เหยื่อบุฟเฟ่ต์แซลมอนดังร้องทนาย ถูกหลอกขายคูปองก่อนปิดร้านหนี

กรงเทพฯ 19 มิ.ย. – เหยื่อบุฟเฟ่ต์แซลมอนเจ้าดังตบเท้าเข้าพบทนาย หลังโดนหลอกขายคูปองราคาถูก แต่กลับปิดร้านหนี แถมเพจเฟซบุ๊กปลิวหาย ติดต่อเจ้าของไม่ได้ ด้านผู้จัดการร้านยันพนักงานและเจ้าของแฟรนไชส์ไม่รู้เรื่อง ขณะที่ สคบ.แนะผู้เสียหายเก็บหลักฐาน-แจ้งสายด่วน 1166


เมื่อลูกค้าหลายรายที่ซื้อ Voucher หรือคูปองร้านบุฟเฟ่ต์ดังซึ่งมีอยู่ 27 สาขา ในห้างดังต่าง ๆ จะเข้าไปใช้บริการแต่กลับพบว่าร้านปิด โดยมีกระดาษพิมพ์ข้อความแปะประตูร้านว่า “ปรับปรุงระบบ” หลายคนได้สอบถามและพูดคุยในกลุ่มเฟซบุ๊กจนทราบว่าร้านดังกล่าวทุกสาขาปิดร้านโดยไม่มีกำหนด และไม่มีการแจ้งล่วงหน้า แม้กระทั่งพนักงาน สร้างความเสียหายทั้งลูกค้าที่ซื้อ Voucher นักลงทุนที่ซื้อแฟรนไชส์ไปเปิดสาขา รวมถึงพนักงานเกือบ 300 คน ที่ยังไม่รู้ว่าจะได้รับเงินเดือนหรือไม่

วันนี้กลุ่มผู้เสียหายซึ่งเป็นลูกค้าที่ซื้อ Voucher ล่วงหน้าจากร้านดังกล่าว จำนวน 10 คน จากทั้งหมดกว่า 6,000 คน โดยมีทั้งผู้ที่ซื้อไว้เพื่อไปกินเอง และซื้อเพื่อนำไปขายต่อทำกำไร นำหลักฐานการซื้อและสลิปโอนเงินเข้าร้องขอความช่วยเหลือจากนายรัชพล ศิริสาคร ทนายความ ที่ จ.นนทบุรี


หนึ่งในผู้เสียหายคือ น.ส.เจน บอกว่าตนเองเป็นทั้งลูกค้าและเป็นผู้จำหน่ายคูปองให้กับลูกค้าคนอื่น ๆ เนื่องจากเห็นว่าธุรกิจนี้ทำกำไรได้ จึงนำเงินของครอบครัวไปลงทุนซื้อคูปอง Voucher จำนวน 2,628 ใบ ราคาใบละ 212.93 บาท รวมเป็นเงิน 559,380 บาท เพื่อขายให้กับลูกค้าในเพจของตน ราคาใบละ 240 บาท ได้กำไร 27 บาทต่อใบ แต่หากลูกค้าโดยตรงกับทางร้านจะต้องจ่ายในราคาใบละ 299 บาท ตนทำธุรกิจนี้มาแล้วกว่า 2 ปี กระทั่งทราบว่าร้านปิดทุกสาขา จึงติดต่อไปหาลูกค้าที่ซื้อ Voucher จากตนเองไป เพื่อโอนเงินคืนให้ ซึ่งตนโอนเงินคืนไปแล้ว 40 ราย และได้สอบถามผู้จัดการร้าน ทราบว่าเจ้าของบริษัทเป็นหนี้สินหลายทาง ทั้งค่าปลาแซลมอน ค่าเช่าร้าน

ส่วนนายปรัชญิล บอกว่า ตนเองเป็นลูกค้าประจำของร้านนี้ คอยติดตามโปรโมชันเพื่อซื้อคูปองหลายครั้ง ล่าสุดทางร้านประกาศขายในราคา 199 บาทต่อใบ แต่มีข้อจำกัดว่าต้องซื้อ 5 ใบ ตนจึงซื้อไว้ 10 ใบ แต่ได้ใช้ไป 6 ใบเท่านั้น

ด้านนายรัชพล ศิริสาคร ทนายความ เปิดเผยว่า ผู้เสียหายที่เดินทางมาวันนี้มีทั้งลูกค้าที่ซื้อคูปอง และผู้ที่ทำธุรกิจกับร้านบุฟเฟ่ต์ เข้ามาขอคำปรึกษา หาช่องทางกฎหมายเอาผิดกับเจ้าของบริษัท หลังจากพูดคุยกับผู้เสียหายได้แนะนำให้แจ้งความจึงจะสามารถดำเนินคดีได้ โดยเฉพาะคดีแพ่ง สามารถฟ้องเรียกค่าเสียหายได้ ส่วนคดีอาญาต้องดูที่เจตนาของเจ้าของบริษัทว่าเขามีเจตนาฉ้อโกงประชาชนหรือไม่ หรือผิด พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ หรือไม่ ซึ่งอัตราโทษจำคุก 5 ปี ปรับไม่เกิน 100,000 บาท ย้ำว่าผู้เสียหายสามารถแจ้งความได้ที่ Thai Police.com


ผู้จัดการร่ายยาวยันพนักงาน-เจ้าของแฟรนไชส์ไม่รู้เรื่อง
อย่างไรก็ตาม หลังเป็นกระแสดราม่า ผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งซึ่งระบุว่าตนเองคือหนึ่งในผู้จัดการสาขาของร้านดังกล่าว ยืนยันว่าพนักงานร้านและเจ้าของแฟรนไชส์ไม่รู้มาก่อนว่าจะเกิดเรื่องแบบนี้ จู่ ๆ เจ้าของบริษัทดีดตัวเองออกจากไลน์กลุ่มทั้งหมด ติดต่อไม่ได้ ตนและคนอื่น ๆ เพิ่งทราบเรื่องเช้าวันที่ 17 มิถุนายน ที่เจ้าของบริษัทออกจากกลุ่มไลน์ทั้งหมด ไม่มีใครติดต่อได้ ทางกลุ่มผู้จัดการจึงปรึกษากันว่าจะทำอย่างไรต่อ ก่อนจะได้มติว่าปิดให้บริการ 1 วัน เพราะยังมีความหวังว่าจะติดต่อเจ้าของบริษัทได้

คำตอบที่ว่า “ระบบส่วนกลางล่ม” เป็นคำตอบที่คิดขึ้นได้ในขณะนั้นที่ทางลูกค้ากระหน่ำโทรเข้ามาสอบถาม เพราะไม่รู้ว่าจะให้คำตอบอย่างไรดี ถ้าตอบว่าติดต่อผู้บริหารไม่ได้กลัวจะมีผลต่อหน้าที่การงานในอนาคต ที่ปิดทุกสาขาเป็นการตัดสินใจเฉพาะหน้าของกลุ่มผู้จัดการ เพราะซัพพลายเออร์ไม่ส่งวัตถุดิบให้ แถมบริษัทยังมีหนี้เก่าค้าง

บริษัทไม่มีทีมบริหาร ไม่มีฝ่ายบุคคล-บัญชี หรือทีมบริหาร การตัดสินใจทั้งหมดอยู่ที่เจ้าของบริษัทแต่เพียงผู้เดียว พอเจ้าของไปก็ล้มทั้งระบบ ผู้จัดการสาขารายนี้ยังแนะนำลูกค้าที่ซื้อคูปองที่กังวลว่าจะถูกฉ้อโกงให้ไปแจ้งความได้เลย ไม่ต้องโทรเข้าสาขา เพราะพนักงานไม่มีคำตอบให้แม้แต่อนาคตของตัวเอง

นอกจากนี้ผู้จัดการสาขายังฝากไปถึงเจ้าของบริษัทที่ตนเองเรียกว่า “บอส” ว่าถ้าบอสได้มาอ่านอยากให้มาแก้ปัญหา เผชิญความจริง เชื่อว่าเรื่องนี้มีทางออกที่ดีกว่านี้ ตนยังไม่ลืมวิกฤติโควิด-19 รอบแรกที่ได้มาทำงานกับบริษัทนี้ บอสอ้าแขนรับไว้ เป็นเจ้านายที่ดีมาก ๆ ตนรู้ว่าบริษัทไม่ได้มีกำไร บอสพูดเสมอว่าสู้เพื่อลูกน้อง เพื่อให้มีการจ้างงาน จนถึงวันนี้ยังไม่มีความโกรธเกลียด ยังรักเหมือนเดิม

สคบ.แนะผู้เสียหายเก็บหลักฐาน-แจ้งสายด่วน 1166
ด้านสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค หรือ สคบ. ระบุว่า กรณีดังกล่าวถือว่าเข้าข่ายความผิดด้านสัญญาที่ชัดเจน เพราะขาย Voucher แล้วเปิดให้บริการไม่ได้ โดย สคบ. จะเรียกเจ้าของร้านบุฟเฟ่ต์แซลมอนชื่อดังมาชี้แจงข้อเท็จจริง รวมถึงรายละเอียดของเรื่องดังกล่าว ในวันที่ 20 มิ.ย.นี้ ผู้บริโภคที่ได้รับความเสียหายจากการซื้อคูปองล่วงหน้า (E-Voucher) ของร้านดังกล่าว ให้เก็บหลักฐานเอกสารที่เกี่ยวข้อง อาทิ หลักฐานการคุยกันในแอปฯ หรือแชต หากชำระเงินผ่านบัตรเครดิตให้ติดต่อที่ธนาคารเจ้าของบัตร เพื่อขอเงินคืนโดยด่วน หรือร้องเรียนมาที่ https://complaint.ocpb.go.th/ หรือสายด่วน 1166 (ในวันและเวลาราชการ)

ด้านเจ้าของบริษัท IT Provider ที่ร้านดังกล่าวว่าจ้างให้สร้างและพัฒนาแอปฯ โพสต์ข้อความระบุว่า หลังจากเห็นข่าวหลายช่อง และทาง สคบ. ให้ทุกท่านที่เกี่ยวข้องส่งข้อมูลที่เป็นประโยชน์ทันที จึงได้ติดต่อสายด่วนไปเพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ แต่ปิด จึงได้ไปสถานีตำรวจเพื่อลงบันทึกประจำวันแล้ว และพร้อมส่งมอบข้อมูลทันที ตอนนี้ร้านดังกล่าวไม่มี E-Voucher แล้ว ตัวเลขคูปองจะโชว์ในแอปฯ หากท่านใด log out จะกลายเป็นศูนย์ หลักฐานจะหายไป และ log in ไม่ได้ เนื่องจากระบบปิดหมด เพราะเกรงคนจะซื้อเพิ่ม และจะมีผู้เสียหายเพิ่มเติม พร้อมเผยรู้สึกตกใจ เพราะไม่เคยเจอเหตุการณ์แบบนี้ และยินดีแสดงความบริสุทธิ์ใจว่าไม่ได้มีส่วนร่วม พร้อมส่งมอบข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ หรือ สคบ.

เหยื่อบุฟเฟ่ต์ทิพย์ทยอยแจ้งความ
ผู้เสียหายอีกกลุ่ม จำนวน 11 คน ซึ่งอยู่ใน จ.สมุทรปราการ รวมตัวเข้าแจ้งความกับตำรวจ สภ.สำโรงเหนือ เพื่อให้ดำเนินคดีกับเจ้าของแฟรนไชส์ และคนขายแฟรนไชส์ ซึ่งก็คือเจ้าของบริษัท หลังซื้อคูปองออนไลน์ในราคาใบละ 199 บาท คนละหลายใบ แต่ตอนนี้ทุกสาขาปิดหมด ทำให้กังวลว่าคูปองจะสามารถใช้ได้อีกหรือไม่

นางสาวจุฑามาศ อายุ 40 ปี เปิดเผยว่า ตนเองซื้อคูปองผ่านแอปพลิเคชัน ในราคา 199 บาท โดยคูปองมีอายุประมาณ 6 เดือน ผู้เสียหายทุกคนที่เดินทางมาในวันนี้โดนไม่ต่ำกว่าคนละ 5 ใบ เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาตนได้โทรไปที่สาขาเพื่อจองคิวเข้าใช้บริการ แต่ติดต่อไม่ได้ โทรไปสาขาอื่น ๆ ก็ไม่มีใครรับโทรศัพท์เช่นกัน ตนเองจึงเข้าไปดูที่เพจเฟซบุ๊กของร้าน พบว่าเพจถูกปิดเช่นกัน จึงรวมตัวกับผู้เสียหายใน จ.สมุทรปราการ มาแจ้งความ

นอกจากที่มาวันนี้ยังมีผู้เสียหายคนอื่น ๆ ในกรุ๊ปไลน์อีกมากกว่า 60 คน พร้อมเผยการแจ้งความวันนี้ไม่ได้หวังเงินคืน แต่อยากเรียกร้องความยุติธรรมให้กับผู้บริโภค หลังจากนี้จะรวมตัวนำหลักฐานเข้าไปแจ้งร้องทุกข์ สคบ. อีกครั้ง.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่มซิ่งกระบะชนเสาไฟฟ้าล้มขวางถนน 12 ต้น

ชลบุรี 28 ก.ย. – หนุ่มซิ่งกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรตลอดทั้งวัน คาดจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) รถกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน ต.บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น เป็นเสาไฟฟ้าแรงสูง 6 ต้น เสาไฟฟ้าสูง 12 เมตร อีก 6 ต้น ระยะทาง 500 เมตร โชคดีนายสิทธิพงษ์ อายุ 41 ปี คนขับ บาดเจ็บเล็กน้อย แต่ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรบนถนนสายบึง-บ่อวิน ตลอดทั้งวัน คาดว่าจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) จากการสอบสวนทราบว่า นายสิทธิพงษ์ เพิ่งเลิกงาน ขับรถกลับบ้านด้วยความเร็ว อาจหลับใน ทำให้รถเปลี่ยนเลนข้ามไปชนกับเสาไฟฟ้าอีกฝั่ง ส่วนความเสียหายยังประเมินค่าไม่ได้.-สำนักข่าวไทย

“อนุทิน” ร่วมงานศพพ่อ “อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้า ภท.

ราชบุรี 28 ก.ย.- “อนุทิน” ร่วมสวดอภิธรรมศพพ่อ “สส.อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้าภูมิใจไทย ลั่นได้ส่งจิตขออนุญาตคุณพ่อแล้ว นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตาีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วยนายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายศักดา วิเชียรศิลป์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นายสรอรรถ กลิ่นประทุม อดีต สส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย ได้ร่วมไว้อาลัยและสวดอภิธรรมศพ คุณพ่อวุฒิพงศ์ วงษ์พิทักษ์โรจน์ บิดาของนายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สส.ราชบุรี พรรครวมไทยสร้างชาติ เมื่อค่ำวันที่ 27 ก.ย. ที่จังหวัดราชบุรี โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี หัวหน้าส่วนราชการ และประชาชนกว่า 2,000 ร่วมพิธีโดยเป็นการสวดอภิธรรมเป็นคืนที่ 4 และจะมีพิธีบรรจุศพในวันที่ 30 ก.ย. นี้ ในช่วงท้าย นายอนุทิน ได้กล่าวกับผู้ที่ร่วมสวดอภิธรรมศพ ว่า ตนเองมีความสนิทสนมกับ นายอัครเดช มาหลายปีแล้ว นายอัครเดชเป็นคนมีความวิริยะอุสาหะ ตั้งใจทำงานให้พี่น้องประชาชน ตนมีความชื่นชมและศรัทธา ในความขัยนขันแข็งของท่าน ยิ่งไปกว่านั้นการปฏิบัติหน้าที่ในสภาผู้แทนราษฎร ท่านก็ทำหน้าที่ได้ดีเป็นดาวสภา […]

โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA

กรุงเทพฯ 28 ก.ย. – โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA หลัง “อนุทิน” มอบดาบการทูตสู้กัมพูชา ขณะนายกฯ ย้ำยึดสันติในการแก้ปัญหา เพื่อประโยชน์ของประเทศ ภายหลังจากที่นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวในเวทีการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ หรือ UNGA สมัยสามัญ ครั้งที่ 80 ที่นครนิวยอร์ก ทำให้กระแสโซเชียลในประเทศไทย พึงพอใจกับการทำหน้าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ในรัฐบาลของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี เป็นอย่างมาก ทั้งนี้ การเดินทางไปเวที UNGA ของนายสีหศักดิ์ ครั้งนี้ยึดแนวทางแก้ปัญหาความมั่นคงและการต่างประเทศ ที่นายอนุทิน มอบหมายให้ดำเนินการ โดยใช้มาตรการทางการทหารควบคู่กับการทูต เพื่อรักษาอธิปไตยอย่างสันติ เพื่อผลประโยชน์ของประชาชน โดยเฉพาะในกรณีพิพาทไทย-กัมพูชา ขณะที่นายอนุทิน เชื่อว่า การกล่าวถ้อยแถลงในที่ประชุม UNGA ของนายสีหศักดิ์ ทำให้คนไทยมีความเชื่อมั่นอย่างชัดเจนต่อจุดยืนของรัฐบาล สำหรับนโยบาย 4 เดือน 4 ภารกิจหลัก คืนความมั่นใจให้ประเทศไทย ตามนโยบายรัฐบาลของนายอนุทิน […]

กรมอุตุฯ เตือนฝนถล่มทั่วไทย รับมืออิทธิพลพายุบัวลอย

กทม. 28 ก.ย.- กรมอุตุฯ เตือนทั่วไทยรับมือฝนถล่ม อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง จับตาอิทธิพลพายุไต้ฝุ่น “บัวลอย” คาดเคลื่อนขึ้นฝั่งเวียดนามตอนบน พรุ่งนี้ (29 ก.ย.) กรมอุตุนิยมวิทยาเผยประเทศไทยมีฝนตกหนักหลายพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออก โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดสกลนคร นครพนม อุดรธานี ขอนแก่น กาฬสินธุ์ มุกดาหาร จันทบุรี และตราด ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่าน พื้นที่ลุ่ม และพื้นที่น้ำท่วมขัง เนื่องจากร่องมรสุมกำลังแรงพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังแรง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง พายุไต้ฝุ่น […]

ข่าวแนะนำ

สีสัน! อภิปรายนโยบายรัฐบาลวันแรก

29 ก.ย.- การแถลงนโยบายรัฐบาลวันนี้ เหมือนเป็นการซ้อมศึกซักฟอกย่อย เพราะมีการตอบโต้และตั้งฉายามากมาย ติดตามสีสันการอภิปรายนโยบายฯ วันแรก .-สำนักข่าวไทย

เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดฝนหนักคืนนี้

29 ก.ย.- หลายพื้นที่เฝ้าระวังฝนตกหนัก จากอิทธิพล #พายุบัวลอย เชียงใหม่เปิดประตูระบายน้ำทุกจุด เร่งระบายน้ำปิงลงทะเลสาบดอยเต่า พร่องน้ำในเขื่อนแม่งัดฯ เตรียมรับน้ำฝน คาดตกหนักคืนนี้ ขณะที่ จ.นครราชสีมา น้ำล้นสปิลเวย์ เตือนประชาชนระวังน้ำท่วมฉับพลัน พายุฝนตกกระหน่ำหลายพื้นที่จังหวัดสระแก้ว โดยพื้นที่ ต.บ้านแก้ง อ.เมืองสระแก้ว นายก อบต.บ้านแก้ง พร้อมผู้นำชุมชน และอาสาสมัครกู้ภัย ได้นำเรือเครื่องยนต์ท้องแบน เข้าช่วยเหลือ ตาชู-ยายทองคำ และสุนัข 1 ตัว ออกจากบ้านที่โดนน้ำป่าไหลหลาก เข้าท่วมเกือบมิดหลังคา  มาอยู่ในที่ปลอดภัย ยายทองคำ เล่าว่าเมื่อคืนพักอยู่กับตาและหมา กำลังจะเข้านอนแต่ก็มีฝนตกตลอดทั้งคืน น้ำที่คลองก็ยังไม่เห็นว่าจะขึ้นล้นตลิ่งเท่าไร แต่ก็กังวล จึงเฝ้าดูกระทั่งน้ำไหลมาและเข้าท่วม ตกใจ จึงได้นำสุนัขขึ้นบนบ้าน ส่วนข้าวของก็เก็บไม่ทัน จากนั้นจึงอยู่แต่บนบ้านจนถึงเช้า กู้ภัยมาช่วยนำออกมาจากบ้าน อยู่มาหลายสิบปีไม่เคยเจอแบบนี้มาก่อนเลย  ผู้ว่าฯ เชียงใหม่ เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดตกหนักคืนนี้ เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา หลายพื้นที่เชียงใหม่ เริ่มมีฝนตกลงมาบ้างแล้ว ระดับน้ำในลำน้ำปิงที่ไหลผ่านตัวเมืองเชียงใหม่ ที่จุดวัดพี1 เชิงสะพานนวรัฐ ยังอยู่ที่ 2 เมตร 49 เซนติเมตร ต่ำกว่าจุดวิกฤติแจ้งเตือนที่ […]

แถลงนโยบายวันแรกเดือด ประท้วงกันวุ่น

29 ก.ย.- สภาเดือด! แถลงนโยบายรัฐบาลวันแรก อภิปรายตอบโต้-ประท้วงกันเป็นระยะ เมื่อมีการพาดพิงปมเขากระโดง-ฮั้ว สว. แต่ประธานฯ คุมสถานการณ์ได้ ด้านนายกฯ ไม่กังวลวาทกรรมของฝ่ายค้าน ชี้ประเด็นซ้ำๆ และมีการแถลงข้อเท็จจริงไปแล้ว -สำนักข่าวไทย

ฝ่าดงทุ่นระเบิดเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก “ผลักดัน-รื้อถอน”

29 ก.ย.- ทหารเรือฝ่าดงทุ่นระเบิดเข้าเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก จ.ตราด ผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้าม-รื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง 3 หลัง รุกล้ำเขตอธิปไตยไทย ขณะที่ชาวบ้านหนองจาน จ.สระแก้ว นำอาหารมอบให้ทหารแนวหน้า ยังไม่พบความเคลื่อนไหวผิดปกติ พลเรือเอก จิรพล ว่องวิทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ และพลเรือเอก ไพโรจน์ เฟื่องจันทร์ ว่าที่ ผู้บัญชาการทหารเรือ คนใหม่ มอบหมายพลเรือโทอภิชาติ ทรัพย์ประเสริฐ ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน และผู้บัญชาการกองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรี-ตราด (กกล.กปช.จต.) เข้าเคลียร์พื้นที่ชายแดนบ้านชำราก อันเป็นอธิปไตยของไทย โดยหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินตราด กองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรีตราด จึงได้ผลักดันกองกำลังกัมพูชา ออกจากพื้นที่บริเวณตรงข้ามบ้านหนองรี ตำบลชำราก ไม่มีกำลังฝ่ายกัมพูชาวางกำลังแล้ว ผลจากการปฏิบัติการ บรรลุเป้าหมายสำคัญ คือ สามารถทำลายสิ่งปลูกสร้างทั้ง 3 หลังลงได้อย่างสิ้นเชิง ที่สำคัญที่สุดคือ สามารถผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้ามให้ออกจากพื้นที่รุกล้ำได้อย่างสมบูรณ์ ประชาชนนำอาหารมอบทหารแนวหน้า บ้านหนองจาน จ.สระแก้ว ส่วนที่บ้านหนองจาน จังหวัดสระแก้ว บรรยาศเงียบเหงา แต่ยังคงมีประชาชนเดินทางนำอาหาร เช่น ไข่ไก่ น้ำดื่ม นำมามอบให้กับทหารแนวหน้า ถึงแม้จะไม่คึกคักเหมือนวันก่อนๆ […]