สมัชชาแรงงานนัดชุมนุม

วันนี้ ( 21ส.ค.63 ) ที่ การชุมนุมกันที่บริเวณหน้าสภาองค์การลูกจ้างแรงงานยานยนต์แห่งประเทศไทย ถ.ปู่เจ้าสมิงพราย จ.สมุทรปราการ กลุ่มองค์กรแรงงาน ในนาม #สมัชชาแรงงานแห่งชาติ และเครือข่ายแรงงานต่อต้านการคุกคามประชาชน ร่วมกันจัดชุมนุมใหญ่เพื่อแสดงจุดยืนสนับสนุนการเคลื่อนไหวของเยาวชนคนหนุ่มสาวทั่วประเทศภายใต้การนำของเครือข่าย #เยาวชนปลดแอกและประชาชนปลดแอก


โดยผู้ชุมนุมอันประกอบไปด้วยสมาชิกจากสหภาพแรงงาน สมาพันธ์แรงงาน สภาองค์กรลูกจ้าง และองค์กรแรงงานกว่า 109 องค์กรในทุกสาขาอุตสาหกรรม ต่างรวมตัวกันแสดงจุดยืนผ่านการร่วมชุมนุมและการปราศรัยบนเวที โดยมีผู้แทนจากองค์กรแรงงานต่างๆผลัดกันขึ้นมาพูดคุยในประเด็นปัญหาต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องความเดือดร้อนของประชาชนในด้านเศรษฐกิจปากท้อง

โดยประเด็นที่ผู้แทนองค์กรแรงงานต่างๆแสดงความคิดเห็นเป็นจุดร่วมเดียวกัน คือการเน้นย้ำความเกี่ยวข้องกันระหว่างปัญหาการเมืองและปัญหาเศรษฐกิจ โดยชี้ให้เห็นว่าการปกครองที่ไม่เป็นประชาธิปไตย รัฐบาลที่ไม่ได้เป็นผู้แทนเจตนารมณ์ของประชาชน และสนับสนุนการเติบโตของกลุ่มทุนมากกว่าคนรากหญ้า ล้วนเป็นสิ่งที่นำมาสู่ปัญหาเศรษฐกิจปากท้องของประชาชนในปัจจุบัน พร้อมทั้งเน้นย้ำความเรียกร้องต้องการของกลุ่มแรงงาน ในการสร้างรัฐสวัสดิการขึ้นในประเทศไทย


ชี้การจ้างงานแรงงานนอกระบบไม่เป็นธรรม-กฎหมายซ้ำเติมสกัดการรวมตัวต่อรอง ย้ำชัดจุดยืนหนุนเยาวชนแก้ รธน.เปิดทางโละระบบจ้างงานเยี่ยงทาส]

อาทิเช่น การปราศรัยของ ธนกิจ สาโสภา อดีตประธานสหภาพแรงงานฮอนด้าประเทศไทย และที่ปรึกษาสหภาพแรงงานฮอนด้าประเทศไทย ที่ปราศรัยถึงสภาพการจ้างงานของแรงงานในปัจจุบัน ที่ไม่ว่าจะเป็นแรงงานในระบบหรือนอกระบบ ต่างก็ประสบกับปัญหาจากระบบการจ้างงานที่ไม่เป็นธรรมทั้งสิ้น โดยเฉพาะในส่วนของแรงงานนอกระบบ

เพราะวันนี้ตามกฎหมายแล้วแรงงานนอกระบบที่เป็นสัดส่วนใหญ่มากของแรงงานทั้งหมด ยังคงไม่มีสิทธิในการรวมตัว เช่นแรงงานที่เอางานไปทำที่บ้าน ไม่มีสิทธิที่จะเป็นสมาชิกสหภาพแรงงาน เกิดอุบัติเหตุหรือเจ็บป่วยจากการทำงานก็ไม่มีใครรับผิดชอบ ทั้งหมดเกิดขึ้นเพราะกฎหมายไม่อนุญาตให้เรารวมตัวกัน คนงานเรียกร้องสิทธิการรวมตัว เจรจา ต่อรอง ให้เกิดเงื่อนไขตามอนุสัญญาแรงงานระหว่างประเทศมานาน แต่ก็ไม่เคยได้รับการตอบสนอง


กฎหมายวันนี้มีแต่การเอื้อให้แรงงานไม่สามารถรวมตัวต่อรองได้ นี่จึงถือว่าแรงงานวันนี้ไม่มีเสรีภาพ ถ้าไม่กำจัดระบบการจ้างงานแบบนี้ออกไปจากประเทศไทยตั้งแต่วันนี้ ในอนาคตของลูกหลานเราที่กำลังเคลื่อนไหวกันอยู่ก็จะต้องมาทำงานในระบบการจ้างงานที่ไร้เสรีภาพและไม่มีความมั่นคงในชีวิต วันนี้แรงงานไม่มีอะไรค้ำประกันความมั่นคงในชีวิต คนรุ่นหลังก็กำลังจะจบออกมาตกงาน รัฐบาลไม่เคยมองเห็นปัญหาเหล่านี้

นายพันธกิจยังระบุทิ้งท้ายด้วย ว่าดังนั้นการเปลี่ยนแปลงรัฐธรรมนูญ เพื่อเปิดให้กฎหมายการจ้างงานต้องรับรองสิทธิของแรงงานในการรวมตัวจะต้องเกิดขึ้น และถ้ารัฐบาลยังดื้อดึงไม่ปฏิรูป ไม่เปลี่ยนแปลงรัฐธรรมนูญ และไม่หยุดคุกคามประชาชน เราแรงงานจะยกระดับการชุมนุมอย่างแน่นอน

[หมดเวลาสู้แค่ปากท้องเฉพาะหน้าในโรงงาน – แรงงานลั่น! ต้องสู้ทางการเมืองด้วยให้เกิดรัฐสวัสดิการแก่ประชาชนทุกคน]

ด้านเพชร โสภาบุตร ตัวแทนแรงงานจากกลุ่มยานยนต์ ระบุว่า วันนี้เรามาร่วมกันแสดงพลังร่วมกับลูกหลานของเราไปสู่เป้าหมาย การชุมนุมของเยาวชนมีหนึ่งความฝัน เรากรรมกรก็มีหนึ่งความฝันเช่นกัน นั่นคือเรื่องของรัฐสวัสดิการนั่นเอง

นายเพชรระบุว่าที่ผ่านมาเวลาเราเรียกร้องสวัสดิการอะไร เราได้แต่เรียกร้องจากนายจ้างของตัวเอง แต่วันนี้ถึงเวลาแล้วที่เราจะเรียกร้องจากรัฐให้เกิดรัฐสวัสดิการขึ้นมา ที่ผ่านมารัฐผลักแรงงานให้ไปสู้รบกับนายจ้างให้ได้มาซึ่งสวัสดิการด้านต้างๆ ถ้าได้ก็ดี ไม่ได้ก็ลำบากกันต่อไป ซึ่งไม่ใช่เรื่องที่รัฐควรจะผลักภาระมาที่ลูกจ้างและนายจ้าง แต่รัฐสวัสดิการต่างหาก คือสิ่งที่ควรเกิดขึ้น

ที่ผ่านมาตนถูกถามอยู่เสมอว่าจะเอาเงินที่ไหนมาทำรัฐสวัสดิการ คำตอบของตนก็คือก็ถ้าเราไม่ซื้อเรือดำน้ำ ไม่ซื้อเครื่องบิน VIP ทุกปีๆแบบที่เราทำทุกวันนี้ เราสามารถทำสวัสดิการให้ประชาชนได้หลายด้านแล้ว ภาษีประชาชนควรจะต้องนำมาจัดสรรเป็นสวัสดิการให้ประชาชนอย่างเท่าเทียม เสมอภาค ทั่วถึง

ที่ผ่านมาเรามักจะถูกวิจารณ์ว่าแรงงานอย่าไปพูดถึงเรื่องการเมืองเลย มุ่งเรื่องปากท้องในโรงงานของเราดีกว่า แต่วันนี้ตนขอบอกว่าเราหยุดพูดถึงการเมืองไม่ได้แล้ว การเรียกร้องที่ผ่านมาของแรงงานในโรงงาน สวัสดิการที่ได้มาเราก็ได้แค่คนกลุ่มหนึ่ง แต่มันไปไม่ถึงประชาชนทั่วประเทศ ดังนั้นเราจะไม่หยุดแค่เรื่องปากท้องของเราอีกต่อไป แต่เราต้องขับเคลื่อนในทางการเมือง ให้เกิดสวัสดิการไปถึงประชาชนทุกคนอย่างทั่วถึง จากครรภ์มารดาจนถึงเชิงตะกอน

ทำไมสวัสดิการข้าราชการมีสวัสดิการดูแลตัวเองจนถึงวันเกษียณจนตาย แต่คนงานที่เป็นประชาชนธรรมดาต้องไปฝากความหวังที่เงินประกันสังคมที่ได้บ้างไม่ได้บ้าง วันนี้เรามองในฐานะคนไยคนหนึ่ง สวัสดิการจากรัฐต้องได้รับการจัดสรรอย่างเท่าเทียม ไม่ใช่สวัสดิการแบบเลือกปฏิบัติอย่างที่เป็นอยู่ทุกวันนี้

[“จุฑาทิพย์” หวิดถูกชายคล้ายตำรวจนอกเครื่องแบบอุ้มลงเวทีระหว่างการกล่าวปราศรัย แรงงานร่วมป้อง-ไล่พ้นที่ชุมนุม]

อย่างไรก็ดี ระหว่างการปราศรัยของจุฑาทิพย์ ศิริขันธ์ ประธานสหภาพนักเรียน นิสิต นักศึกษาแห่งประเทศไทย (สนท.) ซึ่งเป็นตัวแทนเยาวชนที่มาร่วมเวทีพบปะกับผู้ใช้แรงงานในวันนี้ ปรากฏชายหัวเกรียนกลุ่มหนึ่งพยายามขึ้นไปบนเวทีเพื่อฉุดกระชากจุฑาทิพย์ลงจากเวที ทำให้กลุ่มแรงงานที่นั่งฟังกรปราศรัยอยู่ข้างล่างเวที ต่างแสดงความไม่พอใจ จนก่อให้เกิดเหตุชุลมุนขึ้นเล็กน้อย แต่สถานการณ์ก็คลี่คลายลงไปได้ เมื่อฝ่ายผู้ดูแลจัดการชุมนุม ได้เชิญตัวกลุ่มชายฉกรรจ์ดังกล่าวออกจากพื้นที่ไป

จากนั้น ในช่วงท้ายของเวทีการชุมนุม บรรดาตัวแทนผู้นำแรงงานจากองค์กรต่างๆ ได้ร่วมกันขึ้นเวทีพร้อมอ่านแถลงการณ์สมัชชาแรงงานแห่งชาติ และเครือข่ายแรงงานต่อต้านการคุกคามประชาชน อันนี้เนื้อหาดังนี้:

“จากสถานการณ์เศรษฐกิจปัจจุบันได้มีความเหลื่อมล้ำที่ขยายออกอย่างต่อเนื่องภายใต้รัฐบาลตลอด 6 ปีที่ผ่านมา การละเมิดสิทธิแรงงานเกิดขึ้นในวงกว้าง สหภาพแรงงานถูกคุกคามจากรัฐบาลทั้งทางตรงและโดยอ้อม กลุ่มทุนขนาดใหญ่มีความสัมพันธ์แนบชิดกับรัฐบาล ส่งผลให้ชีวิตความเป็นอยู่ของผู้ใช้แรงงานซึ่งเป็นประชากรส่วนใหญ่ของประเทศตกต่ำ ไม่สามารถต่อรองได้ และเมื่อเกิดวิกฤติโรคระบาดก็ได้สะท้อนให้เห็นถึงความเหลื่อมล้ำยากจนที่ฝังรากลึกในประเทศนี้ ผู้คนนับล้านสูญเสียงาน กลุ่มนายจ้างจำนวนมากฉกฉวยช่องว่างทางกฎหมายในการเลิกจ้าง บังคับลาออกเปลี่ยนสภาพการจ้าง ผู้ใช้แรงงานจำนวนมหาศาลต้องใช้ชีวิตอย่างสิ้นหวัง รอคอยการถูกเลิกจ้าง ลดเงินเดือน อย่างไร้อำนาจการต่อรอง เพราะกลไกทางกฎหมายและรัฐสภาก็ไม่สามารถเป็นที่พึ่งได้ ประเด็นที่ก้าวหน้าที่นำเสนอโดยชนชั้นแรงงาน เช่น พ.ร.บ.คุ้มครองแรงงานฉบับแก้ไข หรือ พ.ร.บ.บำนาญแห่งชาติก็ถูกยื้อเวลา จนทำให้ขบวนการแรงงานทั้งผองรู้สึกสิ้นหวังในกลไกสืบทอดอำนาจของรัฐบาลที่ทำให้รัฐสภาไร้ความหมายโดยสิ้นเชิง
ความเดือดร้อนแผ่ไปทุกหย่อมหญ้า กลุ่มคนรุ่นใหม่ นักเรียน นิสิต และนักศึกษาที่มองเห็นถึงความไม่เป็นธรรมในสังคมและความสิ้นหวังของประเทศนี้ได้ออกมาแสดงจุดยืนเพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงการเมืองสู่ความเป็นประชาธิปไตย กลับถูกคุกคามจากอำนาจรัฐ ถูกตั้งข้อหาอย่างไม่เป็นธรรม แม้ความต้องการของพวกเขาจะเป็นเพียงแค่การปรารถนาความมั่นคงทางเศรษฐกิจ การเมืองที่เป็นประชาธิปไตย และสังคมที่เท่าเทียมอันเป็นข้อเสนอเดียวกันกับขบวนการแรงงานทุกยุคทุกสมัย ที่ผู้นำแรงงานจำนวนมากนำชีวิตเข้าเสี่ยงภัย ถูกสังหารและอุ้มหายมาตลอดหลายสิบปี การคุกคามประชาชน คือการทำลายประชาธิปไตย ทำลายสิทธิในการส่งเสียง คือการทำลายขบวนการแรงงานด้วยเช่นเดียวกัน สมัชชาแรงงานแห่งชาติจึงขอประกาศแถลงข้อเรียกร้อง สี่ประการดังนี้

  1. หยุดคุกคามประชาชนทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นทางตรงโดยใช้กฎหมายที่ไม่มีความชัดเจน หรือทางอ้อมในการกดดันให้เจ้าหน้าที่รัฐใช้อำนาจแทรกแซงการเคลื่อนไหว หรือการข่มขู่ประชาชนในรูปแบบต่างๆ
  2. แก้ไขรัฐธรรมนูญที่เอื้อต่อระบอบอำนาจนิยม ยกเลิกการรองรับคำสั่งประกาศและการกระทำของ คสช. และหัวหน้า คสช. เพื่อให้ผู้คนสามารถโต้แย้งรัฐธรรมนูญได้ และยกเลิกสมาชิกวุฒิสภาจากการแต่งตั้งที่เป็นกลไกสำคัญต่อการสืบทอดอำนาจ พร้อมเรียกร้องรัฐธรรมนูญ ที่ต้องมีคุณสมบัติสามประการ ดังต่อไปนี้ 1) อำนาจอธิปไตยเป็นของประชาชนอย่างแท้จริงพร้อมทั้งต้องมีหลักประกันด้านสิทธิเสรีภาพทั้งในความคิดและการแสดงออก 2) ต้องมีหลักประกันด้านความเสมอภาค และ 3) ต้องมีหลักประกันด้านคุณภาพชีวิต
  3. ยุบสภาเลือกตั้งใหม่ คืนอำนาจให้ประชาชน
  4. เดินหน้าสู่รัฐสวัสดิการถ้วนหน้าครบวงจร เพื่อสร้างความมั่นคงในชีวิต คืนศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ เพื่อรับประกันเสรีภาพในชีวิต และสร้างสังคมประชาธิปไตย”
    .
    ภาพถ่ายโดย ชำนาญวุฒิ สุขุมวานิช ช่างภาพสำนักข่าวไทย อสมท

วันนี้ ( 21 ส.ค. 63 ) ที่ การชุมนุมกันที่บริเวณหน้าสภาองค์การลูกจ้างแรงงานยานยนต์แห่งประเทศไทย ถ.ปู่เจ้าสมิงพราย…โพสต์โดย สำนักข่าวไทย เมื่อ วันศุกร์ที่ 21 สิงหาคม 2020

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่มซิ่งกระบะชนเสาไฟฟ้าล้มขวางถนน 12 ต้น

ชลบุรี 28 ก.ย. – หนุ่มซิ่งกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรตลอดทั้งวัน คาดจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) รถกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน ต.บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น เป็นเสาไฟฟ้าแรงสูง 6 ต้น เสาไฟฟ้าสูง 12 เมตร อีก 6 ต้น ระยะทาง 500 เมตร โชคดีนายสิทธิพงษ์ อายุ 41 ปี คนขับ บาดเจ็บเล็กน้อย แต่ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรบนถนนสายบึง-บ่อวิน ตลอดทั้งวัน คาดว่าจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) จากการสอบสวนทราบว่า นายสิทธิพงษ์ เพิ่งเลิกงาน ขับรถกลับบ้านด้วยความเร็ว อาจหลับใน ทำให้รถเปลี่ยนเลนข้ามไปชนกับเสาไฟฟ้าอีกฝั่ง ส่วนความเสียหายยังประเมินค่าไม่ได้.-สำนักข่าวไทย

“อนุทิน” ร่วมงานศพพ่อ “อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้า ภท.

ราชบุรี 28 ก.ย.- “อนุทิน” ร่วมสวดอภิธรรมศพพ่อ “สส.อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้าภูมิใจไทย ลั่นได้ส่งจิตขออนุญาตคุณพ่อแล้ว นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตาีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วยนายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายศักดา วิเชียรศิลป์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นายสรอรรถ กลิ่นประทุม อดีต สส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย ได้ร่วมไว้อาลัยและสวดอภิธรรมศพ คุณพ่อวุฒิพงศ์ วงษ์พิทักษ์โรจน์ บิดาของนายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สส.ราชบุรี พรรครวมไทยสร้างชาติ เมื่อค่ำวันที่ 27 ก.ย. ที่จังหวัดราชบุรี โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี หัวหน้าส่วนราชการ และประชาชนกว่า 2,000 ร่วมพิธีโดยเป็นการสวดอภิธรรมเป็นคืนที่ 4 และจะมีพิธีบรรจุศพในวันที่ 30 ก.ย. นี้ ในช่วงท้าย นายอนุทิน ได้กล่าวกับผู้ที่ร่วมสวดอภิธรรมศพ ว่า ตนเองมีความสนิทสนมกับ นายอัครเดช มาหลายปีแล้ว นายอัครเดชเป็นคนมีความวิริยะอุสาหะ ตั้งใจทำงานให้พี่น้องประชาชน ตนมีความชื่นชมและศรัทธา ในความขัยนขันแข็งของท่าน ยิ่งไปกว่านั้นการปฏิบัติหน้าที่ในสภาผู้แทนราษฎร ท่านก็ทำหน้าที่ได้ดีเป็นดาวสภา […]

โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA

กรุงเทพฯ 28 ก.ย. – โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA หลัง “อนุทิน” มอบดาบการทูตสู้กัมพูชา ขณะนายกฯ ย้ำยึดสันติในการแก้ปัญหา เพื่อประโยชน์ของประเทศ ภายหลังจากที่นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวในเวทีการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ หรือ UNGA สมัยสามัญ ครั้งที่ 80 ที่นครนิวยอร์ก ทำให้กระแสโซเชียลในประเทศไทย พึงพอใจกับการทำหน้าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ในรัฐบาลของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี เป็นอย่างมาก ทั้งนี้ การเดินทางไปเวที UNGA ของนายสีหศักดิ์ ครั้งนี้ยึดแนวทางแก้ปัญหาความมั่นคงและการต่างประเทศ ที่นายอนุทิน มอบหมายให้ดำเนินการ โดยใช้มาตรการทางการทหารควบคู่กับการทูต เพื่อรักษาอธิปไตยอย่างสันติ เพื่อผลประโยชน์ของประชาชน โดยเฉพาะในกรณีพิพาทไทย-กัมพูชา ขณะที่นายอนุทิน เชื่อว่า การกล่าวถ้อยแถลงในที่ประชุม UNGA ของนายสีหศักดิ์ ทำให้คนไทยมีความเชื่อมั่นอย่างชัดเจนต่อจุดยืนของรัฐบาล สำหรับนโยบาย 4 เดือน 4 ภารกิจหลัก คืนความมั่นใจให้ประเทศไทย ตามนโยบายรัฐบาลของนายอนุทิน […]

กรมอุตุฯ เตือนฝนถล่มทั่วไทย รับมืออิทธิพลพายุบัวลอย

กทม. 28 ก.ย.- กรมอุตุฯ เตือนทั่วไทยรับมือฝนถล่ม อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง จับตาอิทธิพลพายุไต้ฝุ่น “บัวลอย” คาดเคลื่อนขึ้นฝั่งเวียดนามตอนบน พรุ่งนี้ (29 ก.ย.) กรมอุตุนิยมวิทยาเผยประเทศไทยมีฝนตกหนักหลายพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออก โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดสกลนคร นครพนม อุดรธานี ขอนแก่น กาฬสินธุ์ มุกดาหาร จันทบุรี และตราด ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่าน พื้นที่ลุ่ม และพื้นที่น้ำท่วมขัง เนื่องจากร่องมรสุมกำลังแรงพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังแรง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง พายุไต้ฝุ่น […]

ข่าวแนะนำ

สีสัน! อภิปรายนโยบายรัฐบาลวันแรก

29 ก.ย.- การแถลงนโยบายรัฐบาลวันนี้ เหมือนเป็นการซ้อมศึกซักฟอกย่อย เพราะมีการตอบโต้และตั้งฉายามากมาย ติดตามสีสันการอภิปรายนโยบายฯ วันแรก .-สำนักข่าวไทย

เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดฝนหนักคืนนี้

29 ก.ย.- หลายพื้นที่เฝ้าระวังฝนตกหนัก จากอิทธิพล #พายุบัวลอย เชียงใหม่เปิดประตูระบายน้ำทุกจุด เร่งระบายน้ำปิงลงทะเลสาบดอยเต่า พร่องน้ำในเขื่อนแม่งัดฯ เตรียมรับน้ำฝน คาดตกหนักคืนนี้ ขณะที่ จ.นครราชสีมา น้ำล้นสปิลเวย์ เตือนประชาชนระวังน้ำท่วมฉับพลัน พายุฝนตกกระหน่ำหลายพื้นที่จังหวัดสระแก้ว โดยพื้นที่ ต.บ้านแก้ง อ.เมืองสระแก้ว นายก อบต.บ้านแก้ง พร้อมผู้นำชุมชน และอาสาสมัครกู้ภัย ได้นำเรือเครื่องยนต์ท้องแบน เข้าช่วยเหลือ ตาชู-ยายทองคำ และสุนัข 1 ตัว ออกจากบ้านที่โดนน้ำป่าไหลหลาก เข้าท่วมเกือบมิดหลังคา  มาอยู่ในที่ปลอดภัย ยายทองคำ เล่าว่าเมื่อคืนพักอยู่กับตาและหมา กำลังจะเข้านอนแต่ก็มีฝนตกตลอดทั้งคืน น้ำที่คลองก็ยังไม่เห็นว่าจะขึ้นล้นตลิ่งเท่าไร แต่ก็กังวล จึงเฝ้าดูกระทั่งน้ำไหลมาและเข้าท่วม ตกใจ จึงได้นำสุนัขขึ้นบนบ้าน ส่วนข้าวของก็เก็บไม่ทัน จากนั้นจึงอยู่แต่บนบ้านจนถึงเช้า กู้ภัยมาช่วยนำออกมาจากบ้าน อยู่มาหลายสิบปีไม่เคยเจอแบบนี้มาก่อนเลย  ผู้ว่าฯ เชียงใหม่ เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดตกหนักคืนนี้ เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา หลายพื้นที่เชียงใหม่ เริ่มมีฝนตกลงมาบ้างแล้ว ระดับน้ำในลำน้ำปิงที่ไหลผ่านตัวเมืองเชียงใหม่ ที่จุดวัดพี1 เชิงสะพานนวรัฐ ยังอยู่ที่ 2 เมตร 49 เซนติเมตร ต่ำกว่าจุดวิกฤติแจ้งเตือนที่ […]

แถลงนโยบายวันแรกเดือด ประท้วงกันวุ่น

29 ก.ย.- สภาเดือด! แถลงนโยบายรัฐบาลวันแรก อภิปรายตอบโต้-ประท้วงกันเป็นระยะ เมื่อมีการพาดพิงปมเขากระโดง-ฮั้ว สว. แต่ประธานฯ คุมสถานการณ์ได้ ด้านนายกฯ ไม่กังวลวาทกรรมของฝ่ายค้าน ชี้ประเด็นซ้ำๆ และมีการแถลงข้อเท็จจริงไปแล้ว -สำนักข่าวไทย

ฝ่าดงทุ่นระเบิดเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก “ผลักดัน-รื้อถอน”

29 ก.ย.- ทหารเรือฝ่าดงทุ่นระเบิดเข้าเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก จ.ตราด ผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้าม-รื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง 3 หลัง รุกล้ำเขตอธิปไตยไทย ขณะที่ชาวบ้านหนองจาน จ.สระแก้ว นำอาหารมอบให้ทหารแนวหน้า ยังไม่พบความเคลื่อนไหวผิดปกติ พลเรือเอก จิรพล ว่องวิทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ และพลเรือเอก ไพโรจน์ เฟื่องจันทร์ ว่าที่ ผู้บัญชาการทหารเรือ คนใหม่ มอบหมายพลเรือโทอภิชาติ ทรัพย์ประเสริฐ ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน และผู้บัญชาการกองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรี-ตราด (กกล.กปช.จต.) เข้าเคลียร์พื้นที่ชายแดนบ้านชำราก อันเป็นอธิปไตยของไทย โดยหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินตราด กองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรีตราด จึงได้ผลักดันกองกำลังกัมพูชา ออกจากพื้นที่บริเวณตรงข้ามบ้านหนองรี ตำบลชำราก ไม่มีกำลังฝ่ายกัมพูชาวางกำลังแล้ว ผลจากการปฏิบัติการ บรรลุเป้าหมายสำคัญ คือ สามารถทำลายสิ่งปลูกสร้างทั้ง 3 หลังลงได้อย่างสิ้นเชิง ที่สำคัญที่สุดคือ สามารถผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้ามให้ออกจากพื้นที่รุกล้ำได้อย่างสมบูรณ์ ประชาชนนำอาหารมอบทหารแนวหน้า บ้านหนองจาน จ.สระแก้ว ส่วนที่บ้านหนองจาน จังหวัดสระแก้ว บรรยาศเงียบเหงา แต่ยังคงมีประชาชนเดินทางนำอาหาร เช่น ไข่ไก่ น้ำดื่ม นำมามอบให้กับทหารแนวหน้า ถึงแม้จะไม่คึกคักเหมือนวันก่อนๆ […]