เปิดภาพทหารล้อมรั้วลวดหนาม ปราสาทตาเมือนธม

สุรินทร์ 29 ก.ค.-เปิดภาพทหารล้อมรั้วลวดหนามรอบปราสาทตาเหมือนธม อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ จากเหตุสู้รบชายแดนไทย-กัมพูชา ในหลายพื้นที่ รวมทั้งบริเวณปราสาทตาเมือนธม อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ ซึ่งเป็นหนึ่งในจุดที่มีการปะทะรุนแรง และก่อนหน้านี้มีเหตุการณ์ที่ฝ่ายกัมพูชาพยายามยั่วยุในลักษณะต่างๆ เช่น การขึ้นมาร้องเพลง และทำกิจกรรมเชิงสัญลักษณ์ ขณะที่แม่ทัพภาคที่ 2 ก็เชิญชวนให้คนไทยมาเที่ยวปราสาทตาเมือนธม โดยยืนยันว่าเป็นพื้นที่อธิปไตยไทย และได้รับความสนใจจากประชาชนจากทั่วสารทิศ ทั้งนี้ บริเวณปราสาทตาเมือนธม ถือเป็นพื้นที่แรกๆ ที่เกิดเหตุปะทะ เมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม 2568 ด้วยเหตุว่ากัมพูชาพยายามจะเข้ามายึดพื้นที่ปราสาท ซึ่งเป็นจุดสูงได้เปรียบในเชิงจุดยุทธศาสตร์ ก่อนจะเกิดเหตุปะทะในหลายพื้นที่ตลอดแนวชายแดนไทย-กัมพูชา โดยเฉพาะในพื้นที่รับผิดชอบของกองทัพภาคที่ 2 และนำมาสู่การเจรจาหยุดยิงโดยรัฐบาล 2 ประเทศ เมื่อวานนี้ จนกระทั่งมีการหารืออย่างไม่เป็นทางการระหว่างฝ่ายทหารในพื้นที่ 2 ประเทศในวันนี้ และทำให้เสียงปืนสงบลง.-313.-สำนักข่าวไทย

ชาวบ้านเข้าสำรวจความเสียหายในบ้านเรือน

สุรินทร์ 29 ก.ค. – ผู้อพยพใน จ.สุรินทร์ เริ่มกลับเข้าไปสำรวจบ้านเรือนที่ได้รับความเสียหาย มีบางส่วนตกสำรวจเนื่องจากช่วงชุลมุนและหนีเอาชีวิตรอดออกมา วันนี้ได้กลับเข้าไปสำรวจ เพื่อนำข้อมูลไปรับการช่วยเหลือต่อไป ทีมข่าวรับแจ้งการตกสำรวจความเสียหายในหมู่บ้านแห่งหนึ่งในอำเภอปราสาท จึงลงพื้นที่ไปตรวจสอบซึ่งเป็นบ้านที่ตกสำรวจยังไม่มีหน่วยงานใดเข้ามาดูแล จึงพาทีมข่าวเข้าไปสำรวจ โดยเจ้าของบ้านไปให้ข้อมูลว่าบ้านตนได้รับความเสียหาย จากแรงระเบิด ช่วงเช้าวันที่ 27 ก.ค. ที่ผ่านมา ลูกกระสุนเป็นของจรวด BM-21 ได้ตกใส่ห้องน้ำข้างบ้านทำให้ห้องน้ำพังท่อน้ำแตกไม่สามารถใช้การได้ เจ้าของบ้านยังเล่าวินาทีที่ระเบิดเฉียดตนเองไปเพียง 100 เมตร โดยให้ข้อมูลว่าในขณะนั้นเป็นช่วงเวลา 06.00 น. ซึ่งตนยืนอยู่ข้างบ้านจากนั้นได้ยินเสียงระเบิดดังสนั่นทำให้ตัวเองหมอบเอาชีวิตรอดและวิ่งออกจากพื้นที่ ตอนนี้ยังรู้สึกหวาดผวา เมื่อได้ยินเสียงดัง ซึ่งในขณะเดียวกันหมู่บ้านของตนก็ได้รับความเสียหายจากแรงระเบิด ทั้งหมด 25 จุด ซึ่งบ้านของตนได้ตกสำรวจวันนี้จึงเดินทางไปแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจไว้เป็นหลักฐานเพื่อใช้เป็นหลักฐานในการยื่นขอเยียวยาความช่วยเหลือกับหน่วยงานภาครัฐต่อไป จากนั้นทีมข่าวเดินทางมายังศูนย์อพยพแห่งหนึ่งในจังหวัดสุรินทร์ ซึ่งพบกับประชาชนที่อพยพมาเป็นจำนวนมาก ให้ข้อมูลว่า ได้ทางมาพักที่ศูนย์ เข้าสู่คืนที่ 6 เริ่มปรับตัวได้ แต่ยังเป็นห่วงทรัพย์สินในบ้านเรือน แต่เพื่อความไม่ประมาทจึงรอคำสั่งจากทางรัฐบาลและกองทัพ ในขณะเดียวกัน ได้มีประชาชนทั้งภาครัฐและภาคเอกชนเดินทางมามอบสิ่งของเพื่อเป็นกำลังใจแก่ผู้อพยพโดยเฉพาะพระสงฆ์ เป็นตัวแทนเจ้าประคุณสมเด็จพระพุฒจารย์ เจ้าคณะใหญ่หนตะวันออก เมตตาห่วงใยและให้ความช่วยเหลือเป็นกำลังใจแก่ทหารและประชาชนที่ได้รับผลกระทบตามแนวชายแดนนำโดยพระมหาต่อ รักษาการเจ้าอาวาสวัดแจ้งในจังหวัดนครราชสีมา ซึ่งเป็นอีกหนึ่งเกจิดังแห่งจังหวัดนครราชสีมาที่แม่ทัพภาคที่ 2 ให้ความเคารพนับถือ และให้ข้อมูลว่า […]

รัฐบาล ย้ำวอร์รูม ศบ.ทก. ติดตามสถานการณ์ตลอด 24 ชั่วโมง

ทำเนียบ 29 ก.ค.-รัฐบาล ย้ำวอร์รูม ศบ.ทก. ติดตามสถานการณ์ตลอด 24 ชั่วโมง ยืนยันช่วงบ่ายถึงค่ำวันนี้ เสียงปืนเบาลง หลังจากกองทัพภาคที่ 1-2 รวมทัพเรือไทย ตั้งโต๊ะพูดคุยกับผู้บัญชาการภูมิภาค 4-5 ของกัมพูชา พร้อมสั่งการ ศบ.ทก. ประชุมประเมินสถานการณ์พรุ่งนี้อีกครั้ง ก่อนแจ้งส่งประชาชนคืนพื้นที่เมื่อสถานการณ์ปลอดภัย นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี คณะกรรมการศูนย์เฉพาะกิจสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา (ศบ.ทก.) เปิดเผยว่า รัฐบาลสั่งการให้วอร์รูมที่จัดตั้งขึ้นในนามของ คณะกรรมการศูนย์เฉพาะกิจสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา (ศบ.ทก.) โดยมีพลเอกณัฐพล นาคพานิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นหัวหน้าศูนย์เฉพาะกิจฯ ตั้งแต่เดือนมิถุนายนที่ผ่านมาและให้เป็น “วอร์รูม” ศูนย์รวมในการสั่งการและรับข้อมูลจากทุกภาคส่วนเพื่อประเมินสถานการณ์ตลอด 24 ชั่วโมง โดยเฉพาะหลังจากการเจรจาหยุดยิงที่เมืองปูตราจายา ประเทศมาเลเซียวานนี้ ศูนย์เฉพาะกิจฯ ได้ประชุมและเฝ้าติดตามสถานการณ์อย่างต่อเนื่องตลอด 24 ชั่วโมงโดยจะรับฟังข้อมูลจากพื้นที่กองทัพภาคที่ 1 กองทัพภาคที่ 2 และกองทัพเรือที่ดูแลจังหวัดจันทบุรีและตราด ศบ.ทก. จะมอนิเตอร์ข้อมูลข่าวสาร รวมทั้งสถานการณ์ชายแดน 7 จังหวัดอย่างต่อเนื่อง และหากมีเหตุการณ์สำคัญหรือภารกิจเร่งด่วน ก็ให้ดำเนินการประสานงานสั่งการกับส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง […]

ไทม์ไลน์หลังข้อตกลงหยุดยิง หลายพื้นที่ยังปะทะเดือด

29 ก.ค.- ย้อนดูไทม์ไลน์ เหตุปะทะในหลายพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา หลังข้อตกลงหยุดยิงมีผลตั้งแต่เวลาเที่ยงคืนที่ผ่านมา ทันทีที่ข้อตกลงหยุดยิงแบบไม่มีเงื่อนไข ถูกกำหนดในเวลาเที่ยงคืน สมรภูมิสำคัญตลอดแนวชายแดนไทย-กัมพูชา โดยเฉพาะบริเวณปราสาทตาควาย ปราสาทตาเมือนธม เดือดถึงขีดสุด เพราะต่างฝ่ายต่างต้องการแย่งชิงพื้นที่ ยิ่ง 30 นาทีสุดท้ายก่อนเดดไลน์ ทหารหน่วยรบพิเศษของไทย เข้าปะทะ “กองกำลัง BHQ” ที่เสริมกำลังเข้ามาอย่างดุเดือด ก่อนที่ไทยจะยึดประสาทตาควายไว้ได้ก่อนถึงเส้นตายหยุดยิง แต่ปรากฏว่าเสียงปืนและระเบิด สงบลงหลังเส้นตายหยุดยิงเพียงไม่นาน ตลอดทั้งคืน ไทยยังถูกกัมพูชา ยิงยั่วยุ ยาวจนถึงเช้า ภาพนี้ทหารไทยได้ถ่ายเวลาจากนาฬิกา ในเวลา 06.29 น. ขณะได้ยินเสียงปืนใหญ่ที่ฝั่งกัมพูชาระดมยิงใส่ฝั่งไทยไว้เป็นหลักฐานว่า กัมพูชาละเมิดข้อตกลงหยุดยิง พันเอกริชฌา สุขสุวานนท์ รองโฆษก ทบ. เปิดเผยว่า ได้รับรายงานจากหน่วยในพื้นที่ กองกำลังสุรนารี ว่าหลังจากมีการหยุดยิง ในเวลา 00.00 น. แล้ว พบว่าในพื้นที่ภูมะเขือ ถูกก่อกวน โดยฝ่ายทหารกัมพูชา มีการยิงปะทะตอบโต้จากทั้งสองฝ่ายจนถึงเช้า พื้นที่ซำแต มีการยิงปะทะกันเกิดขึ้น จนถึงเวลา 05.30 น. เนื่องจากทหารกัมพูชาไม่ยอมหยุด […]

SME D Bank เป็นกำลังใจประชาชน ทหาร ชายแดน

กรุงเทพฯ 29 ก.ค.-SME D Bank ร่วมเป็นกำลังใจสำคัญส่งมอบสิ่งของอำนวยความสะดวก ให้แก่ประชาชน ทหาร ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ไม่สงบชายแดนไทย-กัมพูชา ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) หรือ SME D Bank โดยนายเจษฎา ช.เจริญยิ่ง รองกรรมการผู้จัดการ พร้อมคณะผู้บริหารและเจ้าหน้าที่ เป็นตัวแทนเดินทางลงพื้นที่ จ.บุรีรัมย์ และ จ.สุรินทร์ เพื่อเป็นกำลังใจและส่งมอบสิ่งของจำเป็นในชีวิตประจำวันต่าง ๆ ที่ได้รับการสนับสนุนจากประชาชน ผู้บริหาร และพนักงาน SME D Bank แก่ผู้ประสบภัยจากสถานการณ์ความไม่สงบตามแนวพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา โดยส่งมอบแก่โรงพยาบาลบุรีรัมย์ สถานที่รักษาผู้ป่วยจากเหตุการณ์ไม่สงบของชายแดน โดยมี นพ.ภูวดล กิตติวัฒนาสาร ผู้อำนวยการโรงพยาบาลบุรีรัมย์ เป็นผู้รับมอบ และส่งมอบแก่ศูนย์พักพิงภายในมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล วิทยาเขตสุรินทร์ ปัจจุบันมีประชาชนผู้ได้รับความเดือดร้อนอาศัยอยู่ประมาณ 4,000 คน โดยมีตัวแทนจากอำเภอเมืองสุรินทร์ เป็นผู้รับมอบ เมื่อเร็ว ๆ นี้ ทั้งนี้ SME D Bank สำนักงานใหญ่ ได้เปิดศูนย์รับกำลังใจร่วมสนับสนุนอาหาร […]

คลังออกมาตรการช่วยเหลือชายแดนไทย-กัมพูชา

กรุงเทพฯ 29 ก.ค.-คลังออกมาตรการช่วยเหลือประชาชนและผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ไทย-กัมพูชา ทั้งระดับพื้นที่และผ่านสถาบันการเงินของรัฐ นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยถึงมาตรการช่วยเหลือประชาชนและผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ความมั่นคงบริเวณชายแดนไทย – กัมพูชา โดยแบ่งเป็น 2 ส่วน ได้แก่ มาตรการในระดับพื้นที่ และมาตรการของสถาบันการเงินของรัฐ 1.มาตรการในระดับพื้นที่1.ขยายวงเงินทดรองราชการให้ผู้ว่าราชการจังหวัดละ 100 ล้านบาท และพร้อมพิจารณาขยายเพิ่มหากไม่เพียงพอ เพื่อให้จังหวัดสามารถบริหารจัดการได้อย่างคล่องตัวและตอบโจทย์ความต้องการในพื้นที่2.อำนวยความสะดวกในการจัดซื้อจัดจ้างพัสดุที่เกี่ยวข้องกับภารกิจด้านความมั่นคงให้สามารถดำเนินการได้อย่างเร่งด่วน ผ่านวิธีเฉพาะเจาะจง3.เตรียมมาตรการด้านสินเชื่อเพื่อช่วยเหลือประชาชนผ่านธนาคารของรัฐ เช่น ธ.ก.ส. โดยจะให้สินเชื่อเพื่อเสริมสภาพคล่องแก่เกษตรกร รวมถึงสินเชื่ออัตราดอกเบี้ยต่ำ (soft loan) สำหรับผู้ได้รับความเสียหาย 2.มาตรการด้านภาษีเลื่อนเวลาการยื่นแบบและการชำระภาษี ได้แก่ ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ภาษีเงินได้นิติบุคคล ภาษีหัก ณ ที่จ่าย ภาษีมูลค่าเพิ่ม ภาษีธุรกิจเฉพาะ และอากรแสตมป์ จากเดิมระหว่างวันที่ 24 กรกฎาคม – 31 สิงหาคม 2568 เป็นภายในวันที่ 30 กันยายน 2568 นอกจากนี้ ประชาชนสามารถหักลดหย่อนค่าซ่อมแซมที่อยู่อาศัยจากเหตุการณ์ความเสียหายได้ตามจริงไม่เกิน 100,000 บาท และสำหรับยานพาหนะไม่เกิน […]

หุ้นไทยปิดพุ่ง 16.53 จุด

กทม. 29 ก.ค.-ตลาดหลักทรัพย์ฯ ปิดวันนี้ 1,233.68 จุด เพิ่มขึ้น 16.53 จุด (+1.36%) มูลค่าซื้อขาย 51,323.28 ล้านบาท การซื้อขายหุ้นวันนี้ ดัชนีแกว่งผันผวนในช่วงเช้าก่อนดีดขึ้นแรงในภาคบ่าย โดยทำระดับสูงสุด 1,235.19 จุด และต่ำสุด 1,213.87 จุด ส่วนหลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงวันนี้เพิ่มขึ้น 327 หลักทรัพย์ ลดลง 140 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 190 หลักทรัพย์.-สำนักข่าวไทย

จเรตำรวจฯประชุมผู้แทน 10 ประเทศ และ UNODC จับมือร่วมปฏิบัติการวอร์รูม IAC

29 ก.ค. – จเรตำรวจแห่งชาติประชุมผู้แทน 10 ประเทศ และ UNODC จับมือร่วมปฏิบัติการในวอร์รูม ศูนย์บริหารเหตุการณ์แก๊งคอลเซ็นเตอร์และค้ามนุษย์นานาชาติ พล.ต.อ.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร จเรตำรวจแห่งชาติ ในฐานะผู้บัญชาการเหตุการณ์ ศูนย์บริหารเหตุการณ์แก๊งคอลเซ็นเตอร์และค้ามนุษย์นานาชาติ (จตช./ผบ.ศกค.)/International Anti-Scam and Human Trafficking Syndicate Command Center (IAC) ประชุมหารือเตรียมความพร้อมในการดำเนินการร่วมกันในวอร์รูม IAC โดยมี พล.ต.ต.พงษ์สยาม มีขันทอง รองผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว/รอง ผบ.เหตุการณ์ (2) ร่วมกับผู้แทนทูตนานาประเทศ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมประชุม ได้แก่ ผู้แทนทูตจากประเทศ บังกลาเทศ ญี่ปุ่น ลาว เมียนมา แอฟริกาใต้ เกาหลีใต้ สหราชอาณาจักร สหรัฐอเมริกา เวียดนาม สิงคโปร์ และ UNODC ณ ห้องประชุมวอร์รูม ศูนย์บริหารเหตุการณ์แก๊งคอลเซ็นเตอร์และการค้ามนุษย์นานาชาติ พล.ต.อ.ธัชชัย กล่าวว่า จากการที่รัฐบาลสั่งการให้เดินหน้าปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ให้เห็นผลภายใน 3 […]

ทหารม้าคุมตัว 18 ทหารกัมพูชา ในพื้นที่ซำแต หลังยอมจำนน

ศรีสะเกษ 29 ก.ค.-ทบ. เผยคุมตัว 18 ทหารกัมพูชา หลังทหารม้า เข้ากวาดล้างที่มั่นเขมร พื้นที่ซำแต จ.ศรีสะเกษ หลังยอมจำนน จนท.ปลดอาวุธ ยึดถือหลักมนุษยธรรมสากลเคร่งครัด ก่อนจะดำเนินการตามกระบวนการที่เกี่ยวข้องต่อไป วันนี้ (29 กรกฎาคม 2568) พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า กองทัพภาคที่ 2 ได้รายงานผลการควบคุมตัวทหารกัมพูชา จำนวน 18 นาย สืบเนื่องจากเหตุการณ์ปะทะในพื้นที่ ซำแต อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ กรณีดังกล่าวเกิดขึ้นภายหลังที่ฝ่ายกัมพูชาได้ใช้อาวุธหนักและอาวุธวิถีโค้ง ยิงเข้ามาในเขตพื้นที่ของไทย ฝ่ายไทยจึงได้ใช้ หน่วยทหารม้าเฉพาะกิจเข้าทำการตอบโต้และกวาดล้างที่มั่นของฝ่ายกัมพูชา จากการปฏิบัติดังกล่าว พบมีทหารกัมพูชาจำนวนหนึ่งยอมจำนนโดยไม่มีท่าทีหรือลักษณะจะคุกคามฝ่ายไทย ทางหน่วยจึงดำเนินการปลดอาวุธและควบคุมตัวตามขั้นตอน โดยยึดถือหลักมนุษยธรรมสากลอย่างเคร่งครัด มีจำนวน 18 นาย ชั้นยศ ร้อยตรี 1 นาย, จ่าสิบโท 2 นาย, สิบเอก 12 นาย, สิบโท […]

รัฐบาลไทยย้ำ ไม่มีทางที่จะใช้อาวุธชีวภาพในกัมพูชา

ทำเนียบ 29 ก.ค.-รัฐบาลไทยย้ำ ไม่มีทางที่จะใช้อาวุธชีวภาพในกัมพูชา เพราะเป็นการปะทะชายแดนเท่านั้น ชี้ข่าวจากเฟซบุ๊กปลอมเป็นความพยายามบิดเบือน สร้างความแตกแยกในภูมิภาค นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี คณะกรรมการศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา (ศบ.ทก.) เปิดเผยว่า จากกรณีสื่อมวลชนกัมพูชาเผยแพร่ข้อมูลโดยอ้างอิงจาก “เฟซบุ๊กแฟนเพจ” ซึ่งระบุว่าเป็นของกษัตริย์แห่งราชอาณาจักรกัมพูชา และมีการกล่าวหาอย่างร้ายแรง ว่าไทยใช้อาวุธชีวภาพในการโจมตีในพื้นที่ชายแดนนั้น รัฐบาลขอปฏิเสธข้อกล่าวหาดังกล่าวโดยสิ้นเชิง และคาดว่า เฟซบุ๊กดังกล่าวเป็นบัญชีปลอม และเป็นความพยายามอย่างชัดแจ้งในการบิดเบือนข้อเท็จจริง รัฐบาลยืนยันว่า การปฏิบัติการของกองทัพไทยอยู่ภายใต้กรอบกฎหมายระหว่างประเทศอย่างเคร่งครัด โดยเฉพาะพันธกรณีภายใต้อนุสัญญาห้ามอาวุธเคมี (Chemical Weapons Convention: CWC) และองค์การห้ามอาวุธเคมี (Organisation for the Prohibition of Chemical Weapons: OPCW) ประเทศไทยไม่มีนโยบายหรือแนวปฏิบัติในการใช้หรือพัฒนาอาวุธชีวภาพหรืออาวุธต้องห้ามใดๆ ทั้งสิ้น การปะทะที่เกิดขึ้นเป็นเพียงการป้องกันอธิปไตยตามแนวชายแดน มิใช่สงครามเต็มรูปแบบ และกองทัพไทยยังคงดำรงจริยธรรมทางการทหารอย่างสุภาพบุรุษเสมอมา ทั้งนี้ ในยุคปัจจุบัน เทคโนโลยีสามารถตรวจจับสารพิษตกค้างหรือการใช้อาวุธต้องห้ามได้อย่างแม่นยำ ไม่สามารถปกปิดได้ในเวทีระหว่างประเทศ หากไทยใช้อาวุธชีวภาพจริง ย่อมมีการตรวจพบโดยองค์การสหประชาชาติและหน่วยงานด้านความมั่นคงทั่วโลกแล้ว รัฐบาลไทยขอเตือนประชาชนและสื่อมวลชนให้ใช้วิจารณญาณอย่างรอบคอบในการรับข้อมูลจากแหล่งที่ไม่น่าเชื่อถือ โดยเฉพาะสื่อออนไลน์ หรือเฟซบุ๊กแฟนเพจที่ไม่มีการยืนยันตัวตนอย่างเป็นทางการ และขอเรียกร้องให้ทุกฝ่ายหลีกเลี่ยงการเผยแพร่ข้อมูลเท็จหรือบิดเบือนที่อาจบั่นทอนความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ พร้อมเน้นย้ำจุดยืนของไทยในการลดความตึงเครียดและผลักดันการเจรจาสันติภาพอย่างยั่งยืนในภูมิภาค.-314.-สำนักข่าวไทย

1 467 468 469 470 471 34,748