ไทม์ไลน์ซ้อนแผนดัดหลัง “ลุงพล” ล่อมอบตัวแล้วจับสับกุญแจมือ

2 มิ.ย. – ยืดเยื้อนับปี การดำเนินคดีอาญาคดีน้องชมพู่ วันนี้เริ่มนับหนึ่งแล้ว เพราะในที่สุด “ลุงพล” ผู้ต้องสงสัยหมายเลข 1 ในคดีนี้ ถูกตำรวจซ้อนแผน-ดัดหลัง ทำทีเปิดโอกาสให้ลุงพลเข้ามามอบตัวที่ สตช. แต่พอปรากฏตัวก็เข้าชาร์จจับกุมใส่กุญแจมือทันที พร้อมแจ้ง 3 ข้อหา ก่อนส่งตัวขึ้นเฮลิคอปเตอร์กลับไปดำเนินคดีที่ สภ.กกตูม จ.มุกดาหาร


ตั้งแต่ประมาณ 06.00 น. ตำรวจเข้าปิดล้อมบ้านเลขที่ 79 หมู่ 2 ต.กกตูม อ.ดงหลวง จ.มุกดาหาร ซึ่งเป็นบ้านพักของนายไชย์พล วิภา หรือ “ลุงพล” อายุ 45 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดมุกดาหารในคดีการเสียชีวิต “น้องชมพู่” หลานสาวอายุ 3 ขวบ เหตุเกิดเมื่อช่วงเดือนพฤษภาคม 2563 บนภูเหล็กไฟ ห่างจากบ้านไม่ไกลนัก พอไปถึงตำรวจได้พยายามเรียก “ลุงพล” ให้ออกมาจากบ้านโดยมีผู้ใหญ่บ้านกกกอก ช่วยเรียกลุงพลให้ออกมา พร้อมทั้งโทรศัพท์ติดต่อ แต่ไม่มีเสียงตอบรับใด กระทั่งตำรวจส่วนหนึ่งเดินไปทางหลังบ้าน พร้อมกับเจรจากันประมาณ 10 นาที ก่อนจะเดินมาบริเวณด้านหน้าของบ้านและได้มีคนเปิดประตูบ้านให้ท่ามกลางกระแสข่าวว่า “ลุงพล” ไม่ได้อยู่ในบ้านแล้ว รวมทั้งนางสมพร หลาบโพธิ์ หรือ “ป้าแต๋น” ภรรยา ก็ไม่อยู่ด้วย มีเพียงนายชาญ หลาบโพธิ์ หรือ “ตาชาญ” อายุ 67 ปี พ่อของ “ป้าแต๋น” อยู่ในที่เกิดเหตุ พร้อมบอกว่าจะไปรับหลาน จากนั้นตำรวจได้เข้าไปตรวจค้นภายในบ้านพัก ใช้เวลาประมาณ 10 นาที จึงพบว่า “ลุงพล” หลบหนีไปจริง

อย่างไรก็ตาม ระหว่างปฏิบัติตำรวจได้คุมตัวนายธนากร ทนันไธสง หรือ “อ๋อ” ยูทูบเบอร์คนสนิทของ “ลุงพล” ในข้อหาขัดขวางการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ ซึ่งเป็นคดีค้างเก่ากรณีที่ไปขวางทางตำรวจในวันที่ “ลุงพล” และ “ป้าแต๋น” เข้าเครื่องจับเท็จเมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา


ขณะที่แม่ของ “น้องชมพู่” ได้เดินทางมาที่เกิดเหตุ พร้อมให้สัมภาษณ์ว่าหลังทราบว่า “ลุงพล” ตกเป็นผู้ต้องสงสัยในคดี ส่วนสาเหตุที่ในอดีตได้เคยออกมาให้สัมภาษณ์ว่าสงสัย “ลุงพล” เนื่องจากได้พยายามทำอะไรหลายๆ อย่าง แต่ “ลุงพล” ไม่ยอมฟัง และการให้ข่าวของ “ลุงพล” มีลักษณะพูดกลับไปกลับมา อย่างไรก็ตาม อยากบอกกับ “น้องชมพู่” ว่าลูกได้รับความยุติธรรมแล้ว พ่อกับแม่ทำให้สังคมรู้ว่าเราไม่ได้ทำร้ายลูก เราไม่ฆ่าลูก

สำหรับ “ลุงพล” ถูกศาลจังหวัดมุกดาหารออกหมายจับเมื่อวานนี้ 1 มิถุนายน 3 ข้อหา ประกอบด้วย พรากเด็กอายุไม่เกิน 15 ปี ไปเสียจากบิดามารดา โดยปราศจากเหตุอันควร, ทอดทิ้งเด็กอายุไม่เกิน 9 ปีเพื่อให้เด็กนั้นพ้นไปเสียจากตน โดยประการที่ทำให้เด็กนั้นปราศจากผู้ดูแล เป็นเหตุให้เด็กถึงแก่ความตาย และกระทำการใดๆ แก่ศพหรือสภาพแวดล้อมในบริเวณที่พบศพ ก่อนการชันสูตรพลิกศพเสร็จสิ้น ในประการที่น่าจะทำให้การชันสูตรพลิกศพหรือผลทางคดีเปลี่ยนแปลงไป

หลักฐานสำคัญที่นำไปสู่การออกหมายจับครั้งนี้ เป็นหลักฐานบริเวณจุดพบศพ “น้องชมพู่” ที่มีทั้งกางเกง รองเท้า และเส้นขน 3 เส้น ซึ่งตรวจดีเอ็นเอด้วยวิธีพิเศษ เพราะไม่พบรากขน ทำให้การตรวจครั้งแรกพบเพียงเชื่อมโยงกับเพศหญิง ซึ่งระบุได้ว่าเป็นญาติทางสายเลือดฝั่งแม่เด็ก ซึ่งอาจเป็นไปได้ทั้งเส้นขนของ “น้องชมพู่” หรือ แม่ พี่สาว ป้า น้า ยาย แต่การตรวจด้วยวิธีพิเศษพบความเข้ากันได้มากที่สุดกับ “ป้าแต๋น” ภรรยาของ “ลุงพล” ทำให้เส้นขนกลายเป็นหลักฐานสำคัญควบคู่ไปกับหลักฐานอีกชิ้น ซึ่งเป็นเส้นผมที่ตกอยู่ในรถของ “ลุงพล” โดยเส้นผมดังกล่าวเป็นเส้นผมกลุ่มเดียวกับเส้นผม 36 เส้นของ “น้องชมพู่” ที่ถูกตัดด้วยมีด ความยาวเส้นละประมาณ 1 เซนติเมตร และถูกพบบริเวณจุดพบศพของน้องชมพู่


นอกจากนี้ยังมีเส้นผมของคนใกล้ชิดที่ตกอยู่ในที่เกิดเหตุ ทั้งที่คนใกล้ชิดไม่ได้ขึ้นไปบนเขาภูเหล็กไฟ นอกจากนี้การเข้าเครื่องจับเท็จของ “ลุงพล” ก็มีพิรุธ ประกอบกับคำให้การของพยานแวดล้อม ทุกอย่างขมวดรวมบ่งชี้ไปได้ว่าคดีนี้ “ลุงพล” เท่านั้นที่จะพาตัวน้องชมพู่ขึ้นไปบนภูเหล็กไฟ

จากนั้น ประมาณ 10.00 น. นายษิทรา เบี้ยบังเกิด ทนายความ เดินทางมาถึงสำนักงานตำรวจแห่งชาติ มีสื่อมวลชนห้อมล้อมเพื่อสอบถามว่าลุงพล จะมามอบตัวกับ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. จริงหรือไม่ นายษิทธา เปิดเผยว่า หลังจากลุงพลถูกออกหมายจับก็มีความพยายามจะนำลุงพลเข้ามอบตัวกับพนักงานสอบสวน โดยเลือกที่จะมอบตัวกับ พล.ต.อ.สุวัฒน์ เพราะถือว่าเป็นหัวหน้าพนักงานสอบสวนในคดี แม้คดีการเสียชีวิตของน้องชมพู่จะเกิดขึ้นที่ จ.มุกดาหาร ขอยืนยันว่าไม่มีการเจรจาหรือต่อรองเรื่องการขอประกันตัวตามที่มีข่าว และว่าลุงพลพยายามจะเข้าเข้ามอบตัวแต่ตำรวจไม่รับมอบตัว พร้อมระบุว่ายังไม่ได้พบกับลุงพล เนื่องจากได้นัดมาเจอลุงพลที่เดินทางมาจากมุกดาหาร ให้มาเจอกันที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ

และในช่วงที่ชุลมุนอยู่กับทนายษิทรา อยู่ด้านหน้าอาคาร 1 ที่ทำงานของ ผบ.ตร. ปรากฏว่า นายไชย์พล หรือลุงพล พร้อมด้วยป้าแต๋น ภรรยา ได้เดินมาจากด้านหลังของอาคาร 1 แล้วเข้าพบตำรวจบริเวณโถงกลาง ชั้น 1 โดยลุงพลสวมเสื้อยืดสีขาว มีผ้าพันคอลายพื้นบ้านสีน้ำเงิน ใส่กางเกงยีน ส่วนป้าแต๋น สวมเสื้อคลุมสีแดง สวมกางเกงยีน และสะพานกระเป๋าเป้ ตำรวจได้เชิญตัวเข้าไปพูดคุยภายในห้องโถง มีทนายตั้มเข้าไปสมทบ และ พ.ต.อ.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ รองผู้บังคับการ กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด เป็นผู้อ่านหมายจับให้ลุงพลฟัง และทนายตั้มร่วมฟัง ก่อนใส่กุญแจมือและนำตัวส่งให้พนักงานสอบสวน สน.ปทุมวัน เพื่อลงบันทึกประจำวัน งานนี้ “ลุงพล” จึงไม่มีโอกาสได้มอบตัวกับท่าน ผบ.ตร. ตามที่ประสานงานไว้ หรือเท่ากับลุงพลถูกจับกลางสำนักงานตำรวจแห่งชาตินั่นเอง

จากนั้น พล.ต.อ.สุวัฒ์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. ลงมาให้สัมภาษณ์นักข่าวที่ชั้น 1 ว่าคดีนี้ทำตามพยานหลักฐาน เมื่อรวบรวมพยานหลักฐานรัดกุมรอบด้าน ก็ขออนุมัติศศาลออกหมายจับ เป็นไปตามกระบวนการยุติธรรม พยานหลักฐานคดีนี้มีการพูดถึงกันมากมาย แต่ไม่สามารถเปิดเผยได้ ถ้าไม่มีพยานหลักฐานก็ไม่สามารถจะตั้งข้อหาใครได้

ส่วนที่นายไชย์พล พยายามจะมามอบตัวกับตน จะทำอะไรก็ทำ แต่เมื่อตำรวจไปเจอตัวแล้วก็ต้องจับกุม ส่วนการจะให้ประกันตัวหรือไม่ ขึ้นอยู่กับพนักงานสอบสวนจะพิจารณาตามขั้นตอนของกฎหมายตำรวจมีเวลา 48 ชั่วโมง หลังจากนั้นหากจำเป็นต้องสอบสวนต่อ หรือถ้าจะยื่นประกันตัวก็ยื่นต่อพนักงานสอบสวนซึ่งจะใช้ดุลยพินิจในการพิจารณา คดีนี้เจ้าหน้าที่มั่นใจในการทำงาน ส่วนคนอื่นจะคิดยังไงก็เป็นสิทธิ์ เราทำตามพยานหลักฐาน ถ้ามีมากกว่านี้เราก็จะทำ

ณ เวลานี้มีพยานหลักฐานที่ขอหมายจับผู้ต้องหาได้ 1 คน ถ้ามีมากกว่านี้ก็จะดำเนินการไปตามพยานหลักฐาน คดีนี้ก็เหมือนคดีอื่น ๆ ปิดได้บ้าง ไม่ได้บ้าง ทำได้ก็ดีใจ ถ้าเทียบกับการแข่งขันฟุตบอลโลกตอนนี้ก็เข้ารอบสุดท้าย ต้องสู้กันอีกยาว หากยังไม่มีการตัดสิน ผู้ถูกกล่าวหายังเป็นผู้บริสุทธิ์

ผู้สื่อข่าวถามว่า ผบ.ตร. อยากฝากอะไรไปถึงครอบครัวน้องชมพู่บ้าง พล.ต.อ.สุวัฒน์ ตอบว่าตำรวจเคยรับปากไว้ว่าจะทำให้ดีที่สุด เราก็ทำตามสัญญา แต่ว่ามันยังไม่จบ คดีนี้เป็นคดีฆาตกรรมทั่วไป แต่ไม่น่าเชื่อว่าจะมีประชาชนติดตามเสพติดจนกินไม่ได้นอนไม่หลับ อาจเป็นเพราะภูมิคุ้มกันเรื่องโซเชียลไม่เพียงพอ ขอให้ใช้วิจารณญาณในการเสพสื่อ ถ้าหยุดติดตามคดีนี้สัก 2 สัปดาห์ สุขภาพจิตจะดีขึ้น

ต่อมาเวลาประมาณ 13.00 น. ตำรวจฝ่ายสืบสวนได้ควบคุมตัวนายไชยพล ขึ้นรถจาก สน.ปทุมวัน เพื่อเดินทางไปยังกองบินตำรวจ ท่าแร้ง ย่านรามอินทรา เพื่อขึ้นเฮลิคอปเตอร์เดินทางไปที่ สภ.กกตูม จ.มุกดาหาร โดยมีป้าแต๋น และทนายษิทรา ขึ้นรถออกจาก สน.ปทุมวัน ไปพร้อมกันด้วย โดยไม่มีการตอบคำถามสื่อมวลชนแต่อย่างใด แม้ผู้สื่อข่าวจะพยายามสอบถามหลายประเด็น

เบื้องต้น พนักงานสอบสวน สน.ปทุมวัน เปิดเผยว่า นายไชย์พลให้การปฏิเสธในทุกข้อกล่าวหา และไม่ขอให้การในชั้นสอบสวนที่ สน.ปทุมวัน อ้างว่าจะไปให้ปากคำกับพนักงานสอบสวนที่ สภ.กกตูม พอไปถึงที่กองบินตำรวจ ฮ.ก็ยกตัวพาลุงพล ป้าแต๋น และทนายตั้ม มุ่งหน้าไปยังมุกดาหาร โดยลุงพลถูกพันธนาการและมีตำรวจปะกบใกล้ชิดตลอดการเดินทาง. – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่มซิ่งกระบะชนเสาไฟฟ้าล้มขวางถนน 12 ต้น

ชลบุรี 28 ก.ย. – หนุ่มซิ่งกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรตลอดทั้งวัน คาดจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) รถกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน ต.บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น เป็นเสาไฟฟ้าแรงสูง 6 ต้น เสาไฟฟ้าสูง 12 เมตร อีก 6 ต้น ระยะทาง 500 เมตร โชคดีนายสิทธิพงษ์ อายุ 41 ปี คนขับ บาดเจ็บเล็กน้อย แต่ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรบนถนนสายบึง-บ่อวิน ตลอดทั้งวัน คาดว่าจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) จากการสอบสวนทราบว่า นายสิทธิพงษ์ เพิ่งเลิกงาน ขับรถกลับบ้านด้วยความเร็ว อาจหลับใน ทำให้รถเปลี่ยนเลนข้ามไปชนกับเสาไฟฟ้าอีกฝั่ง ส่วนความเสียหายยังประเมินค่าไม่ได้.-สำนักข่าวไทย

“อนุทิน” ร่วมงานศพพ่อ “อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้า ภท.

ราชบุรี 28 ก.ย.- “อนุทิน” ร่วมสวดอภิธรรมศพพ่อ “สส.อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้าภูมิใจไทย ลั่นได้ส่งจิตขออนุญาตคุณพ่อแล้ว นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตาีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วยนายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายศักดา วิเชียรศิลป์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นายสรอรรถ กลิ่นประทุม อดีต สส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย ได้ร่วมไว้อาลัยและสวดอภิธรรมศพ คุณพ่อวุฒิพงศ์ วงษ์พิทักษ์โรจน์ บิดาของนายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สส.ราชบุรี พรรครวมไทยสร้างชาติ เมื่อค่ำวันที่ 27 ก.ย. ที่จังหวัดราชบุรี โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี หัวหน้าส่วนราชการ และประชาชนกว่า 2,000 ร่วมพิธีโดยเป็นการสวดอภิธรรมเป็นคืนที่ 4 และจะมีพิธีบรรจุศพในวันที่ 30 ก.ย. นี้ ในช่วงท้าย นายอนุทิน ได้กล่าวกับผู้ที่ร่วมสวดอภิธรรมศพ ว่า ตนเองมีความสนิทสนมกับ นายอัครเดช มาหลายปีแล้ว นายอัครเดชเป็นคนมีความวิริยะอุสาหะ ตั้งใจทำงานให้พี่น้องประชาชน ตนมีความชื่นชมและศรัทธา ในความขัยนขันแข็งของท่าน ยิ่งไปกว่านั้นการปฏิบัติหน้าที่ในสภาผู้แทนราษฎร ท่านก็ทำหน้าที่ได้ดีเป็นดาวสภา […]

โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA

กรุงเทพฯ 28 ก.ย. – โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA หลัง “อนุทิน” มอบดาบการทูตสู้กัมพูชา ขณะนายกฯ ย้ำยึดสันติในการแก้ปัญหา เพื่อประโยชน์ของประเทศ ภายหลังจากที่นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวในเวทีการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ หรือ UNGA สมัยสามัญ ครั้งที่ 80 ที่นครนิวยอร์ก ทำให้กระแสโซเชียลในประเทศไทย พึงพอใจกับการทำหน้าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ในรัฐบาลของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี เป็นอย่างมาก ทั้งนี้ การเดินทางไปเวที UNGA ของนายสีหศักดิ์ ครั้งนี้ยึดแนวทางแก้ปัญหาความมั่นคงและการต่างประเทศ ที่นายอนุทิน มอบหมายให้ดำเนินการ โดยใช้มาตรการทางการทหารควบคู่กับการทูต เพื่อรักษาอธิปไตยอย่างสันติ เพื่อผลประโยชน์ของประชาชน โดยเฉพาะในกรณีพิพาทไทย-กัมพูชา ขณะที่นายอนุทิน เชื่อว่า การกล่าวถ้อยแถลงในที่ประชุม UNGA ของนายสีหศักดิ์ ทำให้คนไทยมีความเชื่อมั่นอย่างชัดเจนต่อจุดยืนของรัฐบาล สำหรับนโยบาย 4 เดือน 4 ภารกิจหลัก คืนความมั่นใจให้ประเทศไทย ตามนโยบายรัฐบาลของนายอนุทิน […]

กรมอุตุฯ เตือนฝนถล่มทั่วไทย รับมืออิทธิพลพายุบัวลอย

กทม. 28 ก.ย.- กรมอุตุฯ เตือนทั่วไทยรับมือฝนถล่ม อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง จับตาอิทธิพลพายุไต้ฝุ่น “บัวลอย” คาดเคลื่อนขึ้นฝั่งเวียดนามตอนบน พรุ่งนี้ (29 ก.ย.) กรมอุตุนิยมวิทยาเผยประเทศไทยมีฝนตกหนักหลายพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออก โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดสกลนคร นครพนม อุดรธานี ขอนแก่น กาฬสินธุ์ มุกดาหาร จันทบุรี และตราด ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่าน พื้นที่ลุ่ม และพื้นที่น้ำท่วมขัง เนื่องจากร่องมรสุมกำลังแรงพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังแรง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง พายุไต้ฝุ่น […]

ข่าวแนะนำ

สีสัน! อภิปรายนโยบายรัฐบาลวันแรก

29 ก.ย.- การแถลงนโยบายรัฐบาลวันนี้ เหมือนเป็นการซ้อมศึกซักฟอกย่อย เพราะมีการตอบโต้และตั้งฉายามากมาย ติดตามสีสันการอภิปรายนโยบายฯ วันแรก .-สำนักข่าวไทย

เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดฝนหนักคืนนี้

29 ก.ย.- หลายพื้นที่เฝ้าระวังฝนตกหนัก จากอิทธิพล #พายุบัวลอย เชียงใหม่เปิดประตูระบายน้ำทุกจุด เร่งระบายน้ำปิงลงทะเลสาบดอยเต่า พร่องน้ำในเขื่อนแม่งัดฯ เตรียมรับน้ำฝน คาดตกหนักคืนนี้ ขณะที่ จ.นครราชสีมา น้ำล้นสปิลเวย์ เตือนประชาชนระวังน้ำท่วมฉับพลัน พายุฝนตกกระหน่ำหลายพื้นที่จังหวัดสระแก้ว โดยพื้นที่ ต.บ้านแก้ง อ.เมืองสระแก้ว นายก อบต.บ้านแก้ง พร้อมผู้นำชุมชน และอาสาสมัครกู้ภัย ได้นำเรือเครื่องยนต์ท้องแบน เข้าช่วยเหลือ ตาชู-ยายทองคำ และสุนัข 1 ตัว ออกจากบ้านที่โดนน้ำป่าไหลหลาก เข้าท่วมเกือบมิดหลังคา  มาอยู่ในที่ปลอดภัย ยายทองคำ เล่าว่าเมื่อคืนพักอยู่กับตาและหมา กำลังจะเข้านอนแต่ก็มีฝนตกตลอดทั้งคืน น้ำที่คลองก็ยังไม่เห็นว่าจะขึ้นล้นตลิ่งเท่าไร แต่ก็กังวล จึงเฝ้าดูกระทั่งน้ำไหลมาและเข้าท่วม ตกใจ จึงได้นำสุนัขขึ้นบนบ้าน ส่วนข้าวของก็เก็บไม่ทัน จากนั้นจึงอยู่แต่บนบ้านจนถึงเช้า กู้ภัยมาช่วยนำออกมาจากบ้าน อยู่มาหลายสิบปีไม่เคยเจอแบบนี้มาก่อนเลย  ผู้ว่าฯ เชียงใหม่ เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดตกหนักคืนนี้ เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา หลายพื้นที่เชียงใหม่ เริ่มมีฝนตกลงมาบ้างแล้ว ระดับน้ำในลำน้ำปิงที่ไหลผ่านตัวเมืองเชียงใหม่ ที่จุดวัดพี1 เชิงสะพานนวรัฐ ยังอยู่ที่ 2 เมตร 49 เซนติเมตร ต่ำกว่าจุดวิกฤติแจ้งเตือนที่ […]

แถลงนโยบายวันแรกเดือด ประท้วงกันวุ่น

29 ก.ย.- สภาเดือด! แถลงนโยบายรัฐบาลวันแรก อภิปรายตอบโต้-ประท้วงกันเป็นระยะ เมื่อมีการพาดพิงปมเขากระโดง-ฮั้ว สว. แต่ประธานฯ คุมสถานการณ์ได้ ด้านนายกฯ ไม่กังวลวาทกรรมของฝ่ายค้าน ชี้ประเด็นซ้ำๆ และมีการแถลงข้อเท็จจริงไปแล้ว -สำนักข่าวไทย

ฝ่าดงทุ่นระเบิดเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก “ผลักดัน-รื้อถอน”

29 ก.ย.- ทหารเรือฝ่าดงทุ่นระเบิดเข้าเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก จ.ตราด ผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้าม-รื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง 3 หลัง รุกล้ำเขตอธิปไตยไทย ขณะที่ชาวบ้านหนองจาน จ.สระแก้ว นำอาหารมอบให้ทหารแนวหน้า ยังไม่พบความเคลื่อนไหวผิดปกติ พลเรือเอก จิรพล ว่องวิทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ และพลเรือเอก ไพโรจน์ เฟื่องจันทร์ ว่าที่ ผู้บัญชาการทหารเรือ คนใหม่ มอบหมายพลเรือโทอภิชาติ ทรัพย์ประเสริฐ ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน และผู้บัญชาการกองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรี-ตราด (กกล.กปช.จต.) เข้าเคลียร์พื้นที่ชายแดนบ้านชำราก อันเป็นอธิปไตยของไทย โดยหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินตราด กองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรีตราด จึงได้ผลักดันกองกำลังกัมพูชา ออกจากพื้นที่บริเวณตรงข้ามบ้านหนองรี ตำบลชำราก ไม่มีกำลังฝ่ายกัมพูชาวางกำลังแล้ว ผลจากการปฏิบัติการ บรรลุเป้าหมายสำคัญ คือ สามารถทำลายสิ่งปลูกสร้างทั้ง 3 หลังลงได้อย่างสิ้นเชิง ที่สำคัญที่สุดคือ สามารถผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้ามให้ออกจากพื้นที่รุกล้ำได้อย่างสมบูรณ์ ประชาชนนำอาหารมอบทหารแนวหน้า บ้านหนองจาน จ.สระแก้ว ส่วนที่บ้านหนองจาน จังหวัดสระแก้ว บรรยาศเงียบเหงา แต่ยังคงมีประชาชนเดินทางนำอาหาร เช่น ไข่ไก่ น้ำดื่ม นำมามอบให้กับทหารแนวหน้า ถึงแม้จะไม่คึกคักเหมือนวันก่อนๆ […]