อดีต ปธน. ศรีลังกาเข้ารักษาตัวใน รพ. หลังถูกจับกุม

โคลัมโบ 24 ส.ค. – สื่อท้องถิ่นศรีลังการายงานวันนี้ว่านายรานิล วิกรมสิงเห อดีตประธานาธิบดีศรีลังกาที่ถูกคุมขัง ถูกส่งตัวไปโรงพยาบาลในวันเสาร์ หลังจากที่เมื่อวันศุกร์เขาถูกจับกุมในข้อกล่าวหาว่าใช้อำนาจในทางมิชอบและนำเงินสาธารณะไปใช้ส่วนตัวขณะดำรงตำแหน่ง เจ้าหน้าที่ตำรวจกล่าวว่า นายวิกรมสิงเห วัย 76 ปี ซึ่งเคยเป็นผู้นำประเทศในช่วงวิกฤตเศรษฐกิจ ได้ถูกจับกุมตัวเมื่อวันศุกร์ในวันถัดมา นายแพทย์รุกชาน เบลลานา ผู้อำนวยการโรงพยาบาลแห่งชาติโคลัมโบ ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวว่า นายวิกรมสิงเห ถูกนำตัวส่งแผนกฉุกเฉินด้วยภาวะแทรกซ้อนจากอาการขาดน้ำ โรคเบาหวาน และความดันโลหิตสูง โดยเขามีอาการคงที่หลังจากถูกย้ายไปที่แผนกผู้ป่วยหนัก หรือ ไอซียู นายวิกรมสิงเห ซึ่งเคยดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีถึง 6 สมัย และพ่ายแพ้การเลือกตั้งประธานาธิบดีเมื่อปีที่แล้ว ได้ถูกสอบสวนเกี่ยวกับกรณีการเดินทางไปเยือนอังกฤษเพื่อร่วมงานเลี้ยงรับปริญญาพิเศษ เพื่อฉลองที่ภรรยาได้รับตำแหน่งศาสตราจารย์กิตติมศักดิ์จากมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง พันธมิตรของนายวิกรมสิงเหจากพรรคยูไนเต็ด เนชั่นแนล (United National Party) ของเขาเชื่อว่า นายวิกรมสิงเห เป็นผู้บริสุทธิ์และระบุว่าคดีนี้มีแรงจูงใจทางการเมือง.-813.-สำนักข่าวไทย

“ภูมิธรรม” สั่งติดตามสถานการณ์พายุโซนร้อนกำลังแรง “คาจิกิ”

กทม.24 ส.ค. – “ภูมิธรรม” สั่งการผู้ว่าฯ ทั่วประเทศ และ กทม. ติดตามสถานการณ์พายุโซนร้อนกำลังแรง “คาจิกิ (KAJIKI)” เตรียมพร้อมดูแลช่วยประชาชนตลอด 24 ชั่วโมง นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะผู้บัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ เปิดเผยถึงสถานการณ์พายุโซนร้อนกำลังแรง “คาจิกิ (KAJIKI)” ซึ่งกระทรวงมหาดไทยโดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยได้ติดตามและประเมินร่วมกับกรมอุตุนิยมวิทยาและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพบว่า ขณะนี้ พายุโซนร้อนกำลังแรง “คาจิกิ (KAJIKI)” บริเวณทะเลจีนใต้ตอนบนอยู่ห่างจากเมืองดองฮอย ประเทศเวียดนาม ประมาณ 570 กิโลเมตร กำลังเคลื่อนตัวทางตะวันตกด้วยความเร็ว 20 กม./ชม. และมีแนวโน้มจะมีกำลังแรงขึ้นได้อีกเมื่อเคลื่อนเข้าสู่อ่าวตังเกี๋ย และจะอ่อนกำลังลงตามลำดับหลังจากเคลื่อนขึ้นฝั่งประเทศเวียดนามตอนบนช่วงวันที่ 25 -26 ส.ค.68 จากอิทธิพลพายุดังกล่าวคาดว่า จะทำให้ประเทศไทยมีฝนเพิ่มมากขึ้น และมีฝนตกหนักถึงหนักมากหลายพื้นที่กับมีลมแรงบริเวณภาคอีสานตอนบน ภาคเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ในช่วงวันที่ 24–27 ส.ค. 68 นายภูมิธรรม กล่าวว่า ตนได้สั่งการไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดทั้ง 76 […]

ทบ. ตรวจสอบสาเหตุพลทหารเสียชีวิตที่ปราสาทตาเมือนธม

24 ส.ค. – กองทัพบกได้รับรายงานการเสียชีวิตของกำลังพลบริเวณปราสาทตาเมือนธม ปัจจุบันอยู่ระหว่างการตรวจสอบสาเหตุ พร้อมให้การช่วยเหลือเยียวยาตามสิทธิอย่างครบถ้วน กองทัพบกขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อครอบครัวของ พลทหาร พิทยุตท์ โสดา กำลังพลสังกัด กองพันทหารราบที่ 21 หน่วยเฉพาะกิจที่ 2 ซึ่งเสียชีวิตขณะปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่ชายแดนไทย – กัมพูชา เมื่อวันที่ 23 สิงหาคม 2568 เวลา 18.15 น. โดยพบร่างผู้เสียชีวิตภายในห้องสุขา บริเวณหน้าปราสาทตาเมือนธม อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ พลทหารพิทยุตท์ โสดา อายุ 20 ปี เป็นทหารกองประจำการ รุ่นปี 1/67 จากการสมัครใจเข้ามารับราชการในโครงการพลทหารออนไลน์ ปฏิบัติหน้าที่ในตำแหน่ง พลปืนเล็ก หมู่ปืนเล็กที่ 2 หมวดปืนเล็กที่ 1 สังกัด กองร้อยทหารราบที่ 211 กองพันทหารราบที่ 21 หน่วยเฉพาะกิจที่ 2 จากการตรวจสอบเบื้องต้น ผู้เสียชีวิตไม่มีโรคประจำตัว ไม่มีประวัติเสพยาเสพติด ไม่มีภาวะความเครียด […]

แจงปมเลขบัตรประชาชน “หลวงพ่ออลงกต” ซ้ำคนตาย

กทม. 24 ส.ค.-กรมการปกครอง แจงปม “เลขประจำตัวประชาชน” หลวงพ่ออลงกต ซ้ำกับคนตาย ส่วนการเปิดพร้อมเพย์ เลขบัตรประจำตัวประชาชนของผู้ตาย ซึ่งตรงกับบัญชีกองทุนอาทรประชานาถ เป็นการดำเนินการโดยธนาคารพาณิชย์ กรณีมีรายงานว่า หลวงพ่ออลงกต วัดพระบาทน้ำพุ ซึ่งมีชื่อเดิมว่า นายอลงกต พูลมุข มีชื่อซ้ำกับ นายอลงกต พลมุข ที่มีภูมิลำเนาที่ อ.ผักไห่ จ.พระนครศรีอยุธยา และได้เสียชีวิตไปแล้วนั้น รวมทั้งวันเดือนเกิดยังตรงกัน ต่างกันเพียงปีเกิด ล่าสุดเฟซบุ๊ก กรมการปกครอง fanpage ได้โพสต์ข้อความถึงประเด็นดังกล่าว โดยระบุว่า “กรมการปกครอง ชี้แจงกรณีเลขบัตรประจำตัวประชาชนของหลวงพ่ออลงกต ตามที่ปรากฏข้อมูลจากสื่อมวลชนว่า ‘หลวงพ่ออลงกต มีเลขประจำตัวประชาชนตรงกับนายอลงกต พลมุข ซึ่งเป็นบุคคลที่เสียชีวิตแล้ว’ นั้น สำนักบริหารการทะเบียน กรมการปกครอง ได้ตรวจสอบฐานข้อมูลทะเบียนราษฎรของกรมการปกครอง พบว่า พระราชวิสุทธิประชานาถ หรือ หลวงพ่ออลงกต เลขประจำตัวประชาชน x-xxxx-xxx036-50-7 ชื่อจริง อลงกต พูลมุข นามสกุล พูลมุข มีสระอู เกิดปี […]

เผยสหรัฐจำกัดยูเครนใช้ขีปนาวุธโจมตีรัสเซีย

วอชิงตัน 24 ส.ค. – หนังสือพิมพ์ “วอลล์สตรีทเจอร์นัล” (Wall Street Journal) รายงานวันเสาร์ อ้างคำกล่าวของเจ้าหน้าที่สหรัฐว่า กระทรวงกลาโหมสหรัฐได้ดำเนินการอย่างเงียบๆ เพื่อขัดขวางไม่ให้ยูเครนใช้ระบบขีปนาวุธทางยุทธวิธีของกองทัพบก หรือ เอแท็คเอ็มเอส (ATACMS) ที่ผลิตในสหรัฐเพื่อโจมตีเป้าหมายภายในรัสเซีย ซึ่งเป็นการจำกัดความสามารถของยูเครนในการใช้อาวุธเหล่านี้เพื่อป้องกันตนเองจากการรุกรานของรัสเซีย รายงานข่าวดังกล่าวมีขึ้นในขณะที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐได้แสดงความไม่พอใจต่อสงครามระหว่างรัสเซียและที่ยืดเยื้อมานานกว่า 3 ปี และความล้มเหลวในการผลักดันข้อตกลงสันติภาพระหว่างรัสเซียและยูเครน หลังจากที่นายทรัมป์ประชุมสุดยอดร่วมกับประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย และการประชุมต่อมากับผู้นำยุโรปและประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกี ของยูเครน ไม่สามารถสร้างความคืบหน้าที่ชัดเจนได้ นายทรัมป์กล่าวเมื่อวันศุกร์ว่า เขากำลังพิจารณาอีกครั้งที่จะใช้มาตรการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจต่อรัสเซีย หรืออีกทางเลือกหนึ่งคือการถอนตัวจากกระบวนการสันติภาพ ที่ผ่านมา นายทรัมป์หวังที่จะจัดการประชุมทวิภาคีระหว่างนายปูตินและนายเซเลนสกี แต่ก็พิสูจน์แล้วว่าเป็นเรื่องยาก นายเซอร์เก ลาฟรอฟ รัฐมนตรีต่างประเทศของรัสเซีย กล่าวกับเครือข่ายโทรทัศน์เอ็นบีซีเมื่อวันศุกร์ว่า ยังไม่มีวาระที่กำหนดไว้สำหรับการประชุมกับนายเซเลนสกี นายลาฟรอฟบอกกับเอ็นบีซีว่า ยังไม่มีแผนการประชุมใดๆ ในขณะนี้ ในขณะที่ทำเนียบขาวพยายามโน้มน้าวให้ปูตินเข้าร่วมการเจรจาสันติภาพ วอลสตรีทเจอร์นัล รายงานว่า กระบวนการอนุมัติที่เพนทากอนกำหนดไว้ได้ทำให้ยูเครนไม่สามารถเปิดการโจมตีลึกเข้าไปในดินแดนของรัสเซียได้ รายงานระบุว่า นายพีท เฮกเซธ รัฐมนตรีกลาโหม มีอำนาจตัดสินใจขั้นสุดท้ายในการใช้อาวุธพิสัยไกลเหล่านี้.-813.-สำนักข่าวไทย

นิด้าโพล เผยผลสำรวจประชาชนมอง “กัมพูชา” ไม่น่าคบ

กทม. 24 ส.ค.- นิด้าโพล เผยผลสำรวจพบประชาชนยังมอง “กัมพูชา” ไม่น่าคบ และยังกังวลสถานการณ์ชายแดน ขณะที่เชื่อว่ามีประเทศมหาอำนาจเข้าแทรกแซง หวังผลประโยชน์ ศูนย์สำรวจความคิดเห็น “นิด้าโพล” สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) เปิดเผยผลการสำรวจ เรื่อง “สถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา เหตุการณ์ปกติ !” ทำการสำรวจระหว่างวันที่ 18-19 สิงหาคม 2568 จากประชาชนที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป โดยความคิดเห็นประชาชนต่อสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา เป็นเหตุการณ์ที่ดำเนินไปตามปกติ• ร้อยละ 44.96 เหตุการณ์ไม่ปกติเลยและน่ากังวล• ร้อยละ 29.16 เหตุการณ์ปกติแต่ยังไม่น่าไว้วางใจ• ร้อยละ 23.74 เหตุการณ์ยังคงไม่ปกติเท่าไรนัก• ร้อยละ 2.14 เหตุการณ์ปกติจริง ไม่มีอะไรน่ากังวล ด้านความคิดเห็นของประชาชนเกี่ยวกับการแทรกแซงของประเทศมหาอำนาจในสถานการณ์ความขัดแย้งไทย-กัมพูชา• 64.73% ระบุว่า ประเทศมหาอำนาจเข้ามาแทรกแซง เพราะต้องการผลประโยชน์รองลงมา• 17.10% ระบุว่า ไทยควรปฏิเสธการเข้ามาแทรกแซงของประเทศมหาอำนาจ• 8.85% ระบุว่า ประเทศมหาอำนาจเข้ามาแทรกแซง เพราะต้องการให้เกิดสันติภาพจริง ๆ• 6.11% […]

เมืองซานยาของจีนสั่งปิดเมืองรับไต้ฝุ่น ‘คาจิกิ’

ปักกิ่ง 24 ส.ค. – เมืองซานยา ทางตอนใต้ของจีน ซึ่งมีชื่อเสียงจากรีสอร์ตริมทะเลและชายหาดสวยงาม ได้สั่งปิดสถานที่ท่องเที่ยว ธุรกิจ และระงับการขนส่งสาธารณะทั้งหมดในวันอาทิตย์ เพื่อเตรียมรับมือกับพายุไต้ฝุ่น “คาจิกิ” (Kajiki) ที่กำลังทวีกำลังรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ ศูนย์อุตุนิยมวิทยาแห่งชาติของจีนเปิดเผยว่าเมื่อเวลา 09.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น หรือ ตรงกับ 08.00 น. พายุหมุนเขตร้อนลูกนี้อยู่ห่างจากเมืองซานยา ซึ่งตั้งอยู่ในมณฑลไห่หนาน หรือมณฑลไหหลำ ไปทางตะวันออกเฉียงใต้ประมาณ 200 กิโลเมตร โดยมีความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางอยู่ที่ 38 เมตรต่อวินาที พยากรณ์อากาศระบุว่า พายุ “คาจิกิ” มีแนวโน้มที่จะทวีความรุนแรงขึ้นขณะเคลื่อนตัวไปทางตะวันตกเฉียงเหนือด้วยความเร็วประมาณ 20 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และความเร็วลมสูงสุดอาจสูงถึง 48 เมตรต่อวินาที พายุลูกนี้อาจจะขึ้นฝั่งตามแนวชายฝั่งทางใต้ของมณฑลไหหลำในช่วงบ่ายถึงเย็นวันอาทิตย์ หรืออาจจะเคลื่อนตัวเลียบชายฝั่งทางใต้ก่อนมุ่งหน้าสู่บริเวณด้านตะวันตกของเวียดนาม ศูนย์อุตุนิยมวิทยาคาดการณ์ว่าจะมีฝนตกหนักและลมแรงในมณฑลไหหลำ และมณฑลใกล้เคียงอย่างกวางตุ้งโดยบางพื้นที่ในไหหลำอาจมีปริมาณน้ำฝนสูงถึง 400 มิลลิเมตร ในเช้าวันอาทิตย์ เมืองซานย่าได้ประกาศเตือนภัยพายุไต้ฝุ่นระดับ สีแดง ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในระบบเตือนภัยของจีน และได้ยกระดับการรับมือฉุกเฉินสู่ระดับที่รุนแรงที่สุด เจ้าหน้าที่เมืองซานยาได้มีการประชุมเมื่อค่ำวันเสาร์ เพื่อเร่งให้เตรียมพร้อมสำหรับ “สถานการณ์ที่เลวร้ายที่สุด” […]

ททท.ยกระดับสินค้าท่องเที่ยวสู่มาตรฐานสากล จัดประกวด “รางวัลอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทย” ครั้งที่ 15

24 ส.ค. – การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ยกระดับสินค้าท่องเที่ยวสู่มาตรฐานสากล และนำไปสู่ความยั่งยืน ผ่านการประกวด “รางวัลอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทย” ครั้งที่ 15 นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กล่าวว่า เพื่อเป็นการเชิดชูผู้ประกอบการท่องเที่ยวไทยที่มีคุณภาพในสินค้า บริการทางการท่องเที่ยวอย่างยอดเยี่ยม และยั่งยืน ททท.ได้ดำเนินโครงการการประกวดรางวัลอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทย (Thailand Tourism Awards) เพื่อสร้างคุณค่าและมูลค่าของสินค้าทางการท่องเที่ยวไทยสู่ระดับสากล ซึ่งรางวัลนี้จัดมาตั้งแต่ปี 2539 โดยจัดต่อเนื่องทุก 2 ปี จนปีนี้เข้าสู่ครั้งที่ 15 ในปีนี้ได้เพิ่มรางวัลแห่งความยั่งยืน เป็นครั้งแรก เพื่อเชิดชูผลงานที่มีความโดดเด่นด้านการบริหารจัดการความยั่งยืน โดยรางวัลอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยที่จัดมาตลอด 3 ทศวรรษที่ผ่านมา ได้เชิดชู ส่งเสริม และสร้างขวัญกำลังใจให้ผู้ประกอบการ ผ่านการคัดสรรผู้ประกอบการท่องเที่ยวไทยที่คุณภาพยอดเยี่ยม ทั้งในด้านสินค้าและบริการ ด้านการบริหารจัดการธุรกิจ รวมถึงด้านการจัดการความอย่างยั่งยืนและความรับผิดชอบต่อสังคม สิ่งแวดล้อม โดยแบ่งการประกวดออกเป็น 5 ประเภท ได้แก่ 1. ประเภทแหล่งท่องเที่ยว 2. ประเภทที่พักนักท่องเที่ยว 3. ประเภทการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ 4. […]

รัฐบาลเดินหน้าแก้ปัญหายาเสพติด ไม่ใช่เพียงตัวเลขการจับกุม

พรรคเพื่อไทย 24 ส.ค.-เพื่อไทย เผยผลงานเดินหน้าแก้ปัญหายาเสพติดเริ่มเห็นผล ยันสิ่งที่รัฐบาลเพื่อไทยต้องการไม่ใช่เพียงตัวเลขการจับกุม แต่เป็น KPI จากพี่น้องประชาชน หากยังไปไม่ถึง ไม่หยุดเดิน น.ส.ชญาภา สินธุไพร รองโฆษกพรรคเพื่อไทย เปิดเผยถึงการแก้ไขปัญหายาเสพติดช่วงที่ผ่านมา ว่า นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้สั่งการให้มีการบูรณาการระหว่างหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องเพื่อแก้ปัญหายาเสพติดอย่างมีประสิทธิภาพและเป็นระบบนั้น ผลลัพธ์เบื้องต้นพบว่า มีการดำเนินการจับกุมการลักลอบขนยาไอซ์ล็อตใหญ่ในสามพื้นที่คือ จังหวัดเชียงใหม่ จังหวัดนราธิวาส และจังหวัดเลย กว่า 2,100 กิโลกรัม รวมทั้งการดำเนินการจับกุมการลักลอบขนยาบ้าที่จังหวัดแพร่อีกกว่า 2 ล้านเม็ด น.ส.ชญาภา ระบุว่า นี่เป็นเพียงตัวอย่างของการดำเนินการมาตรการเชิงรุกในการปราบปรามยาเสพติด ตามนโยบาย No Drug No Dealers และนโยบาย 8 Quick Win 3 ไร้ทุกข์ 5 สร้างสุข ของรัฐบาลเพื่อไทย นอกจากนี้ในช่วงที่ผ่านมา ไม่ได้มีเพียงแค่การดำเนินการกับผู้ค้ารายใหญ่เพียงเท่านั้น ในหลายจังหวัดได้เริ่มต้นดำเนินการในการนำตัวผู้เสพเข้าสู่กระบวนการบำบัดแล้วหลายหมื่นราย โดยสิ่งนี้เป็นการต่อยอดความสำเร็จจาก ธวัชบุรีและท่าวังผาโมเดล ซึ่งเริ่มต้นดำเนินการต่อเนื่องมาตั้งแต่สมัยรัฐบาลท่านเศรษฐา […]

“ชญาภา” แจงปิดประชุมสภาฯ เพราะเข้าใจผิด

พรรคเพื่อไทย 24 ส.ค.-“ชญาภา” ชี้เหตุปิดประชุมสภาฯ เป็นความเข้าใจผิด ประธานสภา-วิป แนะฝ่ายค้านเสนอญัตติศึกษา MOU 43-44 เข้ามาใหม่ เชื่อสภาฯ พร้อมพิจารณา พรรคคนรุ่นใหม่ควรเลิกพฤติกรรมการเมืองจัด หวังแค่ล้มรัฐบาล ลืมจุดยืนในการยืนยันหลักการและข้อเท็จริง น.ส.ชญาภา สินธุไพร รองโฆษกพรรคเพื่อไทย แถลงข่าวกล่าวถึงกรณีการปิดประชุมสภาอย่างกระทันหันเมื่อวันที่ 21 ส.ค.ที่ผ่านมา จนฝ่ายค้านนำไปอ้างให้ประชาชนเข้าใจผิดว่าเป็นการปิดสภาเพื่อหนีการเสนอญัตติเพื่อตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญเพื่อศึกษาพิจารณา MOU 43 และ MOU 44 ของพรรคฝ่ายค้าน โดยยืนยันอีกครั้งว่า กรณีที่เกิดขึ้นเกิดจากความคลาดเคลื่อนในการสื่อสารระหว่างประธานสภาฯ กับวิปฝ่ายรัฐบาลและวิปฝ่ายค้าน รัฐบาลไม่ได้มีเจตนาแอบแฝงแต่อย่างใด เนื่องจากรัฐบาลและพรรคเพื่อไทย มีจุดยืนที่ชัดเจนที่เชื่อมั่นในระบบรัฐสภา และเชื่อมั่นว่าสภาคือเวทีในการร่วมกันหาทางแก้ไขปัญหาให้พี่น้องประชาชน ซึ่งหลังจากนี้พรรคฝ่ายค้านก็สามารถเสนอญัตติให้มีการตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญ เพื่อศึกษาพิจารณา MOU 43 และ MOU 44 เพื่อให้สภาผู้แทนราษฎรพิจารณาได้ รองโฆษกพรรคเพื่อไทย ย้ำต่อว่า จุดยืนของพรรคเพื่อไทยนั้น คือการปกป้องอธิปไตยและบูรณภาพของดินแดน ยืนอยู่บนความถูกต้องตามข้อเท็จจริง ไม่ใช้ความรู้สึก หรือความหวาดกลัวใดๆ และ MOU 43 (พ.ศ.2543) เป็นเพียงกรอบความร่วมมือจัดตั้งคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วม […]

เปรูประกาศให้สุนัขพันธุ์ “ชิริบายา” เป็นมรดกทางวัฒนธรรม

ลิมา 24 ส.ค. – รัฐสภาของประเทศเปรูได้ลงมติเป็นเอกฉันท์เมื่อวันอังคารที่ผ่านมาให้ สุนัขพันธุ์ “ชิริบายา เชพเพิร์ด” (Chiribaya Shepherd) หรือที่รู้จักกันในชื่อ “หมาต้อนแกะแห่งเปรู” เป็นมรดกทางวัฒนธรรมของชาติ เพื่อปกป้องสายพันธุ์สุนัขโบราณที่มีความเชื่อมโยงกับอารยธรรม “ชิริบายา” ซึ่งรุ่งเรืองอยู่ในช่วงคริสต์ศักราช 900 ถึง 1350 ผู้เชี่ยวชาญระบุว่า การค้นพบซากมัมมี่ของสุนัขในบริเวณตอนใต้ของประเทศเปรูได้ยืนยันถึงบทบาทสำคัญของพวกมันในอดีต ทั้งในด้านการไล่ต้อนสัตว์ การล่าสัตว์ และการเป็นเพื่อนคู่หูกับมนุษย์ นายไฆเม่ โรดริเกซ ประธานสมาคมการศึกษาเกี่ยวกับสุนัขของเปรู กล่าวว่าเป็นที่เชื่อกันว่าสุนัขสายพันธุ์นี้มาพร้อมกับชนเผ่า “เตียวานาโก” (Tiahuanaco) และมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการจัดการสัตว์ตระกูลอูฐในทวีปอเมริกาใต้ (เช่น ลามาและอัลปากา) รวมถึงการผลิตสิ่งทอชั้นดีอีกด้วย.-813.-สำนักข่าวไทย

เผยกลาโหมสหรัฐเตรียมแผนส่งทหารไปชิคาโก

วอชิงตัน 24 ส.ค. – หนังสือพิมพ์วอชิงตันโพสต์ (Washington Post) รายงานในวันเสาร์ว่า กระทรวงกลาโหมสหรัฐกำลังดำเนินการจัดทำแผนการส่งกำลังทหารสหรัฐไปยังนครชิคาโก หลังจากที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ระบุว่า เขาจะจัดการกับอาชญากรรม ปัญหาคนไร้บ้าน และผู้อพยพผิดกฎหมาย รายงานของวอชิงตันโพสต์อ้างเจ้าหน้าที่วงในที่ระบุว่า แผนของกระทรวงกลาโหมซึ่งจัดทำมาหลายสัปดาห์นั้นมีหลายทางเลือก รวมถึงการระดมกำลังทหารกองกำลังพิทักษ์มาตุภูมิ (National Guard) อย่างน้อยสองสามพันนาย อย่างเร็วที่สุดจะเป็นในเดือนกันยายนนี้ ทรัมป์กล่าวกับผู้สื่อข่าวเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาว่านครชิคาโกกำลังอยู่ในสภาพยุ่งเหยิง โดยกล่าวโจมตีนายกเทศมนตรีของเมืองนี้ ในขณะที่นายทรัมป์ยังคงเดินหน้าตำหนิเมืองที่บริหารโดยนักการเมืองจากพรรคเดโมแครต กระทรวงกลาโหมออกแถลงการณ์ในคืนวันเสาร์ว่า ทางกระทรวงจะไม่คาดเดาเกี่ยวกับปฏิบัติการใดๆ เพิ่มเติม กระทรวงฯ เป็นองค์กรที่มีการวางแผนและทำงานร่วมกับหน่วยงานพันธมิตรอื่นๆ อย่างต่อเนื่องในแผนการปกป้องทรัพย์สินและบุคลากรของรัฐบาลกลาง นายเจบี พริตซ์เกอร์ ผู้ว่าการรัฐอิลลินอยส์ จากพรรคเดโมแครต กล่าวว่า รัฐของเขาซึ่งมีนครชิคาโก รวมอยู่ด้วย ไม่ได้รับการติดต่อจากรัฐบาลกลางว่าต้องการความช่วยเหลือหรือไม่ และยืนยันว่าไม่มีสถานการณ์ฉุกเฉินที่จำเป็นต้องใช้กำลังทหารในขณะเดียวกัน นายแบรนดอน จอห์นสัน นายกเทศมนตรีเมืองชิคาโก้ ได้แสดงความกังวลอย่างมากต่อผลกระทบจากการส่งกำลังทหารกองกำลังพิทักษ์มาตุภูมิอย่างผิดกฎหมาย โดยระบุว่าแนวทางของประธานาธิบดีเป็นสิ่งที่ ไม่มีการประสานงาน ไม่ได้มีการเรียกร้องและไม่สมเหตุสมผล นายกเทศมนตรียังเสริมว่าในปีที่ผ่านมา อัตราคดดีฆาตกรรมในชิคาโกลดลงกว่าร้อยละ 30 การปล้นทรัพย์ลดลงร้อยละ 35 และเหตุยิงกันลดลงเกือบร้อยละ 40.-813.-สำนักข่าวไทย

1 277 278 279 280 281 34,748