กรุงเทพฯ 18 ก.ย. – เจ้าอาวาสวัดหัวลำโพง โต้เพจดังแฉพระลูกวัด เป็นเพียงข่าวลือ ยันนิสัยดี ทำงานเก่งอาจทำให้มีคนอิจฉาไม่พอใจ ยืนยันไม่นิ่งนอนใจ สามารถตรวจสอบเรื่องการเงินได้
จากกรณีเพจดังเผยแพร่ เรื่องราว พระโกงเงินวัด มีเงิน 100 ล้านบาท มีลูกเมียหลายคน โดยระบุข้อความว่า พระรูปนี้โกงเงินวัด เงินศาลา เงินที่ญาติโยมถวาย ไปให้ลูกให้เมียใช้อย่างสุขสบาย มีเงินเป็น 100 ล้าน มีเมีย 3 คน!
คนแรกชื่อกระแต (มีลูกชาย 1 คน ) นานๆ จะแว๊บมา มาถึงก็มีสัมพันธ์กัน และเอาเงินไปเต็มกระเป๋า, คนที่ 2 ชื่อแมว อดีตเคยเป็นพนักงานวัด มีลูกสาวด้วยกัน 1 คน ใช้ชีวิตสุขสบายมีบ้านอยู่ที่อ่อนนุช 60, 66 มีบ้านหลายหลัง ลูกสาวงานการไม่ทำ แต่มีเงินเป็น 100 ล้าน!
คนที่3 นางสุชาดา คนงานวัดปัจจุบันมีผัวอยู่แล้ว เพื่อความสุขสบาย มีเงินทองบ้านซื้อเงินสด ขับรถคันเป็นล้าน มีเงินฝากมากมาย มีรีสอร์ท อยู่ทางภาคเหนือ
วัดดังหัวลำโพง.
📌วัดหัวลำโพง พระราม 4 สามย่าน
ล่าสุดผู้สื่อข่าวได้มีโอกาสพูดคุยกับพระธรรมสุธี เจ้าอาวาสวัดหัวลำโพง พระอารามหลวง และเจ้าคณะภาค 1 ประธานกรรมการ อายุ 82 ปี เปิดเผยว่า พระครูปริยัติวัฒนกิจ ปัจจุบันอายุ 66 ปี เป็นพระนักเรียนดีเด่นที่บวชอยู่กับวัดมาตั้งแต่เยาว์วัย จบการศึกษาทางธรรมและทางโลกในระดับสูง และเป็นผู้ช่วยเจ้าอาวาส ทำหน้าที่เลขานุการวัด รวมถึงดูแลงานฌาปนกิจศพและสั่งงานคนงานภายในวัด
พระธรรมสุธี ยืนยันว่า พระครูปริยัติวัฒนกิจไม่เคยถือเงินวัดหรือมีอำนาจจัดการบัญชีของวัด การเบิกถอนเงินจากธนาคารเป็นหน้าที่ของเจ้าอาวาสเพียงผู้เดียว โดยต้องใช้บัตรประชาชนและลายเซ็นของตนกำกับทุกครั้ง จึงเป็นไปไม่ได้ที่จะมีการโกงเงินจำนวนมหาศาลตามที่ถูกกล่าวหา พร้อมระบุว่า รายได้ของวัดไม่ได้สูงขนาดหลักร้อยล้าน เพราะเพียงแค่ค่าน้ำค่าไฟในแต่ละเดือนก็ต้องใช้เงินกว่า 2-3 แสนบาทแล้ว
สำหรับข้อกล่าวหา เรื่องความสัมพันธ์กับสีกา เจ้าอาวาสชี้แจงว่า ไม่เป็นความจริงเช่นกัน โดยผู้หญิงที่พบเห็นอยู่กับพระครูปริยัติวัฒนกิจ ส่วนใหญ่เป็นเพียงญาติพี่น้องของท่าน ไม่เคยปรากฏว่ามีสีกาคนนอก และหากมีการพาดพิงถึงคนงานวัดบางรายว่าเป็นสีกา ก็อาจเป็นผลจากความขัดแย้งเรื่องงานที่เกิดขึ้นบ้าง แต่ไม่เกี่ยวข้องกับพฤติกรรมเชิงชู้สาวอย่างที่ถูกกล่าวหา
พระธรรมสุธี เผยอีกว่า ตนเองตั้งใจอโหสิกรรมให้กับผู้ที่นำข้อมูลเท็จมาเผยแพร่ และยังไม่คิดจะฟ้องร้อง แต่ต้องการให้สังคมรับฟังข้อมูลที่ถูกต้อง และย้ำว่าการจะกล่าวหาใครต้องมีหลักฐานที่ชัดเจน ขณะเดียวกันพระครูปริยัติวัฒนกิจได้ยืนยันกับตนโดยตรงว่า ข่าวที่ถูกเผยแพร่ไม่เป็นความจริง แต่ขณะนี้ยังไม่ได้อยู่ที่วัดและยังไม่พร้อมให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน.-415-สำนักข่าวไทย