชังทางเชื้อชาติต่อชาวกัมพูชาที่อาศัยอยู่ในประเทศไทย ซึ่งไม่มีความเกี่ยวข้องใดกับความขัดแย้งตามแนวชายแดน กสม. หวังเป็นอย่างยิ่งว่าสถานการณ์ความขัดแย้งที่มีผลกระทบอย่างร้ายแรงต่อสิทธิ สวัสดิภาพ และความเป็นอยู่ของพลเรือนทั้งสองประเทศจะคลี่คลายโดยเร็วบนหนทางแห่งสันติภาพ.-314.-สำนักข่าวไทย

ไทยตอนบนยังคงมีฝนตกหนักบางแห่ง 4 จว. เฝ้าระวัง

กรุงเทพฯ 25 ก.ค. – กรมอุตุฯ เผยไทยตอนบนยังคงมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณภาคเหนือ ภาคอีสานตอนบน ภาคกลาง และภาคตะวันออก โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ ตาก และกาญจนบุรี กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยตอนบนยังคงมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ภาคกลาง และภาคตะวันออก โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ ตาก และกาญจนบุรี ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม ทั้งนี้เนื่องจากมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย มีกำลังค่อนข้างแรง ในขณะที่ร่องมรสุมพาดผ่านตอนบนของภาคเหนือ ประเทศลาวตอนบน เข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณประเทศเวียดนามตอนบน สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันตอนบน และอ่าวไทยตอนบนมีกำลังค่อนข้างแรง โดยมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง ส่วนเรือเล็กบริเวณทะเลอันดามันตอนบนและอ่าวไทยตอนบนควรงดออกจากฝั่งต่อไปอีก 1 วัน […]

แนะนำผู้โดยสารตรวจสอบเที่ยวบิน

กรุงเทพฯ 25 ก.ค.-CAAT แนะนำผู้โดยสารติดตามสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชาอย่างใกล้ชิด พร้อมตรวจสอบเที่ยวบินและสิทธิการเปลี่ยนแปลงการเดินทาง ตามสถานการณ์ความไม่สงบที่เกิดขึ้นบริเวณชายแดนระหว่างประเทศไทยและกัมพูชา สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (CAAT) ขอแนะนำให้ประชาชนชาวไทยที่มีความจำเป็นต้องเดินทางในเส้นทางระหว่างสองประเทศ ติดตามข่าวสารและคำแนะนำจากสถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงพนมเปญ อย่างใกล้ชิด ทั้งนี้ ขอให้ผู้โดยสารตรวจสอบกับสายการบินที่ให้บริการในเส้นทางดังกล่าว เนื่องจากอาจมีการปรับเปลี่ยนชนิดของอากาศยาน เพื่อเพิ่มจำนวนที่นั่งให้เพียงพอกับความต้องการในการเดินทางกลับประเทศไทย โดยเฉพาะในช่วงเวลาที่มีจำนวนผู้โดยสารเพิ่มสูงขึ้น สำหรับผู้ที่มีบัตรโดยสารอยู่แล้ว หากมีความประสงค์จะเปลี่ยนแปลงวันหรือเวลาเดินทาง ขอให้ติดต่อสายการบินโดยตรงเพื่อสอบถามเกี่ยวกับที่นั่งว่างและเงื่อนไขในการเปลี่ยนแปลง ทั้งนี้ ผู้โดยสารควรเตรียมเอกสารการเดินทางให้ครบถ้วน เพื่ออำนวยความสะดวกในการเดินทางและลดความแออัด ณ ท่าอากาศยาน ในกรณีที่ผู้โดยสารไม่สามารถเดินทางมายังท่าอากาศยานได้ตามกำหนด ขอให้ตรวจสอบมาตรการช่วยเหลือจากสายการบิน หรือติดต่อเจ้าหน้าที่ของสายการบินเพื่อรับทราบข้อมูลและแนวทางดำเนินการที่เหมาะสมต่อไป สำนักงานการบินพลเรือนฯ ขอให้ทุกท่านเดินทางโดยสวัสดิภาพ และขอเน้นย้ำให้ผู้โดยสารติดตามข้อมูลข่าวสารจากแหล่งทางการอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้สามารถวางแผนการเดินทางได้อย่างสะดวกและปลอดภัย.-513.-สำนักข่าวไทย

ทหารเขมรคลั่ง เปิดฉากปะทะทหารไทยตั้งแต่ตี 4

สุรินทร์ 25 ก.ค.-ช่องบก-ภูมะเขือ-พนมดงรัก เดือด! ทหารเขมรคลั่งเปิดฉากปะทะทหารไทยตั้งแต่ตี 4 ระดมยิงอาวุธหนัก ปืนใหญ่สนาม จรวด BM-21 เข้ามาอย่างต่อเนื่อง เมื่อเวลา 08.47 น. วันที่ 25 ก.ค.68 พ.อ.ริชฌา สุขสุวานนท์ รองโฆษกกองทัพบก กล่าวว่า สถานการณ์ในวันที่ 25 ก.ค.68 กองทัพบกได้รับรายงานจากหน่วยในพื้นที่ว่า เริ่มมีการปะทะตั้งแต่เวลาประมาณ 04.00 น. ในพื้นที่ช่องบกฯ และภูมะเขือ จ.อุบลราชธานี รวมถึงในพื้นที่ อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ โดยฝ่ายกัมพูชาได้ระดมยิงด้วยอาวุธหนัก ปืนใหญ่สนาม และจรวด BM-21 เข้ามาอย่างต่อเนื่อง จนถึงเวลาปัจจุบัน (08.00 น.) โดยฝ่ายไทยได้ตอบโต้ด้วยการใช้อาวุธยิงสนับสนุนตามสถานการณ์ และแจ้งเตือนประชาชนในพื้นที่ให้หลีกเลี่ยงการเข้าในพื้นที่การปะทะ สำหรับความคืบหน้าจะแจ้งให้ทราบต่อไป.-313.-สำนักข่าวไทย On 25 July 2025, the Royal Thai Army received reports […]

เร่งช่วยเกษตรกรเลี้ยงสัตว์ใน 8 จังหวัดประสบภัยพายุ “วิภา”

กรุงเทพฯ​ 25 ก.ค.​-รมว.เกษตร​ฯ​ สั่ง​กรม​ปศุสัตว์​เร่งช่วย​เกษตรกร​ผู้​เลี้ยง​สัตว์​และ​ปศุสัตว์​ในพื้นที่​ประสบอุทกภั​ยจากพายุ​วิภา​ ทั้งการช่วยเหลือในระยะเผชิญเหตุและการฟื้นฟูหลังน้ำลด ตลอดจนเฝ้าระวังโรคระบาดสัตว์ที่อาจเกิดขึ้นได้เพื่อบรรเทาความเสียหายด้านปศุสัตว์ นายอรรถกร ศิริลัทธยากร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ มอบหมายให้ กรมปศุสัตว์ เร่งช่วยเหลือเกษตรกรผู้เลี้ยงปศุสัตว์และสัตว์เลี้ยงที่ได้รับผลกระทบจากพายุ “วิภา” ครอบคลุม 8 จังหวัด ได้แก่ เชียงราย สกลนครนครพนม น่าน อุตรดิตถ์ เชียงใหม่ พะเยา และแพร่ รวม 40 อำเภอ 155 ตำบล 877 หมู่บ้าน นายสัตวแพทย์สมชวน รัตนมังคลานนท์ อธิบดีกรมปศุสัตว์ เปิดเผยว่า เกษตรกรได้รับผลกระทบ 52,789 ราย มีสัตว์เลี้ยงในพื้นที่ประสบอุทกภัยรวม 1,958,863 ตัว แบ่งเป็นโค 124,429 ตัว กระบือ 41,552 ตัว สุกร 70,995 ตัว แพะ/แกะ 2,135 ตัว และสัตว์ปีก 1,719,752 […]

รัฐบาลห่วงใยคนไทยทำงานในพื้นที่ชายแดน ย้ำเลี่ยงอยู่พื้นที่เสี่ยง

ทำเนียบ 25 ก.ค.-รัฐบาลห่วงใยคนไทยทำงานในพื้นที่ชายแดน ย้ำหลีกเลี่ยงการเดินทางหรืออยู่ในพื้นที่เสี่ยงที่อาจเกิดเหตุความรุนแรง นางสาวศศิกานต์ วัฒนะจันทร์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงสถานการณ์ความรุนแรงในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา ว่า รัฐบาลมีความห่วงใยต่อพี่น้องชาวไทยที่ทำงานชายแดนและแรงงานต่างด้าวสัญชาติกัมพูชาที่ทำงานอยู่ในประเทศไทย ขอให้ทุกคนเพิ่มความระมัดระวังในการใช้ชีวิต หลีกเลี่ยงการเดินทางหรืออยู่ในพื้นที่เสี่ยงที่อาจเกิดเหตุความรุนแรง ขอให้คำนึงถึงความปลอดภัยในชีวิตเป็นสิ่งสำคัญ ทั้งนี้ สถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงพนมเปญ แนะนำให้คนไทยที่พำนักหรือพำนักชั่วคราวในประเทศกัมพูชาและไม่มีความจำเป็นเดินทางออกจากประเทศโดยเร็วที่สุดเท่าที่จะสามารถดำเนินการได้อย่างปลอดภัย และขอความร่วมมือให้คนไทยที่ไม่มีความจำเป็นอย่างยิ่งยวดงดการเดินทางมายังกัมพูชาในช่วงนี้ จนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย ในกรณีฉุกเฉินหรือความต้องการความช่วยเหลือ โดยสามารถติดต่อหน่วยงานของไทยได้ที่สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงพนมเปญ โทรศัพท์ฉุกเฉิน: (+855) 975 749 682 สถานกงสุลใหญ่ ณ เมืองเสียมราฐ โทรศัพท์: (+855) 86 608 999 Call Center กรมการกงสุล โทรศัพท์: (+66) 2 572 8442 (ตลอด 24 ชั่วโมง) “รัฐบาลสั่งการหน่วยงานติดตามสถานการณ์ความตึงเครียดระหว่างไทยกับกัมพูชาอย่างใกล้ชิด พร้อมให้ความช่วยเหลือประชาชนในทุกด้าน ขอให้ประชาชนติดตามข่าวสารจากส่วนราชการอย่างต่อเนื่อง” นางสาวศศิกานต์ ย้ำ.-316.-สำนักข่าวไทย

“จิรายุ” วอนแกนนำผู้ชุมชุมนัดชุมนุม 27 ก.ค.นี้ ขอพักศึกในไว้ก่อน

ทำเนียบ 25 ก.ค.-“จิรายุ” วอนแกนนำผู้ชุมชุมนัดชุมนุม 27 ก.ค.นี้ ประเทศเผชิญ ศึกนอกใหญ่หลวงนัก ขอพักศึกในไว้ก่อน หวั่นเข้าทางเขมร วันนี้ต้องร่วมใจกันสามัคคีเดินหน้าประเทศไทย ชี้ไม่ว่าใครมาเป็นนายกฯ เขมรก็จะทำแบบนี้ นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีคณะรวมพลังแผ่นดินปกป้องอธิปไตย จะจัดการชุมนุมในวันที่ 27 กรกฎาคมนี้ ว่า ขอวิงวอนว่า อย่าปล่อยให้ศึกในไปผสมศึกนอก จะทำให้เรื่องศึกใหญ่ไทย-เขมร จะปิดจบยาก วันนี้คนในชาติต้องร่วมแรงร่วมใจกันสามัคคีเพื่อเดินหน้าประเทศไทย เพราะวันนี้ ศึกนอกใหญ่หลวงนัก ไม่มีเหตุผลที่จะต้องมาสร้างศึกในให้เขมรหัวเราะเยาะเย้ยประเทศไทย ทั้งนี้ที่ผ่านมาตั้งแต่ต้นปี เราได้เห็นแล้วว่ารัฐบาลกัมพูชา มีเจตนาพิเศษชัดเจน ว่ามีความพยายาม จะปลุกกระแสการครอบครองพื้นที่ของประเทศไทยในปราสาทต่างๆ โดยพยายามลากขึ้นศาลโลก นอกจากนี้ ยังได้รับผลกระทบอย่างรุนแรงจากนโยบายของรัฐบาลในการดำเนินการอย่างเข้มข้นในการตัดวงจรการค้ามนุษย์ ยาเสพติด และแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่หมักหมมมานาน จนคนไทยถูกหลอก สูญเสียครอบครัว ทางเศรษฐกิจและสังคม หลายคนจบชีวิตลง จากการสิ้นเนื้อประดาตัว ที่ถูกกระทำจากแก๊งคอลเซนเตอร์ในประเทศกัมพูชา ดังนั้น เห็นได้อย่างชัดเจนว่า กัมพูชามีเป้าหมายแทรกแซง บ่อนทำลายประเทศไทย ในทุกวิธีการ ไม่ว่าใครจะมาเป็นรัฐบาลกัมพูชาก็มีแผนการเช่นนี้มาตั้งแต่ต้นอยู่แล้ว “วันนี้จึงไม่มีเหตุผลใดๆ ที่จะทำให้บ้านเมืองบอบช้ำไปกว่าเดิม ทำให้ภาพของคนสั่งยิงใส่โรงพยาบาล ยิงประชาชนไทยผู้บริสุทธิ์อย่างฮุนเซน […]

รัฐบาลพร้อมเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบชายแดนไทย-กัมพูชา

ทำเนียบ 25 ก.ค.-รัฐบาลสั่งการด่วนให้ผู้ว่าฯ ชายแดน รวบรวมรายชื่อผู้เสียชีวิต-บาดเจ็บ เพื่อใช้งบประมาณเยียวยาจากกองทุนสำนักนายกฯ เบื้องต้น พร้อมให้ทุกกระทรวงที่เกี่ยวข้องระดมสรรพกำลังให้การช่วยเหลือชายแดน นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีเปิดเผยว่า นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้สรุปตัวเลขของประชาชนและเจ้าหน้าที่ ผู้ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ประทะกันตามแนวชายแดน ทั้งในส่วนที่ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต และทรัพย์สิน โดยให้ส่งรายละเอียดให้กับแต่ละจังหวัดเพื่อดำเนินการสรุปจำนวน มอบเงินช่วยเหลือชดเชยเยียวยา ทั้งในส่วนข้าราชการทหารและประชาชน โดยเบื้องต้น จะใช้เงินของกองทุนสำนักนายกรัฐมนตรี เพื่อบรรเทาทุกข์ในเบื้องต้น ส่วนการเยียวยาด้านอื่นๆ ให้เร่งรัดสรุปกลับไปยังกระทรวงมหาดไทย และสำนักนายกรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาดำเนินการต่อไป นอกจากนี้ ยังสั่งการให้ทุกกระทรวงที่เกี่ยวข้องกับสถานการณ์ชายแดน เช่น กระทรวงศึกษาธิการ ได้สั่งปิดโรงเรียนในพื้นที่เสี่ยงชั่วคราว กระทรวงสาธารณสุข ได้ดำเนินการเปลี่ยนโรงพยาบาลในพื้นที่เป็นโรงพยาบาลสนามชั่วคราว รวมถึงอพยพคนป่วย ผู้ที่ได้รับบาดเจ็บทั้งหมดไปสู่โรงพยาบาลอื่นๆ ที่ปลอดภัยเรียบร้อยแล้ว กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ให้ดูแลเรื่องการเยียวยาและบรรเทาทุกข์เบื้องต้น กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ให้ตรวจสอบและแก้ไขประชาสัมพันธ์ข่าวเท็จในสถานการณ์กระทรวงมหาดไทย ให้ดำเนินการตามแผนการ ร่วมกับกองทัพในพื้นที่ในการดูแลประชาชนในทุกมิติ ส่วนมาตรการด้านการต่างประเทศ รัฐบาลยืนยันได้ลดระดับความสัมพันธ์ทางการทูตกับกัมพูชาลง โดยได้แจ้ง กระทรวงการต่างประเทศให้เรียกเอกอัครราชทูตไทยประจำกัมพูชากลับประเทศไทยแล้ว และส่งเอกอัครราชทูตกัมพูชาประจำประเทศไทยกลับสู่ประเทศ ซึ่งถือเป็นมาตรการที่มีความรุนแรงที่สุดในทางการทูต.-314.-สำนักข่าวไทย

คลังออกมาตรการช่วยเหลือเหตุชายแดน

กรุงเทพฯ 25 ก.ค.-คลังออกมาตรการ ให้แบงก์รัฐเร่งช่วยเหลือเหตุ พิพาทชายแดนไทย-กัมพูชา ทั้งพักหนี้ ฟื้นฟูกิจการ อาชีพ ซ่อมแซมบ้าน นายพิชัย ชุณหวชิร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า จากสถานการณ์ความไม่สงบ ชายแดนไทย–กัมพูชา ได้ส่งผลกระทบต่อความปลอดภัยของประชาชนในพื้นที่และขยายวงกว้างไปสู่ภาคเศรษฐกิจและสังคมในระดับชุมชนโดยรอบ นับว่าก่อให้เกิดความเสียหายต่อทรัพย์สิน ส่งผลกระทบต่อชีวิตความเป็นอยู่ การประกอบอาชีพ และการดำเนินธุรกิจของประชาชนในพื้นที่เป็นอย่างมาก รัฐบาลตระหนักถึงผลกระทบที่เกิดขึ้นและให้ความสำคัญกับการดูแลประชาชนในพื้นที่โดยเร่งด่วน กระทรวงการคลัง จึงมอบหมายให้แบงก์รัฐ ออกมาตรการด้านการเงินเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนที่เกิดขึ้น ครอบคลุมทั้งมาตรการพักชำระหนี้ มาตรการลดอัตราดอกเบี้ย และมาตรการสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ เพื่อให้ความช่วยเหลืออย่างครอบคลุมแก่ผู้ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ในพื้นที่ชายแดน โดยมีสาระสำคัญ ดังนี้ ธนาคารออมสิน จัดทำมาตรการช่วยเหลือผู้ที่อยู่ในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ประกอบด้วย1)มาตรการพักชำระเงินต้น สำหรับผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา จนถึงงวดเดือนธันวาคม 2568 และให้จ่ายดอกเบี้ยเพียงบางส่วน เพื่อบรรเทาภาระค่าใช้จ่ายในการผ่อนชำระหนี้2)มาตรการสินเชื่อเพื่อรายย่อย จำนวน 2 โครงการ ได้แก่-สินเชื่อเพื่อช่วยเหลือสำหรับประชาชนรายย่อย : ระยะเวลาผ่อนชำระ 12 เดือน ปลอดชำระเงินงวด 3 เดือนแรก ดอกเบี้ยคงที่ร้อยละ 0.60 ต่อเดือน-สินเชื่อเพื่อประกอบอาชีพสำหรับประชาชนรายย่อย : ระยะเวลาผ่อนชำระ 60 […]

รัฐบาลสั่งทุกส่วนราชการเร่งช่วยประชาชนชายแดนไทย-กัมพูชา

ทำเนียบ 25 ก.ค.-รัฐบาลสั่งทุกส่วนราชการเร่งให้ความช่วยประชาชนชายแดนไทย-กัมพูชา ด้าน ก.เกษตรฯ ตั้ง War room ติดตามและแก้ไขสถานการณ์ด้านการเกษตรอย่างใกล้ชิด ส่วน ศธ.สั่งปิดโรงเรียน เร่งให้ความช่วยเหลือครอบครัวนักเรียนที่ได้รับผลกระทบ นายอนุกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า จากสถานการณ์ความไม่สงบจากเหตุปะทะกันระหว่างกำลังความมั่นคงบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา รัฐบาลได้บูรณาความร่วมมือ สั่งการให้ทุกภาคส่วนราชการเร่งให้ความช่วยเหลือประชาชน โดยยึดหลักความปลอดภัยของพี่น้องประชาชนเป็นหลัก พร้อมเตรียมมาตรการรองรับสถานการณ์ นายอนุกูล กล่าวว่า กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้จัดตั้ง “War room ติดตามและแก้ไขสถานการณ์ด้านการเกษตร ชายแดนไทย-กัมพูชา” เพื่อเฝ้าระวัง ติดตาม และวิเคราะห์ผลกระทบด้านการเกษตรในพื้นที่จากสถานการณ์ความไม่สงบบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชาอย่างใกล้ชิด ทั้งติดตามสถานการณ์พื้นที่เกษตรในแนวชายแดนแบบเรียลไทม์ และประเมินผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นต่อการผลิตพืช สินค้าเกษตร และปศุสัตว์ รวมถึง วางแผนเผชิญเหตุและเสนอแนวทาง ช่วยเหลือเกษตรกรอย่างทันท่วงที พร้อมทั้งประสานความร่วมมือกับหน่วยงานความมั่นคงและหน่วยงานในพื้นที่ และสื่อสารสถานการณ์แก่เกษตรกรและประชาชนให้ได้รับข้อมูลที่ถูกต้อง รวดเร็ว โดยจะใช้ระบบ ข้อมูลเชิงพื้นที่ (GIS-Based Dashboard) เพื่อเฝ้าระวังพื้นที่เสี่ยง โดยเฉพาะในจังหวัดศรีสะเกษ สุรินทร์ บุรีรัมย์ และอุบลราชธานี ซึ่งเป็นพื้นที่เกษตรหลักที่อยู่ในรัศมีความเสี่ยงจากสถานการณ์ดังกล่าว นอกจากนี้ ยังมีการตั้ง “ศูนย์ย่อยประสานงานจังหวัด” ในระดับสำนักงานเกษตรและสหกรณ์จังหวัด […]

‘ฮัลค์ โฮแกน’ ตำนานมวยปล้ำเสียชีวิตในวัย 71 ปี

ฟลอริดา 25 ก.ค. – ฮัลค์ โฮแกน นักมวยปล้ำชื่อดังระดับตำนานของสหรัฐเสียชีวิตแล้วอย่างกะทันหันจากอาการหัวใจหยุดเต้น ด้วยวัย 71 ปี โฮแกน หรือชื่อจริงว่า เทอร์รี โบลเลีย ตำนานแห่งวงการมวยปล้ำ “ดับเบิลยูดับเบิลยูอี” (WWE) เสียชีวิตแล้วในวัย 71 ปี ที่บ้านพักในเมืองเคลียร์วอเทอร์ รัฐฟลอริดา เมื่อช่วงเช้าวานนี้ตามเวลาท้องถิ่น หลังหน่วยกู้ชีพได้รับแจ้งว่ามีสัญญาณแจ้งเหตุภาวะหัวใจหยุดเต้น ที่บ้านหลังดังกล่าว จึงเดินทางไปตรวจสอบ พบว่าฮัลค์หมดสติอยู่ภายในบ้าน จึงเร่งนำตัวส่งโรงพยาบาล ก่อนที่เขาจะเสียชีวิตในเวลาต่อมา ด้านสมาคมมวยปล้ำอาชีพของสหรัฐ หรือ WWE ออกแถลงการณ์แสดงความเสียใจอย่างยิ่งที่ได้ทราบข่าวการจากไปของ ฮัลค์ โฮแกน ผู้ได้รับการจารึกชื่อในหอเกียรติยศของ WWE ในฐานะหนึ่งในผู้เป็นที่รู้จักมากที่สุดในยุคสมัยของเขา โฮแกนช่วยให้ WWE ได้รับการยอมรับจากทั่วโลกในยุค 80 และช่วยให้กีฬามวยปล้ำได้รับการยอมรับในวงกว้างอย่างแพร่หลายทั่วโลกมาจนถึงปัจจุบัน ด้านประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐแสดงความอาลัยต่อการจากไปของโฮแกน โดยโพสต์ข้อความว่า เขาสูญเสียเพื่อนรักคนหนึ่งในวันนี้ ฮัลค์คือผู้แข็งแกร่ง อดทน ฉลาด และมีหัวใจที่ยิ่งใหญ่ที่สุด ขณะที่ เจ […]

กรมปศุสัตว์ เร่งช่วยเกษตรกรชายแดนไทย-กัมพูชา ได้รับผลกระทบเหตุปะทะ

กทม. 25 ก.ค.-“อรรถ​กร” สั่ง​ด่วน​ให้​กรมปศ​ุสัตว์​ช่วย​เหลือ​เกษตรกร​ผู้​เลี้ยง​สัตว์​บริเวณ​ชายแดน​ไทย​-กัมพูชา​ ซึ่ง​ได้​รับ​ผลกระทบ​จาก​เหตุ​ปะทะ​ โดยมีการจัดส่งหญ้าแห้งและพืชอาหารสัตว์เพื่อบรรเทาความเดือดร้อน​เบื้องต้น​ ล่าสุด​สำรวจ​ความเสียหาย​ มีวัวตาย ​3 ตัว​ จากกระสุนปืน​ใหญ่​ตก​ เตรียม​พร้อม​จ่าย​เยียวยา​ตามระเบียบ​เหตุ​ภัยพิบัติ​ฉุกเฉิน นายอรรถกร ศิริลัทธยากร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ สั่งการให้กรมปศุสัตว์เร่งช่วยเหลือเกษตรกรผู้เลี้ยงสัตว์ในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชาที่ได้รับผลกระทบจากเหตุปะทะ โดยมีการจัดส่งหญ้าแห้งและพืชอาหารสัตว์เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนในเบื้องต้น พร้อมเตรียมจ่ายค่าเยียวยาตามระเบียบการช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน นายสัตวแพทย์สมชวน รัตนมังคลานนท์ อธิบดีกรมปศุสัตว์ เปิดเผยว่า กรมปศุสัตว์ได้รับข้อสั่งการให้เร่งช่วยเหลือเกษตรกรผู้เลี้ยงสัตว์และดูแลสัตว์เลี้ยงในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบอย่างเร่งด่วน โดยได้ระดมกำลังจากสำนักงานปศุสัตว์ในจังหวัดชายแดนเพื่อส่งหญ้าแห้งและพืชอาหารสัตว์เข้าสนับสนุนในระยะเผชิญเหตุ ล่าสุด สำนักงานปศุสัตว์จังหวัดบุรีรัมย์รายงานว่า พื้นที่อำเภอบ้านกรวดซึ่งเป็นแหล่งเลี้ยงโค-กระบือขนาดใหญ่ รวมกว่า 21,452 ตัว (โค 17,313 ตัว และกระบือ 4,139 ตัว) ได้รับผลกระทบจากลูกกระสุนปืนใหญ่ตกหลายจุด ตั้งแต่เวลา 09.30 น. ของวันที่ 24 กรกฎาคม 2568 ได้แก่ บ้านสายโท 10 (ใต้) หมู่ 2 ตำบลสายตะกู 10 ลูก บ้านกรวด หมู่ […]

1 504 505 506 507 508 34,748