BIG STORY : แจ้งข้อหาเพิ่มได้ หากสารในเลือด “บอส” เป็นโคเคน

กทม. 31 ก.ค. – คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงคดี “วรยุทธ อยู่วิทยา” ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ยืนยันพบสารต้องสงสัยในเลือดนายวรยุทธ ตั้งแต่ปี 2555 แต่ที่ไม่แจ้งข้อหาเพราะไม่ชัดเจนที่มา แต่หากมีข้อมูลแน่ชัดสามารถแจ้งข้อหาเพิ่มได้

พล.ต.อ.ศตวรรษ หิรัญบูรณะ ที่ปรึกษาพิเศษสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ในฐานะประธานกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีไม่แย้งคำสั่งไม่ฟ้องเด็ดขาดของอัยการสูงสุด พร้อมคณะแถลงผลการประชุมนัดที่ 3 หลังจากใช้เวลาประชุมเกือบทั้งวัน ในการประชุมได้เชิญอดีตพนักงานสอบสวนคดีนายวรยุทธมาให้ข้อมูล พร้อมสอบถามรายละเอียดของสำนวน และมีประเด็นสำคัญที่สังคมกำลังเคลือบแคลงสงสัยชี้แจง 2 ประเด็น


ประเด็นแรก คือ กรณีสาร “โคเคน” หรือ “โคเคอีน” ในเลือดของนายวรยุทธ จากข้อมูลของอดีตพนักงานสอบสวนชี้แจงว่า แพทย์ได้เจาะเลือดผู้ต้องหาเมื่อวันที่ 3 กันยายน 2555 ซึ่งเป็นวันเกิดเหตุ และผลตรวจออกมาวันที่ 11 กันยายน 2555 แพทย์ผู้ตรวจยืนยันสารที่พบในเลือดของนายวรยุทธ เกิดจากกระบวนการสลายตัวของสารที่เกิดจาก “โคเคน” กับ “แอลกอฮอล์” โดยไม่ได้เป็นการตรวจพบสารโคเคนโดยตรงในเลือด และแพทย์ยังตรวจพบสารอีก 4 ชนิด ในเลือดของนายวรยุทธ ประกอบด้วย
1.อัลพาโซแลม
2.Benzoylecgonine
3.Cocaethglene
4.สารคาเฟอีน
โดยสารที่ 1 เป็นสารออกฤทธิ์ต่อจิตประสาท อาจมาจากยานอนหลับ ส่วนสารที่ 4 คือสารที่พบในกาแฟ จึงไม่ใช่สารที่เป็นปัญหาในคดีนี้

สำหรับสารที่เป็นปัญหาในคดี คือ ชนิดที่ 2 และ 3 ที่มาจากการย่อยสลายโคเคนกับแอลกอฮอล์ ทางการแพทย์ยืนยันว่า สารชนิดที่ 2 Benzoylecgonine เป็นวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตประสาท เกิดได้ในร่างกายคนเมื่อเสพโคเคนและจัดเป็นยาเสพติด ส่วนสารชนิดที่ 3.Cocaethglene ไม่จัดเป็นยาเสพติดให้โทษที่ออกฤทธิ์ต่อจิตประสาท


พล.ต.อ.ศตวรรษ ระบุว่า ถ้าการตรวจเลือดพบสารชนิดที่ 2 และ 3 ในเลือดเท่ากับมีการเสพโคเคน หรือโคเคอีน แต่ในชั้นสอบสวนเมื่อปี 2555 นายวรยุทธอ้างว่าไปรักษาฟันกับหมอฟัน พนักงานสอบสวนจึงไปสอบปากคำหมอฟัน ซึ่งให้การยืนยันว่ารักษาฟันให้กับผู้ต้องหาจริง แต่ใช้เพียงยาปฏิชีวนะ “อะม็อกซี” ขนาด 500 มิลลิกรัม และไม่มีการใช้ยาเสพติดในการรักษา

อย่างไรก็ตาม สารชนิดที่ 2 และ 3 อาจมาจากยาปฏิชีวนะ หรือเกิดจากการเสพโคเคนของผู้ต้องหา ขณะนี้ยังสรุปไม่ได้ คณะกรรมการจะสอบถามเภสัชกรและผู้เชี่ยวชาญด้านยาเพื่อให้ได้ข้อเท็จจริง หากสรุปเป็นสารที่เกิดจากการเสพโคเคน จะประมวลเรื่องเสนอผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติพิจารณาตั้งข้อหาเสพยาเสพติดเพิ่มเติมอีกหนึ่งข้อหา

อุบัติเหตุพยานปากเอกไม่กระทบการตรวจสอบ
ส่วนอีกประเด็น คือ กรณีนายจารุชาติ มาดทอง พยานปากสำคัญในคดีเสียชีวิตกะทันหันที่เชียงใหม่ ยืนยันไม่มีผลต่อการตรวจสอบของกรรมการชุดสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และยืนยันว่านายจารุชาติเป็นพยานที่ขับรถกระบะตามหลังรถคู่กรณีทั้ง 2 ฝ่าย ไม่ใช่พยานใหม่ แต่เป็นพยานที่พนักงานสอบสวนเคยสอบปากคำไว้แล้วเมื่อ 8 กันยายน 2555 และรายงานสอบสวนในครั้งนั้นไม่ได้สอบสวนในประเด็นขับรถเร็วของผู้ต้องหา


ประเด็นความเร็วอัยการเพิ่งมากำหนดให้สอบสวนเมื่อปลายปี 2562 ส่วน พล.อ.ท.จักรกฤษณ์ ถนอมกุลบุตร พยานอีกคน สอบสวนครั้งแรกเมื่อ 8 กรกฎาคม 2558 ซึ่งสอบสวนหลังจากพนักงานสอบสวนมีความเห็นควรสั่งฟ้องนายวรยุทธ ข้อหาขับรถประมาทและออกหมายจับไปแล้ว

อย่างไรก็ตาม ประเด็นความเร็วของรถผู้ต้องหาขณะพุ่งชน ด.ต.วิเชียร กลั่นประเสริฐ ที่ยังไม่ชัดเจนและไม่ตรงกันระหว่างผลตรวจของเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานกับพยาน 2 ปากนี้อยู่ระหว่างดำเนินการให้เกิดความกระจ่าง ขณะนี้ยังตอบไม่ได้

ลำดับเหตุการณ์รักษาเหงือก “บอส อยู่วิทยา”
ทพ.เผด็จ ตั้งงามสกุล อุปนายกทันตแพทยสภาคนที่ 1 เปิดเผยว่า หนึ่งในกรรมการทันตแพทยสภา ได้รับการติดต่อเป็นการส่วนตัวจากทันตแพทย์ที่รักษานายวรยุทธ ยืนยันว่า ไม่ได้ใช้โคเคนในการรักษา ก่อนเกิดอุบัติเหตุ 5 วัน (29 ส.ค.55) ได้รักษาโรคเหงือกให้กับนายวรยุทธ และวันนั้นรักษาตามขั้นตอนรักษาผู้ป่วยทั่วไป ทำความสะอาดช่องปากและฉีดยาชาชนิด “เมพิวาเคน” จากนั้นได้จ่ายยาปฏิชีวนะให้นายวรยุทธ ซึ่งหลังเกิดเหตุเคยเข้าให้ปากคำกับตำรวจแล้ว จึงรู้สึกไม่สบายใจที่ข้อมูลการรักษาถูกนำไปอ้างในคดีและไม่ตรงตามข้อเท็จจริง

ทั้งนี้ ยืนยันว่าทันตแพทย์คนดังกล่าวพร้อมชี้แจงต่อทันตแพทยสภา แต่ต้องให้เวลารวบรวมข้อมูลก่อน และหากมีคณะกรรมตรวจสอบข้อเท็จจริงชุดใดต้องการข้อมูลเพิ่มเติมก็พร้อมประสานทันที แต่ไม่ถึงขั้นต้องตั้งกรรมการสอบ เนื่องจากไม่ได้มีผู้ร้องเรียนถึงการทำหน้าที่

อุปนายกทันตแพทยสภา ระบุด้วยว่า ในต่างประเทศเคยเกิดคดีที่พบโคเคนในผู้ต้องหาและอ้างว่าเกิดจากการทำฟัน แต่ภายหลังมีการตรวจสอบข้อมูลทางวิชาการ พบว่าไม่เป็นความจริง และในไทยคดีของนายวรยุทธฯ ถือเป็นคดีแรกที่มีการอ้างถึงการใช้โคเคนจากการทำฟัน

คณะกรรมการชุด “อัยการสูงสุด” ประชุมต่อวันที่ 4
สำหรับการตรวจสอบคู่ขนานของคณะทำงานสำนักงานอัยการสูงสุด ประชุมต่อเนื่องเป็นวันที่ 4 เพื่อพิจารณาเหตุไม่สั่งฟ้องคดี “บอส อยู่วิทยา” นายประยุทธ เพชรคุณ รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด บอกว่า การประชุมคืบหน้าไปมาก แต่ยังไม่แล้วเสร็จ คาดว่าจะสรุปความเห็นได้ภายในกรอบระยะเวลา 7 วัน

สำนักข่าวไทยรวบรวมภาพรวมของการตรวจสอบข้อเท็จจริงของ 3 หน่วยงานหลัก (ไม่รวมของ กมธ.ต่างๆ ที่คอยศึกษาและตรวจสอบ) ประกอบด้วย คณะกรรมการชุดของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่ตรวจสอบตั้งแต่ต้นธารกระบวนการยุติธรรม คือ การดำเนินงานของพนักงานสอบสวน คณะทำงานชุดของสำนักงานอัยการสูงสุดที่ตรวจสอบการทำงานของอัยการ และเหตุผลถึงการไม่สั่งฟ้องในคดี และคณะสุดท้าย คือ คณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงและข้อกฎหมาย กรณีคำสั่งไม่ฟ้องคดีอาญาที่อยู่ในความสนใจของประชาชนที่นายกรัฐมนตรีมีคำสั่งแต่งตั้งขึ้น ซึ่งมีนายวิชา มหาคุณ อดีตกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ล่าสุดมีการนัดหมายประชุมกันนัดแรกในวันที่จันทร์ที่ 3 สิงหาคมนี้ เวลา 15.00 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล คณะนี้จะรวบรวมข้อมูลเพื่อตรวจสอบในภาพกว้างเพื่อเสนอแนวทางปรับปรุงกฎหมาย หรือวิธีปฏิบัติ

“วิษณุ” ไม่ตอบผลสอบคดีจะเปลี่ยนแปลงผลคดีได้หรือไม่
นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า คณะกรรมการตรวจสอบชุดนายวิชา มหาคุณ มีกรอบดำเนินงาน 30 วัน โดยทราบมาว่าจะมีการประชุมทุกวัน และสามารถเชิญบุคคลที่เกี่ยวข้องมาชี้แจงข้อมูลได้ โดยหน้าที่หลักคือสรุปข้อเท็จจริง ข้อกฎหมาย ความเป็นมาของคดี และพฤติกรรมบุคคลที่เกี่ยวข้อง โดยไม่ไปแทรกแซงดุลยพินิจ หากพบจุดอ่อนในประเด็นใดต้องแจ้งรัฐบาล พร้อมกับจัดทำบทเรียนและข้อแนะนำว่าควรปรับแก้ในส่วนใด เพื่อไม่ให้เกิดประเด็นปัญหาในอนาคต. – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่มซิ่งกระบะชนเสาไฟฟ้าล้มขวางถนน 12 ต้น

ชลบุรี 28 ก.ย. – หนุ่มซิ่งกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรตลอดทั้งวัน คาดจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) รถกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน ต.บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น เป็นเสาไฟฟ้าแรงสูง 6 ต้น เสาไฟฟ้าสูง 12 เมตร อีก 6 ต้น ระยะทาง 500 เมตร โชคดีนายสิทธิพงษ์ อายุ 41 ปี คนขับ บาดเจ็บเล็กน้อย แต่ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรบนถนนสายบึง-บ่อวิน ตลอดทั้งวัน คาดว่าจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) จากการสอบสวนทราบว่า นายสิทธิพงษ์ เพิ่งเลิกงาน ขับรถกลับบ้านด้วยความเร็ว อาจหลับใน ทำให้รถเปลี่ยนเลนข้ามไปชนกับเสาไฟฟ้าอีกฝั่ง ส่วนความเสียหายยังประเมินค่าไม่ได้.-สำนักข่าวไทย

“อนุทิน” ร่วมงานศพพ่อ “อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้า ภท.

ราชบุรี 28 ก.ย.- “อนุทิน” ร่วมสวดอภิธรรมศพพ่อ “สส.อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้าภูมิใจไทย ลั่นได้ส่งจิตขออนุญาตคุณพ่อแล้ว นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตาีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วยนายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายศักดา วิเชียรศิลป์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นายสรอรรถ กลิ่นประทุม อดีต สส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย ได้ร่วมไว้อาลัยและสวดอภิธรรมศพ คุณพ่อวุฒิพงศ์ วงษ์พิทักษ์โรจน์ บิดาของนายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สส.ราชบุรี พรรครวมไทยสร้างชาติ เมื่อค่ำวันที่ 27 ก.ย. ที่จังหวัดราชบุรี โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี หัวหน้าส่วนราชการ และประชาชนกว่า 2,000 ร่วมพิธีโดยเป็นการสวดอภิธรรมเป็นคืนที่ 4 และจะมีพิธีบรรจุศพในวันที่ 30 ก.ย. นี้ ในช่วงท้าย นายอนุทิน ได้กล่าวกับผู้ที่ร่วมสวดอภิธรรมศพ ว่า ตนเองมีความสนิทสนมกับ นายอัครเดช มาหลายปีแล้ว นายอัครเดชเป็นคนมีความวิริยะอุสาหะ ตั้งใจทำงานให้พี่น้องประชาชน ตนมีความชื่นชมและศรัทธา ในความขัยนขันแข็งของท่าน ยิ่งไปกว่านั้นการปฏิบัติหน้าที่ในสภาผู้แทนราษฎร ท่านก็ทำหน้าที่ได้ดีเป็นดาวสภา […]

โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA

กรุงเทพฯ 28 ก.ย. – โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA หลัง “อนุทิน” มอบดาบการทูตสู้กัมพูชา ขณะนายกฯ ย้ำยึดสันติในการแก้ปัญหา เพื่อประโยชน์ของประเทศ ภายหลังจากที่นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวในเวทีการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ หรือ UNGA สมัยสามัญ ครั้งที่ 80 ที่นครนิวยอร์ก ทำให้กระแสโซเชียลในประเทศไทย พึงพอใจกับการทำหน้าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ในรัฐบาลของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี เป็นอย่างมาก ทั้งนี้ การเดินทางไปเวที UNGA ของนายสีหศักดิ์ ครั้งนี้ยึดแนวทางแก้ปัญหาความมั่นคงและการต่างประเทศ ที่นายอนุทิน มอบหมายให้ดำเนินการ โดยใช้มาตรการทางการทหารควบคู่กับการทูต เพื่อรักษาอธิปไตยอย่างสันติ เพื่อผลประโยชน์ของประชาชน โดยเฉพาะในกรณีพิพาทไทย-กัมพูชา ขณะที่นายอนุทิน เชื่อว่า การกล่าวถ้อยแถลงในที่ประชุม UNGA ของนายสีหศักดิ์ ทำให้คนไทยมีความเชื่อมั่นอย่างชัดเจนต่อจุดยืนของรัฐบาล สำหรับนโยบาย 4 เดือน 4 ภารกิจหลัก คืนความมั่นใจให้ประเทศไทย ตามนโยบายรัฐบาลของนายอนุทิน […]

กรมอุตุฯ เตือนฝนถล่มทั่วไทย รับมืออิทธิพลพายุบัวลอย

กทม. 28 ก.ย.- กรมอุตุฯ เตือนทั่วไทยรับมือฝนถล่ม อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง จับตาอิทธิพลพายุไต้ฝุ่น “บัวลอย” คาดเคลื่อนขึ้นฝั่งเวียดนามตอนบน พรุ่งนี้ (29 ก.ย.) กรมอุตุนิยมวิทยาเผยประเทศไทยมีฝนตกหนักหลายพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออก โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดสกลนคร นครพนม อุดรธานี ขอนแก่น กาฬสินธุ์ มุกดาหาร จันทบุรี และตราด ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่าน พื้นที่ลุ่ม และพื้นที่น้ำท่วมขัง เนื่องจากร่องมรสุมกำลังแรงพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังแรง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง พายุไต้ฝุ่น […]

ข่าวแนะนำ

สีสัน! อภิปรายนโยบายรัฐบาลวันแรก

29 ก.ย.- การแถลงนโยบายรัฐบาลวันนี้ เหมือนเป็นการซ้อมศึกซักฟอกย่อย เพราะมีการตอบโต้และตั้งฉายามากมาย ติดตามสีสันการอภิปรายนโยบายฯ วันแรก .-สำนักข่าวไทย

เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดฝนหนักคืนนี้

29 ก.ย.- หลายพื้นที่เฝ้าระวังฝนตกหนัก จากอิทธิพล #พายุบัวลอย เชียงใหม่เปิดประตูระบายน้ำทุกจุด เร่งระบายน้ำปิงลงทะเลสาบดอยเต่า พร่องน้ำในเขื่อนแม่งัดฯ เตรียมรับน้ำฝน คาดตกหนักคืนนี้ ขณะที่ จ.นครราชสีมา น้ำล้นสปิลเวย์ เตือนประชาชนระวังน้ำท่วมฉับพลัน พายุฝนตกกระหน่ำหลายพื้นที่จังหวัดสระแก้ว โดยพื้นที่ ต.บ้านแก้ง อ.เมืองสระแก้ว นายก อบต.บ้านแก้ง พร้อมผู้นำชุมชน และอาสาสมัครกู้ภัย ได้นำเรือเครื่องยนต์ท้องแบน เข้าช่วยเหลือ ตาชู-ยายทองคำ และสุนัข 1 ตัว ออกจากบ้านที่โดนน้ำป่าไหลหลาก เข้าท่วมเกือบมิดหลังคา  มาอยู่ในที่ปลอดภัย ยายทองคำ เล่าว่าเมื่อคืนพักอยู่กับตาและหมา กำลังจะเข้านอนแต่ก็มีฝนตกตลอดทั้งคืน น้ำที่คลองก็ยังไม่เห็นว่าจะขึ้นล้นตลิ่งเท่าไร แต่ก็กังวล จึงเฝ้าดูกระทั่งน้ำไหลมาและเข้าท่วม ตกใจ จึงได้นำสุนัขขึ้นบนบ้าน ส่วนข้าวของก็เก็บไม่ทัน จากนั้นจึงอยู่แต่บนบ้านจนถึงเช้า กู้ภัยมาช่วยนำออกมาจากบ้าน อยู่มาหลายสิบปีไม่เคยเจอแบบนี้มาก่อนเลย  ผู้ว่าฯ เชียงใหม่ เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดตกหนักคืนนี้ เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา หลายพื้นที่เชียงใหม่ เริ่มมีฝนตกลงมาบ้างแล้ว ระดับน้ำในลำน้ำปิงที่ไหลผ่านตัวเมืองเชียงใหม่ ที่จุดวัดพี1 เชิงสะพานนวรัฐ ยังอยู่ที่ 2 เมตร 49 เซนติเมตร ต่ำกว่าจุดวิกฤติแจ้งเตือนที่ […]

แถลงนโยบายวันแรกเดือด ประท้วงกันวุ่น

29 ก.ย.- สภาเดือด! แถลงนโยบายรัฐบาลวันแรก อภิปรายตอบโต้-ประท้วงกันเป็นระยะ เมื่อมีการพาดพิงปมเขากระโดง-ฮั้ว สว. แต่ประธานฯ คุมสถานการณ์ได้ ด้านนายกฯ ไม่กังวลวาทกรรมของฝ่ายค้าน ชี้ประเด็นซ้ำๆ และมีการแถลงข้อเท็จจริงไปแล้ว -สำนักข่าวไทย

ฝ่าดงทุ่นระเบิดเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก “ผลักดัน-รื้อถอน”

29 ก.ย.- ทหารเรือฝ่าดงทุ่นระเบิดเข้าเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก จ.ตราด ผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้าม-รื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง 3 หลัง รุกล้ำเขตอธิปไตยไทย ขณะที่ชาวบ้านหนองจาน จ.สระแก้ว นำอาหารมอบให้ทหารแนวหน้า ยังไม่พบความเคลื่อนไหวผิดปกติ พลเรือเอก จิรพล ว่องวิทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ และพลเรือเอก ไพโรจน์ เฟื่องจันทร์ ว่าที่ ผู้บัญชาการทหารเรือ คนใหม่ มอบหมายพลเรือโทอภิชาติ ทรัพย์ประเสริฐ ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน และผู้บัญชาการกองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรี-ตราด (กกล.กปช.จต.) เข้าเคลียร์พื้นที่ชายแดนบ้านชำราก อันเป็นอธิปไตยของไทย โดยหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินตราด กองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรีตราด จึงได้ผลักดันกองกำลังกัมพูชา ออกจากพื้นที่บริเวณตรงข้ามบ้านหนองรี ตำบลชำราก ไม่มีกำลังฝ่ายกัมพูชาวางกำลังแล้ว ผลจากการปฏิบัติการ บรรลุเป้าหมายสำคัญ คือ สามารถทำลายสิ่งปลูกสร้างทั้ง 3 หลังลงได้อย่างสิ้นเชิง ที่สำคัญที่สุดคือ สามารถผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้ามให้ออกจากพื้นที่รุกล้ำได้อย่างสมบูรณ์ ประชาชนนำอาหารมอบทหารแนวหน้า บ้านหนองจาน จ.สระแก้ว ส่วนที่บ้านหนองจาน จังหวัดสระแก้ว บรรยาศเงียบเหงา แต่ยังคงมีประชาชนเดินทางนำอาหาร เช่น ไข่ไก่ น้ำดื่ม นำมามอบให้กับทหารแนวหน้า ถึงแม้จะไม่คึกคักเหมือนวันก่อนๆ […]