คาดน้ำล้นตลิ่งหลายสาย สทนช. เฝ้าระวัง-แจ้งเตือนทุกพื้นที่เสี่ยง

กรุงเทพฯ 24 ก.ย. – สทนช.ระบุฝนที่ตกหนักต่อเนื่องทำให้แม่น้ำสายหลักและลำน้ำสาขาหลายสายเสี่ยงล้นตลิ่ง โดยฝนตกหนักตั้งแต่ปลายสัปดาห์แล้วจากอิทธิพลของพายุซูลิก ต่อเนื่องด้วยร่องมรสุมกำลังค่อนข้างแรง แต่น้ำเหนือที่จะไหลลงสู่พื้นที่ลุ่มเจ้าพระยาตอนล่าง จะไม่ทำให้ระดับน้ำแม่น้ำเจ้าพระยาสูงขึ้นอย่างฉับพลันจึงขอให้ประชาชนไม่ต้องตระหนกว่า จะเกิดอุทกภัยรุนแรง


นายฐนโรจน์ วรรัฐประเสริฐ ผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการน้ำแห่งชาติ สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) กล่าวว่า ประเทศไทยมีฝนตกต่อเนื่องตั้งแต่ปลายสัปดาห์ที่แล้ว จากอิทธิพลของพายุซูลิก ส่วนระยะนี้ร่องมรสุมกำลังค่อนข้างแรงพาดผ่านทางตอนบนของภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลางตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้มีกำลังค่อนข้างแรงและมีแนวสอบของลมบริเวณอ่าวไทยทำให้ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออกมีฝนตกต่อเนื่อง

วานนี้ฝนที่ตกหนักในอำเภอเวียงป่าเป้า จังหวัดเชียงราย วัดปริมาณฝน 24 ชั่วโมง ได้มากถึง 160 มิลลิเมตร ทำให้เกิดน้ำป่าไหลหลาก น้ำจะไหลตามลำน้ำแม่ลาว คาดว่าจะมีน้ำล้นตลิ่งในอำเภอแม่สรวยประมาณ 50 เซนติเมตรถึง 1 เมตร แล้วไหลต่อไปยังอำเภอเมืองเชียงรายซึ่งจะทำให้ระดับน้ำในตัวเมืองเชียงรายปริ่มตลิ่ง โดยอาจล้นตลิ่งเฉพาะพื้นที่ลุ่มต่ำ แล้วไหลลงสู่แม่น้ำโขงต่อไป สทนช. แจ้งเตือนไปยังกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ให้แจ้งจังหวัดเชียงรายเพื่อแจ้งเตือนประชาชนแล้ว


ที่ลุ่มน้ำวัง มีฝนตกหนักต่อเนื่องทำให้ระดับน้ำในแม่น้ำเพิ่มสูงขึ้น ประกอบกับจำเป็นต้องปรับเพิ่มการระบายน้ำจากเขื่อนกิ่วลมและกิ่วคอหมาซึ่งมีน้ำมากออกมาสมทบ สทนช. คาดว่าจะมีน้ำล้นตลิ่งที่อำเมืองลำปางซึ่งได้แจ้งปภ. และคณะกรรมการอำนวยการแก้ไขสถานการณ์อุทกภัยด้วยแล้ว น้ำจะไหลต่อไปยังอำเภอเถินซึ่งคาดการณ์ว่า ในช่วงวันที่ 28 กันยายน – 2 ตุลาคม 2567 จะมีน้ำล้นตลิ่งบริเวณที่ลุ่มต่ำประมาณ 20 – 50 เซนติเมตร ส่วนที่จังหวัดตาก คาดการณ์ว่า จะน้ำล้นตลิ่งบริเวณที่ลุ่มต่ำในอำเภอสามเงาประมาณ 1.0 – 1.3 ม. ในช่วงวันที่ 24 กันยายน – 3 ตุลาคม 2567

ส่วนที่ลุ่มน้ำน่าน คาดว่าจะมีน้ำล้นตลิ่งที่อำเภอเวียงสา จังหวัดน่านในอีก 2 – 3 วันนี้ ปริมาณน้ำที่เพิ่มขึ้นในแม่น้ำน่านจะไหลลงสู่เขื่อนสิริกิติ์ ซึ่งขณะนี้ยังสามารถรองรับได้อยู่ แต่คาดว่าจะทำให้เขื่อนสิริกิติ์มีปริมาณน้ำเพิ่มขึ้นเกือบ 90% ของความจุ

สำหรับลุ่มน้ำยม คาดว่า ในระยะ 7 วันนี้จะมีน้ำล้นตลิ่งในจังหวัดแพร่ตั้งแต่อำเภอสอง อำเภอเมืองแพร่ และอำเภอวังชิ้นประมาณ 1.50 – 2.00 เมตร น้ำในแม่น้ำยมจะไหลต่อเนื่องผ่านจังหวัดสุโขทัยและพิษณุโลกตามลำดับ คาดว่าสถานการณ์น้ำจะใกล้เคียงกับที่เกิดอุทกภัยในลุ่มน้ำยมเมื่อปลายเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา โดยปริมาณน้ำไหลผ่านอำเภอศรีสัชนาลัยประมาณ 1,800 ลบ.ม./วินาทีจึงจะใช้ประตูระบายน้ำบ้านหาดสะพานจันทร์ผันน้ำเพื่อแบ่งน้ำเข้าคลองหกบาท แม่น้ำยมสายเก่า และคลองยม-น่าน นอกจากนี้สทนช. ได้ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการผันน้ำเข้าแก้มลิงทุ่งบางระกำที่สามารถรับน้ำได้อีก 50% และรับน้ำเข้าทุ่งทะเลหลวงเพื่อลดปริมาณน้ำที่จะไหลผ่านตัวเมืองสุโขทัย ไม่ให้เกินความจุลำน้ำ ตลอดจนเป็นการแบ่งน้ำที่จะไหลลงสู่ลุ่มเจ้าพระยา โดยให้ทยอยไหลลงมา


อีกกลุ่มน้ำที่ต้องเฝ้าระวังใกล้ชิดคือ ลุ่มน้ำป่าสัก คาดการณ์ว่า ที่อำเภอวิเชียรบุรี จังหวัดเพชรบูรณ์ จะเกิดน้ำไหลหลากและล้นตลิ่งประมาณ 50 เซนติเมตรถึง 1 เมตร ภาคตะวันออกต้องเฝ้าระวังที่อำเภอเขาสมิง จังหวัดตราด น้ำแม่น้ำเขาสมิงจะล้นตลิ่งประมาณ 50 เซนติเมตร

นายฐนโรจน์ กล่าวย้ำว่า ปริมาณน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาที่สถานี C.2 อำเภอเมืองนครสวรรค์ จังหวัดนครสวรรค์ความจุลำน้ำ 3,660 ลบ.ม./วินาที ปัจจุบันมีปริมาณน้ำ 1,470 ลบ.ม./วินาที คิดเป็น 40% ของความจุลำน้ำ คาดว่า ในช่วง 7 วันข้างหน้าจะมีปริมาณน้ำจะอยู่ในช่วง 1,661 – 2,046 ลบ.ม./วินาที คิดเป็น 45 – 56% ของความจุลำน้ำ กรมชลประทานแจ้งมายังสทนช. ว่า จะทยอยปรับการระบายน้ำที่เขื่อนเจ้าพระยาให้สอดคล้องกับทั้งน้ำเหนือและฝนที่ตกในพื้นที่ จากที่ระบายวันนี้ในอัตรา 1,049 ลบ.ม./วินาทีและจะปรับเป็น 1,100 ลบ.ม. /วินาที แล้วคงอัตราต่อเนื่อง ก่อนหน้านี้กรมชลประทานพร่องน้ำเหนือเขื่อนเจ้าพระยาลงอีก 1 เมตรเพื่อรองรับน้ำระลอกใหม่ พร้อมกับแบ่งเข้าระบบชลประทานทั้งฝั่งซ้ายและขวาด้วย เมื่อติดตามปริมาณน้ำที่ไหลผ่านสถานี C.29A ศูนย์ศิลปาชีพบางไทร จังหวัดพระนครศรีอยุธยา จากความจุลำน้ำ 3,500 ลบ.ม./วินาที พบว่า วันนี้อยู่ที่อัตรา 1,521 ลบ.ม./วินาที คิดเป็น 43% ของความจุลำน้ำ ดังนั้นจะมีการบริหารจัดการเพื่อไม่ให้แม่น้ำเจ้าพระยามีระดับสูงขึ้นอย่างฉับพลัน ประชาชนจึงไม่ต้องเป็นกังวลว่า พื้นที่ลุ่มเจ้าพระยาตอนล่างจะเกิดอุทกภัย

สถานการณ์น้ำท่วมปัจจุบันพบใน 9 จังหวัดได้แก่

  • จังหวัดเชียงรายที่อำเภอแม่สาย เวียงป่าเป้า และเมืองเชียงราย
  • จังหวัดเชียงใหม่ที่อำเภอแม่ริม
  • จังหวัดน่านที่อำเภอนาน้อย นาหมื่น และเวียงสา
  • จังหวัดลำปางที่อำเภองาว เมืองลำปาง เกาะคา ห้างฉัตร แม่พริก สบปราบ เถิน แม่เมาะ และวังเหนือ
  • จังหวัดแพร่ที่อำเภอลองและวังชิ้น
  • จังหวัดพิษณุโลกที่อำเภอพรหมพิราม บางระกำ และเมืองพิษณุโลก
  • จังหวัดเลยที่อำเภอเมืองเลย
  • จังหวัดหนองคายที่อำเภอศรีเชียงใหม่ ท่าบ่อ เมืองหนองคาย และโพนพิสัย
  • จังหวัดพระนครศรีอยุธยาที่อำเภอบางบาล บางปะอิน ผักไห่ พระนครศรีอยุธยา เสนา และบางไทร

ส่วนผลการคาดการณ์พื้นที่เสี่ยงอุทกภัยล่วงหน้า 3 วันในช่วงวันที่ 24 – 26 กันยายน 2567 สทนช. พบพื้นที่เสี่ยง 16 จังหวัด ได้แก่

  1. ภาคเหนือ ได้แก่ จังหวัดเชียงราย ที่อำเภอเวียงป่าเป้า จังหวัดลำปาง ที่อำเภอสบปราบและเมืองปาน จังหวัดพะเยา ที่อำเภอเมืองพะเยา จังหวัดแพร่ที่อำเภอวังชิ้น จังหวัดพิษณุโลกที่อำเภอนครไทย วังทอง และเนินมะปราง และจังหวัดเพชรบูรณ์ที่อำเภอเขาค้อ
  2. ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ได้แก่ จังหวัดนครพนม ที่อำเภอนาแก จังหวัดสกลนคร ที่อำเภอเต่างอย จังหวัดกาฬสินธุ์ ที่อำเภอนาคู และจังหวัดอุบลราชธานี ที่อำเภอน้ำยืน
  3. ภาคตะวันออก ได้แก่ จังหวัดปราจีนบุรี ที่อำเภอนาดี และจังหวัดตราด ที่อำเภอบ่อไร่
  4. ภาคใต้ ได้แก่ จังหวัดสุราษฎร์ธานีที่อำเภอพระแสง จังหวัดนครศรีธรรมราชที่อำเภอท่าศาลา จังหวัดสตูลที่อำเภอควนโดน และจังหวัดยะลาที่อำเภอเบตง

ทั้งนี้ สทนช. ได้ประสานข้อมูลให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเตรียมความรับมือสถานการณ์ล่วงหน้าเรียบร้อยแล้ว. -512 – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่มซิ่งกระบะชนเสาไฟฟ้าล้มขวางถนน 12 ต้น

ชลบุรี 28 ก.ย. – หนุ่มซิ่งกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรตลอดทั้งวัน คาดจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) รถกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน ต.บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น เป็นเสาไฟฟ้าแรงสูง 6 ต้น เสาไฟฟ้าสูง 12 เมตร อีก 6 ต้น ระยะทาง 500 เมตร โชคดีนายสิทธิพงษ์ อายุ 41 ปี คนขับ บาดเจ็บเล็กน้อย แต่ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรบนถนนสายบึง-บ่อวิน ตลอดทั้งวัน คาดว่าจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) จากการสอบสวนทราบว่า นายสิทธิพงษ์ เพิ่งเลิกงาน ขับรถกลับบ้านด้วยความเร็ว อาจหลับใน ทำให้รถเปลี่ยนเลนข้ามไปชนกับเสาไฟฟ้าอีกฝั่ง ส่วนความเสียหายยังประเมินค่าไม่ได้.-สำนักข่าวไทย

“อนุทิน” ร่วมงานศพพ่อ “อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้า ภท.

ราชบุรี 28 ก.ย.- “อนุทิน” ร่วมสวดอภิธรรมศพพ่อ “สส.อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้าภูมิใจไทย ลั่นได้ส่งจิตขออนุญาตคุณพ่อแล้ว นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตาีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วยนายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายศักดา วิเชียรศิลป์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นายสรอรรถ กลิ่นประทุม อดีต สส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย ได้ร่วมไว้อาลัยและสวดอภิธรรมศพ คุณพ่อวุฒิพงศ์ วงษ์พิทักษ์โรจน์ บิดาของนายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สส.ราชบุรี พรรครวมไทยสร้างชาติ เมื่อค่ำวันที่ 27 ก.ย. ที่จังหวัดราชบุรี โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี หัวหน้าส่วนราชการ และประชาชนกว่า 2,000 ร่วมพิธีโดยเป็นการสวดอภิธรรมเป็นคืนที่ 4 และจะมีพิธีบรรจุศพในวันที่ 30 ก.ย. นี้ ในช่วงท้าย นายอนุทิน ได้กล่าวกับผู้ที่ร่วมสวดอภิธรรมศพ ว่า ตนเองมีความสนิทสนมกับ นายอัครเดช มาหลายปีแล้ว นายอัครเดชเป็นคนมีความวิริยะอุสาหะ ตั้งใจทำงานให้พี่น้องประชาชน ตนมีความชื่นชมและศรัทธา ในความขัยนขันแข็งของท่าน ยิ่งไปกว่านั้นการปฏิบัติหน้าที่ในสภาผู้แทนราษฎร ท่านก็ทำหน้าที่ได้ดีเป็นดาวสภา […]

โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA

กรุงเทพฯ 28 ก.ย. – โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA หลัง “อนุทิน” มอบดาบการทูตสู้กัมพูชา ขณะนายกฯ ย้ำยึดสันติในการแก้ปัญหา เพื่อประโยชน์ของประเทศ ภายหลังจากที่นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวในเวทีการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ หรือ UNGA สมัยสามัญ ครั้งที่ 80 ที่นครนิวยอร์ก ทำให้กระแสโซเชียลในประเทศไทย พึงพอใจกับการทำหน้าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ในรัฐบาลของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี เป็นอย่างมาก ทั้งนี้ การเดินทางไปเวที UNGA ของนายสีหศักดิ์ ครั้งนี้ยึดแนวทางแก้ปัญหาความมั่นคงและการต่างประเทศ ที่นายอนุทิน มอบหมายให้ดำเนินการ โดยใช้มาตรการทางการทหารควบคู่กับการทูต เพื่อรักษาอธิปไตยอย่างสันติ เพื่อผลประโยชน์ของประชาชน โดยเฉพาะในกรณีพิพาทไทย-กัมพูชา ขณะที่นายอนุทิน เชื่อว่า การกล่าวถ้อยแถลงในที่ประชุม UNGA ของนายสีหศักดิ์ ทำให้คนไทยมีความเชื่อมั่นอย่างชัดเจนต่อจุดยืนของรัฐบาล สำหรับนโยบาย 4 เดือน 4 ภารกิจหลัก คืนความมั่นใจให้ประเทศไทย ตามนโยบายรัฐบาลของนายอนุทิน […]

กรมอุตุฯ เตือนฝนถล่มทั่วไทย รับมืออิทธิพลพายุบัวลอย

กทม. 28 ก.ย.- กรมอุตุฯ เตือนทั่วไทยรับมือฝนถล่ม อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง จับตาอิทธิพลพายุไต้ฝุ่น “บัวลอย” คาดเคลื่อนขึ้นฝั่งเวียดนามตอนบน พรุ่งนี้ (29 ก.ย.) กรมอุตุนิยมวิทยาเผยประเทศไทยมีฝนตกหนักหลายพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออก โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดสกลนคร นครพนม อุดรธานี ขอนแก่น กาฬสินธุ์ มุกดาหาร จันทบุรี และตราด ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่าน พื้นที่ลุ่ม และพื้นที่น้ำท่วมขัง เนื่องจากร่องมรสุมกำลังแรงพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังแรง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง พายุไต้ฝุ่น […]

ข่าวแนะนำ

สีสัน! อภิปรายนโยบายรัฐบาลวันแรก

29 ก.ย.- การแถลงนโยบายรัฐบาลวันนี้ เหมือนเป็นการซ้อมศึกซักฟอกย่อย เพราะมีการตอบโต้และตั้งฉายามากมาย ติดตามสีสันการอภิปรายนโยบายฯ วันแรก .-สำนักข่าวไทย

เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดฝนหนักคืนนี้

29 ก.ย.- หลายพื้นที่เฝ้าระวังฝนตกหนัก จากอิทธิพล #พายุบัวลอย เชียงใหม่เปิดประตูระบายน้ำทุกจุด เร่งระบายน้ำปิงลงทะเลสาบดอยเต่า พร่องน้ำในเขื่อนแม่งัดฯ เตรียมรับน้ำฝน คาดตกหนักคืนนี้ ขณะที่ จ.นครราชสีมา น้ำล้นสปิลเวย์ เตือนประชาชนระวังน้ำท่วมฉับพลัน พายุฝนตกกระหน่ำหลายพื้นที่จังหวัดสระแก้ว โดยพื้นที่ ต.บ้านแก้ง อ.เมืองสระแก้ว นายก อบต.บ้านแก้ง พร้อมผู้นำชุมชน และอาสาสมัครกู้ภัย ได้นำเรือเครื่องยนต์ท้องแบน เข้าช่วยเหลือ ตาชู-ยายทองคำ และสุนัข 1 ตัว ออกจากบ้านที่โดนน้ำป่าไหลหลาก เข้าท่วมเกือบมิดหลังคา  มาอยู่ในที่ปลอดภัย ยายทองคำ เล่าว่าเมื่อคืนพักอยู่กับตาและหมา กำลังจะเข้านอนแต่ก็มีฝนตกตลอดทั้งคืน น้ำที่คลองก็ยังไม่เห็นว่าจะขึ้นล้นตลิ่งเท่าไร แต่ก็กังวล จึงเฝ้าดูกระทั่งน้ำไหลมาและเข้าท่วม ตกใจ จึงได้นำสุนัขขึ้นบนบ้าน ส่วนข้าวของก็เก็บไม่ทัน จากนั้นจึงอยู่แต่บนบ้านจนถึงเช้า กู้ภัยมาช่วยนำออกมาจากบ้าน อยู่มาหลายสิบปีไม่เคยเจอแบบนี้มาก่อนเลย  ผู้ว่าฯ เชียงใหม่ เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดตกหนักคืนนี้ เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา หลายพื้นที่เชียงใหม่ เริ่มมีฝนตกลงมาบ้างแล้ว ระดับน้ำในลำน้ำปิงที่ไหลผ่านตัวเมืองเชียงใหม่ ที่จุดวัดพี1 เชิงสะพานนวรัฐ ยังอยู่ที่ 2 เมตร 49 เซนติเมตร ต่ำกว่าจุดวิกฤติแจ้งเตือนที่ […]

แถลงนโยบายวันแรกเดือด ประท้วงกันวุ่น

29 ก.ย.- สภาเดือด! แถลงนโยบายรัฐบาลวันแรก อภิปรายตอบโต้-ประท้วงกันเป็นระยะ เมื่อมีการพาดพิงปมเขากระโดง-ฮั้ว สว. แต่ประธานฯ คุมสถานการณ์ได้ ด้านนายกฯ ไม่กังวลวาทกรรมของฝ่ายค้าน ชี้ประเด็นซ้ำๆ และมีการแถลงข้อเท็จจริงไปแล้ว -สำนักข่าวไทย

ฝ่าดงทุ่นระเบิดเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก “ผลักดัน-รื้อถอน”

29 ก.ย.- ทหารเรือฝ่าดงทุ่นระเบิดเข้าเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก จ.ตราด ผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้าม-รื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง 3 หลัง รุกล้ำเขตอธิปไตยไทย ขณะที่ชาวบ้านหนองจาน จ.สระแก้ว นำอาหารมอบให้ทหารแนวหน้า ยังไม่พบความเคลื่อนไหวผิดปกติ พลเรือเอก จิรพล ว่องวิทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ และพลเรือเอก ไพโรจน์ เฟื่องจันทร์ ว่าที่ ผู้บัญชาการทหารเรือ คนใหม่ มอบหมายพลเรือโทอภิชาติ ทรัพย์ประเสริฐ ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน และผู้บัญชาการกองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรี-ตราด (กกล.กปช.จต.) เข้าเคลียร์พื้นที่ชายแดนบ้านชำราก อันเป็นอธิปไตยของไทย โดยหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินตราด กองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรีตราด จึงได้ผลักดันกองกำลังกัมพูชา ออกจากพื้นที่บริเวณตรงข้ามบ้านหนองรี ตำบลชำราก ไม่มีกำลังฝ่ายกัมพูชาวางกำลังแล้ว ผลจากการปฏิบัติการ บรรลุเป้าหมายสำคัญ คือ สามารถทำลายสิ่งปลูกสร้างทั้ง 3 หลังลงได้อย่างสิ้นเชิง ที่สำคัญที่สุดคือ สามารถผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้ามให้ออกจากพื้นที่รุกล้ำได้อย่างสมบูรณ์ ประชาชนนำอาหารมอบทหารแนวหน้า บ้านหนองจาน จ.สระแก้ว ส่วนที่บ้านหนองจาน จังหวัดสระแก้ว บรรยาศเงียบเหงา แต่ยังคงมีประชาชนเดินทางนำอาหาร เช่น ไข่ไก่ น้ำดื่ม นำมามอบให้กับทหารแนวหน้า ถึงแม้จะไม่คึกคักเหมือนวันก่อนๆ […]