18 ก.ย. – DSI ผนึกกำลัง กรมอุทยานฯ และจังหวัดหนองคาย แถลงผลการทลายเครือข่ายค้าไม้เถื่อนข้ามชาติรายใหญ่ ยึดไม้ประดู่มูลค่ากว่า 14 ล้านบาท เตรียมขยายผลจับกุมผู้บงการและเจ้าหน้าที่รัฐที่เกี่ยวข้อง
เจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษนำโดย นายอังศุเกติ์ วิสุทธิ์วัฒนศักดิ์ ผู้อำนวยการกองกิจการอำนวยความยุติธรรม กรมสอบสวนคดีพิเศษ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช นำโดย นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช นายไพฑูรย์ มหาชื่นใจ รองผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย นายนฤพนธ์ ทิพย์มณฑา ผู้อำนวยการสำนักป้องกันปราบปรามและควบคุมไฟป่า นายพุทธพจน์ คูประสิทธิ์ ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 10 (อุดรธานี) ร่วมกันแถลงข่าวการเข้าตรวจสอบโกดังของบริษัทในพื้นที่ ตำบลวัดธาตุ อำเภอเมืองหนองคาย ซึ่งกรมสอบสวนคดีพิเศษได้รับการประสานงานจากกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ว่า มีกลุ่มทุนต่างประเทศ สนับสนุนเงินทุนกับกลุ่มทำไม้ในพื้นที่ภาคเหนือ และจ้างวานชาวบ้านในพื้นที่เข้าไปทำไม้ประดู่ที่พื้นที่ป่าอนุรักษ์และป่าสงวนแห่งชาติ เพื่อส่งออกไปยังต่างประเทศ จึงได้ทำการสืบสวนเป็นเลขสืบสวนที่ 114/2568 ผลการเข้าตรวจสอบ เจ้าหน้าที่พบไม้ประดู่ที่ถูกลักลอบตัดจากป่าอนุรักษ์ และป่าสงวนแห่งชาติ จำนวน 378 ท่อน/แผ่น/ปุ่ม รวมปริมาตร 32.547 ลูกบาศก์เมตร หรือคิดเป็นน้ำหนักประมาณ 28,000 กิโลกรัม หากประเมินตามราคาตลาด ไม้ของกลางที่ยึดได้มีมูลค่าสูงถึง 14 ล้านบาท
การเข้าตรวจคันโกดังไม้ในพื้นที่จังหวัดหนองคายในครั้งนี้ เป็นการบูรณาการร่วมกันหลายหน่วยงานได้แก่ กรมสอบสวนคดีพิเศษ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ตำรวจ สถานีตำรวจภูธรเมืองหนองคายเจ้าหน้าที่ตำรวจตระเวนชายแดน กรมศุลกากร และฝ่ายปกครองโดยได้ร่วมกันติดตามขยายผลการจับกุมขบวนการลักลอบทำไม้ประดู่ในพื้นที่ภาคเหนือ จากพยานหลักฐานต่าง ๆ พบว่าขบวนการนี้มีนายทุนจากต่างประเทศเป็นผู้อยู่เบื้องหลัง สนับสนุนเงินทุนกับกลุ่มทำไม้ในพื้นที่ภาคเหนือ และจ้างวานชาวบ้านในพื้นที่เข้าไปทำไม้ประดู่ที่พื้นที่ป่าอนุรักษ์และป่าสงวนแห่งชาติ โดยมีเจ้าหน้าที่ภาครัฐหน่วยงานต่าง ๆ อำนวยความสะดวก จากการส่งเจ้าหน้าที่แฝงตัวติดตามความเคลื่อนไหวพบว่ามีการนำไม้ออกมาจากพื้นที่ป่า โดยใช้รถยนต์กระบะมายังโกดังท้องที่ทางภาคเหนือเพื่อรวบรวม ก่อนจะลำเลียงมาเก็บที่โกดังทางภาคอีสานโดยรถบรรทุกสิบล้อและจะมีพ่อค้าไม้เข้ามาเลือกซื้อไม้ในโกดังหนองคายแล้วขนส่งต่อไปยังสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว และบริษัทขนส่ง โดยใช้รถตู้คอนเทนเนอร์ออกทางช่องทางท่าเรือแหลมฉบัง จังหวัดชลบุรี
ผลการตรวจสอบเอกสารพบว่าบริษัทที่เกี่ยวข้องกับโกดังนี้ส่งไม้ออกทางเรือโดยแสดงรายการส่งออกสำแดงเป็นไม้ประดู่มีประเทศปลายทางเป็นจีน และประเทศเวียดนาม โดยคาดว่าจะส่งไม้ประดู่แปรรูปไปยังประเทศจีน ซึ่งไม้ที่ส่งออกในช่วงปี พ.ศ. 2566 – 2568 มีปริมาตรทั้งหมด 2,052.83 ลูกบาศก์เมตร ปริมาณ 2,467,972 กิโลกรัม คิดเป็นมูลค่าความเสียหายของรัฐเป็นเงินกว่า 143 ล้านบาท และจากราคาตลาดซึ่งมีการซื้อขายไม้ประดู่ในปัจจุบัน พบว่าอยู่ที่ประมาณกิโลกรัมละ 300 – 500 บาทขึ้นอยู่กับขนาดและความสมบูรณ์ของเนื้อไม้ หากคิดเป็นค่าเสียหายตามราคาท้องตลาดจะอยู่ที่ประมาณ 1,233 ล้านบาท ซึ่งเป็นมูลค่าที่ทรัพยากรป่าไม้ของประเทศไทยได้เสียหายไป โดยทั้งนี้จะมีการขยายผลไปยังบุคคลที่มีส่วนเกี่ยวข้องทุกระดับต่อไป.-119-สำนักข่าวไทย