5 ก.ย. – สส.เพื่อไทย อภิปรายเรียกร้องให้ “อนุทิน” แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีจากพรรคภูมิใจไทย ชี้แจงกรณีมีกระแสใช้เงินหลักพันล้านโหวตนั่งนายกรัฐมนตรี การประชุมสภาผู้แทนราษฎรอยู่ระหว่างการพิจารณาวาระให้ความเห็นชอบบุคคลซึ่งสมควรได้รับแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรี ตามมาตรา 159 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย โดยอยู่ระหว่างการอภิปรายของแต่ละฝ่าย เพื่อสนับสนุนแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีที่พรรคภูมิใจไทยเสนอนายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรค และพรรคเพื่อไทยเสนอนายชัยเกษม นิติสิริ นายจาตุรนต์ ฉายแสง สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ระบุว่า การที่พรรคประชาชนประกาศสนับสนุนพรรคภูมิใจไทยตั้งรัฐบาลแต่ไม่ขอร่วมรัฐบาลด้วย การตรวจสอบรัฐบาลจะเป็นอย่างไร ต้องรับผิดชอบต่อนโยบายที่พรรคภูมิใจไทยไปดำเนินการอย่างไร แล้วพรรคประชาชนจะทำหน้าที่ฝ่ายค้านได้อย่างมีประสิทธิภาพได้อย่างไร หากพรรคภูมิใจไทยจะออกนโยบายอะไร พรรคประชาชนก็ไม่สามารถทัดทานได้ การแก้รัฐธรรมนูญโดยให้มีสภาร่างรัฐธรรมนูญจะสามารถทำได้จริงหรือไม่ 4 เดือนต่อจากนี้การตรวจสอบนโยบายรัฐบาลจะเข้มแข็งหรือไม่ เพราะไม่มีอะไรการันตีได้เลยว่าพรรคภูมิใจไทยจะทำตามข้อตกลงที่วางไว้ พร้อมมองว่านายอนุทินขาดคุณสมบัติเพราะเป็นผู้มีบารมีมากไป ยกตัวอย่างกรณีที่การรถไฟแห่งประเทศไทยชะลอการดำเนินการในคดีเขากระโดง เป็นต้น แต่หากเลือกนายชัยเกษมเป็นนายกรัฐมนตรี ปัญหาต่างๆ จะไม่เกิดขึ้น เพราะพรรคเพื่อไทยจะประกาศยุบสภาทันทีหลังแถลงนโยบายต่อรัฐสภา ด้านนายอดิศร เพียงเกษ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย อภิปรายว่า ตนรู้สึกไม่สบายใจ เพราะมีข่าวลือมีการใช้เงินถึง 1,500 ล้านบาท ในการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี ดังนั้น นายอนุทินต้องเคลียร์เรื่องนี้ เพราะมี สส.ของพรรคเพื่อไทยไป 8 […]

ศาลฎีกา 5 ก.ย.-“ชาญชัย” ยื่นศาลฎีกาฯ ออกข้อกำหนดห้าม “ทักษิณ” ออกนอกประเทศ ศาลนัดฟังคำสั่ง 8 ก.ย. บ่ายสาม นายชาญชัย อิสระเสนารักษ์ อดีต สส.พรรคประชาธิปัตย์ ยื่นคำร้องขอให้ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ออกข้อกำหนดห้ามนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เดินทางออกราชอาณาจักร จนกว่าจะมีคำสั่งคดีบังคับโทษชั้น 14 โดยนายชาญชัย ระบุว่าแม้นายทักษิณจะเดินทางออกนอกประเทศไปแล้วก็มีความห่วงใย เนื่องจากตนเองได้เป็นผู้ยื่นคำร้องขอให้มีการพิจารณาบังคับโทษคดีชั้น 14 ว่านายทักษิณ ได้จำคุกจริงหรือไม่ แม้ศาลฎีกาจะยกคำร้อง ด้วยเหตุผลว่าตนเองไม่มีส่วนได้เสีย แต่ศาลฎีกาก็ได้นำพยานหลักฐานที่ตนเองได้ยื่นไปมาพิจารณา ซึ่งวันที่ 9 ก.ย.นี้ จะมีการตัดสินคดีนี้ ตนจึงมีความห่วงใยและขอเสนอแนะฝากถึงนายทักษิณ ให้กลับมารับฟังคำพิพากษาของศาลฎีกา เพราะแม้จะถูกบังคับโทษใหม่ เต็มที่ก็เเค่จำคุก 1 ปี ซึ่งโทษเเค่นี้ไม่คุ้มกับการที่นายทักษิณโกงเงินของคนไทย เเละใช้อำนาจหน้าที่มิชอบ เเม้ว่าการที่นายทักษิณเดินทางออกนอกประเทศสามารถทำได้ เนื่องจากศาลอาญาพิพากษายกฟ้องคดี หมิ่นเบื้องสูงตามมาตรา 112 และไม่ได้ขังไว้ระหว่างอุทธรณ์ รวมทั้งไม่มีคำสั่งห้ามเดินทางออกนอกประเทศ ก็สามารถทำได้ เเต่ตนก็ต้องนำเรื่องมายื่นให้ศาลได้รับทราบ ครบขั้นตอน ส่วนตัวแม้ก่อนหน้านี้เคยยื่นคำร้องแล้วศาลฎีกามีคำสั่งยกคำร้องไปหลายครั้ง และหากวันนี้จะถูกศาลฎีกายกคำร้องก็ไม่ได้กลัวหน้าแตก เพราะก่อนหน้านี้ศาลได้นำพยานหลักฐานของตนเองไปพิจารณาเป็นสารตั้งต้น […]

กกต. 5 ก.ย.-“ณรงค์ กลั่นวารินทร์” รับสนองพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งเป็น กกต.คนใหม่ ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เมื่อเวลา 10.00 น. มีพิธีรับสนองพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งให้ นายณรงค์ กลั่นวารินทร์ เป็นกรรมการการเลือกตั้ง หลังมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้ง และประกาศในราชกิจจานุเบกษา เมื่อวันที่ 2 กันยายนที่ผ่านมา โดยมีนายอิทธิพร บุญประคอง ประธานกรรมการการเลือกตั้ง นายสันทัด ศิริอนันต์ไพบูลย์ นายเลิศวิโรจน์ โกวัฒนะ นายฐิติเชฏฐ์ นุชนาฏ และนายชาย นครชัย กรรมการการเลือกตั้ง เข้าร่วมพิธี และนายแสวง บุญมี เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง เป็นผู้อ่านพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งกรรมการการเลือกตั้ง.-สำนักข่าวไทย