“อนุทิน” ลั่นแจ้งความ “ภูมิธรรม” ม.112 ไม่เกี่ยวภูมิใจไทย

รัฐสภา 4 ก.ย.- “อนุทิน” ลั่นแจ้งความ “ภูมิธรรม” ม.112 ไม่เกี่ยว “ภูมิใจไทย” ร้องเอ๊า “ศุภชัย” แจ้งความ 157 ขอตรวจสอบไปในนามพรรคหรือไม่ เหตุวุ่นทั้งวัน เผยคุย ปชน.แล้ว หลังวิ่งกลับมาโหวต กม.ไม่ทัน มองบวก “เพื่อไทย” เสนอ “ชัยเกษม” แข่งชิงนายกฯ บอกยิ่งมีทางเลือก ยิ่งเป็นประโยชน์ นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย เดินทางถึงอาคารรัฐสภา ในเวลา 09.00 น. โดยไม่ได้ตอบคำถามว่ากังวลใจในการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีในวันพรุ่งนี้ (5 ก.ย.) หรือไม่ และเมื่อผู้สื่อข่าวขอให้นายอนุทิน สัมภาษณ์ที่จุดสัมภาษณ์รวม นายอนุทิน กล่าวว่า ไม่เอา อย่าเพิ่ง และพยายามบ่ายเบี่ยง ผู้สื่อข่าวจึงถามต่อว่ามีอะไรต้องเคลียร์กับพรรคประชาชนหรือไม่ จากการที่เมื่อวานนี้ (3 ก.ย.) พรรคภูมิใจไทยกลับมาประชุมสภาไม่ทันโหวตร่างกฎหมายของพรรคประชาชน นายอนุทิน กล่าวว่า ได้ชี้แจงกันแล้ว เมื่อวาน (3 ก.ย.) […]

ไฟป่าเผาทำลายเมืองประวัติศาสตร์ในแคลิฟอร์เนีย

ไชนีสแคมป์, แคลิฟอร์เนีย 4 ก.ย. – กลุ่มไฟป่าที่เกิดจากฟ้าผ่าเผาทำลายพื้นที่ทั่วสองเขตทางตอนเหนือของรัฐแคลิฟอร์เนียในวันพุธ ทำให้ต้องอพยพประชาชนเป็นวงกว้าง นอกจากน้ัน ไฟยังเผาผลาญพื้นที่ส่วนหนึ่งของเมืองเหมืองแร่ประวัติศาสตร์ยุคตื่นทอง ซึ่งครั้งหนึ่งเคยเป็นบ้านของผู้อพยพชาวจีนหลายพันคน สำนักงานป่าไม้และป้องกันอัคคีภัยแห่งแคลิฟอร์เนียกล่าวว่า เปลวไฟที่ขยายวงกว้างอย่างรวดเร็วเนื่องจากกระแสลมทำให้ไฟแยกกระจายมากกว่า 20 จุด ผลาญพื้นที่กว่า 32,800 ไร่ นับตั้งแต่พายุฟ้าผ่าทำให้เกิดไฟเกิดปะทุขึ้นเมื่อวันอังคาร ไชนีสแคมป์ ซึ่งเป็นเมืองห่างไกลที่มีผู้อยู่อาศัยไม่ถึง 100 คน ตั้งอยู่ที่เชิงเขาทางตะวันตกของเทือกเขาเซียร์ราเนวาดาในภูมิภาค “โกลด์ คันทรี” (Gold Country) ของรัฐแคลิฟอร์เนีย ได้รับผลกระทบอย่างหนักเป็นพิเศษจากไฟป่า ไฟป่าได้ทำลายบ้านเรือนหลายสิบหลังทั้งในและรอบๆ ไชนีสแคมป์ ซึ่งเป็นส่วนที่หลงเหลือของชุมชนเหมืองแร่ยุคตื่นทองที่เป็นที่ตั้งรกรากของแรงงานชาวจีนหลายพันคนในช่วงกลางศตวรรษที่ 19 เปลวไฟยังได้เผาทำลายอาคารประวัติศาสตร์สองหลัง รวมถึงสถานีรถม้าเก่าแก่ และเผาสุสานบนเนินเขา แต่โบสถ์ที่อยู่ติดกันซึ่งก่อตั้งขึ้นในปี 1854 ไม่ได้รับความเสียหาย อาคารสำคัญอื่นๆ อีกสามแห่ง ได้แก่ ร้านค้าและโรงแรมไชนีสแคมป์ และที่ทำการไปรษณีย์ของเมืองรวมถึงโรงเรียนสาธารณะสไตล์เจดีย์ก็รอดจากไฟไหม้เช่นกัน เมืองทั้งเมืองและชุมชนอื่นๆ อีกหลายแห่งในเขตทูโอโลมเน่และเขตคาลาเวรัสที่อยู่ใกล้เคียงยังคงมีคำสั่งให้ประชาชนอพยพ ในขณะที่เจ้าหน้าที่ดับเพลิงกว่า 600 นายกำลังพยายามควบคุมไฟป่า กาวิน นิวซอม ผู้ว่าการรัฐแคลิฟอร์เนียกล่าวในแถลงการณ์เมื่อวันพุธว่า กำลังระดมทรัพยากรทั้งหมดที่มีอยู่ รวมถึงการสนับสนุนจากพันธมิตรของรัฐบาลกลาง เพื่อต่อสู้กับไฟที่เกิดจากฟ้าผ่าในเขตคาลาเวรัสและทูโอโลมเน่ที่กำลังลุกลามนี้ […]

กรมปศุสัตว์เดินหน้าตรวจสารเร่งเนื้อแดง​ คุมเข้มตลอด​ห่วงโซ่

ปทุมธานี​ 4 ก.ย-กรมปศุสัตว์ ระดมชุดเฉพาะกิจลงพื้นที่ตรวจสอบสารเร่งเนื้อแดง จากสถานที่จำหน่ายเนื้อสัตว์ พร้อมขับเคลื่อนนโยบาย “ประเทศไทยปลอดสารเร่งเนื้อแดง” ตามจุดยืนของ ก.เกษตรฯ ที่ห้ามใช้สารดังกล่าวทุกขั้นตอนการผลิต เพื่อคุ้มครองสุขภาพประชาชนและเสริมสร้างความเชื่อมั่นต่อประเทศคู่ค้า นายสัตวแพทย์สมชวน รัตนมังคลานนท์ อธิบดีกรมปศุสัตว์ เปิดเผยว่า กรมปศุสัตว์ได้ดำเนินมาตรการเฝ้าระวังและปราบปรามการใช้สารเร่งเนื้อแดงมาอย่างต่อเนื่องตามนโยบายของนายอรรถกร ศิริลัทธยากร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยเฉพาะในปีนี้ได้ยกระดับสู่การดำเนินการเชิงรุกทั่วประเทศ ครอบคลุมตั้งแต่โรงงานผลิตอาหารสัตว์ ฟาร์มเลี้ยงสัตว์ โรงฆ่าสัตว์ จนถึงสถานที่จำหน่ายเนื้อสัตว์ในตลาดทั่วไป “จุดยืนของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ชัดเจนว่า ห้ามใช้สารเร่งเนื้อแดงทุกขั้นตอนการผลิต ทั้งเพื่อคุ้มครองสุขภาพประชาชน และสร้างความมั่นใจในสินค้าเกษตรไทยในเวทีการค้าโลก” นายสัตวแพทย์สมชวนกล่าว ล่าสุด กรมปศุสัตว์มอบหมายให้นายสัตวแพทย์ยุทธนา โสภี ผู้อำนวยการสำนักพัฒนาระบบและรับรองมาตรฐานสินค้าปศุสัตว์ พร้อมชุดเฉพาะกิจของกรมฯ ซึ่งประกอบด้วย สำนักงานปศุสัตว์เขต 1 สำนักงานปศุสัตว์จังหวัดปทุมธานี กองสารวัตรและกักกัน สำนักงานตรวจสอบคุณภาพสินค้าปศุสัตว์ บูรณาการร่วมกับตำรวจสอบสวนกลาง และเจ้าหน้าที่สาธารณสุขจังหวัด ลงพื้นที่ตรวจสารเร่งเนื้อแดง ณ อาคารตลาดเนื้อสัตว์ ตลาดไท ถนนพหลโยธิน ตำบลคลองหนึ่ง อำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี จากการตรวจสอบ ไม่พบเนื้อสัตว์ที่มีการปนเปื้อนสารเร่งเนื้อแดง โดยกรมฯ จะขยายผลการตรวจสอบในพื้นที่อื่นทั่วประเทศต่อไปอย่างต่อเนื่อง นายสัตวแพทย์ยุทธนา โสภี […]

จับกระบะตู้ทึบ ขนแรงงานเถื่อน 71 ชีวิต

กทม. 4 ก.ย.-ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) จับกระบะตู้ทึบ ขนแรงงานเถื่อน 71 ชีวิต ตำรวจสถานีตำรวจทางหลวง 1 กองกำกับการ 5 กองบังคับการตำรวจทางหลวง ร่วมกันจับกุมนายบุญช่วย ​อายุ 31 ปี​สัญชาติ ไทย และนายปิยะวุฒิ ​อายุ 31 ปี​สัญชาติ ไทย ในข้อหา “รู้ว่าคนต่างด้าวเข้ามาในราชอาณาจักรโดยผิดกฎหมาย ซ่อนเร้น หรือช่วยด้วยประการใดๆ เพื่อให้คนต่างด้าวนั้น พ้นจากการจับกุม” และจับกุมผู้ต้องหาเป็นบุคคลต่างด้าว สัญชาติเมียนมา จำนวน 71 ราย ในข้อหา “เป็นบุคคลต่างด้าวเข้ามาอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต” โดยจับกุมได้บริเวณถนนสายวังประจบ – พรานกระต่าย ทล.1132 กม.3 – 4 ต.วังประจบ อ.เมือง จ.ตาก สืบเนื่องจากตำรวจทางหลวงตากได้รับแจ้งว่าจะมีการลักลอบขนแรงงานต่างด้าวจำนวนมากจากจังหวัดตากเข้าสู่พื้นที่ชั้นในของประเทศไทย จึงได้วางแผนเฝ้าระวังและสกัดจับบริเวณถนนสายวังประจบ-พรานกระต่าย ต่อมาเจ้าหน้าที่พบรถกระบะต้องสงสัย 2 คันขับตามกันมา โดยมีลักษณะบรรทุกหนักและมีสัมภาระปกปิดมิดชิด ลักษณะต้องสงสัย คล้ายกับรถที่ได้รับแจ้งจากสายลับ เจ้าหน้าที่จึงส่งสัญญาณให้หยุดรถเพื่อขอตรวจสอบ […]

รฟท.ประสาน DSI เลื่อนแจ้งความเอาผิด “เขากระโดง”

ดีเอสไอ 3 ก.ย.-รฟท.ประสาน DSI เลื่อนแจ้งความเอาผิดเรื่องเขากระโดงไม่มีกำหนด ความคืบหน้าการสืบสวนเรื่องร้องเรียนการครอบครองและการออกเอกสารสิทธิในที่ดินบริเวณเขากระโดงจังหวัดบุรีรัมย์ อันอาจเป็นที่ดินของรัฐ ซึ่งอธิบดีดีเอสไอมีคำสั่งสืบสวน และดีเอสไอได้ดำเนินการสอบสวนปากคำพยานบุคคลที่เกี่ยวข้อง ตรวจสอบรวบรวมพยานหลักฐานพบกลุ่มบุคคลและเจ้าหน้าที่รฟท.เกี่ยวข้อง ซึ่งการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ติดต่อจะมอบให้ฝ่ายกฎหมายเข้าแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ เพื่อขอให้ดำเนินการสอบสวนตาม พ.ร.บ.การสอบสวนคดีพิเศษ พ.ศ. 2547 และที่แก้ไขเพิ่มเติม และกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง พร้อมมอบเอกสารหลักฐานที่เกี่ยวข้องวันนี้ เวลา 14.00น. ล่าสุดพ.ต.ต.ณฐพล ดิษยธรรม ผอ.กองคดีทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่ฝ่ายกฎหมาย รฟท.ได้ประสานกลับมายังตน ขอเลื่อนการเข้าแจ้งความร้องทุกข์ออกไปก่อน อย่างไม่มีกำหนด กรณีนี้ พนักงานสอบสวนดีเอสไอตรวจสอบพบ กลุ่มบุคคลและเจ้าหน้าที่การรถไฟเข้าไปเกี่ยวข้อง และการรถไฟฯ เป็นผู้เสียหายจึงประสาน รฟท.ไปให้มาแจ้งความดำเนินคดีอาญากับกลุ่มบุคคลและเจ้าหน้าที่การรถไฟแห่งประเทศไทย และเจ้าหน้าที่รัฐอื่นในการเข้ายึดถือครอบครองที่ดินของการรถไฟแห่งประเทศไทย บริเวณพื้นที่เขากระโดง ต.เสม็ด และ ต.อิสาณ อ.เมืองบุรีรัมย์ จ.บุรีรัมย์ หากรฟท.ไม่มาแจ้งร้องทุกข์ ก็เข้าข่ายละเลยการปฏิบัติหน้าที่ ดีเอสไอจะทำหนังสือแจ้งรฟท.อีกครั้งให้มาแจ้งความร้องทุกข์ หากยังไม่มาอีก ก็จะประชุมพนักงานสอบสวน ดำเนินการทางกฎหมายกับผู้บริหารการรถไฟฯ เรียกสอบบุคคลที่เกี่ยวข้องฐานเป็นผู้สนับสนุนเพื่อดำเนินการทางกฎหมายต่อไป.-สำนักข่าวไทย

อนุมัติวงเงินด่วนเร่งช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม

ทำเนียบ 4 ก.ย.-รัฐบาลดูแลน้ำท่วม อนุมัติวงเงินด่วนเร่งช่วยเหลือผู้ประสบภัยภาคเหนือและภาคกลางตอนบน นางสาวศศิกานต์ วัฒนะจันทร์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผยว่า กรมบัญชีกลางได้อนุมัติขยายวงเงินทดรองราชการในอำนาจผู้ว่าราชการจังหวัดสุโขทัยและแม่ฮ่องสอน จังหวัดละ 50 ล้านบาท และจังหวัดเชียงใหม่อีก 20 ล้านบาท รวม 120 ล้านบาท เพื่อใช้เป็นค่าใช้จ่ายในการช่วยเหลือประชาชนผู้ประสบภัยจากอุทกภัยกรณีฉุกเฉิน อันเกิดจากอิทธิพลของพายุ “คาจิกิ” และ “หนองฟ้า” ที่ส่งผลให้หลายพื้นที่ในภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือต้องเผชิญกับน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และความเสียหายต่อบ้านเรือนและพื้นที่เกษตรกรรม ข้อมูล ณ วันที่ 3 กันยายน 2568 สรุปความเสียหายจากพายุ “คาจิกิ” พบว่า มีพื้นที่ประสบภัย 4 จังหวัด ได้แก่ เชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน สุโขทัย และพิษณุโลก ครอบคลุม 10 อำเภอ 27 ตำบล 104 หมู่บ้าน มีประชาชนได้รับผลกระทบ 2,979 ครัวเรือน รวม 6,360 […]

ฝนตกต่อเนื่อง หลายจังหวัดยังเสี่ยงน้ำหลาก

กรุงเทพฯ 4 ก.ย.-กรมอุตุฯ เผยร่องมรสุมพาดผ่านตอนกลางของประเทศ ประกอบกับมีหย่อมความกดอากาศต่ำเกิดขึ้นเป็นระยะๆ ส่งผลให้มีฝนตกหนักหลายพื้นที่ โดยเฉพาะภาคเหนือตอนล่างที่มีฝนสะสมสูง เสี่ยงน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก นายสมควร ต้นจาน ผู้อำนวยการกองพยากรณ์อากาศ กรมอุตุนิยมวิทยาเปิดเผยว่า ช่วงวันที่ 4 – 7 กันยายน 2568 ประเทศไทยยังคงมีฝนตกต่อเนื่องและมีฝนตกหนักบางแห่งในหลายพื้นที่ ได้แก่ภาคเหนือตอนล่าง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ทั้งนี้เป็นผลจากร่องมรสุมที่เลื่อนลงมาพาดผ่านตอนกลางของประเทศ ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่ยังคงมีกำลังปานกลางพัดปกคลุมประเทศไทย ในช่วงเวลาดังกล่าว ต้องเฝ้าระวังน้ำหลากจากฝนที่ยังตกสะสม โดยเฉพาะพื้นที่ภาคเหนือตอนล่างซึ่งมีปริมาณฝนสะสมสูง ได้แก่ 4 จังหวัดได้แก่ พิจิตร สุโขทัย พิษณุโลก และเพชรบูรณ์ สำหรับชาวเรือและชาวประมงควรเดินเรือด้วยความระมัดระวัง โดยเฉพาะบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นลมเนื่องจากมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ยังมีกำลังปานกลาง จึงทำให้มีฝนตกหนักบริเวณภาคใต้ฝั่งอันดามันและภาค จากนั้นช่วงวันที่ 8-13 กันยายน 2568 ประเทศไทยยังมีฝนกระจายหลายพื้นที่และยังคงมีฝนตกต่อเนื่อง หนักเบาสลับกันในบางวัน โดยอิทธิพลยังคงมาจากร่องมรสุมที่ยังคงขยับขึ้น-ลง และมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุม บางช่วงมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณภาคกลางด้วย จึงยังคงต้องเฝ้าระวังสถานการณ์ฝนอย่างต่อเนื่อง แต่ยังไม่มีสัญญาณการก่อตัวของพายุใกล้บริเวณประเทศไทย ขอให้ประชาชนติดตามประกาศเตือนภัยและพยากรณ์อากาศอย่างต่อเนื่องจากกรมอุตุนิยมวิทยาทาง www.tmd.go.th หรือโทร 1182 ตลอด […]

โอนเงินไร่ละพัน ถึงมือชาวนากว่า 2.48 ล้านครัวเรือน

ทำเนียบ 4 ก.ย.-รัฐบาลดูแลเกษตรกรผู้ปลูกข้าวไร่ละพัน ถึงมือกว่า 2.48 ล้านครัวเรือนทั่วประเทศแล้ว ยอดกว่า 2 หมื่นล้าน นางสาวศศิกานต์ วัฒนะจันทร์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผยว่า ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ได้ดำเนินการโอนเงินช่วยเหลือเกษตรกรตามโครงการสนับสนุนเงินช่วยเหลือผู้ปลูกข้าวนาปรัง ปี 2568 และโครงการช่วยเหลือผู้ปลูกข้าวนาปี ปีการผลิต 2568/69 ครัวเรือนละไม่เกิน 10 ไร่ ในอัตราไร่ละ 1,000 บาท โดยวันที่ 1 กันยายน ได้โอนเงินให้เกษตรกรผู้ปลูกข้าวนาปรังทั่วประเทศแล้ว 769,461 ราย เป็นเงิน 6,280 ล้านบาท ส่วนวันที่ 2 กันยายน โอนให้เกษตรกรภาคเหนือ 286,000 ราย เป็นเงิน 2,459 ล้านบาท วันที่ 3 กันยายน โอนให้เกษตรกรภาคอีสาน 1,291,000 ราย เป็นเงิน 10,586 ล้านบาท และวันที่ […]

ติดป้ายให้ ‘ชาวกัมพูชา’ รื้อถอน-ย้ายออก บ้านหนองจาน

สระแก้ว 4 ก.ย.- ผู้ว่าฯ สระแก้ว สั่งติดป้ายให้ ‘ชาวกัมพูชา’ รื้อถอน-ย้ายออก พื้นที่บ้านหนองจาน ในส่วนของไทย หากฝ่าฝืนเอาผิด พ.ร.บ.คนเข้าเมือง-ป่าไม้ โทษปรับ-จำคุก เจ้าหน้าที่หลายหน่วยงาน จ.สระแก้ว ติดตั้งประกาศบังคับใช้กฎหมายชาวกัมพูชาที่บุกรุกพื้นที่ในราชอาณาจักรไทย บริเวณบ้านหนองจาน อ.โคกสูง จ.สระแก้ว โดยป้ายมี 3 ภาษา ไทย-กัมพูชา-อังกฤษ พร้อมแผนที่ ระบุว่า “ประกาศให้ชาวกัมพูชาที่บุกรุกถือครองที่ดินและอยู่อาศัยทำกินในราชอาณาจักรไทย เป็นการกระทำความผิดในราชอาณาจักรไทย ตามแผนที่แนบท้ายกรอบสีฟ้า หากเพิกเฉยไม่ดำเนินการจะดำเนินคดีและต้องรับโทษในราชอาณาจักรไทย หากเพิกเฉยไม่ดำเนินการจะดำเนินคดีและต้องรับโทษในราชอาณาจักรไทยตามกฎหมายดังนี้ 1.พระราชบัญญัติคนเข้าเมือง พ.ศ. 2522 มาตรา 11 มาตรา 62 และมาตรา 81 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี และปรับไม่เกิน 20,000 บาท 2.พระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ.2484 มาตรา 54 และมาตรา 72 ตรี ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี […]

สถานการณ์ชายแดนไทย 7 จังหวัด ปกติ

ทำเนียบ 4 ก.ย.-สถานการณ์ชายแดนไทย 7 จังหวัด ปกติ แต่ยังคงต้องตรึงกำลังพร้อมรับสถานการณ์ เน้นย้ำความโปร่งใสในสายตานานาชาติ ในการพาผู้สังเกตการณ์ให้ความจริง พร้อมเดินหน้าหารือบนเวที GBC และเยียวยาประชาชนอย่างต่อเนื่อง นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และคณะกรรมการศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์ชายแดนไทย–กัมพูชา (ศบ.ทก.) รายงานสถานการณ์ชายแดน 11 จุด ใน 7 จังหวัด ว่า เหตุการณ์โดยทั่วไปปกติ ขณะที่กองทัพไทยยังคงตรึงกำลังและเฝ้าระวังตลอด 24 ชั่วโมง นายจิรายุ กล่าวว่า คณะกรรมการ ศบ.ทก. เมื่อวานนี้ ได้ประชุมในด้านความมั่นคงและการต่างประเทศ โดยคณะผู้สังเกตการณ์นานาชาติ (IOT) ได้ลงพื้นที่จังหวัดจันทบุรีและตราด เมื่อวันอังคารที่ 2 กันยายน 2568 ที่ผ่านมา เพื่อตรวจสอบการปฏิบัติงานด้านความมั่นคง การเก็บกู้ทุ่นระเบิดและการดูแลประชาชน ซึ่งผลการตรวจสอบยืนยันว่า ประเทศ ไทยยึดมั่นในการปฏิบัติอย่างตรงไปตรงมา โปร่งใส และพร้อมร่วมมือรักษาสันติภาพ ในภูมิภาค ทั้งนี้ ประเทศไทยได้เตรียมการประชุม GBC สมัยวิสามัญครั้งที่ 2 […]

ทั่วไทยยังมีฝนตกหนักบางแห่ง ฝนฟ้าคะนอง 40-70% ของพื้นที่

กรุงเทพฯ 4 ก.ย. – กรมอุตุฯ เผยประเทศไทยยังคงมีฝนตกหนักบางแห่ง ฝนฟ้าคะนอง 40-70% ของพื้นที่ ขอให้ประชาชนโดยเฉพาะบริเวณจังหวัดระนอง จันทบุรี และตราด ระวังอันตรายจากน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยยังคงมีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนโดยเฉพาะบริเวณจังหวัดระนอง จันทบุรี และตราด ระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่าน และพื้นที่ลุ่ม เนื่องจากร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันตอนบนมีกำลังปานกลาง โดยมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ทะเลอันดามันตอนล่าง และอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง พยากรณ์อากาศรายภาค วันที่ 4 ก.ย.68 กทม.-ปริมณฑล : มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 70 ของพื้นที่ […]

อุบัติเหตุรถรางในโปรตุเกส ตาย 15 เจ็บ 18 คน

ลืสบอน 4 ก.ย. – เกิดอุบัติเหตุรถรางตกรางและชนกันในกรุงลิสบอน เมืองหลวงโปรตุเกส มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 15 ราย บาดเจ็บอีก 18 คน มีนักท่องเที่ยวต่างชาติรวมอยู่ด้วย อุบัติเหตุเกิดขึ้นที่รถรางสายกลอเรีย (Glória Funicular) อันมีชื่อเสียง ในกรุงลิสบอน ซึ่งเป็นที่นิยมในหมู่นักท่องเที่ยว รถตกรางและพุ่งชนกับรถรางอีกคัน เมื่อช่วงค่ำวานนี้ตามเวลาท้องถิ่น มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 15 ราย และบาดเจ็บอีก 18 คน ในจำนวนนี้ 5 คนอาการสาหัส เจ้าหน้าที่บอกว่าในจำนวนผู้เสียชีวิตมีนักท่องเที่ยวต่างชาติรวมอยู่ด้วย แต่ไม่ได้เปิดเผยสัญชาติหรือรายละเอียดอื่นๆ ของผู้ประสบเหตุ ภาพจากคลิปที่สื่อท้องถิ่นนำออกเผยแพร่ จะเห็นว่ารถรางคันที่อยู่ด้านล่างของเส้นทางเสียหายจากแรงกระแทกอย่างรุนแรง ขณะอีกคันหนึ่งตกราง หลังเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่กู้ภัยและหน่วยฉุกเฉินกว่า 60 นายลงพื้นที่เพื่อช่วยเหลือนำตัวผู้ที่ติดอยู่ในซากรถรางคันที่เสียหายก่อนส่งโรงพยาบาล ประธานาธิบดีมาร์เซลู เรเบลู เด ซูซา ผู้นำโปรตุเกส และนายกเทศมนตรีกรุงลิสบอน ออกแถลงการณ์แสดงความเสียใจต่อเหตุโศกนาฏกรรมครั้งนี้ และหวังว่าเจ้าหน้าที่จะสามารถระบุสาเหตุของอุบัติเหตุได้โดยเร็ว เบื้องต้นสื่อท้องถิ่นรายงานว่า สาเหตุน่าจะเกิดจากรถรางคันหนึ่งเกิดหลุดออกจากราง จนไหลไปตามสายเคเบิลที่ยึดไว้ก่อนพุ่งชนกระแทกเข้ากับอาคารหลังหนึ่งอย่างแรง รถราง (funicular) ในโปรตุเกสเป็นระบบรถรางที่ใช้สายเคเบิลหรือเชือกลาก ออกแบบมาเพื่อวิ่งขึ้นลงเนินที่มีความลาดชันสูง […]

1 187 188 189 190 191 34,748