ตร.เเถลงสรุปสำนวนคดี “เเตงโม” เกิดจากความประมาทของบุคคลอื่น

กรุงเทพฯ 26 เม.ย.- ตำรวจเเถลงสรุปสำนวนคดี “เเตงโม” สั่งฟ้อง 6 ผู้ต้องหา พร้อมเปิดคลิปนาทีตกเรือ ย้ำเกิดจากความประมาทของบุคคลอื่น ทำให้ “เเตงโม” เสียชีวิต ไม่ใช่การฆาตกรรม โดยตกจากท้ายเรือ บาดแผลเข้ากันได้กับใบพัดเรือ ส่วนปัสสาวะท้ายเรือหรือไม่ ไม่สามารถบอกได้


วันนี้ (26 เม.ย.65) ห้องประชุมอมรวิวัฒน์ อาคารอเนกประสงค์ กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 พล.ต.ท.จิรพัฒน์ ภูมิจิตร ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 พร้อมคณะ เเถลงสรุปสำนวนคดีการเสียชีวิตของ น.ส.ภัทรธิดา พัชรวีระพงษ์ หรือ “เเตงโม นิดา” นักเเสดงสาว

คดีนี้เป็นคดีที่ประชาชนให้ความสนใจ จึงมีคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการสืบสวนสอบสวน โดยมีการสอบสวนพยานบุคคล พยานเอกสาร พยานวัตถุ ของกลาง คลิป DNA และอื่นๆ ประกอบด้วย พยานบุคคล รวม 124 ปาก ดังนี้ พยานที่ติดต่อผู้ที่อยู่บนเรือจำนวน 26 ปาก, พยานบุคคลที่เกี่ยวข้องอื่นๆ จำนวน 62 ปาก, พยานผู้เชี่ยวชาญจำนวน 16 ปาก, พยานเจ้าหน้าที่จำนวน 20 ปาก เอกสารพยานวัตถุ รวมทั้งสิ้น 335 รายการ ดังนี้ พยานเอกสาร (ผลการตรวจต่างๆ) จำนวน 47 ฉบับ, พยานวัตถุ จำนวน 88 ชิ้น, ไฟล์คลิปวิดีโอจำนวน 200 ไฟล์ และเอกสารจำนวน 2,249 แผ่น


ดำเนินคดีผู้ต้องหาทั้งหมด 6 ราย
1.ปอ ข้อหากระทำโดยประมาท เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย, เป็นผู้ควบคุมเรือ โดยไม่มีประกาศนียบัตรรับรองความถูกต้องตามกฎหมาย, ทิ้งสิ่งของปฏิกูลลงในแม่น้ำ, แจ้งความอันเป็นเท็จแก่พนักงานสอบสวน, ไม่ติดชื่อเรือเป็นอักษรไทยและอักษรภาษาอังกฤษที่หัวเรือ, ใช้เรือที่มีใบอนุญาตสิ้นอายุแล้ว

2.โรเบิร์ต ข้อหากระทำโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย, เป็นผู้ควบคุมเรือ โดยไม่มีประกาศนียบัตรรับรองความถูกต้องตามกฎหมาย, ใช้เรือที่มีใบอนุญาตสิ้นอายุแล้ว, ทิ้งสิ่งของปฏิกูลลงในแม่น้ำ

3.แซน ข้อหากระทำโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย


4.จ๊อบ ข้อหาเพื่อจัดช่วยผู้อื่นไม่ให้ต้องรับโทษ หรือรับโทษน้อยลง ทำให้เสียหาย ทำลาย ซ่อนเร้น, ทิ้งสิ่งของปฏิกูลลงในแม่น้ำ

5.กระติก ข้อหาเพื่อจัดช่วยผู้อื่นไม่ให้ต้องรับโทษ หรือรับโทษน้อยลง ทำให้เสียหาย ทำลาย ซ่อนเร้น, แจ้งความอันเป็นเท็จแก่พนักงานสอบสวน

6.เอ็ม กุนซือ ข้อหาเพื่อจัดช่วยผู้อื่นไม่ให้ต้องรับโทษ หรือรับโทษน้อยลง ทำให้เสียหาย ทำลาย ซ่อนเร้น / เป็นผู้ใช้ให้ผู้อื่นแจ้งข้อความอันเป็นเท็จแก่เจ้าหน้าที่

โดยมีความเห็นสั่งฟ้องผู้ต้องหาทุกราย

ด้านตำรวจฝ่ายสืบสวนเปิดคลิปบางส่วนเพื่อให้คลายข้อสงสัย ทั้งหมด 25 นาที แบ่งเป็น 4 ส่วน
1.พฤติการณ์การเกิดเหตุ
2.ไทม์ไลน์
3.หลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์
4.สภาพบาดแผล

พฤติการณ์ วันที่ 24 กุมภาพันธ์ เวลา 22.30 น. ได้เกิดเหตุ “แตงโม” นักแสดงสาวชื่อดัง ตกจากเรือในแม่น้ำเจ้าพระยา ใกล้เคียงกับท่าเรือพิบูลสงคราม 1

เวลา 23.00 น. ตำรวจได้รับแจ้งว่ามีคนตกเรือ โดยมีการระดมค้นหาแค่ยังไม่พบ จากการสอบปากคำพยานแวดล้อมทราบเพียงว่าแตงโมตกเรือ ซึ่งเวลาผ่านไปหลายชั่วโมงไม่พบแตงโม และไม่มีคนบนเรือมาแสดงตัว

วันที่ 25 กุมภาพันธ์ เวลา 08.00 น. ตำรวจพบเรือลำเกิดเหตุจอดอยู่ที่ NBC Boat Club จากนั้นพนักงานสอบสวนเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานเข้าตรวจสอบ พบพิรุธต้องสงสัย คือ มีแก้วเพียง 1 ใบ ซึ่งไม่สอดคล้องกับจำนวนคนบนเรือ ในระหว่างตำรวจตรวจสอบพยานหลักฐานอยู่นั้น ตำรวจได้สืบทราบตัวตนทั้ง 5 คนบนเรือ คือ ปอ โรเบิร์ต แซน จ๊อบ กระติก

เวลา 15.00 น. มีผู้ให้คำปรึกษาทั้ง 5 แจ้งว่าจะพาเข้าพบตำรวจในเวลานี้ แต่เมื่อถึงเวลาก็ไม่มาตามนัด
เวลา 18.00 น. ปอ ได้ติดต่อมายังพนักงานสอบสวน
เวลา 20.00 น. ทั้ง 5 คน เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวน

วันที่ 26 กุมภาพันธ์ เวลา 13.00 น. พบร่างแตงโม กลางแม่น้ำเจ้าพระยา ห่างจากท่าเรือพิบูลสงคราม 2.35 เมตร พบว่าลักษณะบาดแผลบาดเป็นการตายอย่างผิดธรรมชาติ

ไทม์ไลน์
** ข้อมูลที่อ้างอิง จำพวกภาพกล้องวงจรปิด ข้อมูลตรวจสอบโทรศัพท์ การแชทต่าง ๆ 

ขณะเดียวกัน ตำรวจเปิดคลิปวิดีโอความยาว 25 นาที ซึ่งคลิปดังกล่าวประกอบด้วย 4 ส่วน ได้เเก่ 1.พฤติการณ์เกิดเหตุ 2.ไทม์ไลน์หรือช่วงเวลาไล่เรียงตั้งเเต่ก่อนเกิดเหตุ ระหว่างเกิดเหตุ เเละหลังเกิดเหตุ 3.หลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ 4.สภาพบาดเเผล โดยไฮไลท์สำคัญ คือ ไทม์ไลน์ ซึ่งตำรวจไล่เรียงเวลาจากกล้องวงจรปิด เเละการใช้โทรศัพท์ของบุคคลบนเรือ

วันที่ 16 กุมภาพันธ์ ก่อนเกิดเหตุ 9 วัน
เวลา 08.00 น. ปอทักหากระติกทางไลน์ นัดแนะเพื่อนเก่าจิบไวน์
เวลา 19.00 น. กระติกไลน์หาแตงโม ว่าปอชวนไปล่องเรือ / แตงโมตกลง
เวลา 19.56 น. กระติกส่งข้อความหาปอว่า จะมีเพื่อนไปก้วยทั้งหมด 4 คน รวมแตงโม (เพื่อนอีก 2 คนในวันจริงไม่ว่างมาขึ้นเรือ) จากนั้นปอส่งรูปเรือลำที่เกิดเหตุมาให้กระติก

วันที่ 23 กุมภาพันธ์
เวลา 08.00 น. กระติกไลน์ชวนแซนไปขึ้นเรือ / แซนตกลง
เวลา 18.00 น. กระติกส่งข้อความหาปอ บอกว่าแซนไปด้วย
จากนั้นปอส่งพิกัดอู่เรือมาให้และนัดหมายเวลาลงเรือที่อู่เรือ NBC คือวันที่ 24 กุมภาพันธ์ ในเวลา 18.00 น. 
เวลา 22.00 น. กระติกส่งข้อความหาแตงโม ว่าปอจะพาขับเรือเส้นอยุธยา

วันที่ 24 กุมภาพันธ์  (วันเกิดเหตุ)
-เวลา 14.00 น. กระติกส่งข้อความไลน์หาเเตงโม บอกว่าจะไปรับ
-เวลา 14.26 น. กระติกขับรถถึงบ้านเเตงโม
-เวลา 15.00 น. อีกฟากหนึ่งปอเดินทางถึงอู่เรือ NBC
-เวลา 15.52 น. กระติกเเละเเตงโม ขับรถออกจากบ้านของเเตงโม เพื่อไปยังอู่เรือ
-เวลา 15.35 น. จ๊อบเดินทางถึงอู่เรือ NBC
เวลา 16.45 น. กระติกเเละเเตงโม เดินทางถึงอู่เรือ
** โดยทั้งหมดในเรือมีสมาชิก 5 คน แซนเดินทางมายังไม่ถึง

16.49 น. GPS เรือออกจากอู่ เคลื่อนตัวไปทางทิศเหนือ
17.00 น. โทรศัพท์กระติกถ่ายภาพกระติกกับแตงโม
17.01 น. เรือเทียบท่าเติมน้ำมัน (โดยไม่มีแซน)
17.13 น. โอนเงินจ่ายค่าเติมน้ำมัน

ขณะเดียวกัน
17.13 น. แซนเดินทางมาถึงอู่เรือ และถ่ายภาพไว้ เพื่อค่อยเรือกลับมารับ
17.24 น. เรือกลับมาถึงอู่รับแซน
17.46 น. โทรศัพท์กระติกถ่ายภาพแตงโมไว้
18.11 น. โทรศัพท์กระติกถ่ายภาพแตงโมไว้
18.28 น. เรือจอดเทียบท่าครัวบ้านตานิด จ.ปทุมธานี
19.57 น. จ่ายเงิน
20.08 น. เรือออกจากร้านอาหาร
20.30 น. ได้ถ่ายภาพแตงโมไว้
20.39 น. แซนได้ถ่ายรูป
21.23 น. ผ่านกล้องวงจรปิดพระนั่งเกล้า
21.33 น. ผ่านกล้องวงจรปิดสะพานพระราม 5
21.36 น. ผ่านท่าเรือพิบูลสงคราม 1
21.54 น. ผ่านกล้องวงจรปิดท่าเรือเทเวศร์
** ซึ่งจุดนี้เกิดข้อสงสัยว่ามีลักษณะคล้ายคนกระโดดลงจากเรือ

-เวลา 21.56 น. เรือถึงสะพานพระราม 8 กระติกถ่ายภาพคู่กับเเตงโม โดยมีฉากหลังเป็นสะพานพระราม 8 ซึ่งเป็นภาพที่ถูกตั้งข้อสังเกตเเสงไฟบริเวณสะพานว่าเป็นการตัดต่อ เพื่อจับผิดกระติก เเต่ผลการพิสูจน์จากผู้เชี่ยวชาญ เเละตรวจการถ่ายภาพในมุม-เวลาเดียวกัน เเละตรวจสอบจีพีเอสของเรือ พบว่าเรือเดินทางมาจุดนี้ครั้งเดียว จึงเป็นไปไม่ได้ที่จะเเก้ไขเวลา จึงตัดประเด็นเรื่องการตัดต่อภาพทิ้งไป

-เวลา 22.06 น. เรือวกกลับ กระติกถ่ายภาพโรเบิร์ต ซึ่งเป็นสะพานคนละด้านกับที่ถ่ายคู่เเตงโม
-เวลา 22.11 น. กระติกติดต่อเรียกใช้บริการรถรับจ้างส่วนบุคคล เพื่อให้ไปส่งบ้านของเเตงโม
-เวลา 22.18 น. เรือวิ่งผ่านสะพานซังฮี้ เห็นภาพเเซนย้ายมานั่งบริเวณท้ายเรือ
-เวลา 22.21 น. เเตงโมยังตอบเเชทคนในไอจี
-เวลา 22.32 น. ยังเห็นคนบนเรือครบ 6 คน โดยเเซนยังนั่งท้ายเรือ

ทั้งนี้ ช่วงเวลาสำคัญคือ ช่วงเวลา 22.33.51 กล้องวงจรปิดของการไฟฟ้า เห็นลักษณะเเสงเงา มีวัตถุบางอย่างอยู่ท้ายเรือ -เวลา 22.34 น. เรือผ่านบริเวณท่าเรือพิบูลสงคราม ยังเห็นเเสงเงาเหมือนวัตถุบางอย่างยังอยู่ท้ายเรือ จนกระทั่งผ่านไปไม่กี่วินาที ในช่วงเวลา 22.34.09-22.34.10 จากการตรวจสอบเเสงเงา ไม่พบวัตถุดังกล่าวที่ท้ายเรือเเล้ว จึงสันนิษฐานว่าเเตงโมตกเรือในช่วงเวลาดังกล่าว สอดคล้องกับคำให้การของเเซน ที่ให้การว่าเเตงโมมาเกาะขาเพื่อปัสสาวะ เเละคำให้การของคนอื่นๆ บนเรือ ที่ให้การว่าเห็นเเตงโมเดินไปท้ายเรือ ดังนั้น จึงสันนิษฐานว่าเเตงโมตกจากท้ายเรือในเวลา 22.34.10 น.

วันที่ 25 กุมภาพันธ์
เวลา 00.28 น. กระติกส่งข้อความหาเพื่อนว่าลงจากเรือมาเข้าห้องน้ำ
00.30 น. เข้าห้องน้ำบ้านชาวบ้าน
00.39 น. กล้องจับภาพกระติกและโรเบิร์ต
00.44 น. โรเบิร์ต ปอ โทรหากัน
00.45 น. GPS ขอเรือวนกลับเข้าอู่เรือ

ขณะเดียวกันกระติกและโรเบิร์ตเดินมาที่ปากซอย
00.52 น. รถแกร็บมารับมุ่งหน้าอู่เรือ
01.03 น. ถึงอู่เรือ
01.06 น. เรือถึงอู่เรือ
01.22 น. โบ เดินทางถึงอู่เรือ
01.44 น. จ๊อบออกจากอู่
01.53 น. ผู้แนะนำคนหนึ่งส่งข้อความมาให้โรเบิร์ต อย่าให้การกับตำรวจ
02.26 น. มีการรวมกลุ่มกันที่ปั๊มเชลล์
02.27 น. ผู้แนะนำบอกให้ทั้ง 5 คน เลื่อนนัดตำรวจ เพราะมีแอลกอฮอล์ในเลือด
03.04 น. กระติกออกจากอู่เรือ
03.29 น. ขับรถถึงบ้านแตงโม
04.11 น. กระติกขับรถออกจากบ้านแตงโม
11.00 น. มาพบทนายคนหนึ่งย่านทองหล่อ
17.17 น. มาพบทนายชื่อดังอีกคนหนึ่งย่านราชพฤกษ์
20.00 น. ทั้ง 5 คน เดินทางมาพบพนักงานสอบสวน

สำหรับหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ เจ้าหน้าที่ตรวจเรือลำเกิดเหตุ พบ DNA ของคนบนเคือติดอยู่บนเรือหลายแห่ง, บริเวณห้องน้ำเรือมีการนำของไปเก็บไว้อยู่เต็มห้องน้ำ, ตรวจสอบคราบโลหิตบนเรือไม่พบคราบโลหิต

-ข้อพิรุธ พบแก้วไวน์ 1 ใบ จึงตรวจสอบโดยรอบ พบกระติกสีดำอยู่ที่อู่เรือ เปิดดูภายในพบแก้วจำนวนหลายใบ ซึ่งยืนยันได้ว่าเรือลำนี้เป็นเรือลำเดียวกับที่ใช้ในวันเกิดเหตุ ไม่ได้มีการสับเปลี่ยนเเต่อย่างใด

สำหรับผลการชันสูตรพลิกศพ

  • หญิงอายุ 36 ปี สูง 167 ซม.
  • สวมชุดว่ายน้ำเต็มตัว
  • กระดูกอยู่ในสภาพปกติ
  • ฟันไม่หัก
  • ศีรษะไม่พบรอยช้ำ
  • ตรวจแอลกอฮอล์ในตา 93 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์
  • ไม่พบสารเสพติด หรือสารยามอมเมา
  • พบโคลนทั่วไปในหลอดลม และแขนงในหลอดลม

บาดแผลภายนอก 26 บาดแผล
แบ่งเป็นกลุ่มบาดแผล 10 กลุ่ม
1.บาดแผลกลุ่มใหญ่ ฉีกขาด
2.บาดแผลฉีกขาดค่อนข้างเรียบ
3.บาดแผลถลอก แนวขวาง
4.บาดแผลถลอก แนวยาว
5.บาดแผลฉีกขาด แนวยาวบริเวณข้อพับ
6.บาดแผลถลอก แนวยาวซ้าย
7.บาดแผลถลอก เข่าซ้ายด้านนอก
8.บาดแผลฟอกช้ำ บริเวณต้นขาซ้ายด้านหน้า
9.บาดแผลฟอกช้ำ บริเวณเข่าซ้าย
10.บาดแผลฟอกช้ำ บริเวณแข้งซ้าย

ยืนยันว่าบาดแผลทั้งหมดเกิดก่อนการเสียชีวิต โดยเฉพาะบาดเเผลบริเวณต้นขา ยาว 26 เซนติเมตร กว้าง 7 เซนติเมตร ลึก 1.5 เซนติเมตร ซึ่งเมื่อนำบาดเเผลมาทำกราฟฟิกเปรียบเทียบ พบว่าเข้าได้กับลักษณะของใบพัดเรือ โดยปั่นในเเนวขวางกับขาของเเตงโม อีกทั้งเจ้าหน้าที่นำใบพัดเรือไปทดสอบโดยการกดเเละปั่นกับดินน้ำมัน พบลักษณะบาดเเผลมีความเว้าโค้งเเบบเเดียวกัน ประกอบกับบาดเเผลของผู้ที่ประสบเหตุถูกใบพัดเรือในต่างประเทศ ก็มีลักษณะเดียวกับบาดเเผลบริเวณต้นขาของเเตงโม

ส่วนคลิปที่โซเชียลตั้งข้อสังเกตว่าเป็นการฆาตกรรม โดยถูกตีศีรษะด้วยขวดไวน์ เเล้วโยนร่างทิ้งลงจากเรือนั้น จากไทม์ไลน์พบว่าเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากเเตงโมตกเรือเเล้ว จึงเป็นไปไม่ได้ที่เเตงโมจะโดนทำร้าย อีกทั้งคลิปที่ถูกถ่ายในช่วงเวลาดังกล่าวเป็นเหตุการณ์ที่คนบนเรือกำลังทำลายพยานหลักฐาน เช่น เเก้วเเละขวดไวน์ โดยการโยนทิ้งลงน้ำ

ด้าน พล.ต.ท.จิรพัฒน์ ภูมิจิตร ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 ระบุว่า จากภาพหลักฐานคงไม่มีผู้ใดสามารถยืนยันได้ว่า แตงโมไปปัสสาวะบริเวณท้ายเรือจริงหรือไม่ เพราะมีเพียงคำให้การของนายวิศาพัช มโนมัยรัตน์ หรือแซน เพียงคนเดียว แต่จากการเก็บรวบรวมหลักฐานทั้งหมด ทั้งจีพีเอสของเรือ ภาพจากกล้องวงจรปิด รวมถึงผลการชันสูตรบาดแผลของแตงโม ที่สอดคล้องจังหวะการปั่นของใบพัดเรือ แพทย์สรุปสาเหตุการเสียชีวิตว่า เกิดจากการขาดอากาศหายใจจากการจมน้ำ ทำให้สันนิษฐานได้ว่า มีผู้เดินไปบริเวณท้ายเรือ และหายไปจากท้ายเรือ ในเวลาประมาณ 22.34.10 น. แต่ไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ว่าเหตุนี้เป็นการกระทำโดยประมาทอย่างไร เนื่องจากมีผลต่อการต่อสู้คดีของผู้ต้องหา

ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 เชื่อว่าการที่บุคคลบนเรือพยายามปิดบังข้อเท็จจริงในช่วงแรกที่เกิดเหตุ เพราะทุกคนบนเรือมีอาการมึนเมาทั้งหมด และทุกคนมีการขอคำปรึกษาผู้อื่น ซึ่งแนะนำว่าให้เลื่อนการเข้าพบตำรวจ จนทำให้การค้นหาแตงโม และการตรวจร่างกายล่าช้า แต่ต่อมาพนักงานสอบสวน สามารถรวบรวมหลักฐาน จนดำเนินคดีกับบุคคลบนเรือ 5 คน และที่ปรึกษาทางคดี 1 คน โดยความผิดในข้อหาหลัก คือ กระทำการโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย จึงยืนยันได้ว่าเหตุที่เกิดขึ้นไม่ใช่การที่แตงโมตกน้ำเสียชีวิตเอง แต่เกิดจากบุคคลอื่น.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่มซิ่งกระบะชนเสาไฟฟ้าล้มขวางถนน 12 ต้น

ชลบุรี 28 ก.ย. – หนุ่มซิ่งกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรตลอดทั้งวัน คาดจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) รถกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน ต.บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น เป็นเสาไฟฟ้าแรงสูง 6 ต้น เสาไฟฟ้าสูง 12 เมตร อีก 6 ต้น ระยะทาง 500 เมตร โชคดีนายสิทธิพงษ์ อายุ 41 ปี คนขับ บาดเจ็บเล็กน้อย แต่ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรบนถนนสายบึง-บ่อวิน ตลอดทั้งวัน คาดว่าจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) จากการสอบสวนทราบว่า นายสิทธิพงษ์ เพิ่งเลิกงาน ขับรถกลับบ้านด้วยความเร็ว อาจหลับใน ทำให้รถเปลี่ยนเลนข้ามไปชนกับเสาไฟฟ้าอีกฝั่ง ส่วนความเสียหายยังประเมินค่าไม่ได้.-สำนักข่าวไทย

“อนุทิน” ร่วมงานศพพ่อ “อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้า ภท.

ราชบุรี 28 ก.ย.- “อนุทิน” ร่วมสวดอภิธรรมศพพ่อ “สส.อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้าภูมิใจไทย ลั่นได้ส่งจิตขออนุญาตคุณพ่อแล้ว นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตาีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วยนายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายศักดา วิเชียรศิลป์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นายสรอรรถ กลิ่นประทุม อดีต สส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย ได้ร่วมไว้อาลัยและสวดอภิธรรมศพ คุณพ่อวุฒิพงศ์ วงษ์พิทักษ์โรจน์ บิดาของนายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สส.ราชบุรี พรรครวมไทยสร้างชาติ เมื่อค่ำวันที่ 27 ก.ย. ที่จังหวัดราชบุรี โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี หัวหน้าส่วนราชการ และประชาชนกว่า 2,000 ร่วมพิธีโดยเป็นการสวดอภิธรรมเป็นคืนที่ 4 และจะมีพิธีบรรจุศพในวันที่ 30 ก.ย. นี้ ในช่วงท้าย นายอนุทิน ได้กล่าวกับผู้ที่ร่วมสวดอภิธรรมศพ ว่า ตนเองมีความสนิทสนมกับ นายอัครเดช มาหลายปีแล้ว นายอัครเดชเป็นคนมีความวิริยะอุสาหะ ตั้งใจทำงานให้พี่น้องประชาชน ตนมีความชื่นชมและศรัทธา ในความขัยนขันแข็งของท่าน ยิ่งไปกว่านั้นการปฏิบัติหน้าที่ในสภาผู้แทนราษฎร ท่านก็ทำหน้าที่ได้ดีเป็นดาวสภา […]

โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA

กรุงเทพฯ 28 ก.ย. – โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA หลัง “อนุทิน” มอบดาบการทูตสู้กัมพูชา ขณะนายกฯ ย้ำยึดสันติในการแก้ปัญหา เพื่อประโยชน์ของประเทศ ภายหลังจากที่นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวในเวทีการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ หรือ UNGA สมัยสามัญ ครั้งที่ 80 ที่นครนิวยอร์ก ทำให้กระแสโซเชียลในประเทศไทย พึงพอใจกับการทำหน้าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ในรัฐบาลของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี เป็นอย่างมาก ทั้งนี้ การเดินทางไปเวที UNGA ของนายสีหศักดิ์ ครั้งนี้ยึดแนวทางแก้ปัญหาความมั่นคงและการต่างประเทศ ที่นายอนุทิน มอบหมายให้ดำเนินการ โดยใช้มาตรการทางการทหารควบคู่กับการทูต เพื่อรักษาอธิปไตยอย่างสันติ เพื่อผลประโยชน์ของประชาชน โดยเฉพาะในกรณีพิพาทไทย-กัมพูชา ขณะที่นายอนุทิน เชื่อว่า การกล่าวถ้อยแถลงในที่ประชุม UNGA ของนายสีหศักดิ์ ทำให้คนไทยมีความเชื่อมั่นอย่างชัดเจนต่อจุดยืนของรัฐบาล สำหรับนโยบาย 4 เดือน 4 ภารกิจหลัก คืนความมั่นใจให้ประเทศไทย ตามนโยบายรัฐบาลของนายอนุทิน […]

กรมอุตุฯ เตือนฝนถล่มทั่วไทย รับมืออิทธิพลพายุบัวลอย

กทม. 28 ก.ย.- กรมอุตุฯ เตือนทั่วไทยรับมือฝนถล่ม อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง จับตาอิทธิพลพายุไต้ฝุ่น “บัวลอย” คาดเคลื่อนขึ้นฝั่งเวียดนามตอนบน พรุ่งนี้ (29 ก.ย.) กรมอุตุนิยมวิทยาเผยประเทศไทยมีฝนตกหนักหลายพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออก โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดสกลนคร นครพนม อุดรธานี ขอนแก่น กาฬสินธุ์ มุกดาหาร จันทบุรี และตราด ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่าน พื้นที่ลุ่ม และพื้นที่น้ำท่วมขัง เนื่องจากร่องมรสุมกำลังแรงพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังแรง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง พายุไต้ฝุ่น […]

ข่าวแนะนำ

สีสัน! อภิปรายนโยบายรัฐบาลวันแรก

29 ก.ย.- การแถลงนโยบายรัฐบาลวันนี้ เหมือนเป็นการซ้อมศึกซักฟอกย่อย เพราะมีการตอบโต้และตั้งฉายามากมาย ติดตามสีสันการอภิปรายนโยบายฯ วันแรก .-สำนักข่าวไทย

เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดฝนหนักคืนนี้

29 ก.ย.- หลายพื้นที่เฝ้าระวังฝนตกหนัก จากอิทธิพล #พายุบัวลอย เชียงใหม่เปิดประตูระบายน้ำทุกจุด เร่งระบายน้ำปิงลงทะเลสาบดอยเต่า พร่องน้ำในเขื่อนแม่งัดฯ เตรียมรับน้ำฝน คาดตกหนักคืนนี้ ขณะที่ จ.นครราชสีมา น้ำล้นสปิลเวย์ เตือนประชาชนระวังน้ำท่วมฉับพลัน พายุฝนตกกระหน่ำหลายพื้นที่จังหวัดสระแก้ว โดยพื้นที่ ต.บ้านแก้ง อ.เมืองสระแก้ว นายก อบต.บ้านแก้ง พร้อมผู้นำชุมชน และอาสาสมัครกู้ภัย ได้นำเรือเครื่องยนต์ท้องแบน เข้าช่วยเหลือ ตาชู-ยายทองคำ และสุนัข 1 ตัว ออกจากบ้านที่โดนน้ำป่าไหลหลาก เข้าท่วมเกือบมิดหลังคา  มาอยู่ในที่ปลอดภัย ยายทองคำ เล่าว่าเมื่อคืนพักอยู่กับตาและหมา กำลังจะเข้านอนแต่ก็มีฝนตกตลอดทั้งคืน น้ำที่คลองก็ยังไม่เห็นว่าจะขึ้นล้นตลิ่งเท่าไร แต่ก็กังวล จึงเฝ้าดูกระทั่งน้ำไหลมาและเข้าท่วม ตกใจ จึงได้นำสุนัขขึ้นบนบ้าน ส่วนข้าวของก็เก็บไม่ทัน จากนั้นจึงอยู่แต่บนบ้านจนถึงเช้า กู้ภัยมาช่วยนำออกมาจากบ้าน อยู่มาหลายสิบปีไม่เคยเจอแบบนี้มาก่อนเลย  ผู้ว่าฯ เชียงใหม่ เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดตกหนักคืนนี้ เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา หลายพื้นที่เชียงใหม่ เริ่มมีฝนตกลงมาบ้างแล้ว ระดับน้ำในลำน้ำปิงที่ไหลผ่านตัวเมืองเชียงใหม่ ที่จุดวัดพี1 เชิงสะพานนวรัฐ ยังอยู่ที่ 2 เมตร 49 เซนติเมตร ต่ำกว่าจุดวิกฤติแจ้งเตือนที่ […]

แถลงนโยบายวันแรกเดือด ประท้วงกันวุ่น

29 ก.ย.- สภาเดือด! แถลงนโยบายรัฐบาลวันแรก อภิปรายตอบโต้-ประท้วงกันเป็นระยะ เมื่อมีการพาดพิงปมเขากระโดง-ฮั้ว สว. แต่ประธานฯ คุมสถานการณ์ได้ ด้านนายกฯ ไม่กังวลวาทกรรมของฝ่ายค้าน ชี้ประเด็นซ้ำๆ และมีการแถลงข้อเท็จจริงไปแล้ว -สำนักข่าวไทย

ฝ่าดงทุ่นระเบิดเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก “ผลักดัน-รื้อถอน”

29 ก.ย.- ทหารเรือฝ่าดงทุ่นระเบิดเข้าเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก จ.ตราด ผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้าม-รื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง 3 หลัง รุกล้ำเขตอธิปไตยไทย ขณะที่ชาวบ้านหนองจาน จ.สระแก้ว นำอาหารมอบให้ทหารแนวหน้า ยังไม่พบความเคลื่อนไหวผิดปกติ พลเรือเอก จิรพล ว่องวิทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ และพลเรือเอก ไพโรจน์ เฟื่องจันทร์ ว่าที่ ผู้บัญชาการทหารเรือ คนใหม่ มอบหมายพลเรือโทอภิชาติ ทรัพย์ประเสริฐ ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน และผู้บัญชาการกองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรี-ตราด (กกล.กปช.จต.) เข้าเคลียร์พื้นที่ชายแดนบ้านชำราก อันเป็นอธิปไตยของไทย โดยหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินตราด กองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรีตราด จึงได้ผลักดันกองกำลังกัมพูชา ออกจากพื้นที่บริเวณตรงข้ามบ้านหนองรี ตำบลชำราก ไม่มีกำลังฝ่ายกัมพูชาวางกำลังแล้ว ผลจากการปฏิบัติการ บรรลุเป้าหมายสำคัญ คือ สามารถทำลายสิ่งปลูกสร้างทั้ง 3 หลังลงได้อย่างสิ้นเชิง ที่สำคัญที่สุดคือ สามารถผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้ามให้ออกจากพื้นที่รุกล้ำได้อย่างสมบูรณ์ ประชาชนนำอาหารมอบทหารแนวหน้า บ้านหนองจาน จ.สระแก้ว ส่วนที่บ้านหนองจาน จังหวัดสระแก้ว บรรยาศเงียบเหงา แต่ยังคงมีประชาชนเดินทางนำอาหาร เช่น ไข่ไก่ น้ำดื่ม นำมามอบให้กับทหารแนวหน้า ถึงแม้จะไม่คึกคักเหมือนวันก่อนๆ […]