“ภูมิธรรม” แจงรอศาล รธน.วินิจฉัย ก่อนเปิดโฉมหน้ารัฐบาลใหม่

“ภูมิธรรม” รอศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย ก่อนแถลงเปิดโฉมหน้ารัฐบาลใหม่ โวมีเสียงหนุนเพียงพอ โต้ “ก้าวไกล” เรื่อง ม.112 แสดงจุดยืนชัดมาตลอดว่าไม่เอา ส่วนจะยกมือโหวตให้หรือไม่ ถือเป็นเอกสิทธิ์ ไม่อยากกดดัน หากไม่โหวตให้เราเลยก็ได้ เราพูดในเงื่อนไขที่สุภาพ พร้อมย้ำกำหนด “ทักษิณ” กลับบ้าน ยังไม่เปลี่ยนแปลง รอครอบครัวแจง


3 ส.ค.66 นายภูมิธรรม เวชยชัย รองหัวหน้า​พรรค​เพื่อไทย กล่าวถึงการเลื่อนแถลงจัดตั้งรัฐบาล ว่า เนื่องจากศาลรัฐธรรมนูญรับคำร้องของผู้ตรวจการแผ่นดิน ที่ให้วินิจฉัยเรื่องของการเสนอชื่อนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ สามารถดำเนินการซ้ำได้หรือไม่ โดยศาลขอรายละเอียดเพิ่มเติม และจะเลื่อนไปพิจารณาในวันที่ 16 สิงหาคมนี้ จึงได้ประสานไปยังประธานรัฐสภา และได้คำตอบว่า ต้องรอฟังคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญก่อน จึงต้องเลื่อนวาระการโหวตนายกรัฐมนตรีออกไป แต่คาดว่าภายใน 1 สัปดาห์ หลังจากวันที่ 16 สิงหาคม น่าจะมีการโหวตนายกรัฐมนตรีได้ ดังนั้น เมื่อการโหวตเลื่อนออกไป ทุกอย่างก็ไม่ควรจะทำอะไรให้มาก ควรจะรอความชัดเจนจากศาลรัฐธรรมนูญก่อน

ส่วนที่หลายฝ่ายหวั่นใจว่า เสียงจะไม่พอ ขอยืนยันว่า เสียงที่เรามีเพียงพอต่อการจัดตั้งรัฐบาล แต่เมื่อเลื่อนการประชุมออกไป ก็มีเวลาทำงานมากขึ้น เพราะการแสวงหาความร่วมมือจากทุกฝ่าย ยิ่งได้มากก็ยิ่งดี รอศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย และประธานสภาฯ กำหนดวาระการประชุม เราก็พร้อมที่จะแถลงข่าวร่วมการจัดตั้งรัฐบาล


เมื่อถามว่า เสียงที่รวบรวมไว้พอจะเปิดเผยได้หรือไม่ว่ามีพรรคใดบ้าง นายภูมิธรรม กล่าวว่า รออีกสักหน่อยก็คงดี แต่ก็ยอมรับว่า มีเสียงจาก 8 พรรคร่วมเดิมจำนวนหนึ่งพอสมควร และมีเสียงจากขั้วพรรคร่วมรัฐบาลเดิมฝั่ง 188 เสียง อีกจำนวนหนึ่ง และต้องมีเสียง สว.อีก เนื่องจากเราอยู่ภายใต้วิกฤตการณ์ของรัฐธรรมนูญปัจจุบัน ที่กำหนดเงื่อนไขว่าต้องได้เสียงเกิน 375 เสียง เสียงจากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เราอยากให้ได้มั่นคงและมากขึ้นที่สุด เพราะการมีเสียง สส. จะทำให้เกิดรัฐบาลที่มั่นคงและมีประสิทธิภาพ รวมถึงกำหนดทิศทางการทำงาน สามารถบริหารทิศทางการทำงานทั้งหมดได้ชัดเจนมากยิ่งขึ้น และยังต้องบวกเสียง สว. อีกจำนวนหนึ่ง ซึ่งเราอยากได้มากขึ้น เพื่อที่จะได้เห็นว่า เราเป็นรัฐบาลที่สามารถเข้ามากู้วิกฤติได้ ภายใต้ความร่วมมือของทุกฝ่าย ซึ่งก็จะทำให้ความขัดแย้งคลี่คลายลงไป

เมื่อถามว่า ตอนนี้มีรายงานข่าวว่าไม่มีทั้ง 2 ลุง เข้าร่วมรัฐบาล นายภูมิธรรม กล่าวว่า รอการตัดสินใจที่ชัดเจนว่าอะไรเป็นอะไร วันนี้เราพยายามแสวงหาความร่วมมือ แต่เราก็รู้ว่ามีข้อจำกัด และยังมีข้อที่เป็นปัญหาของประชาชนอยู่ เราต้องคำนึงถึงสิ่งต่างๆ เหล่านี้ด้วย

เมื่อถามว่า หากไม่นับรวมเสียง สว. จะต้องหา สส. เพิ่มหรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า รอการแถลงรายละเอียด แต่การแสวงหาความร่วมมือ แสดงให้เห็นถึงฉันทามติในการจัดตั้งรัฐบาล


นายภูมิธรรม ยังชี้แจงถึงกรณีที่พรรคก้าวไกลระบุว่า ตนไม่ง้อเสียงโหวตจากพรรคก้าวไกล ยืนยันไม่เป็นความจริง ตนได้ชี้แจงไปแล้วว่า การแยกตัวครั้งนี้ เมื่อเรายุติ MOU ถือว่าทุกฝ่ายเป็นอิสระต่อกัน ส่วนพรรคก้าวไกลจะโหวตหรือไม่โหวต ถือเป็นเอกสิทธิ์ สิ่งสำคัญคือ เราอยากสร้างมิติทางการเมืองใหม่ เรากับพรรคก้าวไกลสามารถที่จะทำงานการเมืองที่เป็นประโยชน์ต่อประชาชนได้ เพราะฉะนั้น อะไรที่เป็นประโยชน์ต่อประชาชนและประเทศ เรายินดีที่จะสนับสนุน ไม่จำเป็นที่จะต้องยืนฝ่ายค้าน ฝ่ายรัฐบาล แล้วคัดค้านกันไปตลอด อีกทั้งตนยังยกตัวอย่างเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ว่า เป็นเรื่องที่เราทุกคนต้องการแก้ เพื่อปลดล็อกปัญหาประเทศ ตนพร้อมสนับสนุน และคุณก็ต้องสนับสนุนด้วยเช่นกัน เพราะคิดว่าเป็นปัจจัยร่วมที่เป็นวาระแห่งชาติ ต้องร่วมกันทำ ส่วนกฎหมายที่ตกลงกันใน MOU ที่ตรงกับนโยบายพรรคเพื่อไทย หรือกฎหมายอื่น ที่ไม่ได้พูดไปใน MOU เราก็ยินดีสนับสนุน แต่ปัญหาที่เราไม่เอาแน่นอน คือ มาตรา 112 เพราะเราปฏิเสธมาตั้งแต่ MOU ครั้งแรกว่า เราไม่เซ็น แต่พอ MOU ครั้งที่ 2 ก็บรรจุใส่มาอีก เราก็บอกแล้วว่า เราไม่สะดวกใจที่จะเซ็น เพราะเราไม่เห็นด้วย และได้ยืนยันไปว่า ถ้ามีเรื่องมาตรา 112 เราไม่โหวตให้ แต่ถ้าเป็นเรื่องอื่นที่ดี เราจะโหวตให้ เพราะฉะนั้น เราจึงบอกว่า การตัดสินใจครั้งนี้ ถ้าจะโหวตให้เรา เราก็ขอบคุณดีใจ แต่ถ้าไม่โหวต เราก็ไม่ถือโทษโกรธใคร ถือเป็นเอกสิทธิ์ ที่พูดทั้งหมดเป็นแบบนี้ เรื่องในที่ประชุมก็มีนายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกล น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล นายพิจารณ์ เชาวพัฒนวงศ์ รองหัวหน้าพรรคก้าวไกล ทั้งหมดยืนยันในสิ่งที่ตนพูดได้ อันนี้เป็นข้อเท็จจริง

ส่วนที่นายชัยธวัช ออกมาระบุว่า พรรคเพื่อไทยไม่เคยบอกให้พรรคก้าวไกล ถอยมาตรา 112 และมีการฉีก MOU ยืนยันไม่เป็นความจริง มีความเข้าใจที่คลาดเคลื่อน ก่อนจะย้ำว่าใน MOU ครั้งแรก เราชัดเจน ถ้ามีมาตรา 112 เราไม่เซ็น และจะขอสงวนสิทธิ์​ ไม่ร่วมใน MOU ข้อนั้น จึงได้มีการถอนออกไป ส่วน MOU พรรคเพื่อไทยและพรรคก้าวไกล ก็ใส่มาอีก ซึ่งเราก็ปฏิเสธ เราได้แสดงท่าทีของเรากับพรรคก้าวไกลอย่างชัดเจนมาโดยตลอดว่า มาตรา 112 เราไม่เห็นด้วยที่จะไปร่วมเซ็น ส่วนจะไปแก้อะไร ก็ไปทำกัน ถือเป็นเอกสิทธิ์ของแต่ละพรรค อันนี้เราพูดจากันชัดเจน อีกทางพรรคเพื่อไทยที่ได้รับไม้ต่อจากพรรคก้าวไกล ก็ได้พูดคุยกับหลายพรรคการเมือง ซึ่งทุกคนก็ย้ำว่า หากมีมาตรา 112 ไม่เซ็น ซึ่งก็ได้แจ้งทางพรรคก้าวไกลแล้วว่า แต่ละพรรคมีความเห็นอย่างไร แต่ถ้าก้าวไกลยังตอบกลับมายืนยันว่า การแก้ไข ม.112 ไม่ใช่ประเด็น เพราะหากไม่มี ม.112 ก็มีประเด็นอื่นอีก

เมื่อถามถึงกรณีพรรคก้าวไกล บอกว่า พรรคเพื่อไทยมีความกังวล หากพรรคก้าวไกลโหวตให้ สว.บางคนอาจไม่สบายใจ นายภูมิธรรม กล่าวว่า เราบอกแล้วว่าถ้าโหวตให้เราก็ขอบคุณ​และยินดี แต่ถ้าไม่โหวตให้ก็ไม่เป็นไร ถือเป็นเอกสิทธิ์ เพราะตอนนี้เราดำเนินการหาเสียง อย่าถือว่าเราไปกดดัน หากไม่โหวตให้เราเลยก็ได้ เป็นสิ่งที่เราต้องไปแสวงหาความร่วมมือ เป็นการพูดในเงื่อนไขที่สุภาพ และไม่กดดันกัน ถือเป็นสิทธิที่จะเพิ่มหรือลดคะแนนให้กับเรา ก็พูดกันอย่างตรงไปตรงมา ชัดเจนที่สุด ไม่มีอะไรเคลือบแฝง

เมื่อถามว่า หากพรรคก้าวไกลไม่โหวตสนับสนุนให้ เราก็จะหาคะแนนเสียงจากพรรคร่วมฯ และ สว. เป็นหลักใช่หรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า ทุกพรรคที่เข้ามาในสภาฯ ตอนนี้ เป็นตัวแทนจากประชาชนที่มีความคิดหลากหลาย เพราะฉะนั้น ถ้าเราเดินหน้าไปได้ ประเทศต้องมีความปรองดอง เพราะฉะนั้น การฟังความคิดของทุกพรรคการเมือง ของทุกกลุ่ม ก็เป็นเรื่องที่ดี และถ้าเป็นรัฐบาลที่ขึ้นมาจากการยอมรับความคิดที่หลากหลาย ก็จะยิ่งเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน แต่ไม่ได้บอกว่าจะเอาทุกพรรค ก็อยู่ที่ว่าพรรคไหนจะร่วมกันอย่างไร หรือสังคมได้ความเข้าใจและเห็นว่าการร่วมมือกันไปสู่ทิศทางใดก็จะเป็นคำตอบ

เมื่อถามถึงกรณีนายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ออกมาแฉการเลี่ยงภาษีซื้อขายที่ดินของนายเศรษฐา ทวีสิน จะมีผลต่อการพิจารณาแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีหรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า เป็นเรื่องของนายเศรษฐา ที่เกี่ยวข้องกับบริษัทเดิม ซึ่งก็ทราบว่าได้มีการแถลงออกมาแล้ว จึงเป็นเรื่องที่นายเศรษฐาและบริษัทต้องไปชี้แจงทำความเข้าใจ แต่สำหรับพรรคเพื่อไทย เมื่อเห็นรายละเอียดต่างๆ แล้ว เราไม่คิดว่ามีปัญหาอะไร ทุกอย่างเป็นไปตามกระบวนการและกฎหมาย

เมื่อถามถึงกำหนดการเดินทางกลับบ้านของนายทักษิณ ชินวัตร ว่ายังคงเป็นวันที่ 10 สิงหาคม อยู่หรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า ตอนนี้ยังไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง แต่ก็เป็นเรื่องของครอบครัว ไม่เกี่ยวข้องอะไรกับการเมือง ส่วนนายทักษิณ และครอบครัว จะตัดสินใจอย่างไร ก็เป็นเรื่องของท่าน แต่ขณะนี้เท่าที่ทราบ เท่าที่ทุกคนรู้ ก็ยังไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง.

ภาพ : ชำนาญวุฒิ สุขุมวานิช

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่มซิ่งกระบะชนเสาไฟฟ้าล้มขวางถนน 12 ต้น

ชลบุรี 28 ก.ย. – หนุ่มซิ่งกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรตลอดทั้งวัน คาดจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) รถกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน ต.บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น เป็นเสาไฟฟ้าแรงสูง 6 ต้น เสาไฟฟ้าสูง 12 เมตร อีก 6 ต้น ระยะทาง 500 เมตร โชคดีนายสิทธิพงษ์ อายุ 41 ปี คนขับ บาดเจ็บเล็กน้อย แต่ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรบนถนนสายบึง-บ่อวิน ตลอดทั้งวัน คาดว่าจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) จากการสอบสวนทราบว่า นายสิทธิพงษ์ เพิ่งเลิกงาน ขับรถกลับบ้านด้วยความเร็ว อาจหลับใน ทำให้รถเปลี่ยนเลนข้ามไปชนกับเสาไฟฟ้าอีกฝั่ง ส่วนความเสียหายยังประเมินค่าไม่ได้.-สำนักข่าวไทย

“อนุทิน” ร่วมงานศพพ่อ “อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้า ภท.

ราชบุรี 28 ก.ย.- “อนุทิน” ร่วมสวดอภิธรรมศพพ่อ “สส.อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้าภูมิใจไทย ลั่นได้ส่งจิตขออนุญาตคุณพ่อแล้ว นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตาีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วยนายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายศักดา วิเชียรศิลป์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นายสรอรรถ กลิ่นประทุม อดีต สส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย ได้ร่วมไว้อาลัยและสวดอภิธรรมศพ คุณพ่อวุฒิพงศ์ วงษ์พิทักษ์โรจน์ บิดาของนายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สส.ราชบุรี พรรครวมไทยสร้างชาติ เมื่อค่ำวันที่ 27 ก.ย. ที่จังหวัดราชบุรี โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี หัวหน้าส่วนราชการ และประชาชนกว่า 2,000 ร่วมพิธีโดยเป็นการสวดอภิธรรมเป็นคืนที่ 4 และจะมีพิธีบรรจุศพในวันที่ 30 ก.ย. นี้ ในช่วงท้าย นายอนุทิน ได้กล่าวกับผู้ที่ร่วมสวดอภิธรรมศพ ว่า ตนเองมีความสนิทสนมกับ นายอัครเดช มาหลายปีแล้ว นายอัครเดชเป็นคนมีความวิริยะอุสาหะ ตั้งใจทำงานให้พี่น้องประชาชน ตนมีความชื่นชมและศรัทธา ในความขัยนขันแข็งของท่าน ยิ่งไปกว่านั้นการปฏิบัติหน้าที่ในสภาผู้แทนราษฎร ท่านก็ทำหน้าที่ได้ดีเป็นดาวสภา […]

โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA

กรุงเทพฯ 28 ก.ย. – โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA หลัง “อนุทิน” มอบดาบการทูตสู้กัมพูชา ขณะนายกฯ ย้ำยึดสันติในการแก้ปัญหา เพื่อประโยชน์ของประเทศ ภายหลังจากที่นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวในเวทีการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ หรือ UNGA สมัยสามัญ ครั้งที่ 80 ที่นครนิวยอร์ก ทำให้กระแสโซเชียลในประเทศไทย พึงพอใจกับการทำหน้าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ในรัฐบาลของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี เป็นอย่างมาก ทั้งนี้ การเดินทางไปเวที UNGA ของนายสีหศักดิ์ ครั้งนี้ยึดแนวทางแก้ปัญหาความมั่นคงและการต่างประเทศ ที่นายอนุทิน มอบหมายให้ดำเนินการ โดยใช้มาตรการทางการทหารควบคู่กับการทูต เพื่อรักษาอธิปไตยอย่างสันติ เพื่อผลประโยชน์ของประชาชน โดยเฉพาะในกรณีพิพาทไทย-กัมพูชา ขณะที่นายอนุทิน เชื่อว่า การกล่าวถ้อยแถลงในที่ประชุม UNGA ของนายสีหศักดิ์ ทำให้คนไทยมีความเชื่อมั่นอย่างชัดเจนต่อจุดยืนของรัฐบาล สำหรับนโยบาย 4 เดือน 4 ภารกิจหลัก คืนความมั่นใจให้ประเทศไทย ตามนโยบายรัฐบาลของนายอนุทิน […]

กรมอุตุฯ เตือนฝนถล่มทั่วไทย รับมืออิทธิพลพายุบัวลอย

กทม. 28 ก.ย.- กรมอุตุฯ เตือนทั่วไทยรับมือฝนถล่ม อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง จับตาอิทธิพลพายุไต้ฝุ่น “บัวลอย” คาดเคลื่อนขึ้นฝั่งเวียดนามตอนบน พรุ่งนี้ (29 ก.ย.) กรมอุตุนิยมวิทยาเผยประเทศไทยมีฝนตกหนักหลายพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออก โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดสกลนคร นครพนม อุดรธานี ขอนแก่น กาฬสินธุ์ มุกดาหาร จันทบุรี และตราด ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่าน พื้นที่ลุ่ม และพื้นที่น้ำท่วมขัง เนื่องจากร่องมรสุมกำลังแรงพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังแรง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง พายุไต้ฝุ่น […]

ข่าวแนะนำ

สีสัน! อภิปรายนโยบายรัฐบาลวันแรก

29 ก.ย.- การแถลงนโยบายรัฐบาลวันนี้ เหมือนเป็นการซ้อมศึกซักฟอกย่อย เพราะมีการตอบโต้และตั้งฉายามากมาย ติดตามสีสันการอภิปรายนโยบายฯ วันแรก .-สำนักข่าวไทย

เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดฝนหนักคืนนี้

29 ก.ย.- หลายพื้นที่เฝ้าระวังฝนตกหนัก จากอิทธิพล #พายุบัวลอย เชียงใหม่เปิดประตูระบายน้ำทุกจุด เร่งระบายน้ำปิงลงทะเลสาบดอยเต่า พร่องน้ำในเขื่อนแม่งัดฯ เตรียมรับน้ำฝน คาดตกหนักคืนนี้ ขณะที่ จ.นครราชสีมา น้ำล้นสปิลเวย์ เตือนประชาชนระวังน้ำท่วมฉับพลัน พายุฝนตกกระหน่ำหลายพื้นที่จังหวัดสระแก้ว โดยพื้นที่ ต.บ้านแก้ง อ.เมืองสระแก้ว นายก อบต.บ้านแก้ง พร้อมผู้นำชุมชน และอาสาสมัครกู้ภัย ได้นำเรือเครื่องยนต์ท้องแบน เข้าช่วยเหลือ ตาชู-ยายทองคำ และสุนัข 1 ตัว ออกจากบ้านที่โดนน้ำป่าไหลหลาก เข้าท่วมเกือบมิดหลังคา  มาอยู่ในที่ปลอดภัย ยายทองคำ เล่าว่าเมื่อคืนพักอยู่กับตาและหมา กำลังจะเข้านอนแต่ก็มีฝนตกตลอดทั้งคืน น้ำที่คลองก็ยังไม่เห็นว่าจะขึ้นล้นตลิ่งเท่าไร แต่ก็กังวล จึงเฝ้าดูกระทั่งน้ำไหลมาและเข้าท่วม ตกใจ จึงได้นำสุนัขขึ้นบนบ้าน ส่วนข้าวของก็เก็บไม่ทัน จากนั้นจึงอยู่แต่บนบ้านจนถึงเช้า กู้ภัยมาช่วยนำออกมาจากบ้าน อยู่มาหลายสิบปีไม่เคยเจอแบบนี้มาก่อนเลย  ผู้ว่าฯ เชียงใหม่ เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดตกหนักคืนนี้ เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา หลายพื้นที่เชียงใหม่ เริ่มมีฝนตกลงมาบ้างแล้ว ระดับน้ำในลำน้ำปิงที่ไหลผ่านตัวเมืองเชียงใหม่ ที่จุดวัดพี1 เชิงสะพานนวรัฐ ยังอยู่ที่ 2 เมตร 49 เซนติเมตร ต่ำกว่าจุดวิกฤติแจ้งเตือนที่ […]

แถลงนโยบายวันแรกเดือด ประท้วงกันวุ่น

29 ก.ย.- สภาเดือด! แถลงนโยบายรัฐบาลวันแรก อภิปรายตอบโต้-ประท้วงกันเป็นระยะ เมื่อมีการพาดพิงปมเขากระโดง-ฮั้ว สว. แต่ประธานฯ คุมสถานการณ์ได้ ด้านนายกฯ ไม่กังวลวาทกรรมของฝ่ายค้าน ชี้ประเด็นซ้ำๆ และมีการแถลงข้อเท็จจริงไปแล้ว -สำนักข่าวไทย

ฝ่าดงทุ่นระเบิดเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก “ผลักดัน-รื้อถอน”

29 ก.ย.- ทหารเรือฝ่าดงทุ่นระเบิดเข้าเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก จ.ตราด ผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้าม-รื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง 3 หลัง รุกล้ำเขตอธิปไตยไทย ขณะที่ชาวบ้านหนองจาน จ.สระแก้ว นำอาหารมอบให้ทหารแนวหน้า ยังไม่พบความเคลื่อนไหวผิดปกติ พลเรือเอก จิรพล ว่องวิทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ และพลเรือเอก ไพโรจน์ เฟื่องจันทร์ ว่าที่ ผู้บัญชาการทหารเรือ คนใหม่ มอบหมายพลเรือโทอภิชาติ ทรัพย์ประเสริฐ ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน และผู้บัญชาการกองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรี-ตราด (กกล.กปช.จต.) เข้าเคลียร์พื้นที่ชายแดนบ้านชำราก อันเป็นอธิปไตยของไทย โดยหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินตราด กองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรีตราด จึงได้ผลักดันกองกำลังกัมพูชา ออกจากพื้นที่บริเวณตรงข้ามบ้านหนองรี ตำบลชำราก ไม่มีกำลังฝ่ายกัมพูชาวางกำลังแล้ว ผลจากการปฏิบัติการ บรรลุเป้าหมายสำคัญ คือ สามารถทำลายสิ่งปลูกสร้างทั้ง 3 หลังลงได้อย่างสิ้นเชิง ที่สำคัญที่สุดคือ สามารถผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้ามให้ออกจากพื้นที่รุกล้ำได้อย่างสมบูรณ์ ประชาชนนำอาหารมอบทหารแนวหน้า บ้านหนองจาน จ.สระแก้ว ส่วนที่บ้านหนองจาน จังหวัดสระแก้ว บรรยาศเงียบเหงา แต่ยังคงมีประชาชนเดินทางนำอาหาร เช่น ไข่ไก่ น้ำดื่ม นำมามอบให้กับทหารแนวหน้า ถึงแม้จะไม่คึกคักเหมือนวันก่อนๆ […]