ศาลไม่ให้ประกัน 3 ชาวจีนแก๊งอุ้มรีดทรัพย์นักธุรกิจ

กรุงเทพฯ 30 ก.ค. – ศาลไม่ให้ประกัน 3 ชาวจีนแก๊งอุ้มนักธุรกิจจีน​ ปล้นนาฬิกาหรู 25 ล้านบาท ชี้เกรงผู้ต้องหาหลบหนี


เมื่อวันที่ 30 กรกฎาคม 2565 ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก พนักงานสอบสวน สน.วังทองหลาง ได้ยื่นคำร้องฝากขังผู้ต้องหาสัญชาติจีน 3 ราย รายที่ 1-3 ปล้นนาฬิกาข้อมือ ยี่ห้อหรู มูลค่า 25,000,000 บาท แจ้งข้อกล่าวหามีความผิดฐาน “ร่วมกันเอาตัวบุคคลอายุกว่าสิบห้าปีไป โดยขู่เข็ญ ใช้กำลังประทุษร้าย หรือใช้วิธีข่มขืนใจด้วยประการอื่นใด, หน่วงเหนี่ยวหรือกักขังบุคคลใดเพื่อให้ได้มาซึ่งค่าไถ่, ปล้นทรัพย์โดยมีอาวุธ โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำผิด หรือพาทรัพย์นั้นไป หรือเพื่อให้พ้นการจับกุม, ร่วมกันข่มขืนใจผู้อื่นให้กระทำการใด ไม่กระทำการใด หรือจำยอมต่อสิ่งใด โดยทำให้กลัวว่าจะเกิดอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย เสรีภาพ หรือทรัพย์สินของผู้ถูกข่มขืนใจ หรือโดยใช้กำลังประทุษร้ายจนผู้ถูกข่มขืนใจต้องกระทำการนั้น ไม่กระทำการนั้น หรือจำยอมต่อสิ่งนั้น, ร่วมกันพาอาวุธไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยเปิดเผย หรือโดยไม่มีเหตุอันควร”

สรุปพฤติการณ์ เมื่อวันที่ 27 ก.ค.65 เวลาประมาณ 14.27 น. ผู้ต้องหาที่ 1 กับพวก ควบคุมตัวชายสัญชาติวานูอาตู เชื้อชาติจีน ผู้เสียหาย ขณะอยู่บริเวณที่จอดรถใต้อาคาร แขวงบางกะปิ เขตห้วยขวาง กรุงเทพมหานคร โดยพาตัวขึ้นไปบนรถยนต์โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ ใช้มีดจี้ผู้เสียหายและพูดข่มขู่ให้โอนเงิน จำนวน 2 ล้านหยวน คิดเป็นเงินไทยจำนวน 10 ล้านบาท แต่ผู้เสียหายไม่ยินยอม ผู้ต้องหาที่ 1-2 จึงร่วมกันใช้เทปกาวพันบริเวณศีรษะของผู้เสียหาย จากนั้นพูดจาข่มขู่ เพื่อบังคับให้ผู้เสียหายส่งมอบนาฬิกาข้อมือ ยี่ห้อริชาร์ด มิลล์ รุ่น 65-01 มูลค่า 25 ล้านบาท และกุญแจรถยนต์ ยี่ห้อเบนซ์ 1 ดอก มูลค่า ราคา 500,000 บาท ผู้เสียหายเกิดความกลัว จึงส่งมอบทรัพย์สินให้กับผู้ต้องหาทั้งสามไป จากนั้นผู้ต้องหาทั้งสามได้ปล่อยตัวผู้เสียหายลงจากรถไว้แถวย่าน อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี โดยก่อนที่จะปล่อยตัวผู้เสียหายลงจากรถ ผู้ต้องหาทั้ง 3 คนได้พูดข่มขู่ว่า “ถ้าไม่โอนเงินให้ภายในคืนนี้ ก็จะมาจับตัวผู้เสียหายพร้อมครอบครัวอีกครั้ง” ภายหลังผู้ต้องหาได้ขับรถหลบหนีไป ผู้เสียหายจึงเดินทางมาพบพนักงานสอบสวน เพื่อร้องทุกข์ดำเนินคดีกับผู้ต้องหาทั้งสาม จนกว่าคดีจะถึงที่สุด


ต่อมาเมื่อวันที่ 27 ก.ค. เวลาประมาณ 18.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนได้ร่วมกันสืบสวนติดตามพบผู้ต้องหาที่ 3 จึงได้นำภาพดังกล่าวให้ผู้เสียหายดู และให้การยืนยันว่า ผู้เสียหายรู้จักกับบุคคลดังกล่าวจริง โดยเป็นบุคคลที่เคยยืมเงินจากผู้เสียหายไป จำนวน 2 ล้านบาท และไม่ยอมใช้คืนแก่ผู้เสียหาย ซึ่งผู้เสียหายเชื่อว่า ผู้ต้องหาที่ 3 เป็นผู้ที่ให้ข้อมูลของผู้เสียหายแก่กลุ่มคนร้าย ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม จึงได้ประสานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง บก.ตม.2 สตม. เพื่อติดตามจับกุมกลุ่มผู้ต้องหาไว้ก่อน ในกรณีที่อาจจะนั่งเครื่องบินหลบหนีออกนอกประเทศ

จนกระทั่งเวลาประมาณ 01.20 น. ของวันที่ 28 ก.ค. เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง กก.สส.ปป.บก.ตม.2 ตรวจสอบพบผู้ต้องหาที่ 3 ได้ผ่านด่าน ตม.ขาออก เพื่อรอขึ้นเครื่องบิน จึงได้ประสานกับสายการบินแห่งหนึ่งจากสนามบินสุวรรณภูมิไปประเทศกาตาร์ เครื่องจะออกบินในเวลา 02.30 น. จึงประสานสายการบินให้ชะลอการบินไว้ก่อน ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.สส.ปป.บก.ตม.6 ได้ร่วมกันขึ้นไปบนเครื่องบิน เชิญตัวผู้ต้องหาทั้งหมดและขอตรวจค้นตัวบุคคลทั้ง 3 คน จนพบนาฬิกาของกลางดังกล่าว เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้งสามส่งพนักงานสอบสวน สน. วังทองหลาง เพื่อสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

เหตุเกิดที่อาคาร 1 แขวงบางกะปิ เขตห้วยขวาง กทม. ชั้นสอบสวน ผู้ต้องหาที่ 1-3 ขอให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหาทุกข้อกล่าวหา การกระทำของผู้ต้องหาเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 309 วรรคสอง, 310, 313 (2) (3), 340 วรรคสอง, 340 ตรี, 371 ประกอบมาตรา 83


พนักงานสอบสวนได้ทำการสอบสวนและควบคุมตัวผู้ต้องหามาโดยตลอด จนครบกำหนดควบคุมตัว 48 ชั่วโมง หากแต่การสอบสวนยังไม่เสร็จสิ้น เนื่องจากจะต้องสอบสวนพยานเพิ่มเติมอีก 5 ปาก รอผลการตรวจพิสูจน์เปรียบเทียบวัตถุพยานจากกองพิสูจน์หลักฐานกลาง รอผลการตรวจลายพิมพ์นิ้วมือและประวัติการต้องโทษของผู้ต้องหาจากกองทะเบียนประวัติอาชญากร ด้วยเหตุผลและความจำเป็นดังกล่าวข้างต้น จึงขออนุญาตศาลฝากขังผู้ต้องหาไว้ในระหว่างการสอบสวน มีกำหนด 12 วัน นับแต่วันที่ 30 ก.ค.-10 ส.ค.65

ท้ายคำร้อง พนักงานสอบสวนระบุว่า หากผู้ต้องหาทั้งสามยื่นคำร้องขอปล่อยตัวชั่วคราวในชั้นศาล พนักงานสอบสวนขอคัดค้านการประกันตัว ด้วยเหตุที่เป็นคดีมีอัตราโทษสูง และผู้ต้องหาเป็นบุคคลต่างด้าว เกรงว่ามีพฤติการณ์จะหลบหนี ภายหลังเสร็จสิ้นกระบวนการฝากขัง โดยศาลอาญาอนุญาตฝากขังผู้ต้องหาชาวจีนทั้ง 3 คนแล้ว ต่อมาผู้ต้องหาทั้ง 3 คน ได้ยื่นคำร้องพร้อมหลักทรัพย์เป็นเงินสดรวมกว่า 1 ล้านบาท ขอปล่อยชั่วคราว ศาลอาญาพิเคราะห์ความหนักเบาแห่งข้อหาและพฤติการณ์แห่งคดีตามคำร้องฝากขังแล้ว เห็นว่า ผู้ต้องหาทั้งสามเป็นบุคคลต่างด้าว ไม่มีภูมิลำเนาในราชอาณาจักร หรือที่อยู่เป็นหลักแหล่ง ประกอบกับผู้ร้องคัดค้าน กรณีจึงมีเหตุอันควรเชื่อได้ว่า หากอนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวแล้ว ผู้ต้องหาทั้งสามน่าจะหลบหนี จึงไม่อนุญาตให้ปล่อยชั่วคราว ให้ยกคำร้อง. – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่มซิ่งกระบะชนเสาไฟฟ้าล้มขวางถนน 12 ต้น

ชลบุรี 28 ก.ย. – หนุ่มซิ่งกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรตลอดทั้งวัน คาดจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) รถกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน ต.บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น เป็นเสาไฟฟ้าแรงสูง 6 ต้น เสาไฟฟ้าสูง 12 เมตร อีก 6 ต้น ระยะทาง 500 เมตร โชคดีนายสิทธิพงษ์ อายุ 41 ปี คนขับ บาดเจ็บเล็กน้อย แต่ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรบนถนนสายบึง-บ่อวิน ตลอดทั้งวัน คาดว่าจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) จากการสอบสวนทราบว่า นายสิทธิพงษ์ เพิ่งเลิกงาน ขับรถกลับบ้านด้วยความเร็ว อาจหลับใน ทำให้รถเปลี่ยนเลนข้ามไปชนกับเสาไฟฟ้าอีกฝั่ง ส่วนความเสียหายยังประเมินค่าไม่ได้.-สำนักข่าวไทย

“อนุทิน” ร่วมงานศพพ่อ “อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้า ภท.

ราชบุรี 28 ก.ย.- “อนุทิน” ร่วมสวดอภิธรรมศพพ่อ “สส.อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้าภูมิใจไทย ลั่นได้ส่งจิตขออนุญาตคุณพ่อแล้ว นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตาีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วยนายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายศักดา วิเชียรศิลป์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นายสรอรรถ กลิ่นประทุม อดีต สส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย ได้ร่วมไว้อาลัยและสวดอภิธรรมศพ คุณพ่อวุฒิพงศ์ วงษ์พิทักษ์โรจน์ บิดาของนายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สส.ราชบุรี พรรครวมไทยสร้างชาติ เมื่อค่ำวันที่ 27 ก.ย. ที่จังหวัดราชบุรี โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี หัวหน้าส่วนราชการ และประชาชนกว่า 2,000 ร่วมพิธีโดยเป็นการสวดอภิธรรมเป็นคืนที่ 4 และจะมีพิธีบรรจุศพในวันที่ 30 ก.ย. นี้ ในช่วงท้าย นายอนุทิน ได้กล่าวกับผู้ที่ร่วมสวดอภิธรรมศพ ว่า ตนเองมีความสนิทสนมกับ นายอัครเดช มาหลายปีแล้ว นายอัครเดชเป็นคนมีความวิริยะอุสาหะ ตั้งใจทำงานให้พี่น้องประชาชน ตนมีความชื่นชมและศรัทธา ในความขัยนขันแข็งของท่าน ยิ่งไปกว่านั้นการปฏิบัติหน้าที่ในสภาผู้แทนราษฎร ท่านก็ทำหน้าที่ได้ดีเป็นดาวสภา […]

โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA

กรุงเทพฯ 28 ก.ย. – โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA หลัง “อนุทิน” มอบดาบการทูตสู้กัมพูชา ขณะนายกฯ ย้ำยึดสันติในการแก้ปัญหา เพื่อประโยชน์ของประเทศ ภายหลังจากที่นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวในเวทีการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ หรือ UNGA สมัยสามัญ ครั้งที่ 80 ที่นครนิวยอร์ก ทำให้กระแสโซเชียลในประเทศไทย พึงพอใจกับการทำหน้าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ในรัฐบาลของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี เป็นอย่างมาก ทั้งนี้ การเดินทางไปเวที UNGA ของนายสีหศักดิ์ ครั้งนี้ยึดแนวทางแก้ปัญหาความมั่นคงและการต่างประเทศ ที่นายอนุทิน มอบหมายให้ดำเนินการ โดยใช้มาตรการทางการทหารควบคู่กับการทูต เพื่อรักษาอธิปไตยอย่างสันติ เพื่อผลประโยชน์ของประชาชน โดยเฉพาะในกรณีพิพาทไทย-กัมพูชา ขณะที่นายอนุทิน เชื่อว่า การกล่าวถ้อยแถลงในที่ประชุม UNGA ของนายสีหศักดิ์ ทำให้คนไทยมีความเชื่อมั่นอย่างชัดเจนต่อจุดยืนของรัฐบาล สำหรับนโยบาย 4 เดือน 4 ภารกิจหลัก คืนความมั่นใจให้ประเทศไทย ตามนโยบายรัฐบาลของนายอนุทิน […]

กรมอุตุฯ เตือนฝนถล่มทั่วไทย รับมืออิทธิพลพายุบัวลอย

กทม. 28 ก.ย.- กรมอุตุฯ เตือนทั่วไทยรับมือฝนถล่ม อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง จับตาอิทธิพลพายุไต้ฝุ่น “บัวลอย” คาดเคลื่อนขึ้นฝั่งเวียดนามตอนบน พรุ่งนี้ (29 ก.ย.) กรมอุตุนิยมวิทยาเผยประเทศไทยมีฝนตกหนักหลายพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออก โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดสกลนคร นครพนม อุดรธานี ขอนแก่น กาฬสินธุ์ มุกดาหาร จันทบุรี และตราด ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่าน พื้นที่ลุ่ม และพื้นที่น้ำท่วมขัง เนื่องจากร่องมรสุมกำลังแรงพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังแรง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง พายุไต้ฝุ่น […]

ข่าวแนะนำ

สีสัน! อภิปรายนโยบายรัฐบาลวันแรก

29 ก.ย.- การแถลงนโยบายรัฐบาลวันนี้ เหมือนเป็นการซ้อมศึกซักฟอกย่อย เพราะมีการตอบโต้และตั้งฉายามากมาย ติดตามสีสันการอภิปรายนโยบายฯ วันแรก .-สำนักข่าวไทย

เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดฝนหนักคืนนี้

29 ก.ย.- หลายพื้นที่เฝ้าระวังฝนตกหนัก จากอิทธิพล #พายุบัวลอย เชียงใหม่เปิดประตูระบายน้ำทุกจุด เร่งระบายน้ำปิงลงทะเลสาบดอยเต่า พร่องน้ำในเขื่อนแม่งัดฯ เตรียมรับน้ำฝน คาดตกหนักคืนนี้ ขณะที่ จ.นครราชสีมา น้ำล้นสปิลเวย์ เตือนประชาชนระวังน้ำท่วมฉับพลัน พายุฝนตกกระหน่ำหลายพื้นที่จังหวัดสระแก้ว โดยพื้นที่ ต.บ้านแก้ง อ.เมืองสระแก้ว นายก อบต.บ้านแก้ง พร้อมผู้นำชุมชน และอาสาสมัครกู้ภัย ได้นำเรือเครื่องยนต์ท้องแบน เข้าช่วยเหลือ ตาชู-ยายทองคำ และสุนัข 1 ตัว ออกจากบ้านที่โดนน้ำป่าไหลหลาก เข้าท่วมเกือบมิดหลังคา  มาอยู่ในที่ปลอดภัย ยายทองคำ เล่าว่าเมื่อคืนพักอยู่กับตาและหมา กำลังจะเข้านอนแต่ก็มีฝนตกตลอดทั้งคืน น้ำที่คลองก็ยังไม่เห็นว่าจะขึ้นล้นตลิ่งเท่าไร แต่ก็กังวล จึงเฝ้าดูกระทั่งน้ำไหลมาและเข้าท่วม ตกใจ จึงได้นำสุนัขขึ้นบนบ้าน ส่วนข้าวของก็เก็บไม่ทัน จากนั้นจึงอยู่แต่บนบ้านจนถึงเช้า กู้ภัยมาช่วยนำออกมาจากบ้าน อยู่มาหลายสิบปีไม่เคยเจอแบบนี้มาก่อนเลย  ผู้ว่าฯ เชียงใหม่ เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดตกหนักคืนนี้ เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา หลายพื้นที่เชียงใหม่ เริ่มมีฝนตกลงมาบ้างแล้ว ระดับน้ำในลำน้ำปิงที่ไหลผ่านตัวเมืองเชียงใหม่ ที่จุดวัดพี1 เชิงสะพานนวรัฐ ยังอยู่ที่ 2 เมตร 49 เซนติเมตร ต่ำกว่าจุดวิกฤติแจ้งเตือนที่ […]

แถลงนโยบายวันแรกเดือด ประท้วงกันวุ่น

29 ก.ย.- สภาเดือด! แถลงนโยบายรัฐบาลวันแรก อภิปรายตอบโต้-ประท้วงกันเป็นระยะ เมื่อมีการพาดพิงปมเขากระโดง-ฮั้ว สว. แต่ประธานฯ คุมสถานการณ์ได้ ด้านนายกฯ ไม่กังวลวาทกรรมของฝ่ายค้าน ชี้ประเด็นซ้ำๆ และมีการแถลงข้อเท็จจริงไปแล้ว -สำนักข่าวไทย

ฝ่าดงทุ่นระเบิดเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก “ผลักดัน-รื้อถอน”

29 ก.ย.- ทหารเรือฝ่าดงทุ่นระเบิดเข้าเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก จ.ตราด ผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้าม-รื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง 3 หลัง รุกล้ำเขตอธิปไตยไทย ขณะที่ชาวบ้านหนองจาน จ.สระแก้ว นำอาหารมอบให้ทหารแนวหน้า ยังไม่พบความเคลื่อนไหวผิดปกติ พลเรือเอก จิรพล ว่องวิทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ และพลเรือเอก ไพโรจน์ เฟื่องจันทร์ ว่าที่ ผู้บัญชาการทหารเรือ คนใหม่ มอบหมายพลเรือโทอภิชาติ ทรัพย์ประเสริฐ ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน และผู้บัญชาการกองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรี-ตราด (กกล.กปช.จต.) เข้าเคลียร์พื้นที่ชายแดนบ้านชำราก อันเป็นอธิปไตยของไทย โดยหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินตราด กองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรีตราด จึงได้ผลักดันกองกำลังกัมพูชา ออกจากพื้นที่บริเวณตรงข้ามบ้านหนองรี ตำบลชำราก ไม่มีกำลังฝ่ายกัมพูชาวางกำลังแล้ว ผลจากการปฏิบัติการ บรรลุเป้าหมายสำคัญ คือ สามารถทำลายสิ่งปลูกสร้างทั้ง 3 หลังลงได้อย่างสิ้นเชิง ที่สำคัญที่สุดคือ สามารถผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้ามให้ออกจากพื้นที่รุกล้ำได้อย่างสมบูรณ์ ประชาชนนำอาหารมอบทหารแนวหน้า บ้านหนองจาน จ.สระแก้ว ส่วนที่บ้านหนองจาน จังหวัดสระแก้ว บรรยาศเงียบเหงา แต่ยังคงมีประชาชนเดินทางนำอาหาร เช่น ไข่ไก่ น้ำดื่ม นำมามอบให้กับทหารแนวหน้า ถึงแม้จะไม่คึกคักเหมือนวันก่อนๆ […]