26 ส.ค. – นายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ทนายความและประธานมูลนิธิรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม ได้พานายเกม ลูกชายของนายอลงกต พลมุข อดีตข้าราชการที่ถูกนายอลงกต พูลมุข หรืออดีตพระราชวิสุทธิประชานาถ หรืออดีตหลวงพ่ออลงกต อดีตเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ จ.ลพบุรี นำชื่อและเลขประจำตัวประชาชนไปใช้ มาแจ้งความกับพนักงานสอบสวน กองบังคับการปราบปราม
โดยนายเกม เปิดเผยว่า วันนี้ตนได้รับความช่วยเหลือจากทนายรณณรงค์ให้มาแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวน หลังจากทราบว่า อดีตหลวงพ่ออลงกต นำชื่อของบิดาตนไปใช้ รวมทั้งนำเลขบัตรประชาชนของบิดาไปใช้เปิดบัญชีธนาคารและทำธุรกรรมอื่น ๆ จึงกังวลว่าการสวมรอยครั้งนี้ จะก่อให้เกิดความเสียหายแก่ครอบครัว
ส่วนตัวยืนยันว่า ไม่รู้จักกับอดีตพระอลงกตเป็นการส่วนตัว ตนเคยเห็นที่ปรากฏตามหน้าสื่อทีวี โดยเริ่มรู้จักตั้งแต่ปี 2554 รู้จักในฐานะที่ท่านเป็นพระนักพัฒนาด้านสาธารณะและที่ผ่านมาก็ไม่เคยระแคะระคาย จนกระทั่งช่วงประมาณปี 2560-2562 ซึ่งตนจำช่วงเวลาที่แน่ชัดไม่ได้ มีจดหมายเอกสารค่าโทรศัพท์ของเครือข่ายหนึ่ง ส่งมาที่บ้านพักข้าราชการของบิดาตนที่ จ.พระนครศรีอยุธยา ซึ่งจดหมายดังกล่าวจ่าหน้าซองว่า “พระภิกษุอลงกต พลมุข” แต่เนื้อหาที่ข้างในและที่อยู่ เป็นข้อมูลที่ถูกต้องของบิดาตน ด้วยความเอะใจ ตนเลยนำเรื่องดังกล่าวไปสอบถามบิดา ซึ่งบิดาไม่มีท่าทีที่ตกใจ แล้วบอกว่าน่าจะเป็นเพราะชื่อเหมือนกัน ซึ่งเป็นเรื่องปกติของคนไทยอยู่แล้วที่มีชื่อซ้ำ บิดาจึงไม่ได้ใส่ใจและให้นำไปชำระค่าโทรศัพท์มือถือตามปกติ
ส่วนนายเฉลิมพล พลมุข นั้น ตนเพิ่งมาทราบตอนเรียนมหาวิทยาลัยว่าเป็นเครือญาติกันเมื่อปี 2556 จากการลงทะเบียนเรียนวิชาจริยธรรมกับชีวิต โดยทราบว่านายเฉลิมพลนั้นมีศักดิ์เป็นลูกของปู่ผู้พี่ แต่ไม่เคยพูดคุยเป็นการส่วนตัว
นายเกม ยืนยันว่า บิดาของตนไม่เคยทำธุรกรรมพร้อมเพย์และเปิดใช้ Mobile Banking แต่อย่างใด บิดาของตนใช้แต่เงินสดอย่างเดียว ทั้งนี้ บิดาของตนมี 2 เบอร์โทรศัพท์มือถือจริง แต่ทั้ง 2 เบอร์ไม่เคยนำไปใช้ทำธุรกรรมทางการเงิน ใช้แต่เพียงเรื่องส่วนตัวเท่านั้น
จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตนก็รู้สึกตกใจหลังจากทราบข่าวผ่านสื่อมวลชน เพราะไม่เคยระแคะระคายใด ๆ จึงยืนยันว่า ครอบครัวและตนเองไม่เคยรู้จักกับอดีตหลวงพ่ออลงกตเป็นการส่วนตัว
ด้านทนายรณณรงค์ เปิดเผยว่า การแจ้งความร้องทุกข์ครั้งนี้ เป็นการพาทายาทตามกฎหมายของนายอลงกต มาแจ้งความในความผิดเรื่องใช้เอกสารปลอมและให้ข้อมูลเท็จกับทางเจ้าพนักงาน ซึ่งประเด็นนี้ต้องให้ทางพนักงานสอบสวนไปดำเนินการสืบต่อว่า ที่ผ่านมาอดีตหลวงพ่ออลงกตได้นำใบสุทธิและเลขประจำตัวประชาชนของนายอลงกต พลมุข ไปใช้ทำธุรกรรมอะไรบ้างตั้งแต่บวช แล้วค่อยดำเนินคดีตามระยะอายุความต่อไป
ทั้งนี้ ก่อนที่ทั้งคู่จะเดินเข้าไปแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวน นายเกมได้ฝากคำถามทิ้งท้ายไปยังอดีตหลวงพ่ออลงกต ว่า “รู้จักกับพ่อของตนได้ยังไงและเอาข้อมูลของพ่อตนมาใช้ได้อย่างไร” ซึ่งทนายรณณรงค์ พูดเสริมว่า “เป็นการฝากคำถามทิ้งท้ายก่อนเขาเข้าเรือนจำ”.-416- สำนักข่าวไทย
