ก.ยุติธรรม 26 ก.ย. – “พล.ต.ต.รุทธพล” เข้ากระทรวงยุติธรรม วันแรก ยันไม่แทรกแซงคดีเขากระโดง-ฮั้ว สว. ไม่ว่าเป็นคนบุรีรัมย์ หรือจังหวัดไหน ใช้กฎหมายเดียวกัน ขณะอธิบดีดีเอสไอ ยกทีมมอบดอกไม้แสดงความยินดี
วันนี้ (26.ก.ย.) ที่กระทรวงยุติธรรม พล.ต.ท.รุทธพล เนาวรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ถือฤกษ์ดี 10.45 น.เข้าทำงานที่กระทรวงยุติธรรมเป็นวันแรก โดยมีนายศุภชัย ใจสมุทร ประธานคณะทำงานฝ่ายกฎหมาย พรรคภูมิใจไทย ร่วมคณะ มีปลัดกระทรวงยุติธรรมพร้อมคณะผู้บริหารกระทรวงยุติธรรม อธิบดีทุกกรม รอให้การต้อนรับ
จากนั้น พล.ต.ท.รุทธพล ได้เข้าสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ของกระทรวงยุติธรรม ได้แก่ พระภูมิพลาภิบาลทศพลญาณมุนี พระประจำกระทรวงยุติธรรม, ศาลจอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ และศาลตายาย เพื่อความเป็นสิริมงคล ทำความเคารพพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 10, สักการะรูปหล่อพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5, และพระพุทธยุติธรรมโลกนาถ ก่อนเข้าไปดูห้องทำงานรัฐมนตรีฯ ที่ชั้น 11 ของอาคารกระทรวงยุติธรรม พร้อมเปิดโอกาสให้อธิบดีทุกกรมมอบดอกไม้แสดงความยินดี โดย พล.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษพร้อมทีมรองอธิบดี ก็ได้มาต้อนรับและมอบดอกไม้แสดงความยินดี
พล.ต.ท.รุทธพล ให้สัมภาษณ์ว่า เข้าทำงานวันแรกรู้สึกดีใจ ส่วนเรื่องนโยบายที่จะเกิดขึ้น ต้องขอดูหลังจากที่ทางคณะรัฐมนตรีได้แถลงนโยบายในวันจันทร์และวันอังคารที่จะถึงนี้ก่อน จากนั้นทางกระทรวงยุติธรรมก็จะแถลงนโยบายในส่วนของเราเอง แต่นโยบายเร่งด่วนที่พอจะสามารถพูดได้ตอนนี้ คือการเน้นป้องกันและปราบปรามการพนันออนไลน์ ยาเสพติด สแกมเมอร์และคอลเซนเตอร์ เนื่องจากเป็นนโยบายหลักของรัฐบาล โดยเฉพาะเรื่องยาเสพติด ก็เชื่อว่าจะไม่มีปัญหาเพราะไทยมีพื้นฐานในการปราบปรามยาเสพติดเป็นอย่างดี มีตัวชี้วัดในเรื่องการสกัดกั้นยาเสพติดในพื้นที่ชั้นในและชั้นนอกอยู่แล้ว ส่วนปัญหาสแกมเมอร์และแก๊งคอลเซนเตอร์ก็จะต้องเร่งรัดจัดการ
พล.ต.ท.รุทธพล ยังกล่าวถึงคดีที่ค้างมาจากรัฐบาลชุดเก่า ยืนยันว่า ให้ว่ากันไปตามกฎหมาย หน่วยงานใดรับผิดชอบก็ดำเนินการต่อไป เพราะตนในฐานะ รมว.ยุติธรรม ก็คงกำกับนโยบายเพียงเท่านั้น โดยยึดหลักนิติธรรม ให้เป็นไปตามกฎหมาย อันไหนที่เขาทำมาแล้ว ก็ให้ดำเนินการต่อไปได้เลย ดังนั้น ถ้าสื่อมวลชนได้รับฟังการแถลงนโยบายของนายกฯ ในวันจันทร์และวันอังคารนี้ ส่วนนี้ก็เป็นส่วนหนึ่งในนโยบายของนายกฯ
เมื่อถามถึงคดีเขากระโดง จ.บุรีรัมย์ และคดีอั้งยี่ ฟอกเงิน ฮั้ว สว. พล.ต.ท.รุทธพล กล่าวว่า ในส่วนของคดีฮั้ว สว.ทราบว่าเป็นการดำเนินการของทาง กกต.อยู่แล้ว ก็ให้ กกต.รับผิดชอบดำเนินการไป ส่วนคดีเขากระโดง ก็ให้ผู้รับผิดชอบดำเนินการไปได้ ซึ่งจริง ๆ แล้ว หน่วยงานที่เกี่ยวข้องคือการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) และกรมที่ดิน และเท่าที่ทราบ รฟท.จะยื่นฟ้องคู่กรณีประมาณกว่า 900 ราย เพราะถือคติว่าจะยื่นฟ้องทั้งหมด ตนก็คงจะต้องรอคำพิพากษาของศาลในส่วนนี้
เมื่อถามว่าหลายฝ่ายกังวลว่ารัฐบาลชุดนี้หรือ รมว.ยธ. เองจะเข้าไปแทรกแซงการทำคดีหรือไม่ พล.ต.ท.รุทธพล กล่าวว่า ไม่หรอก ตนไม่คิดที่จะแทรกแซง เพราะเรื่องนี้ค่อนข้างละเอียดอ่อน การจะเข้าไปแทรกแซงมันต้องคิดให้ดี อย่างไรรายละเอียดความคืบหน้าทางคดีต่าง ๆ ต้องสอบถามกับทางปลัดกระทรวงยุติธรรมแทน ส่วนหน่วยงานไหนรับผิดชอบก็ให้ดำเนินการได้เลย
ต่อข้อถามว่าคดีอาญาอั้งยี่-ฟอกเงิน สว. ซึ่งดีเอสไอรับผิดชอบอยู่นั้น จะให้เดินหน้าต่อหรือไม่ พล.ต.ท.รุทธพล ย้ำว่า ให้ดีเอสไอดำเนินการต่อเนื่องได้เลย เพราะในเรื่องนี้บางคนก็บอกว่า กลัวว่าตนจะมาแทรกแซง แต่ตนอยากเรียนว่า คดีทั่วไปแม้ลัก วิ่ง ชิง ปล้น มันก็จะมีข้อกฎหมายกับข้อเท็จจริงอยู่ ดังนั้น ต่อให้เป็นคนจังหวัดบุรีรัมย์ เชียงราย ยะลา อุบลราชธานี แม่ฮ่องสอน ก็มีกฎหมายเดียวกันทั้งหมด ส่วนข้อเท็จจริงทางดีเอสไอดำเนินการมาตั้งนานแล้ว ซึ่งรายละเอียดต่าง ๆ คงต้องสอบถามทางปลัด ยธ. ว่าความคืบหน้าคดีจะมีมากน้อยแค่ไหน
ต่อข้อถามว่านายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ได้มีข้อสั่งการอะไรเกี่ยวกับ 2 คดีนี้เป็นพิเศษหรือไม่ พล.ต.ท.รุทธพล กล่าวว่า ไม่มีครับ
เมื่อถามว่าตอนนี้คดีเขากระโดงในส่วนที่ดีเอสไอรับผิดชอบ ยังเป็นเพียงเรื่องสืบสวนเท่านั้น มีโอกาสจะรับเป็นคดีพิเศษในเร็ววันนี้หรือไม่ พล.ต.ท.รุทธพล กล่าวว่า ไม่ทราบเลยคงต้องค่อนข้างระมัดระวัง เพราะตนไม่รู้ว่าการเข้าไปดูจะเป็นการไปแทรกแซงหรือไม่ เพราะอย่างที่ทราบเวลาของรัฐบาลนี้มีเพียง 4 เดือน หากเข้าไปแทรกแซงแล้วมีคนไปร้องศาล ศาลสั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่ ก็คงไม่สามารถทำงานได้ตามนโยบายของรัฐบาลได้
ทั้งนี้ สำหรับนายศุภชัย ได้บอกกับผู้สื่อข่าวว่า จะมารับตำแหน่งเป็นเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม.-119-สำนักข่าวไทย
