“พ.ต.ต.” แก๊งอุ้มรีดครอบครัวนักพนัน 4 เเสนย่องมอบตัวเเล้ว 

กรุงเทพฯ 2 เม.ย- พ.ต.ต.แก๊งอุ้มรีดเงิน 4 แสนบาท จากสองสามีภรรยา เข้ามอบตัวแล้ว เบื้องต้นตำรวจแจ้ง 2 ข้อหา กักขังหน่วงเหนี่ยวให้เสียอิสรภาพ และกรรโชกทรัพย์ พร้อมเร่งขยายผล ผู้ร่วมขบวนการที่เหลืออีกกว่า 10 คน  


ความคืบหน้าคดีอุ้ม สองสามีภรรยาเพื่อรีดเงินจากการเล่นพนันออนไลน์ จำนวน 400,000 บาท และพระเลี่ยมทอง 1 องค์ เหตุเกิดเมื่อวันที่ 10 มีนาคมที่ผ่านมา ผู้เสียหายซึ่งเป็น 2 สามีภรรยา พร้อมบุตร 1 คน เข้าแจ้งความกับตำรวจ สน.บางนา ในวันที่ 25 มีนาคมที่ผ่านมา เพื่อให้ดำเนินคดีกับชายฉกรรจ์กลุ่มหนึ่ง จากนั้นพนักงานสอบสวนลงพื้นที่ พบมีชายฉกรรจ์ที่ร่วมกันก่อเหตุทั้งสิ้น 15 คน ในจำนวนนี้ เป็นตำรวจ 4 นาย สังกัดกองบัญชาการตำรวจไซเบอร์ 2 นาย และ 1 ใน 2 นายเป็นระดับสารวัตร ส่วนอีก 2 นาย สังกัดกองบังคับการตำรวจนครบาล 5 อีกที่เหลืออีก 9 คน อยู่ระหว่างการพิสูจน์ทราบว่าเป็นตำรวจหรือไม่

ล่าสุดเมื่อช่วงเช้า พ.ต.ต.คม 1 ในผู้ต้องหา แอบเดินทางมามอบตัวที่ สน.บางนา แล้ว และอยู่ระหว่างการสอบปากคำ เบื้องต้นพนักงานสอบสวน  ได้แจ้ง 2 ข้อหากับ พ.ต.ต.คม ในข้อหากักขังหน่วงเหนี่ยวให้เสียอิสรภาพ และกรรโชกทรัพย์ ต่อมาเวลา 10.00 น. พลตำรวจตรีไตรรงค์ ผิวพรรณ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เรียกประชุม ชุดสืบสวน ติดตามความคืบหน้าทางคดี  ที่ สน.บางนา หลังเมื่อวานนี้ได้เข้าค้นบ้านหลังหนึ่งย่านบางชัน กรุงเทพฯ และตรวจยึดรถยี่ห้อโตโยต้า รุ่นฟอร์จูนเนอร์ สีดำ ที่ผู้ต้องหาใช้ก่อเหตุ ซึ่งเป็นรถที่ปรากฏตามภาพวงจรปิด ส่วนพฤติการณ์การก่อเหตุเบื้องต้นอยู่ ระหว่างการสอบปากคำว่าได้กระทำผิดจริงตามที่ถูกกล่าวอ้างหรือไม่ รายละเอียดยังอยู่ในสำนวนไม่สามารถเปิดเผยได้ ทั้งนี้ ภายหลังการสอบปากคำเสร็จสิ้นตำรวจจะได้ ควบคุมตัวพันตำรวจตรีคม ไปขออำนาจศาลฝากขังศาลอาญาพระโขนงต่อไป


เมื่อวานนี้ (1 เม.ย.) ตำรวจมีการเรียก เจ้าหน้าที่ 2 นายที่สังกัดนครบาล 5 มาสอบสวนแล้ว โดยทั้งสองคนมีชื่อในบันทึกให้ถ้อยคำของผู้เสียหาย แต่ตำรวจ 2 นายนี้ ไม่ลงลายมือชื่อบันทึกให้ถ้อยคำ ส่วนตำรวจอีก 2 นายสังกัดกองบัญชาการตำรวจไซเบอร์ ลงลายมือชื่อในบันทึกให้ถ้อยคำของผู้เสียหาย ซึ่งผู้กำกับ สน.บางนา จะประสานไปยังผู้บัญชาการตำรวจไซเบอร์ ให้นำตัวทั้ง 2 นายมาสอบสวน ซึ่งการปรากฏชื่อใน เอกสารการให้ถ้อยคำของผู้เสียหาย เป็นหลักฐานสำคัญใช้มัดตัวทั้ง 4 นายว่าเกี่ยวข้องกับการอุ้มผู้เสียหายไปรีดทรัพย์จริง ซึ่งการสอบปากคำผู้เสียหายเบื้องต้นให้การยืนยันว่า ระหว่างที่อยู่บนรถ กลุ่มชายฉกรรจ์พูดว่าพวกตนเป็นตำรวจไซเบอร์ ที่มาอุ้มตัวเพราะต้องการนำเงินไปคืนให้กับเว็บพนันออนไลน์ ที่ผู้เสียหายเล่นพนันได้ถึง 2 ล้านบาท

ส่วนการสอบสวนผู้เสียหาย พบว่าวันเกิดเหตุ ชายฉกรรจ์ทั้ง 15 คน ใช้รถยนต์ 7 คัน มีพฤติการณ์อุกอาจบุกเข้าไปอุ้มตัว ผู้เสียหายและบุตรชายวัย 11 ขวบ ในร้านอาหารซึ่งอยู่ในปั๊มน้ำมันร้านย่านอุดมสุข จากนั้นคุมตัวขึ้นรถยนต์ขับตระเวนไปยังสถานที่ต่างๆ พร้อมกับรีดบังคับเอาทรัพย์สิน เช่น ขับไปยังบ้านญาติของผู้เสียหายและไปยังบริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง เพื่อทำบันทึกการให้ถ้อยคำของผู้เสียหายจนถึงเวลาประมาณเที่ยงคืนของวันเกิดเหตุ ผู้เสียหายอ่อนล้าจึงยินยอมจะมอบเงินที่ได้จากการเล่นพนันออนไลน์ให้ กลุ่มชายฉกรรจ์จึงยอมปล่อยตัวตอนประมาณเที่ยงคืน   จากนั้นวันรุ่งขึ้น (11 มี.ค.) มีการนัดหมายส่งมอบเงินจำนวน 4 แสนบาทและพระเลี่ยมทอง1 องค์ ในพื้นที่จังหวัดสมุทรปราการ ซึ่งชายฉกรรจ์ที่รับเงินไป ไม่ใช่ตำรวจ 4 คน ชุดสืบสวนอยู่ระหว่างติดตามเงินและพิสูจน์ทราบตัวชายฉกรรจ์ที่เหลืออีก 9 คน ส่วนรถยนต์ 7 คัน พิสูจน์ทราบได้แล้ว 5 คัน พบว่าเป็นรถยนต์ของพลเรือนภายนอก ขณะนี้อยู่ระหว่างติดตามตัวมาสอบสวนปากคำผู้สื่อข่าวรายงานว่า พระเลี่ยมทอง ที่ถูกคนร้ายกรรโชกไปเป็นเหรียญ “หลวงพ่อพัฒน์” เนื้อทองคำ มีมูลค่าในตลาดพระเครื่อง ประมาณ 250,000 บาท 

นอกจากนี้ ยังพบว่าตำรวจกองบัญชาการตำรวจไซเบอร์ 2 นาย ที่ร่วมก่อเหตุ นายหนึ่งเป็นระดับสารวัตร เป็นตำรวจไซเบอร์สังกัดกองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 2 หรือ สอท.2  ซึ่งจะรับผิดชอบพื้นที่ภูธรภาค 1 ภาค 2 และภาค 7 ไม่เกี่ยวข้องกับพื้นที่นครบาลเลย  เพราะฉะนั้นถือจะอ้างว่ามาปฏิบัติหน้าที่ไม่ได้ ถือว่าข้ามพื้นที่รับผิดชอบเข้ามา  


ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปพบพยานปากสำคัญ ยืนยันเห็นกลุ่มชายฉกรรจ์มากกว่า 10 คน มีพฤติกรรมต้องสงสัย เข้ามาสั่งเครื่องดื่ม ก่อนเจรจากับผู้เสียหาย และพากันขึ้นรถขับออกจากปั๊มน้ำมันไปอย่างรีบร้อน สังเกตพบว่าส่วนใหญ่เป็นวัยรุ่นบางคนตัดผมเกรียน แต่งกายปกติ ไม่เห็นคนใดแต่งกายเครื่องแบบตำรวจ ขณะที่ชายฉกรรจ์บางคนไปนั่งคุยกับผู้หญิงที่นั่งอยู่หน้าร้านคาดว่าเป็นผู้เสียหาย ซึ่งจากที่พยานสังเกตการพูดคุยของกลุ่มชายฉกรรจ์กับผู้เสียหาย มีการใช้ภาษากายยกมือ อธิบายให้ผู้เสียหายฟังอะไรบางอย่างซึ่งผู้เสียหายก็ตั้งใจฟังและมีการขมวดคิ้วเป็นบางช่วง โดยใช้เวลาพูดคุยกันประมาณ 30 นาที จากนั้นพากันขับรถออกจากร้านไปรวมทั้งตัวผู้เสียหายด้วย

ทั้งนี้ ภายหลังการสอบปากคำเสร็จสิ้น เจ้าหน้าที่เตรียมคุมตัว พ.ต.ต.คม ไปขออำนาจศาลฝากขังศาลอาญาพระโขนง แต่ในระหว่างจะคุมตัวออกจากห้องสอบสวน พ.ต.ต.คม ได้ตะโกนพูดคุยกับสื่อมวลชนว่าถูกทำให้สูญเสียสิทธิเสรีภาพ ทั้งที่ให้ความร่วมมือ ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา ย้ำเป็นการปฏิบัติตามหน้าที่ และใช้มือถือถ่ายตำรวจที่ควบคุมตัว จากนั้นตำรวจสนซบางนาพยายามควบคุมสถานการณ์พากลับเข้าไปในห้องสอบสวน

ด้าน พ.ต.อ.มนต์เสก ตระกูลพานิชย์ ผู้กำกับการ สน.บางนา เปิดเผยหลังทราบข้อกล่าวว่า จะพาตัวผู้ถูกกล่าวหาไปฝากขัง แต่ผู้ถูกกล่าวหายืนยันจะเดินทางไปด้วยตนเอง เนื่องจากเกิดเหตุขัดขืนจึงต้องจับกุมและคัดค้านการประกันตัว

หลังจากนั้นไม่นาน ตำรวจได้คุมตัว พ.ต.ต.คม ออกมาอีกครั้ง และมีการขัดขืนไม่ยอมขึ้นรถจะเดินทางไปศาลด้วยตัว จึงเกิดเหตุชุลมุนหน้าโรงพักอยู่ประมาณ 10 นาที ก่อนตำรวจจะล็อกตัวขึ้นรถตู้ออกไปศาลอาญาพระโขนงเพื่อขออำนาจฝากขัง. – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่มซิ่งกระบะชนเสาไฟฟ้าล้มขวางถนน 12 ต้น

ชลบุรี 28 ก.ย. – หนุ่มซิ่งกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรตลอดทั้งวัน คาดจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) รถกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน ต.บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น เป็นเสาไฟฟ้าแรงสูง 6 ต้น เสาไฟฟ้าสูง 12 เมตร อีก 6 ต้น ระยะทาง 500 เมตร โชคดีนายสิทธิพงษ์ อายุ 41 ปี คนขับ บาดเจ็บเล็กน้อย แต่ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรบนถนนสายบึง-บ่อวิน ตลอดทั้งวัน คาดว่าจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) จากการสอบสวนทราบว่า นายสิทธิพงษ์ เพิ่งเลิกงาน ขับรถกลับบ้านด้วยความเร็ว อาจหลับใน ทำให้รถเปลี่ยนเลนข้ามไปชนกับเสาไฟฟ้าอีกฝั่ง ส่วนความเสียหายยังประเมินค่าไม่ได้.-สำนักข่าวไทย

“อนุทิน” ร่วมงานศพพ่อ “อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้า ภท.

ราชบุรี 28 ก.ย.- “อนุทิน” ร่วมสวดอภิธรรมศพพ่อ “สส.อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้าภูมิใจไทย ลั่นได้ส่งจิตขออนุญาตคุณพ่อแล้ว นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตาีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วยนายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายศักดา วิเชียรศิลป์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นายสรอรรถ กลิ่นประทุม อดีต สส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย ได้ร่วมไว้อาลัยและสวดอภิธรรมศพ คุณพ่อวุฒิพงศ์ วงษ์พิทักษ์โรจน์ บิดาของนายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สส.ราชบุรี พรรครวมไทยสร้างชาติ เมื่อค่ำวันที่ 27 ก.ย. ที่จังหวัดราชบุรี โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี หัวหน้าส่วนราชการ และประชาชนกว่า 2,000 ร่วมพิธีโดยเป็นการสวดอภิธรรมเป็นคืนที่ 4 และจะมีพิธีบรรจุศพในวันที่ 30 ก.ย. นี้ ในช่วงท้าย นายอนุทิน ได้กล่าวกับผู้ที่ร่วมสวดอภิธรรมศพ ว่า ตนเองมีความสนิทสนมกับ นายอัครเดช มาหลายปีแล้ว นายอัครเดชเป็นคนมีความวิริยะอุสาหะ ตั้งใจทำงานให้พี่น้องประชาชน ตนมีความชื่นชมและศรัทธา ในความขัยนขันแข็งของท่าน ยิ่งไปกว่านั้นการปฏิบัติหน้าที่ในสภาผู้แทนราษฎร ท่านก็ทำหน้าที่ได้ดีเป็นดาวสภา […]

โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA

กรุงเทพฯ 28 ก.ย. – โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA หลัง “อนุทิน” มอบดาบการทูตสู้กัมพูชา ขณะนายกฯ ย้ำยึดสันติในการแก้ปัญหา เพื่อประโยชน์ของประเทศ ภายหลังจากที่นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวในเวทีการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ หรือ UNGA สมัยสามัญ ครั้งที่ 80 ที่นครนิวยอร์ก ทำให้กระแสโซเชียลในประเทศไทย พึงพอใจกับการทำหน้าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ในรัฐบาลของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี เป็นอย่างมาก ทั้งนี้ การเดินทางไปเวที UNGA ของนายสีหศักดิ์ ครั้งนี้ยึดแนวทางแก้ปัญหาความมั่นคงและการต่างประเทศ ที่นายอนุทิน มอบหมายให้ดำเนินการ โดยใช้มาตรการทางการทหารควบคู่กับการทูต เพื่อรักษาอธิปไตยอย่างสันติ เพื่อผลประโยชน์ของประชาชน โดยเฉพาะในกรณีพิพาทไทย-กัมพูชา ขณะที่นายอนุทิน เชื่อว่า การกล่าวถ้อยแถลงในที่ประชุม UNGA ของนายสีหศักดิ์ ทำให้คนไทยมีความเชื่อมั่นอย่างชัดเจนต่อจุดยืนของรัฐบาล สำหรับนโยบาย 4 เดือน 4 ภารกิจหลัก คืนความมั่นใจให้ประเทศไทย ตามนโยบายรัฐบาลของนายอนุทิน […]

กรมอุตุฯ เตือนฝนถล่มทั่วไทย รับมืออิทธิพลพายุบัวลอย

กทม. 28 ก.ย.- กรมอุตุฯ เตือนทั่วไทยรับมือฝนถล่ม อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง จับตาอิทธิพลพายุไต้ฝุ่น “บัวลอย” คาดเคลื่อนขึ้นฝั่งเวียดนามตอนบน พรุ่งนี้ (29 ก.ย.) กรมอุตุนิยมวิทยาเผยประเทศไทยมีฝนตกหนักหลายพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออก โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดสกลนคร นครพนม อุดรธานี ขอนแก่น กาฬสินธุ์ มุกดาหาร จันทบุรี และตราด ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่าน พื้นที่ลุ่ม และพื้นที่น้ำท่วมขัง เนื่องจากร่องมรสุมกำลังแรงพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังแรง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง พายุไต้ฝุ่น […]

ข่าวแนะนำ

สีสัน! อภิปรายนโยบายรัฐบาลวันแรก

29 ก.ย.- การแถลงนโยบายรัฐบาลวันนี้ เหมือนเป็นการซ้อมศึกซักฟอกย่อย เพราะมีการตอบโต้และตั้งฉายามากมาย ติดตามสีสันการอภิปรายนโยบายฯ วันแรก .-สำนักข่าวไทย

เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดฝนหนักคืนนี้

29 ก.ย.- หลายพื้นที่เฝ้าระวังฝนตกหนัก จากอิทธิพล #พายุบัวลอย เชียงใหม่เปิดประตูระบายน้ำทุกจุด เร่งระบายน้ำปิงลงทะเลสาบดอยเต่า พร่องน้ำในเขื่อนแม่งัดฯ เตรียมรับน้ำฝน คาดตกหนักคืนนี้ ขณะที่ จ.นครราชสีมา น้ำล้นสปิลเวย์ เตือนประชาชนระวังน้ำท่วมฉับพลัน พายุฝนตกกระหน่ำหลายพื้นที่จังหวัดสระแก้ว โดยพื้นที่ ต.บ้านแก้ง อ.เมืองสระแก้ว นายก อบต.บ้านแก้ง พร้อมผู้นำชุมชน และอาสาสมัครกู้ภัย ได้นำเรือเครื่องยนต์ท้องแบน เข้าช่วยเหลือ ตาชู-ยายทองคำ และสุนัข 1 ตัว ออกจากบ้านที่โดนน้ำป่าไหลหลาก เข้าท่วมเกือบมิดหลังคา  มาอยู่ในที่ปลอดภัย ยายทองคำ เล่าว่าเมื่อคืนพักอยู่กับตาและหมา กำลังจะเข้านอนแต่ก็มีฝนตกตลอดทั้งคืน น้ำที่คลองก็ยังไม่เห็นว่าจะขึ้นล้นตลิ่งเท่าไร แต่ก็กังวล จึงเฝ้าดูกระทั่งน้ำไหลมาและเข้าท่วม ตกใจ จึงได้นำสุนัขขึ้นบนบ้าน ส่วนข้าวของก็เก็บไม่ทัน จากนั้นจึงอยู่แต่บนบ้านจนถึงเช้า กู้ภัยมาช่วยนำออกมาจากบ้าน อยู่มาหลายสิบปีไม่เคยเจอแบบนี้มาก่อนเลย  ผู้ว่าฯ เชียงใหม่ เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดตกหนักคืนนี้ เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา หลายพื้นที่เชียงใหม่ เริ่มมีฝนตกลงมาบ้างแล้ว ระดับน้ำในลำน้ำปิงที่ไหลผ่านตัวเมืองเชียงใหม่ ที่จุดวัดพี1 เชิงสะพานนวรัฐ ยังอยู่ที่ 2 เมตร 49 เซนติเมตร ต่ำกว่าจุดวิกฤติแจ้งเตือนที่ […]

แถลงนโยบายวันแรกเดือด ประท้วงกันวุ่น

29 ก.ย.- สภาเดือด! แถลงนโยบายรัฐบาลวันแรก อภิปรายตอบโต้-ประท้วงกันเป็นระยะ เมื่อมีการพาดพิงปมเขากระโดง-ฮั้ว สว. แต่ประธานฯ คุมสถานการณ์ได้ ด้านนายกฯ ไม่กังวลวาทกรรมของฝ่ายค้าน ชี้ประเด็นซ้ำๆ และมีการแถลงข้อเท็จจริงไปแล้ว -สำนักข่าวไทย

ฝ่าดงทุ่นระเบิดเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก “ผลักดัน-รื้อถอน”

29 ก.ย.- ทหารเรือฝ่าดงทุ่นระเบิดเข้าเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก จ.ตราด ผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้าม-รื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง 3 หลัง รุกล้ำเขตอธิปไตยไทย ขณะที่ชาวบ้านหนองจาน จ.สระแก้ว นำอาหารมอบให้ทหารแนวหน้า ยังไม่พบความเคลื่อนไหวผิดปกติ พลเรือเอก จิรพล ว่องวิทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ และพลเรือเอก ไพโรจน์ เฟื่องจันทร์ ว่าที่ ผู้บัญชาการทหารเรือ คนใหม่ มอบหมายพลเรือโทอภิชาติ ทรัพย์ประเสริฐ ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน และผู้บัญชาการกองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรี-ตราด (กกล.กปช.จต.) เข้าเคลียร์พื้นที่ชายแดนบ้านชำราก อันเป็นอธิปไตยของไทย โดยหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินตราด กองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรีตราด จึงได้ผลักดันกองกำลังกัมพูชา ออกจากพื้นที่บริเวณตรงข้ามบ้านหนองรี ตำบลชำราก ไม่มีกำลังฝ่ายกัมพูชาวางกำลังแล้ว ผลจากการปฏิบัติการ บรรลุเป้าหมายสำคัญ คือ สามารถทำลายสิ่งปลูกสร้างทั้ง 3 หลังลงได้อย่างสิ้นเชิง ที่สำคัญที่สุดคือ สามารถผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้ามให้ออกจากพื้นที่รุกล้ำได้อย่างสมบูรณ์ ประชาชนนำอาหารมอบทหารแนวหน้า บ้านหนองจาน จ.สระแก้ว ส่วนที่บ้านหนองจาน จังหวัดสระแก้ว บรรยาศเงียบเหงา แต่ยังคงมีประชาชนเดินทางนำอาหาร เช่น ไข่ไก่ น้ำดื่ม นำมามอบให้กับทหารแนวหน้า ถึงแม้จะไม่คึกคักเหมือนวันก่อนๆ […]