ลำดับเหตุการณ์ไฟไหม้บ้านถล่มทับดับเพลิง-กู้ภัยเสียชีวิต

กรุงเทพฯ 3 เม.ย. – ลำดับเหตุการณ์ไฟไหม้และบ้านพังถล่มทับนักดับเพลิงและอาสากู้ชีพเสียชีวิตและบาดเจ็บหลายราย เกิดขึ้นตั้งแต่เช้าตรู่ของวันนี้ เราไปย้อนภาพเหตุการณ์ที่มีผู้บันทึกภาพเอาไว้ได้


เหตุการณ์บ้าน 3 ชั้น บนถนนบรมราชชนี เขตทวีวัฒนา เกิดเพลิงไหม้ก่อนพังถล่มลงมา เจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งจากชาวบ้านตั้งแต่เวลา 05.51 น. จึงระดมเจ้าหน้าที่จากสถานีดับเพลิงนำรถน้ำเข้าพื้นที่ไปฉีดสกัดเพลิง พร้อมกับประสานกู้ภัยให้ส่งทีมลงไปค้นหา และช่วยเหลือผู้ที่ติดค้างอยู่ภายใน

เวลา 06.12 น. เจ้าหน้าที่แบ่งกำลังกันไปตรวจสอบพื้นที่ พบว่าบ้านมีลักษณะเป็นอาคารสูง 3 ชั้น ปลูกอยู่บนเนื้อที่ประมาณ 50 ตารางวา มีรั้วรอบขอบชิด ติดถนนในซอย และใกล้กันมีคลองอยู่ จึงระดมฉีดน้ำสกัดเพลิงที่กำลังโหมไหม้อย่างรุนแรง การตรวจสอบเบื้องต้นพบว่ามีผู้บาดเจ็บติดค้างอยู่ที่ชั้นดาดฟ้า และบริเวณบันไดหนีไฟด้านหลังบ้าน จึงเร่งวางแผนให้การช่วยเหลือ


ผ่านไปเกือบครึ่งชั่วโมง (06.39 น.) การฉีดน้ำสกัดเพลิงเป็นผล แต่ยังมีแสงเพลิงอยู่ในตัวบ้านเล็กน้อย เจ้าหน้าที่จึงเปิดปฏิบัติการตรวจสอบผู้พักอาศัยในบ้าน เบื้องต้นพบว่ามีอยู่ด้วยกัน 8 คน และทั้งหมดยังติดค้างอยู่ภายใน

เวลา 07.00 น. มีการวางแผนลำเลียงผู้ที่ติดค้างออกมา ภายหลังเพลิงดับสนิท สามารถช่วยผู้ติดค้างออกมาได้ 7 คน เหลืออีก 1 คน ยังช่วยเหลือออกมาไม่ได้ แต่การตรวจสอบเบื้องต้นพบว่าผู้ที่ติดค้างอยู่ไม่มีสัญญาณชีพแล้ว จึงมีการเตรียมการนำเปลขึ้นมารับผู้เสียชีวิต

อย่างไรก็ตาม เกิดเรื่องไม่คาดคิดขึ้น เพราะขณะเจ้าหน้าที่บางส่วนกำลังระดมฉีดน้ำป้องกัน เพลิงลุกไหม้ขึ้นมาซ้ำ และบางส่วนตรวจสอบความเสียหายอยู่ภายในบ้าน เพื่อเตรียมการเคลื่อนย้ายร่างผู้เสียชีวิต เกิดมีเสียงปูนดังลั่นขึ้น และเพียงเสี้ยววินาที บ้านทั้งหลังพังถล่มลงมา ทำให้ทั้งเจ้าหน้าที่ดับเพลิงที่กำลังปฏิบัติหน้าที่อยู่ภายนอกต่างวิ่งหนีตาย ขณะที่เจ้าหน้าที่ดับเพลิงและอาสากู้ภัยที่ยังอยู่ในตัวบ้าน ถูกซากปรักหักพังทับร่างติดค้างอยู่ภายใน ทำให้กู้ภัยต้องระวังในการปฏิบัติงานมากขึ้น โดยใช้โดรนบินตรวจจับความร้อนหาผู้รอดชีวิตที่ติดอยู่ใต้ซาก


อย่างไรก็ตาม การหยุดฉีดน้ำเพื่อไม่ให้เพลิงลุกไหม้ซ้ำนานเกินกว่า 1 ชั่วโมง ทำให้เพลิงกลับมาคุกรุ่นอีกครั้ง ก่อนลามขึ้นไปด้านข้างตัวบ้าน ซึ่งในเวลานั้น เจ้าหน้าที่ยังไม่กล้าผลีผลามดับไฟ เพราะเกรงว่าการฉีดน้ำจะทำให้ตัวบ้านอุ้มน้ำมากเกินไป และเสี่ยงพังถล่มลงมาซ้ำ ซึ่งเป็นอันตรายกับผู้ที่อยู่ใต้ซากปรักหักพัง

เวลา 09.00 น.เศษ เจ้าหน้าที่สามารถนำร่างนายธนภพ ประไพ เจ้าหน้าที่ดับเพลิงที่เข้าปฏิบัติหน้าที่อยู่บริเวณด้านหลังบ้านออกมาได้ 1 คน เวลา 10.00 น. พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าฯ กทม. ลงพื้นที่จุดเกิดเหตุ พร้อมร่วมหารือวางแนวทางช่วยเหลือผู้ที่ยังติดค้างอยู่ภายในบ้าน โดยบอกว่าไม่สามารถนำอุปกรณ์หนักมารื้อซากอาคารได้ เนื่องจากเกรงว่าหากใช้อุปกรณ์หนักจะทำให้โครงสร้างบ้านพังซ้ำอีก ทำให้การช่วยเหลือในตอนนั้นทำได้เพียงวิธีเดียว คือการเจาะกำแพงด้านข้างเข้าไปช่วยเหลือผู้ที่คาดว่าจะรอดชีวิต

ภายหลังพูดคุยกับเจ้าหน้าที่ ผู้ว่าฯ กทม. ออกมายืนยันว่าพบผู้เสียชีวิตในเหตุการณ์นี้ 5 คน โดย 4 คน เป็นเจ้าหน้าที่ดับเพลิงและกู้ภัย ส่วนอีก 1 คน เป็นผู้อาศัยอยู่ในบ้านนี้ ที่ตอนแรกพบว่าเสียชีวิตและยังไม่สามารถนำร่างออกมาได้ก่อนบ้านถล่ม

เวลา 11.39 น. เจ้าหน้าที่กู้ภัยใช้อุปกรณ์ชนิดพิเศษตรวจจับความเคลื่อนไหวและสัญญาณเสียงภายในตัวบ้านที่พังถล่ม พร้อมแจ้งให้ทุกคนที่อยู่ในพื้นที่เกิดเหตุหยุดการเคลื่อนไหว ห้ามใช้เสียง เพื่อทำให้บริเวณดังกล่าวเงียบที่สุด เพราะพบสัญญาณชีพของผู้ที่ติดอยู่ในบ้าน แต่ยังระบุไม่ได้ว่าผู้ที่สื่อสารเป็นใคร เนื่องจากการโต้ตอบมีเพียงการเคาะส่งสัญญาณเท่านั้น

เวลา 12.00 น. มีการส่งผู้เชี่ยวชาญด้านการค้นหาผู้สูญหายในสถานการณ์ตึกถล่มเข้าไปภายในบ้าน พร้อมกับอุปกรณ์เจาะผนังปูน และอุปกรณ์ตัดถ่าง ซึ่งอุปสรรคในขณะนั้นคือ กลุ่มควันไฟสีเทาที่ลอยอยู่ทุกพื้นที่ของตัวบ้าน ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องเปิดพัดลมดูดอากาศช่วยระบายควัน พร้อมกับเพิ่มอากาศหายใจให้กับผู้รอดชีวิตใช้หายใจ แต่กลับมีอุปสรรคเพิ่ม คือเมื่อลอยในอากาศ ทำให้ไฟบางส่วนที่ยังไม่ดับสนิทปะทุขึ้นมาอีกครั้ง แต่ด้วยความที่ใช้น้ำไม่ได้ เนื่องจากกลัวว่าตัวบ้านจะอุ้มน้ำและถล่มซ้ำ เจ้าหน้าที่จึงตัดสินใจใช้โฟมในการดับเพลิงแทน

เมื่อการค้นหาผู้ติดค้างอยู่ใต้ซากปรักหักพังเริ่มมีแผนที่ชัดเจนมากขึ้น นายธเนศ วีระศิริ นายกวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย หรือ วสท. ได้นำเจ้าหน้าที่มาสังเกตการณ์ พร้อมนำกล้องวัดมุมเพื่อประเมินองศาการเคลื่อนตัวของตัวบ้าน ป้องกันการถล่มซ้ำ รวมถึงห้ามเคลื่อนย้ายอิฐหรือผนังที่ขวางทับกันอยู่ออก เพราะเกรงจะทำให้บ้านขยับตัว นอกจากนี้ยังได้ใช้การเจาะชนิดพิเศษ และกล้องส่อง ร่วมค้นหาผู้ติดอยู่ใต้ซากด้วย ส่วนสาเหตุของบ้านที่ถล่มยังยืนยันไม่ได้ว่าการที่เกิดเพลิงไหม้เป็นสาเหตุหลักหรือไม่ แต่เบื้องต้นยืนยันได้แน่นอนว่าเปลวเพลิงเป็นชนวนนำไปสู่การถล่ม เพราะการตรวจสอบเบื้องต้นพบค่าความร้อนไม่ต่ำกว่า 70 องศาเซลเซียส ทำให้ต้องพรมน้ำช่วยเป็นระยะ แต่จะไม่ฉีดน้ำเด็ดขาด ส่วนบ้านเรือนข้างเคียงให้อพยพชั่วคราว

จากนั้นมีข้อมูลจากนายพรเลิศ เพ็ญพาส ผู้อำนวยการเขตทวีวัฒนา ยืนยันว่าเขตกำลังตรวจสอบใบขออนุญาตและการออกเลขบ้าน เพื่อตรวจสอบว่าบ้านนี้ปลูกสร้างมาปีไหน ซึ่งข้อมูลเบื้องต้นค่อนข้างหายาก เนื่องจากบ้านหลังนี้มีอายุมากกว่า 10 ปี และแจ้งเป็นลักษณะพักอาศัย แต่ทำธุรกิจในลักษณะขายอุปกรณ์ว่ายน้ำ ชุดว่ายน้ำ รวมถึงไม่พบการต่อเติมบ้าน ส่วนเจ้าของบ้านไม่อาศัยอยู่ที่นี่ ให้ลูกจ้างเฝ้า สาเหตุเชื่อว่าไม่ใช่เป็นเพราะบ้านเก่าอย่างเดียว แต่อาจมีเรื่องความร้อน การขยายตัวของเหล็ก น้ำหนักการฉีดน้ำ การก่อสร้างไม่ได้มาตรฐาน ต้องให้พิสูจน์หลักฐาน และ วิศกรรมสถานเข้ามาตรวจสอบรายละเอียด

แต่เหตุการณ์นี้ผู้ประสบภัยที่พักอาศัยอยู่ภายในบ้านหลังดังกล่าว และสามารถรอดชีวิตออกมาได้ก่อนที่อาคารจะถล่ม ให้ข้อมูลว่า ต้นเพลิงอยู่ที่ตู้พัก รปภ.เก่า ปัจจุบันใช้เป็นห้องเก็บของ เก็บที่นอนเก่า และติดตั้งปั๊มลมสำหรับฉีดพ่นยาฆ่าเชื้อ ซึ่งเสียบปลั๊กไว้ตลอดเวลา แต่ส่วนตัวไม่ทราบสาเหตุการเกิดประกายไฟ เห็นเพียงว่าประกายไฟลุกลามเร็วมาก จึงรีบไปปลุกคนในบ้าน และรีบหนีตายกันออกมา พร้อมยืนยันว่าบ้านหลังดังกล่าวในช่วง 1 ปีที่ผ่านมา ไม่ได้ต่อเติมดัดแปลงตัวบ้านแต่อย่างใด

ส่วนนายฐิติพล คำใบใหญ่ ดับเพลิงอาสาวัดกัลยาณมิตร ฝั่งธนฯ ซึ่งเป็นชุดแรกๆ เข้าถึงที่เกิดเหตุ เล่าว่า มาถึงเวลาประมาณ 06.00 น. ก็พบเปลวเพลิงซึ่งเป็นประกายไฟสีเขียว ถือว่าเพลิงแรงมาก ซึ่งปกติไฟจะสีส้ม จึงได้ใช้น้ำฉีดขึ้นข้างบนต่อเนื่อง แต่ไฟไหม้ท่วมทั้งตึกแล้ว หากไหม้ไม่นานประมาณ 1 ชั่วโมง ก็ดับไฟได้ ส่วนสิ่งของที่พบด้านในบ้านเป็นพวกไม้ ยางพลาสติก สายไฟ.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่มซิ่งกระบะชนเสาไฟฟ้าล้มขวางถนน 12 ต้น

ชลบุรี 28 ก.ย. – หนุ่มซิ่งกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรตลอดทั้งวัน คาดจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) รถกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน ต.บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น เป็นเสาไฟฟ้าแรงสูง 6 ต้น เสาไฟฟ้าสูง 12 เมตร อีก 6 ต้น ระยะทาง 500 เมตร โชคดีนายสิทธิพงษ์ อายุ 41 ปี คนขับ บาดเจ็บเล็กน้อย แต่ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรบนถนนสายบึง-บ่อวิน ตลอดทั้งวัน คาดว่าจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) จากการสอบสวนทราบว่า นายสิทธิพงษ์ เพิ่งเลิกงาน ขับรถกลับบ้านด้วยความเร็ว อาจหลับใน ทำให้รถเปลี่ยนเลนข้ามไปชนกับเสาไฟฟ้าอีกฝั่ง ส่วนความเสียหายยังประเมินค่าไม่ได้.-สำนักข่าวไทย

“อนุทิน” ร่วมงานศพพ่อ “อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้า ภท.

ราชบุรี 28 ก.ย.- “อนุทิน” ร่วมสวดอภิธรรมศพพ่อ “สส.อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้าภูมิใจไทย ลั่นได้ส่งจิตขออนุญาตคุณพ่อแล้ว นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตาีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วยนายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายศักดา วิเชียรศิลป์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นายสรอรรถ กลิ่นประทุม อดีต สส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย ได้ร่วมไว้อาลัยและสวดอภิธรรมศพ คุณพ่อวุฒิพงศ์ วงษ์พิทักษ์โรจน์ บิดาของนายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สส.ราชบุรี พรรครวมไทยสร้างชาติ เมื่อค่ำวันที่ 27 ก.ย. ที่จังหวัดราชบุรี โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี หัวหน้าส่วนราชการ และประชาชนกว่า 2,000 ร่วมพิธีโดยเป็นการสวดอภิธรรมเป็นคืนที่ 4 และจะมีพิธีบรรจุศพในวันที่ 30 ก.ย. นี้ ในช่วงท้าย นายอนุทิน ได้กล่าวกับผู้ที่ร่วมสวดอภิธรรมศพ ว่า ตนเองมีความสนิทสนมกับ นายอัครเดช มาหลายปีแล้ว นายอัครเดชเป็นคนมีความวิริยะอุสาหะ ตั้งใจทำงานให้พี่น้องประชาชน ตนมีความชื่นชมและศรัทธา ในความขัยนขันแข็งของท่าน ยิ่งไปกว่านั้นการปฏิบัติหน้าที่ในสภาผู้แทนราษฎร ท่านก็ทำหน้าที่ได้ดีเป็นดาวสภา […]

โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA

กรุงเทพฯ 28 ก.ย. – โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA หลัง “อนุทิน” มอบดาบการทูตสู้กัมพูชา ขณะนายกฯ ย้ำยึดสันติในการแก้ปัญหา เพื่อประโยชน์ของประเทศ ภายหลังจากที่นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวในเวทีการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ หรือ UNGA สมัยสามัญ ครั้งที่ 80 ที่นครนิวยอร์ก ทำให้กระแสโซเชียลในประเทศไทย พึงพอใจกับการทำหน้าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ในรัฐบาลของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี เป็นอย่างมาก ทั้งนี้ การเดินทางไปเวที UNGA ของนายสีหศักดิ์ ครั้งนี้ยึดแนวทางแก้ปัญหาความมั่นคงและการต่างประเทศ ที่นายอนุทิน มอบหมายให้ดำเนินการ โดยใช้มาตรการทางการทหารควบคู่กับการทูต เพื่อรักษาอธิปไตยอย่างสันติ เพื่อผลประโยชน์ของประชาชน โดยเฉพาะในกรณีพิพาทไทย-กัมพูชา ขณะที่นายอนุทิน เชื่อว่า การกล่าวถ้อยแถลงในที่ประชุม UNGA ของนายสีหศักดิ์ ทำให้คนไทยมีความเชื่อมั่นอย่างชัดเจนต่อจุดยืนของรัฐบาล สำหรับนโยบาย 4 เดือน 4 ภารกิจหลัก คืนความมั่นใจให้ประเทศไทย ตามนโยบายรัฐบาลของนายอนุทิน […]

กรมอุตุฯ เตือนฝนถล่มทั่วไทย รับมืออิทธิพลพายุบัวลอย

กทม. 28 ก.ย.- กรมอุตุฯ เตือนทั่วไทยรับมือฝนถล่ม อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง จับตาอิทธิพลพายุไต้ฝุ่น “บัวลอย” คาดเคลื่อนขึ้นฝั่งเวียดนามตอนบน พรุ่งนี้ (29 ก.ย.) กรมอุตุนิยมวิทยาเผยประเทศไทยมีฝนตกหนักหลายพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออก โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดสกลนคร นครพนม อุดรธานี ขอนแก่น กาฬสินธุ์ มุกดาหาร จันทบุรี และตราด ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่าน พื้นที่ลุ่ม และพื้นที่น้ำท่วมขัง เนื่องจากร่องมรสุมกำลังแรงพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังแรง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง พายุไต้ฝุ่น […]

ข่าวแนะนำ

สีสัน! อภิปรายนโยบายรัฐบาลวันแรก

29 ก.ย.- การแถลงนโยบายรัฐบาลวันนี้ เหมือนเป็นการซ้อมศึกซักฟอกย่อย เพราะมีการตอบโต้และตั้งฉายามากมาย ติดตามสีสันการอภิปรายนโยบายฯ วันแรก .-สำนักข่าวไทย

เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดฝนหนักคืนนี้

29 ก.ย.- หลายพื้นที่เฝ้าระวังฝนตกหนัก จากอิทธิพล #พายุบัวลอย เชียงใหม่เปิดประตูระบายน้ำทุกจุด เร่งระบายน้ำปิงลงทะเลสาบดอยเต่า พร่องน้ำในเขื่อนแม่งัดฯ เตรียมรับน้ำฝน คาดตกหนักคืนนี้ ขณะที่ จ.นครราชสีมา น้ำล้นสปิลเวย์ เตือนประชาชนระวังน้ำท่วมฉับพลัน พายุฝนตกกระหน่ำหลายพื้นที่จังหวัดสระแก้ว โดยพื้นที่ ต.บ้านแก้ง อ.เมืองสระแก้ว นายก อบต.บ้านแก้ง พร้อมผู้นำชุมชน และอาสาสมัครกู้ภัย ได้นำเรือเครื่องยนต์ท้องแบน เข้าช่วยเหลือ ตาชู-ยายทองคำ และสุนัข 1 ตัว ออกจากบ้านที่โดนน้ำป่าไหลหลาก เข้าท่วมเกือบมิดหลังคา  มาอยู่ในที่ปลอดภัย ยายทองคำ เล่าว่าเมื่อคืนพักอยู่กับตาและหมา กำลังจะเข้านอนแต่ก็มีฝนตกตลอดทั้งคืน น้ำที่คลองก็ยังไม่เห็นว่าจะขึ้นล้นตลิ่งเท่าไร แต่ก็กังวล จึงเฝ้าดูกระทั่งน้ำไหลมาและเข้าท่วม ตกใจ จึงได้นำสุนัขขึ้นบนบ้าน ส่วนข้าวของก็เก็บไม่ทัน จากนั้นจึงอยู่แต่บนบ้านจนถึงเช้า กู้ภัยมาช่วยนำออกมาจากบ้าน อยู่มาหลายสิบปีไม่เคยเจอแบบนี้มาก่อนเลย  ผู้ว่าฯ เชียงใหม่ เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดตกหนักคืนนี้ เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา หลายพื้นที่เชียงใหม่ เริ่มมีฝนตกลงมาบ้างแล้ว ระดับน้ำในลำน้ำปิงที่ไหลผ่านตัวเมืองเชียงใหม่ ที่จุดวัดพี1 เชิงสะพานนวรัฐ ยังอยู่ที่ 2 เมตร 49 เซนติเมตร ต่ำกว่าจุดวิกฤติแจ้งเตือนที่ […]

แถลงนโยบายวันแรกเดือด ประท้วงกันวุ่น

29 ก.ย.- สภาเดือด! แถลงนโยบายรัฐบาลวันแรก อภิปรายตอบโต้-ประท้วงกันเป็นระยะ เมื่อมีการพาดพิงปมเขากระโดง-ฮั้ว สว. แต่ประธานฯ คุมสถานการณ์ได้ ด้านนายกฯ ไม่กังวลวาทกรรมของฝ่ายค้าน ชี้ประเด็นซ้ำๆ และมีการแถลงข้อเท็จจริงไปแล้ว -สำนักข่าวไทย

ฝ่าดงทุ่นระเบิดเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก “ผลักดัน-รื้อถอน”

29 ก.ย.- ทหารเรือฝ่าดงทุ่นระเบิดเข้าเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก จ.ตราด ผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้าม-รื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง 3 หลัง รุกล้ำเขตอธิปไตยไทย ขณะที่ชาวบ้านหนองจาน จ.สระแก้ว นำอาหารมอบให้ทหารแนวหน้า ยังไม่พบความเคลื่อนไหวผิดปกติ พลเรือเอก จิรพล ว่องวิทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ และพลเรือเอก ไพโรจน์ เฟื่องจันทร์ ว่าที่ ผู้บัญชาการทหารเรือ คนใหม่ มอบหมายพลเรือโทอภิชาติ ทรัพย์ประเสริฐ ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน และผู้บัญชาการกองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรี-ตราด (กกล.กปช.จต.) เข้าเคลียร์พื้นที่ชายแดนบ้านชำราก อันเป็นอธิปไตยของไทย โดยหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินตราด กองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรีตราด จึงได้ผลักดันกองกำลังกัมพูชา ออกจากพื้นที่บริเวณตรงข้ามบ้านหนองรี ตำบลชำราก ไม่มีกำลังฝ่ายกัมพูชาวางกำลังแล้ว ผลจากการปฏิบัติการ บรรลุเป้าหมายสำคัญ คือ สามารถทำลายสิ่งปลูกสร้างทั้ง 3 หลังลงได้อย่างสิ้นเชิง ที่สำคัญที่สุดคือ สามารถผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้ามให้ออกจากพื้นที่รุกล้ำได้อย่างสมบูรณ์ ประชาชนนำอาหารมอบทหารแนวหน้า บ้านหนองจาน จ.สระแก้ว ส่วนที่บ้านหนองจาน จังหวัดสระแก้ว บรรยาศเงียบเหงา แต่ยังคงมีประชาชนเดินทางนำอาหาร เช่น ไข่ไก่ น้ำดื่ม นำมามอบให้กับทหารแนวหน้า ถึงแม้จะไม่คึกคักเหมือนวันก่อนๆ […]