ผบช.น. ยืดอกรับตำรวจขับรถชนผู้ชุมนุมจริง

กทม. 13 ก.ย.-ผบช.น. รับตำรวจขับรถชนผู้ชุมนุมจริง เหตุถูกรุมใช้ไม้ทุบตีรถ มีเสียงระเบิดดังรอบรถหลายครั้ง ไม่ใช่ชนแล้วหนี ย้ำปฏิบัติหน้าที่ตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉิน มีการเผาทำลายทรัพย์สิน เกิดความเสียหาย ก่อความวุ่นวาย

พล.ต.ท.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ชี้แจงกรณีมีการแชร์คลิปเหตุการณ์รถควบคุมผู้ต้องหาเฉี่ยวชนผู้ชุมนุม จนได้รับบาดเจ็บและหลบหนี ว่า จากการตรวจสอบพบว่าเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริง ซึ่งรถดังกล่าวเป็นรถควบคุมผู้ต้องหาของ สน.พลับพลาไชย 1 ซึ่งเมื่อวันที่ 12 กันยายน ที่ผ่านมา ส.ต.อ.นรเศรษฐ ผบ.หมู่ ผู้ช่วยพนักงานสอบสวน สน.พลับพลาไชย 1 ได้รับคำสั่งจากต้นสังกัด ให้นำรถควบคุมผู้ต้องหาของ สน.พลับพลาไชย 1 คันหมายเลขทะเบียน ฮจ 5399 กทม. ไปสนับสนุนภารกิจที่ ตร. และหลังจากการเสร็จภารกิจที่ ตร. ให้ไปสนับสนุนภารกิจ ที่ บช.ปส. จากนั้นเมื่อเวลาประมาณ 23.30 น. ได้มีการสั่งกำลังพลบางส่วนที่สนับสนุนการปฏิบัติการควบคุมสถานการณ์ที่แยกดินแดง สามารถถอนกำลังกลับที่ตั้งได้ ส.ต.อ.นรเศรษฐ จึงได้ขับรถคันดังกล่าว เดินทางกลับ สน.พลับพลาไชย 1 เพื่อนำรถยนต์คันดังกล่าวมาเก็บที่ สน. และจะนอนพักที่ สน. เพื่อรอปฏิบัติหน้าที่ในวันรุ่งขึ้น โดยคิดว่ากลุ่มผู้ชุมนุม ผู้ก่อความไม่สงบได้ออกนอกพื้นที่แยกดินแดงแล้ว จึงได้ใช้เส้นทางถนนวิภาวดีรังสิต และเมื่อเวลาประมาณ 23.45 น. ได้ขับมาถึงบริเวณแยกดินแดง มีกลุ่มคนประมาณ 6-7 คน วิ่งออกจากข้างถนน เข้ามายังรถควบคุมผู้ต้องหาคันดังกล่าว และได้ใช้ไม้ วัตถุของแข็ง ตีบริเวณกระจกหน้าฝั่งคนขับ รวมถึงรอบๆ ตัวรถ และมีเสียงระเบิดดังขึ้นบริเวณรอบรถหลายครั้ง ส.ต.อ.นรเศรษฐ เกรงว่าจะได้รับอันตราย เนื่องจากไม่ได้พกพาอาวุธประจำกาย จึงพยายามขับรถออกจากบริเวณดังกล่าวโดยเร็วที่สุด ในจังหวะนั้นได้มีบุคคลเข้ามาขวางบริเวณด้านหน้ารถ เป็นเหตุให้เฉี่ยวชนบุคคลดังกล่าว ต่อมารถคันดังกล่าวยางแตก ไม่สามารถขับต่อได้ จึงได้เลี้ยวเข้าจอดที่ รพ.พระมงกุฎ ส.ต.อ.นรเศรษฐ ได้เดินทางกลับไปที่ สน.พลับพลาไชย 1 แจ้งให้ผู้บังคับบัญชาทราบ ก่อนจะดำเนินการนำรถควบคุมผู้ต้องหาคันดังกล่าว มาเก็บรักษาไว้ที่ สน.พลับพลาไชย 1 ก่อนแจ้งให้พนักงานสอบสวน สน.ดินแดง ทราบเหตุดังกล่าว ลงบันทึกประจำวันไว้แล้ว เมื่อวันที่ 13 กันยายน เวลาประมาณ 03.20 น. และแจ้งเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานกลาง ตรวจพยานหลักฐานรถคันเกิดเหตุ


ส่วนประเด็นชนแล้วหนีหรือไม่ ไม่ใช่ชนแล้วหนี แต่พยายามตรวจสอบสถานพยาบาล ไม่ได้มีใครเข้ารับการรักษาบุคคลใดที่ได้ระบุบาดเจ็บจากการดำเนินการของตำรวจ เป็นสิทธิ์ของคนที่ถูกกระทำ เหตุที่ไม่จอดเนื่องจากเกรงว่าจะเกิดอันตราย

ส่วนการปฏิบัติหน้าที่เป็นการปฏิบัติตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉิน มีการเผาทำลายทรัพย์สิน เกิดความเสียหาย ก่อเหตุความวุ่นวาย ส่วนเหตุการที่มีการเข้าพื้นที่แฟลตดินแดงนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าปฏิบัติหน้าที่เนื่องจากมีเหตุความรุนแรงเกิดขึ้นไม่หยุด เป็นเหตุให้ตำรวจถูกระเบิดได้รับบาดเจ็บสาหัส ตนเองจะพูดที่ข้อเท็จจริงเกิดขึ้นจากอะไรให้คนใช้ดุลยพินิจเอา ตำรวจทำในกรอบของกฎหมาย ไม่ใช่เอากำลังไล่ตีกลุ่มคนชุมนุม อยู่ในที่ตั้ง บางครั้งคนก่อเหตุเผาทำลายทรัพยทำลายทรัพย์สินจึงใช้กำลังเข้าควบคุม อย่างการเผาทำลายซุ้ม


ส่วนมาตรการป้องกันในการระงับเหตุอย่างไรนั้น พล.ต.ท.ภัคพงศ์ ระบุว่า ทุกวันนี้ตำรวจได้รับบาดเจ็บ และข้อเท็จจริงตำรวจไม่ได้ใช้อาวุธปืนจริงสักครั้ง แต่เราใช้กระสุนยาง ใช้แก๊ส ส่วนการป้องกันตั้งด่านสกัดนั้น ตำรวจพยายามตรวจค้นรถต้องสงสัย รถจักรยานยนต์เป็นหลัก จุดตรวจจุดสกัดเข้ามาทำร้ายเจ้าหน้าที่ พยายามรักษาความสงบใช้กำลังตามสมควรแก่เหตุ ตรวจค้นก่อนการชุมนุมก็ตาม ดำเนินคดีภายหลังก็ทำ เหตุการณ์ลุกลามก็พยานามใช้กำลังระงับเหตุ ส่วนผู้หญิง 2 คนถูกดำเนินการ ได้รับฟังจากสื่อ โดยจะดำเนินการตรวจสอบ

ด้าน พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย โฆษก บช.น. ระบุว่ากรณีที่มีการนัดหมายชุมนุมผ่านช่องทางออนไลน์ ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ในวันที่ 13 ก.ย. จะมีการรวมตัวกันของกลุ่มหลักๆ คือ กลุ่มทะลุแก๊ส ยังไม่ทราบเวลา นัดหมาย ที่แยกดินแดง บช.น. ขอเตือนว่ากรุงเทพมหานครเป็นพื้นที่ที่ประกาศ เป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด การชุมนุมหรือรวมกลุ่มทํากิจกรรมที่มีลักษณะเสี่ยงต่อการแพร่โรค จะเป็นความผิดตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ, ประกาศหัวหน้าผู้รับผิดชอบในการแก้ไข สถานการณ์ฉุกเฉินฯ ฉบับที่ 10 ลง 31 ส.ค.64 และ พ.ร.บ.โรคติดต่อฯ อีกส่วนหนึ่ง โดยทาง บช.น. ได้จัดเตรียมกําลังเจ้าหน้าที่ตํารวจเพื่อดูแลความสงบเรียบร้อยของบ้านเมืองไว้แล้ว

พล.ต.ต.ปิยะ ระบุอีกว่า จากการชุมนุมในวันที่ 12 ก.ย. 2564 มีการจัดกิจกรรม 2 กลุ่มหลักๆ คือ 1.กลุ่มโมกหลวงริมน้ำ เวลา 19.00-19.30 น. ได้ทํากิจกรรมปราศรัย และสาดสีบริเวณหน้าวัดสระปทุม ฝั่งตรงข้ามสํานักงานตํารวจแห่งชาติ 2.กลุ่มต่อต้านเผด็จการและกลุ่มทะลุแก๊สที่บริเวณแยกดินแดง เริ่มรวมตัวเวลา 17.30 น. มีการนําแผงเหล็กมาปิดการจราจร จุดไฟเผาทรัพย์สินต่างๆ บริเวณทางขึ้นด่วนมุ่งหน้าบางนา ใต้ทางด่วน และบริเวณ หน้า ปปส. เป็นเหตุให้มีเพลิงไหม้เป็นจํานวนมาก เวลา 19.50 น. เจ้าหน้าที่จึงออกมาควบคุมเพลิง ระหว่างนั้นกลุ่มฯได้ใช้หนังสติ๊ก,วัสดุท่ออัดแก๊ส ในการยิงลูกแก้ว ประทัดยักษ์ พลุไฟ ระเบิดต่างๆ บริเวณหน้ากรมดุริยางค์ทหาร และฝั่งถนนมิตรไมตรี เป็นระยะๆ


เจ้าหน้าที่ตํารวจจึงได้มีการประกาศเตือนให้กลุ่มผู้ชุมนุม ยุติการกระทําและออกจากพื้นที่ทั้งหมด แต่กลุ่มฯ ไม่ยอมเชื่อฟังและยังคงก่อความวุ่นวายต่อ เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์ ลุกลามบานปลาย เวลาประมาณ 22.00 น. เจ้าหน้าที่จึงต้องเข้าบังคับใช้กฎหมายและผลักดัน กลุ่มผู้ชุมนุมให้ออกจากพื้นที่เพื่อรักษาความสงบเรียบร้อยของบ้านเมือง ต่อมามีการจุดไฟเผา บริเวณหน้าสนามไทยญี่ปุ่นดินแดง รถไม่สามารถผ่านได้ และลงมาปิดถนน โรยตะปูเรือใบ บริเวณปากซอยบุญอยู่ ไม่ให้รถผ่านลงอุโมงค์ดินแดง จากการก่อความวุ่นวายของผู้ชุมนุมเป็น เหตุให้มีทรัพย์สินสาธารณประโยชน์ได้รับความเสียหายจํานวนหนึ่ง ทั้งนี้มีการจับกุม ผู้กระทําความผิดพร้อมของกลาง เป็นอาวุธปืน, เครื่องกระสุนปืน, หนังสติ๊ก และลูกแก้ว จํานวนหนึ่ง ส่งพนักงานสอบสวนดําเนินคดีในข้อหาฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ, มั่วสุมกันตั้งแต่สิบคนขึ้นไปก่อความวุ่นวายในบ้านเมืองฯ, เมื่อเจ้าพนักงานสั่งผู้ที่มั่วสุมให้เลิกแล้วไม่ เลิกฯ ,ครอบครองและพกพาอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไปในที่สาธารณะโดยไม่ได้รับ อนุญาตฯ หรือความผิดอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง และยังตรวจพบของกลางที่ตกในบริเวณรอบ สามเหลี่ยมดินแดง เป็นระเบิดแสวงเครื่อง ระเบิดปิงปอง อีกส่วนหนึ่ง

ส่วนกรณีประชาชนถูกทำร้ายร่างกายมีผู้เสียหาย 1 ราย นายภวดล ประสิทธิ์ อายุ 20 ปี แจ้งความถูกทำร้ายบริเวณเชิงสะพานพระรามเก้า ทำให้ศีรษะแตก แขนขาถูกอาวุธมีดฟัน ทางพนักงานสอบสวน สน.ดินแดง รับเรื่องไว้แล้ว จะดำเนินการสืบสวนสอบสวนหาตัวผู้กระทำผิดตามกฎหมาย

ขณะที่ประเด็นการยิงเด็ก 14 ปี และอายุ 15 ปี นั้น ความคืบหน้าการสืบสวนมีคืบหน้าไปค่อนข้างมาก โดยได้คลิปภาพเหตุการณ์ที่เกิดเหตุเบื้องต้น อยู่ระหว่างสืบสวนให้ทราบตัวผู้กระทำผิดให้แน่ชัด เพื่อออกหมายจับกุมผู้กระทำความผิด

ขณะที่ประเด็นสถานทูตญี่ปุ่นแจ้งเตือนเหตุก่อการร้ายนั้น พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนะเจริญ รองโฆษก ตร. กล่าวว่า ข้อมูลจากกองบัญชาการตำรวจสันติบาล (บช.ส.) มีการแจ้งเตือนสถานทูตญี่ปุ่นที่เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ไม่ใช่แค่ประเทศไทย เป็นการแจ้งเตือนวงรอบ ไม่มีสิ่งใดบอกเหตุในการก่อการร้าย เนื่องจากมีการก่อการร้ายจากตะวันออกกลาง.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่มซิ่งกระบะชนเสาไฟฟ้าล้มขวางถนน 12 ต้น

ชลบุรี 28 ก.ย. – หนุ่มซิ่งกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรตลอดทั้งวัน คาดจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) รถกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน ต.บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น เป็นเสาไฟฟ้าแรงสูง 6 ต้น เสาไฟฟ้าสูง 12 เมตร อีก 6 ต้น ระยะทาง 500 เมตร โชคดีนายสิทธิพงษ์ อายุ 41 ปี คนขับ บาดเจ็บเล็กน้อย แต่ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรบนถนนสายบึง-บ่อวิน ตลอดทั้งวัน คาดว่าจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) จากการสอบสวนทราบว่า นายสิทธิพงษ์ เพิ่งเลิกงาน ขับรถกลับบ้านด้วยความเร็ว อาจหลับใน ทำให้รถเปลี่ยนเลนข้ามไปชนกับเสาไฟฟ้าอีกฝั่ง ส่วนความเสียหายยังประเมินค่าไม่ได้.-สำนักข่าวไทย

“อนุทิน” ร่วมงานศพพ่อ “อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้า ภท.

ราชบุรี 28 ก.ย.- “อนุทิน” ร่วมสวดอภิธรรมศพพ่อ “สส.อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้าภูมิใจไทย ลั่นได้ส่งจิตขออนุญาตคุณพ่อแล้ว นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตาีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วยนายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายศักดา วิเชียรศิลป์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นายสรอรรถ กลิ่นประทุม อดีต สส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย ได้ร่วมไว้อาลัยและสวดอภิธรรมศพ คุณพ่อวุฒิพงศ์ วงษ์พิทักษ์โรจน์ บิดาของนายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สส.ราชบุรี พรรครวมไทยสร้างชาติ เมื่อค่ำวันที่ 27 ก.ย. ที่จังหวัดราชบุรี โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี หัวหน้าส่วนราชการ และประชาชนกว่า 2,000 ร่วมพิธีโดยเป็นการสวดอภิธรรมเป็นคืนที่ 4 และจะมีพิธีบรรจุศพในวันที่ 30 ก.ย. นี้ ในช่วงท้าย นายอนุทิน ได้กล่าวกับผู้ที่ร่วมสวดอภิธรรมศพ ว่า ตนเองมีความสนิทสนมกับ นายอัครเดช มาหลายปีแล้ว นายอัครเดชเป็นคนมีความวิริยะอุสาหะ ตั้งใจทำงานให้พี่น้องประชาชน ตนมีความชื่นชมและศรัทธา ในความขัยนขันแข็งของท่าน ยิ่งไปกว่านั้นการปฏิบัติหน้าที่ในสภาผู้แทนราษฎร ท่านก็ทำหน้าที่ได้ดีเป็นดาวสภา […]

โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA

กรุงเทพฯ 28 ก.ย. – โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA หลัง “อนุทิน” มอบดาบการทูตสู้กัมพูชา ขณะนายกฯ ย้ำยึดสันติในการแก้ปัญหา เพื่อประโยชน์ของประเทศ ภายหลังจากที่นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวในเวทีการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ หรือ UNGA สมัยสามัญ ครั้งที่ 80 ที่นครนิวยอร์ก ทำให้กระแสโซเชียลในประเทศไทย พึงพอใจกับการทำหน้าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ในรัฐบาลของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี เป็นอย่างมาก ทั้งนี้ การเดินทางไปเวที UNGA ของนายสีหศักดิ์ ครั้งนี้ยึดแนวทางแก้ปัญหาความมั่นคงและการต่างประเทศ ที่นายอนุทิน มอบหมายให้ดำเนินการ โดยใช้มาตรการทางการทหารควบคู่กับการทูต เพื่อรักษาอธิปไตยอย่างสันติ เพื่อผลประโยชน์ของประชาชน โดยเฉพาะในกรณีพิพาทไทย-กัมพูชา ขณะที่นายอนุทิน เชื่อว่า การกล่าวถ้อยแถลงในที่ประชุม UNGA ของนายสีหศักดิ์ ทำให้คนไทยมีความเชื่อมั่นอย่างชัดเจนต่อจุดยืนของรัฐบาล สำหรับนโยบาย 4 เดือน 4 ภารกิจหลัก คืนความมั่นใจให้ประเทศไทย ตามนโยบายรัฐบาลของนายอนุทิน […]

กรมอุตุฯ เตือนฝนถล่มทั่วไทย รับมืออิทธิพลพายุบัวลอย

กทม. 28 ก.ย.- กรมอุตุฯ เตือนทั่วไทยรับมือฝนถล่ม อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง จับตาอิทธิพลพายุไต้ฝุ่น “บัวลอย” คาดเคลื่อนขึ้นฝั่งเวียดนามตอนบน พรุ่งนี้ (29 ก.ย.) กรมอุตุนิยมวิทยาเผยประเทศไทยมีฝนตกหนักหลายพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออก โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดสกลนคร นครพนม อุดรธานี ขอนแก่น กาฬสินธุ์ มุกดาหาร จันทบุรี และตราด ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่าน พื้นที่ลุ่ม และพื้นที่น้ำท่วมขัง เนื่องจากร่องมรสุมกำลังแรงพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังแรง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง พายุไต้ฝุ่น […]

ข่าวแนะนำ

สีสัน! อภิปรายนโยบายรัฐบาลวันแรก

29 ก.ย.- การแถลงนโยบายรัฐบาลวันนี้ เหมือนเป็นการซ้อมศึกซักฟอกย่อย เพราะมีการตอบโต้และตั้งฉายามากมาย ติดตามสีสันการอภิปรายนโยบายฯ วันแรก .-สำนักข่าวไทย

เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดฝนหนักคืนนี้

29 ก.ย.- หลายพื้นที่เฝ้าระวังฝนตกหนัก จากอิทธิพล #พายุบัวลอย เชียงใหม่เปิดประตูระบายน้ำทุกจุด เร่งระบายน้ำปิงลงทะเลสาบดอยเต่า พร่องน้ำในเขื่อนแม่งัดฯ เตรียมรับน้ำฝน คาดตกหนักคืนนี้ ขณะที่ จ.นครราชสีมา น้ำล้นสปิลเวย์ เตือนประชาชนระวังน้ำท่วมฉับพลัน พายุฝนตกกระหน่ำหลายพื้นที่จังหวัดสระแก้ว โดยพื้นที่ ต.บ้านแก้ง อ.เมืองสระแก้ว นายก อบต.บ้านแก้ง พร้อมผู้นำชุมชน และอาสาสมัครกู้ภัย ได้นำเรือเครื่องยนต์ท้องแบน เข้าช่วยเหลือ ตาชู-ยายทองคำ และสุนัข 1 ตัว ออกจากบ้านที่โดนน้ำป่าไหลหลาก เข้าท่วมเกือบมิดหลังคา  มาอยู่ในที่ปลอดภัย ยายทองคำ เล่าว่าเมื่อคืนพักอยู่กับตาและหมา กำลังจะเข้านอนแต่ก็มีฝนตกตลอดทั้งคืน น้ำที่คลองก็ยังไม่เห็นว่าจะขึ้นล้นตลิ่งเท่าไร แต่ก็กังวล จึงเฝ้าดูกระทั่งน้ำไหลมาและเข้าท่วม ตกใจ จึงได้นำสุนัขขึ้นบนบ้าน ส่วนข้าวของก็เก็บไม่ทัน จากนั้นจึงอยู่แต่บนบ้านจนถึงเช้า กู้ภัยมาช่วยนำออกมาจากบ้าน อยู่มาหลายสิบปีไม่เคยเจอแบบนี้มาก่อนเลย  ผู้ว่าฯ เชียงใหม่ เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดตกหนักคืนนี้ เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา หลายพื้นที่เชียงใหม่ เริ่มมีฝนตกลงมาบ้างแล้ว ระดับน้ำในลำน้ำปิงที่ไหลผ่านตัวเมืองเชียงใหม่ ที่จุดวัดพี1 เชิงสะพานนวรัฐ ยังอยู่ที่ 2 เมตร 49 เซนติเมตร ต่ำกว่าจุดวิกฤติแจ้งเตือนที่ […]

แถลงนโยบายวันแรกเดือด ประท้วงกันวุ่น

29 ก.ย.- สภาเดือด! แถลงนโยบายรัฐบาลวันแรก อภิปรายตอบโต้-ประท้วงกันเป็นระยะ เมื่อมีการพาดพิงปมเขากระโดง-ฮั้ว สว. แต่ประธานฯ คุมสถานการณ์ได้ ด้านนายกฯ ไม่กังวลวาทกรรมของฝ่ายค้าน ชี้ประเด็นซ้ำๆ และมีการแถลงข้อเท็จจริงไปแล้ว -สำนักข่าวไทย

ฝ่าดงทุ่นระเบิดเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก “ผลักดัน-รื้อถอน”

29 ก.ย.- ทหารเรือฝ่าดงทุ่นระเบิดเข้าเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก จ.ตราด ผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้าม-รื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง 3 หลัง รุกล้ำเขตอธิปไตยไทย ขณะที่ชาวบ้านหนองจาน จ.สระแก้ว นำอาหารมอบให้ทหารแนวหน้า ยังไม่พบความเคลื่อนไหวผิดปกติ พลเรือเอก จิรพล ว่องวิทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ และพลเรือเอก ไพโรจน์ เฟื่องจันทร์ ว่าที่ ผู้บัญชาการทหารเรือ คนใหม่ มอบหมายพลเรือโทอภิชาติ ทรัพย์ประเสริฐ ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน และผู้บัญชาการกองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรี-ตราด (กกล.กปช.จต.) เข้าเคลียร์พื้นที่ชายแดนบ้านชำราก อันเป็นอธิปไตยของไทย โดยหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินตราด กองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรีตราด จึงได้ผลักดันกองกำลังกัมพูชา ออกจากพื้นที่บริเวณตรงข้ามบ้านหนองรี ตำบลชำราก ไม่มีกำลังฝ่ายกัมพูชาวางกำลังแล้ว ผลจากการปฏิบัติการ บรรลุเป้าหมายสำคัญ คือ สามารถทำลายสิ่งปลูกสร้างทั้ง 3 หลังลงได้อย่างสิ้นเชิง ที่สำคัญที่สุดคือ สามารถผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้ามให้ออกจากพื้นที่รุกล้ำได้อย่างสมบูรณ์ ประชาชนนำอาหารมอบทหารแนวหน้า บ้านหนองจาน จ.สระแก้ว ส่วนที่บ้านหนองจาน จังหวัดสระแก้ว บรรยาศเงียบเหงา แต่ยังคงมีประชาชนเดินทางนำอาหาร เช่น ไข่ไก่ น้ำดื่ม นำมามอบให้กับทหารแนวหน้า ถึงแม้จะไม่คึกคักเหมือนวันก่อนๆ […]