ฎีกายกฟ้องวิศวกร คดีไฟไหม้ตึก SCB ปี 59

กรุงเทพฯ 23 ก.ย.-ปิดฉากเหตุเพลิงไหม้อาคารสำนักงานใหญ่ ธนาคารไทยพาณิชย์ เมื่อปี 59 ที่มีสาเหตุจากสารเคมีในถังดับเพลิงทำงานอัตโนมัติ ทำให้คนงานเสียชีวิต 8 คน โดยวันนี้ศาลฎีกาพิพากษา “ยกฟ้อง” วิศกรโครงการปรับปรุงระบบป้องกันอัคคีภัย โดยให้เหตุผลไม่ได้ทำการโดยประมาท


คดีสารเคมีระบบดับเพลิงไพโรเจนฟุ้งกระจายที่ตึกธนาคารไทยพาณิชย์ สำนักงานใหญ่ จนเกิดโศกนาฏกรรมมีผู้เสียชีวิต 8 คน ที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 13 มีนาคม 2559 โจทก์และจำเลยสู้คดีกันมา 5 ปี และวันนี้ศาลอาญา นัดฟังคำพิพากษา โดยมีนายจิระวัฒน์ เปรมปรีดิ์ วิศวกรโครงการปรับปรุงระบบป้องกันอัคคีภัยของบริษัทเมก้าแพลนเน็ต และผู้บริหารบริษัทเมก้าแพลนเน็ต 2 คน ซึ่งเป็นจำเลยด้วย เดินทางมาฟังคำพิพากษา พร้อมกับญาติและบุคคลใกล้ชิดที่เดินทางมาร่วมให้กำลังใจ

ศาลฎีกาตรวจสำนวนปรึกษาหารือกันแล้วเห็นว่า นายจิระวัฒน์ ได้ปฏิบัติตามหน้าที่ โดยก่อนเข้าไปพื้นที่ ได้ขออนุญาต และแจ้งให้มีการปิดระบบดับเพลิง และจากคำเบิกความของผู้เชี่ยวชาญ ระบุว่าระบบไพโรเจนน่าจะเสื่อมสภาพ ซึ่งตามรายงานของกองพิสูจน์หลักฐาน สันนิษฐานว่า ระบบทำงาน Smoke Detector ตรวจจับฝุ่นควันได้ แต่พิสูจน์ไม่ได้ว่า การทำงานเกิดจากการตรวจจับฝุ่นควันได้จริงหรือไม่ ไม่มีข้อมูลว่าก่อนเกิดเหตุธนาคารจะปิดระบบไพโรเจนหรือไม่ นอกจากนี้จากคำเบิกความพยานแสดงให้เห็นว่าระบบดับเพลิงเดิมมีปัญหาในการทำงาน ไม่ได้มีการตรวจสอบให้แน่ชัดว่าเหตุที่เกิดขึ้น เกิดด้วยสาเหตุใดกันแน่ และน่าสงสัยว่าจะมีการ “ปิด” สวิตช์ระบบดับเพลิงตั้งแต่ก่อนเกิดเหตุหรือไม่ เพราะการตรวจสอบพบว่า สวิตช์ “ปิด” อยู่ แต่ไม่มีพยานคนไหนเบิกความว่า มีการปิดสวิตช์หลังเกิดเหตุ ประกอบกับพยานหลักฐานที่โจทก์นำสืบ มีข้อสงสัยว่า วันเกิดเหตุนายจิระวัฒน์ ไม่ได้แจ้งให้ปิดระบบดับเพลิง ซึ่งเป็นการกระทำโดยประมาทตามฟ้องหรือไม่ ศาลจึงยกประโยชน์แห่งความสงสัยนั้นให้นายจิระวัฒน์ ซึ่งเป็นวิศกรโครงการปรับปรุงระบบป้องกันอัคคีภัย รวมไปถึงผู้บริหารบริษัทเมก้าแพลนเน็ตว่าไม่ได้กระทำการโดยประมาท รวมถึงยกคำร้องในการจ่ายค่าสินไหมทดแทนให้โจทก์ร่วมด้วย


ย้อนกลับไปคดีนี้ มีโจทก์ และโจทก์ร่วม คือ พนักงานอัยการสำนักงานคดีอาญา 7 และครอบครัวของคนงานที่เสียชีวิต ระหว่างติดตั้งระบบป้องกันอัคคีภัยที่ธนาคารไทยพาณิชย์ สำนักงานใหญ่ คือ นายวิรัช ดีดพิณ, นายพีรพัฒน์ กอยประโคน, นางสาวกรรณิการ์ ประจิตร์ หรือสินศิริ ร่วมกันยื่นฟ้องจำเลย 10 คน อาทิ ประธานกรรมการบริษัทเมก้าแพลนเน็ต ผู้บริหารบริษัท วิศวกร โครงการ และบริษัทอื่นๆ ที่รับเหมาช่วงจากบริษัทเมก้าแพลนเน็ต รวมถึงผู้ควบคุมการวางท่อระบบดับเพลิงภายในอาคาร ในฐานความผิด ร่วมกันกระทำโดยประมาท เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย และได้รับอันตรายแก่กายและอันตรายสาหัส ทรัพย์สินได้รับความเสียหาย

ส่วนสาเหตุโศกนาฏกรรม ในตอนแรกธนาคารไทยพาณิชย์ สำนักงานใหญ่ แจ้งว่า เหตุเกิดบริเวณชั้นใต้ดิน ช่วง 3 ทุ่มครึ่งของวันที่ 13 มีนาคม ปี 59 แต่เหตุที่เกิดไม่ได้เป็นเหตุเพลิงไหม้ และไม่ได้เกิดเหตุระเบิดแต่อย่างใด สามารถควบคุมสถานการณ์ได้เรียบร้อยแล้ว ส่วนการสอบสวนของเจ้าพนักงาน ระบุว่าสาเหตุจากสารเคมีในถังดับเพลิงทำงานอัตโนมัติ และคาดว่าเป็นอุบัติเหตุที่เกิดจากความประมาทของผู้รับเหมาที่เข้ามาปรับปรุงระบบการป้องกันอัคคีภัยของอาคารเพิ่มเติม ซึ่งการทำงานดังกล่าวได้ไปกระตุ้นให้สารดับเพลิง หรือที่เรียกกันว่าแก๊สไพโรเจนทำงาน เพราะหลักการทำงานของแก๊สไพโรเจนทำให้ออกซิเจนหมดไป ทำให้ผู้ที่ทำงานอยู่ด้านในบาดเจ็บและเสียชีวิต

คดีนี้ศาลชั้นต้น มีคำพิพากษาเมื่อวันที่ 21 ธันวาคม 2560 สั่งลงโทษจำคุกคนละ 2 ปี และปรัลคนละ 20,000 บาท กับนาย ณ.พงษ์ สุขสงวน ประธานกรรมการบริษัทเมก้าแพลนเน็ต นายอดิศร โฟดา ผู้บริหารบริษัทเมก้าแพลนเน็ต นายจิระวัฒน์ เปรมปรีดิ์ วิศวกรโครงการปรับปรุงระบบป้องกันอัคคีภัยของบริษัทเมก้าแพลนเน็ต โดยให้เหตุผลแม้ประธานและผู้บริหารบริษัทไม่เกี่ยวข้องโดยตรง แต่มีหน้าที่กำกับดูแลบริษัทต้องถูกลงโทษ ส่วนวิศวกรเป็นหัวหน้างานมีหน้าที่ต้องดูแลความปลอดภัยแต่กระทำการประมาทไม่ปิดระบบดับเพลิงเดิม ไม่ควบคุมในที่เกิดเหตุ ทำให้เกิดโศกนาฏกรรมขึ้น อย่างไรก็ตาม ทั้ง 3 คนไม่เคยต้องโทษมาก่อน อีกทั้งความประมาทที่เกิดขึ้นในการปิดระบบดับเพลิงเดิม นอกเหนือความสามารถของจำเลย เห็นควรให้โอกาส โดยโทษจำคุกให้รอลงอาญาไว้คนละ 2 ปี และร่วมชดใช้เงินให้ครอบครัวผู้เสียชีวิตที่เป็นโจทก์ร่วม 2.1 ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปีนับจากวันเกิดเหตุ ส่วนบริษัทเมก้าแพลนเน็ตสั่งปรับ 20,000 บาท และร่วมชดใช้เงินให้ครอบครัวผู้เสียชีวิตด้วย และจำเลยที่เหลือ ซึ่งเป็นทั้งบริษัทรับช่วงต่อและผู้ดูแลระบบต่างๆ ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง


ต่อมาฝ่ายโจท์ยื่นอุทธรณ์ต่อ และวันที่ 24 กรกฎาคม ปี 62 ศาลอุทธรณ์ พิพากษาแก้โทษ เป็นว่า ให้ยกฟ้อง นาย ณ.พงษ์ และนายอดิศร ประธานและผู้บริหารบริษัทเมก้าแพลนเน็ต และยกคำร้องที่บังคับให้ทั้งคู่ชดเชยค่าสินไหมทดแทน และให้นายจิระวัฒน์ วิศวกรบริษัท และบริษัทเมก้าแพลนเน็ตจ่ายดอกเบี้ยให้กับโจทก์ร่วมนับจากวันฟ้อง นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาเดิมของศาลชั้นต้น จากนั้นทั้งพนักงานอัยการโจทก์ โจทก์ร่วม และนายจิรวัฒน์ วิศกร และบริษัท ได้ยื่นฎีกา นำมาสู่คำพิพากษาในวันนี้

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังศาลอ่านคำพิพากษา “ยกฟ้อง” นายจิระวัฒน์ และบริษัทเมก้าแพลนเน็ต ที่มีผู้บริหาร 2 คนมาด้วย ต่างมีสีหน้ายิ้มแย้ม และพากันขึ้นรถกลับทันที.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่มซิ่งกระบะชนเสาไฟฟ้าล้มขวางถนน 12 ต้น

ชลบุรี 28 ก.ย. – หนุ่มซิ่งกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรตลอดทั้งวัน คาดจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) รถกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน ต.บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น เป็นเสาไฟฟ้าแรงสูง 6 ต้น เสาไฟฟ้าสูง 12 เมตร อีก 6 ต้น ระยะทาง 500 เมตร โชคดีนายสิทธิพงษ์ อายุ 41 ปี คนขับ บาดเจ็บเล็กน้อย แต่ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรบนถนนสายบึง-บ่อวิน ตลอดทั้งวัน คาดว่าจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) จากการสอบสวนทราบว่า นายสิทธิพงษ์ เพิ่งเลิกงาน ขับรถกลับบ้านด้วยความเร็ว อาจหลับใน ทำให้รถเปลี่ยนเลนข้ามไปชนกับเสาไฟฟ้าอีกฝั่ง ส่วนความเสียหายยังประเมินค่าไม่ได้.-สำนักข่าวไทย

“อนุทิน” ร่วมงานศพพ่อ “อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้า ภท.

ราชบุรี 28 ก.ย.- “อนุทิน” ร่วมสวดอภิธรรมศพพ่อ “สส.อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้าภูมิใจไทย ลั่นได้ส่งจิตขออนุญาตคุณพ่อแล้ว นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตาีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วยนายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายศักดา วิเชียรศิลป์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นายสรอรรถ กลิ่นประทุม อดีต สส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย ได้ร่วมไว้อาลัยและสวดอภิธรรมศพ คุณพ่อวุฒิพงศ์ วงษ์พิทักษ์โรจน์ บิดาของนายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สส.ราชบุรี พรรครวมไทยสร้างชาติ เมื่อค่ำวันที่ 27 ก.ย. ที่จังหวัดราชบุรี โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี หัวหน้าส่วนราชการ และประชาชนกว่า 2,000 ร่วมพิธีโดยเป็นการสวดอภิธรรมเป็นคืนที่ 4 และจะมีพิธีบรรจุศพในวันที่ 30 ก.ย. นี้ ในช่วงท้าย นายอนุทิน ได้กล่าวกับผู้ที่ร่วมสวดอภิธรรมศพ ว่า ตนเองมีความสนิทสนมกับ นายอัครเดช มาหลายปีแล้ว นายอัครเดชเป็นคนมีความวิริยะอุสาหะ ตั้งใจทำงานให้พี่น้องประชาชน ตนมีความชื่นชมและศรัทธา ในความขัยนขันแข็งของท่าน ยิ่งไปกว่านั้นการปฏิบัติหน้าที่ในสภาผู้แทนราษฎร ท่านก็ทำหน้าที่ได้ดีเป็นดาวสภา […]

โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA

กรุงเทพฯ 28 ก.ย. – โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA หลัง “อนุทิน” มอบดาบการทูตสู้กัมพูชา ขณะนายกฯ ย้ำยึดสันติในการแก้ปัญหา เพื่อประโยชน์ของประเทศ ภายหลังจากที่นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวในเวทีการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ หรือ UNGA สมัยสามัญ ครั้งที่ 80 ที่นครนิวยอร์ก ทำให้กระแสโซเชียลในประเทศไทย พึงพอใจกับการทำหน้าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ในรัฐบาลของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี เป็นอย่างมาก ทั้งนี้ การเดินทางไปเวที UNGA ของนายสีหศักดิ์ ครั้งนี้ยึดแนวทางแก้ปัญหาความมั่นคงและการต่างประเทศ ที่นายอนุทิน มอบหมายให้ดำเนินการ โดยใช้มาตรการทางการทหารควบคู่กับการทูต เพื่อรักษาอธิปไตยอย่างสันติ เพื่อผลประโยชน์ของประชาชน โดยเฉพาะในกรณีพิพาทไทย-กัมพูชา ขณะที่นายอนุทิน เชื่อว่า การกล่าวถ้อยแถลงในที่ประชุม UNGA ของนายสีหศักดิ์ ทำให้คนไทยมีความเชื่อมั่นอย่างชัดเจนต่อจุดยืนของรัฐบาล สำหรับนโยบาย 4 เดือน 4 ภารกิจหลัก คืนความมั่นใจให้ประเทศไทย ตามนโยบายรัฐบาลของนายอนุทิน […]

กรมอุตุฯ เตือนฝนถล่มทั่วไทย รับมืออิทธิพลพายุบัวลอย

กทม. 28 ก.ย.- กรมอุตุฯ เตือนทั่วไทยรับมือฝนถล่ม อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง จับตาอิทธิพลพายุไต้ฝุ่น “บัวลอย” คาดเคลื่อนขึ้นฝั่งเวียดนามตอนบน พรุ่งนี้ (29 ก.ย.) กรมอุตุนิยมวิทยาเผยประเทศไทยมีฝนตกหนักหลายพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออก โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดสกลนคร นครพนม อุดรธานี ขอนแก่น กาฬสินธุ์ มุกดาหาร จันทบุรี และตราด ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่าน พื้นที่ลุ่ม และพื้นที่น้ำท่วมขัง เนื่องจากร่องมรสุมกำลังแรงพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังแรง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง พายุไต้ฝุ่น […]

ข่าวแนะนำ

สีสัน! อภิปรายนโยบายรัฐบาลวันแรก

29 ก.ย.- การแถลงนโยบายรัฐบาลวันนี้ เหมือนเป็นการซ้อมศึกซักฟอกย่อย เพราะมีการตอบโต้และตั้งฉายามากมาย ติดตามสีสันการอภิปรายนโยบายฯ วันแรก .-สำนักข่าวไทย

เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดฝนหนักคืนนี้

29 ก.ย.- หลายพื้นที่เฝ้าระวังฝนตกหนัก จากอิทธิพล #พายุบัวลอย เชียงใหม่เปิดประตูระบายน้ำทุกจุด เร่งระบายน้ำปิงลงทะเลสาบดอยเต่า พร่องน้ำในเขื่อนแม่งัดฯ เตรียมรับน้ำฝน คาดตกหนักคืนนี้ ขณะที่ จ.นครราชสีมา น้ำล้นสปิลเวย์ เตือนประชาชนระวังน้ำท่วมฉับพลัน พายุฝนตกกระหน่ำหลายพื้นที่จังหวัดสระแก้ว โดยพื้นที่ ต.บ้านแก้ง อ.เมืองสระแก้ว นายก อบต.บ้านแก้ง พร้อมผู้นำชุมชน และอาสาสมัครกู้ภัย ได้นำเรือเครื่องยนต์ท้องแบน เข้าช่วยเหลือ ตาชู-ยายทองคำ และสุนัข 1 ตัว ออกจากบ้านที่โดนน้ำป่าไหลหลาก เข้าท่วมเกือบมิดหลังคา  มาอยู่ในที่ปลอดภัย ยายทองคำ เล่าว่าเมื่อคืนพักอยู่กับตาและหมา กำลังจะเข้านอนแต่ก็มีฝนตกตลอดทั้งคืน น้ำที่คลองก็ยังไม่เห็นว่าจะขึ้นล้นตลิ่งเท่าไร แต่ก็กังวล จึงเฝ้าดูกระทั่งน้ำไหลมาและเข้าท่วม ตกใจ จึงได้นำสุนัขขึ้นบนบ้าน ส่วนข้าวของก็เก็บไม่ทัน จากนั้นจึงอยู่แต่บนบ้านจนถึงเช้า กู้ภัยมาช่วยนำออกมาจากบ้าน อยู่มาหลายสิบปีไม่เคยเจอแบบนี้มาก่อนเลย  ผู้ว่าฯ เชียงใหม่ เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดตกหนักคืนนี้ เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา หลายพื้นที่เชียงใหม่ เริ่มมีฝนตกลงมาบ้างแล้ว ระดับน้ำในลำน้ำปิงที่ไหลผ่านตัวเมืองเชียงใหม่ ที่จุดวัดพี1 เชิงสะพานนวรัฐ ยังอยู่ที่ 2 เมตร 49 เซนติเมตร ต่ำกว่าจุดวิกฤติแจ้งเตือนที่ […]

แถลงนโยบายวันแรกเดือด ประท้วงกันวุ่น

29 ก.ย.- สภาเดือด! แถลงนโยบายรัฐบาลวันแรก อภิปรายตอบโต้-ประท้วงกันเป็นระยะ เมื่อมีการพาดพิงปมเขากระโดง-ฮั้ว สว. แต่ประธานฯ คุมสถานการณ์ได้ ด้านนายกฯ ไม่กังวลวาทกรรมของฝ่ายค้าน ชี้ประเด็นซ้ำๆ และมีการแถลงข้อเท็จจริงไปแล้ว -สำนักข่าวไทย

ฝ่าดงทุ่นระเบิดเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก “ผลักดัน-รื้อถอน”

29 ก.ย.- ทหารเรือฝ่าดงทุ่นระเบิดเข้าเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก จ.ตราด ผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้าม-รื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง 3 หลัง รุกล้ำเขตอธิปไตยไทย ขณะที่ชาวบ้านหนองจาน จ.สระแก้ว นำอาหารมอบให้ทหารแนวหน้า ยังไม่พบความเคลื่อนไหวผิดปกติ พลเรือเอก จิรพล ว่องวิทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ และพลเรือเอก ไพโรจน์ เฟื่องจันทร์ ว่าที่ ผู้บัญชาการทหารเรือ คนใหม่ มอบหมายพลเรือโทอภิชาติ ทรัพย์ประเสริฐ ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน และผู้บัญชาการกองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรี-ตราด (กกล.กปช.จต.) เข้าเคลียร์พื้นที่ชายแดนบ้านชำราก อันเป็นอธิปไตยของไทย โดยหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินตราด กองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรีตราด จึงได้ผลักดันกองกำลังกัมพูชา ออกจากพื้นที่บริเวณตรงข้ามบ้านหนองรี ตำบลชำราก ไม่มีกำลังฝ่ายกัมพูชาวางกำลังแล้ว ผลจากการปฏิบัติการ บรรลุเป้าหมายสำคัญ คือ สามารถทำลายสิ่งปลูกสร้างทั้ง 3 หลังลงได้อย่างสิ้นเชิง ที่สำคัญที่สุดคือ สามารถผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้ามให้ออกจากพื้นที่รุกล้ำได้อย่างสมบูรณ์ ประชาชนนำอาหารมอบทหารแนวหน้า บ้านหนองจาน จ.สระแก้ว ส่วนที่บ้านหนองจาน จังหวัดสระแก้ว บรรยาศเงียบเหงา แต่ยังคงมีประชาชนเดินทางนำอาหาร เช่น ไข่ไก่ น้ำดื่ม นำมามอบให้กับทหารแนวหน้า ถึงแม้จะไม่คึกคักเหมือนวันก่อนๆ […]