ดีเอสไอ เตรียมออกหมายเรียกผู้ต้องหาลอตแรก คดีฮั้ว สว.

ดีเอสไอ 17 ก.ค.- ดีเอสไอ เตรียมออกหมายเรียกผู้ต้องหาคดีอั้งยี่-ฟอกเงินลอตแรก คาดมากถึง 100 ราย พฤติการณ์ชัด รับเงินก้อนใหญ่ในห้วงเลือกตั้ง


พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ กล่าวภายหลังประชุมคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษที่ 24/2568 กรณีความผิดฐานฟอกเงินของบุคคลหรือคณะบุคคลที่เกี่ยวกับการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา (สว.) รวมถึงผู้ที่เป็นสมาชิกอั้งยี่และผู้สนับสนุน หรือคดีอั้งยี่-ฟอกเงิน สว. ว่า วันนี้เป็นการประชุมร่วมของคณะพนักงานสอบสวน และได้เชิญนายวิทยา นีติธรรม ผู้ช่วยเลขาธิการ ปปง. ในฐานะผู้แทนสำนักงาน ปปง. ประชุมร่วมกับพนักงานอัยการสำนักงานการสอบสวน ติดตามความคืบหน้าเรื่องการสอบสวนพยาน รวมทั้งสอบถามในส่วนของข้อกฎหมายการฟอกเงินซึ่งได้รับความมั่นใจจาก ปปง. ว่ากรณีดังกล่าว พฤติกรรมของการเตรียมเงินและจ่ายเงินให้กับหัวคะแนนหรือโหวตเตอร์ที่ไปสนับสนุนการกระทำความผิดในครั้งนี้ จะถือเป็นทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดตามนิยามของกฎหมาย ปปง. หรือไม่ ซึ่งเราก็ได้ความชัดเจนตรงนี้ นอกจากนี้ในการสอบถามเรื่องการรวบรวมพยานหลักฐาน พบว่ามีการจ่ายเงินในหลายพื้นที่ และการสอบสวนเท่าที่ได้รับฟังก็พบความชัดเจนมากขึ้น รับฟังได้ว่ามีมูลในการกระทำความผิดตามที่มีการกล่าวหาเกิดขึ้น ทั้งอั้งยี่และการฟอกเงิน รวมถึงที่ประชุมมีการกำหนดสอบพยานอีกส่วนหนึ่ง เพื่อที่จะพิจารณาเรียกผู้ถูกกล่าวหามารับทราบข้อกล่าวหาในโอกาสต่อไป ทั้งนี้ การสอบสวนในตอนนี้มีความคืบหน้าแล้ว 60-70%

สำหรับการสอบปากคำพยานในคดีอั้งยี่-ฟอกเงินที่ผ่านมา รวมแล้ว 90 ปาก โดย 90 ปากนี้มีทั้งกลุ่มที่เข้าไปรู้เห็นการวางแผน การทำหน้าที่ต่าง ๆ โดยเป็นการรู้เห็นด้วยตนเอง และพยานหลักฐานเกี่ยวกับการเงินด้วย โดยผลการให้ปากคำในส่วนของผู้ที่มีเส้นทางการเงินเกี่ยวข้อง มีประมาณ 7-8 ราย แต่เราดูหลักฐานการเดินบัญชี (Statement) เป็นหลัก ว่าการโอนและรับโอนเงินนั้น ส่วนใหญ่พยานจะอ้างว่าเป็นการโอนเงินตามมูลหนี้ แต่ก็ต้องมาชั่งน้ำหนักอีกทีว่ารับฟังได้มากน้อยแค่ไหน ดังนั้น สำหรับพยานในลอตถัดไป จะมีพฤติการณ์ไม่เหมือนกับ 90 รายแรกที่สอบสวนไป โดยมีพฤติกรรมจากเส้นทางการเงิน ซึ่งเราจะพิสูจน์ว่าบรรดาผู้ช่วยหรือผู้เชี่ยวชาญหรือที่ปรึกษาประจำตัว สว. ที่มีการแต่งตั้งมีที่มาอย่างไร เพราะทราบว่ามีเงินบางส่วนได้ถูกโอนกลับไปที่คณะบุคคลบางกลุ่ม ก็ต้องติดตามตรวจสอบต่อไป


เมื่อถามว่ามีรายชื่อ สส.ที่จะต้องเข้าให้ปากคำในฐานะพยานบ้างหรือไม่นั้น พ.ต.ต.ยุทธนา เผยว่า ไม่สามารถเปิดเผยได้ แต่มีทุกกลุ่มแน่นอน ซึ่งหมายเรียกพยานนั้น เมื่อหมดลอตถัดไป ก็จะพิจารณาเรื่องหมายเรียกผู้ต้องหา

พ.ต.ต.ยุทธนา เผยต่อว่า ประมาณ 1 เดือน จะเห็นความคืบหน้าที่ชัดเจนมากขึ้น หรืออาจเป็นขั้นตอนเรียกมารับทราบข้อกล่าวหาเลยก็ได้ แต่ก็ขึ้นอยู่กับการได้มาของพยานหลักฐาน โดยการฟอกเงิน พฤติกรรมคือการรับโอนเงินและทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิด ส่วนอั้งยี่ คือ การเป็นคณะบุคคลหรือจัดตั้งเป็นคณะบุคคล ปกปิดวิธีดำเนินการ เพื่อไปกระทำการโดยมิชอบด้วยกฎหมาย ซึ่งตอนนี้มันก็ชัดแล้วว่ามีการจัดตั้งคณะขึ้นมาและแบ่งหน้าที่กันทำ

ส่วนการฮั้วนั้น พฤติกรรมแวดล้อมจะบ่งบอก อย่างช่วงเลือกตั้งบางทีไม่มีเหตุผลอะไรที่จะมีการรับโอนเงินเงินก้อนใหญ่ หรือเงินกระจายไปยังบุคคลอื่นหลาย 10 เส้น และบุคคลเหล่านั้นก็ไปสมัครสมาชิกวุฒิสภาในช่วงนั้น แล้วก็มีการเลือกคนที่อยู่ในโพย ซึ่งมันก็มีความโยงใยกัน จึงยืนยันว่าเราไม่ได้ดูแค่พยานหลักฐานเรื่องเส้นทางการเงินเพียงอย่างเดียว และตอนนี้ทราบว่าเส้นทางการเงินกระจายมากกว่า 30 จังหวัด ทุกภาค


พ.ต.ต.ยุทธนา เผยด้วยว่า สำหรับคดีฮั้ว สว.ที่รับผิดชอบโดยคณะอนุกรรมการสืบสวนและไต่สวน กับคดีอาญาอั้งยี่-ฟอกเงิน ที่รับผิดชอบโดยดีเอสไอนั้น โดยหลักการแล้วจะไม่ยึดโยงกัน แต่ว่าสนับสนุนเอื้อซึ่งกันและกัน ฉะนั้น ไม่ได้หมายความว่าหากบุคคลใดโดนดำเนินคดีในส่วนของ กกต. แล้วจะต้องถูกดำเนินคดีอั้งยี่-ฟอกเงินด้วย ไม่จำเป็น มันขึ้นอยู่กับพยานหลักฐาน โดยดีเอสไอเองอาจจะขอพยานหลักฐานหรือความเห็นในส่วนของ กกต. มาประกอบสำนวนด้วยได้

พ.ต.ต.ยุทธนา กล่าวว่า ตนจะไม่ขอตอบในส่วนของการดำเนินการของคณะอนุกรรมการสืบสวนและไต่สวน เพราะมันเป็นส่วนของ กกต. แม้ดีเอสไอส่งเจ้าหน้าที่ไปร่วมก็ตาม แต่ก็เป็นอำนาจหน้าที่ของหน่วยงานอื่น ซึ่งมาตราฐานความผิดใด ก็ต้องเป็นอำนาจของคณะอนุกรรมการฯ

เมื่อถามจำนวนเป้าหมายผู้ที่เข้าข่ายกระทำความผิด อธิบดีดีเอสไอ ระบุว่า รวม ๆ แล้วของดีเอสไอ และ กกต. อาจมีอย่างน้อยประมาณหลักร้อยคน แต่ก็ขึ้นอยู่กับพยานหลักฐาน เนื่องจากการสอบสวนเอาผิดใคร มันไม่สามารถระบุเจาะจงจำนวนได้ แต่ดูตามพยานหลักฐานว่าเชื่อมโยงถึงใครที่เกี่ยวข้องบ้าง จึงจะมีการพิจารณาว่าบุคคลใดร่วมกันกระทำความผิดความ เป็นตัวการ ผู้ใช้ หรือผู้สนับสนุน แต่ถ้ามองคร่าว ๆ ตอบได้ว่ามีหลักร้อยคน

ต่อข้อถามว่าจากการดูเรื่องเส้นทางการเงิน พบว่ามีความเชื่อมโยงไปยังนักการเมืองท้องถิ่นกับขบวนการจัดฮั้วบ้างหรือไม่ อธิบดีดีเอสไอ ระบุว่า ยอมรับว่ามี แต่ขอสงวนเรื่องรายละเอียดไว้ก่อน ส่วนเชื่อมโยงถึงระดับกรรมการบริหารพรรคการเมืองหรือไม่นั้น ยืนยันว่าเงินตอนนี้ยังไม่ถึงขนาดนั้น แต่พบว่าเชื่อมโยงถึงกลุ่มคนใกล้ชิดของกรรมการบริหารพรรค

เมื่อถามถึงกรณีที่ กกต. ยกคำร้อง 206 ผู้สมัคร สว. ระดับอำเภอ จ.อำนาจเจริญ เนื่องจากไม่พบเส้นเงินจ้างลงสมัคร อธิบดีดีเอสไอชี้แจงว่า ในส่วนของ กกต. ตนไม่อยากพูด เพราะไม่ได้ไปรู้เห็นในเรื่องดังกล่าว แต่ถามว่ามันจะเกี่ยวกันหรือไม่ มันไม่เกี่ยวกัน เป็นคนละเหตุการณ์คนละส่วน และพยานหลักฐานก็คนละชุดกัน เหตุการณ์ก็คนละเหตุการณ์ แม้ว่าผู้ถูกกล่าวหาจะเป็นคนเดียวกันก็ตาม แต่มันไม่ใช่เรื่องเดียวกัน ทั้งนี้ จะดำเนินการสอบสวนคดีอั้งยี่-ฟอกเงิน อย่างเร็วที่สุด ซึ่งก็มีความเป็นไปได้ว่าจะทำสำนวนตีคู่ขนานไปกับคณะอนุกรรมการสืบสวนและไต่สวน แต่ขอย้ำว่าการดูเรื่องเส้นทางการเงิน ก็ต้องดูว่ามีความสมบูรณ์หรือไม่ และพยานหลักฐานในส่วนขององค์ประกอบอั้งยี่ จะต้องมีการสอบสวนปากคำใครเพิ่มเติม หรือต้องไปดูเอกสารใดบ้าง อีกทั้งในส่วนของความผิดฐานฟอกเงิน เราจะตัดกรอบแค่ไหน เพราะการโอนเงินมันกระจายเป็นกลุ่มจังหวัด เราจะพิจารณาอย่างไร อย่างไรก็ตาม เป็นไปได้ที่ดีเอสไอจะกันพยานไว้ หากพยานคนนั้นอยู่ในเงื่อนไขที่ไม่ใช่บุคคลสำคัญ และยังให้การเป็นประโยชน์ และมั่นใจได้ว่าพยานรายนั้นจะสามารถเบิกความเป็นประโยชน์ต่อคดี จนเอาผิดถึงตัวการสำคัญได้ ส่วนหลังจากนี้เราจะโฟกัสเรื่องพยานหลักฐาน โดยเราจะเน้นการสอบสวนให้เห็นว่าการกระทำความผิดตามข้อกล่าวหาเกิดขึ้นแล้ว แต่ใครที่จะต้องรับผิดในส่วนใดบ้างก็ต้องพิจารณาเป็นรายไป

เมื่อถามถึงฐานความผิดต่าง ๆ ใน พ.ร.ป.สว.61 และมาตรา 113 ตามกฎหมายรัฐธรรมนูญ ที่มีการดำเนินคดีนั้น กกต. จะมีการแยกสำนวนอย่างไร เพราะ พ.ร.ป.สว.61 ตามหลักการต้องส่งศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ขณะที่มาตรา 113 แห่ง รธน.60 จะต้องให้ กกต. ส่งศาลรัฐธรรมนูญนั้น พ.ต.ท.อนุรักษ์ โรจนนิรันดร์กิจ รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ในฐานะเป็น 1 ใน 7 คณะอนุกรรมการสืบสวนและไต่สวน กล่าวว่า มาตราความผิดใดเกี่ยวกับกฎหมายการเลือกตั้งก็เป็นอำนาจของ กกต. ที่จะพิจารณา แต่ในทางปฏิบัติ ทาง กกต. อาจต้องมีการตั้งคณะอนุกรรมการขึ้นมาอีกชุดเพื่อพิจารณา ทั้งนี้ ทราบว่าสำนวนการไต่สวนของคณะอนุกรรมการสืบสวนและไต่สวน คณะที่ 26 จะดำเนินการเสร็จภายในวันนี้ ส่วนจำนวนผู้ถูกดำเนินคดียังไม่เรียบร้อยเท่าไร รอทางประธานคณะกรรมการ กกต. อาจจะมีการแถลง

ด้าน นายวิทยา นีติธรรม ผู้ช่วยเลขาธิการ ปปง. กล่าวว่า วันนี้ทางดีเอสไอ เชิญ ปปง. มาให้ความเห็นทางคดีเกี่ยวกับความผิดมูลฐานฟอกเงิน และเกี่ยวข้องกับทรัพย์สิน แบ่งเป็น 1.ทรัพย์สินที่ได้มาจากการกระทำความผิด 2.ทรัพย์สินที่ช่วยสนับสนุนการกระทำความผิด และ 3.บุคคลที่เกี่ยวข้องกับตัวทรัพย์สิน เป็นเรื่องของคดีอาญาฟอกเงิน ฉะนั้น เมื่อถึงวันที่ดีเอสไอ ต้องดำเนินคดีฐาน “อั้งยี่-ฟอกเงิน” กับบุคคลใด ปปง. จะเข้ามาตรวจสอบเรื่องการสืบทรัพย์สินเพื่อออกคำสั่งยึดและอายัดทรัพย์ชั่วคราวนั้น ก็เป็นเรื่องที่ต้องหารือกัน เพราะ ปปง. เข้ามาดูจะต้องมีความชัดเจน และประชาชนก็ให้ความสำคัญ ส่วนการรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อพิสูจน์ความผิดในขณะนี้ ยังให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย สามารถเข้ามาชี้แจงได้ สำหรับเส้นทางการเงินเชื่อมโยงบุคคลจำนวนมากที่เกี่ยวข้อง แต่มูลค่ายังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ เนื่องจากต้องมีความชัดเจนตามพยานหลักฐาน.-119-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่มซิ่งกระบะชนเสาไฟฟ้าล้มขวางถนน 12 ต้น

ชลบุรี 28 ก.ย. – หนุ่มซิ่งกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรตลอดทั้งวัน คาดจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) รถกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน ต.บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น เป็นเสาไฟฟ้าแรงสูง 6 ต้น เสาไฟฟ้าสูง 12 เมตร อีก 6 ต้น ระยะทาง 500 เมตร โชคดีนายสิทธิพงษ์ อายุ 41 ปี คนขับ บาดเจ็บเล็กน้อย แต่ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรบนถนนสายบึง-บ่อวิน ตลอดทั้งวัน คาดว่าจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) จากการสอบสวนทราบว่า นายสิทธิพงษ์ เพิ่งเลิกงาน ขับรถกลับบ้านด้วยความเร็ว อาจหลับใน ทำให้รถเปลี่ยนเลนข้ามไปชนกับเสาไฟฟ้าอีกฝั่ง ส่วนความเสียหายยังประเมินค่าไม่ได้.-สำนักข่าวไทย

“อนุทิน” ร่วมงานศพพ่อ “อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้า ภท.

ราชบุรี 28 ก.ย.- “อนุทิน” ร่วมสวดอภิธรรมศพพ่อ “สส.อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้าภูมิใจไทย ลั่นได้ส่งจิตขออนุญาตคุณพ่อแล้ว นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตาีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วยนายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายศักดา วิเชียรศิลป์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นายสรอรรถ กลิ่นประทุม อดีต สส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย ได้ร่วมไว้อาลัยและสวดอภิธรรมศพ คุณพ่อวุฒิพงศ์ วงษ์พิทักษ์โรจน์ บิดาของนายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สส.ราชบุรี พรรครวมไทยสร้างชาติ เมื่อค่ำวันที่ 27 ก.ย. ที่จังหวัดราชบุรี โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี หัวหน้าส่วนราชการ และประชาชนกว่า 2,000 ร่วมพิธีโดยเป็นการสวดอภิธรรมเป็นคืนที่ 4 และจะมีพิธีบรรจุศพในวันที่ 30 ก.ย. นี้ ในช่วงท้าย นายอนุทิน ได้กล่าวกับผู้ที่ร่วมสวดอภิธรรมศพ ว่า ตนเองมีความสนิทสนมกับ นายอัครเดช มาหลายปีแล้ว นายอัครเดชเป็นคนมีความวิริยะอุสาหะ ตั้งใจทำงานให้พี่น้องประชาชน ตนมีความชื่นชมและศรัทธา ในความขัยนขันแข็งของท่าน ยิ่งไปกว่านั้นการปฏิบัติหน้าที่ในสภาผู้แทนราษฎร ท่านก็ทำหน้าที่ได้ดีเป็นดาวสภา […]

โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA

กรุงเทพฯ 28 ก.ย. – โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA หลัง “อนุทิน” มอบดาบการทูตสู้กัมพูชา ขณะนายกฯ ย้ำยึดสันติในการแก้ปัญหา เพื่อประโยชน์ของประเทศ ภายหลังจากที่นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวในเวทีการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ หรือ UNGA สมัยสามัญ ครั้งที่ 80 ที่นครนิวยอร์ก ทำให้กระแสโซเชียลในประเทศไทย พึงพอใจกับการทำหน้าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ในรัฐบาลของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี เป็นอย่างมาก ทั้งนี้ การเดินทางไปเวที UNGA ของนายสีหศักดิ์ ครั้งนี้ยึดแนวทางแก้ปัญหาความมั่นคงและการต่างประเทศ ที่นายอนุทิน มอบหมายให้ดำเนินการ โดยใช้มาตรการทางการทหารควบคู่กับการทูต เพื่อรักษาอธิปไตยอย่างสันติ เพื่อผลประโยชน์ของประชาชน โดยเฉพาะในกรณีพิพาทไทย-กัมพูชา ขณะที่นายอนุทิน เชื่อว่า การกล่าวถ้อยแถลงในที่ประชุม UNGA ของนายสีหศักดิ์ ทำให้คนไทยมีความเชื่อมั่นอย่างชัดเจนต่อจุดยืนของรัฐบาล สำหรับนโยบาย 4 เดือน 4 ภารกิจหลัก คืนความมั่นใจให้ประเทศไทย ตามนโยบายรัฐบาลของนายอนุทิน […]

กรมอุตุฯ เตือนฝนถล่มทั่วไทย รับมืออิทธิพลพายุบัวลอย

กทม. 28 ก.ย.- กรมอุตุฯ เตือนทั่วไทยรับมือฝนถล่ม อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง จับตาอิทธิพลพายุไต้ฝุ่น “บัวลอย” คาดเคลื่อนขึ้นฝั่งเวียดนามตอนบน พรุ่งนี้ (29 ก.ย.) กรมอุตุนิยมวิทยาเผยประเทศไทยมีฝนตกหนักหลายพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออก โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดสกลนคร นครพนม อุดรธานี ขอนแก่น กาฬสินธุ์ มุกดาหาร จันทบุรี และตราด ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่าน พื้นที่ลุ่ม และพื้นที่น้ำท่วมขัง เนื่องจากร่องมรสุมกำลังแรงพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังแรง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง พายุไต้ฝุ่น […]

ข่าวแนะนำ

สีสัน! อภิปรายนโยบายรัฐบาลวันแรก

29 ก.ย.- การแถลงนโยบายรัฐบาลวันนี้ เหมือนเป็นการซ้อมศึกซักฟอกย่อย เพราะมีการตอบโต้และตั้งฉายามากมาย ติดตามสีสันการอภิปรายนโยบายฯ วันแรก .-สำนักข่าวไทย

เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดฝนหนักคืนนี้

29 ก.ย.- หลายพื้นที่เฝ้าระวังฝนตกหนัก จากอิทธิพล #พายุบัวลอย เชียงใหม่เปิดประตูระบายน้ำทุกจุด เร่งระบายน้ำปิงลงทะเลสาบดอยเต่า พร่องน้ำในเขื่อนแม่งัดฯ เตรียมรับน้ำฝน คาดตกหนักคืนนี้ ขณะที่ จ.นครราชสีมา น้ำล้นสปิลเวย์ เตือนประชาชนระวังน้ำท่วมฉับพลัน พายุฝนตกกระหน่ำหลายพื้นที่จังหวัดสระแก้ว โดยพื้นที่ ต.บ้านแก้ง อ.เมืองสระแก้ว นายก อบต.บ้านแก้ง พร้อมผู้นำชุมชน และอาสาสมัครกู้ภัย ได้นำเรือเครื่องยนต์ท้องแบน เข้าช่วยเหลือ ตาชู-ยายทองคำ และสุนัข 1 ตัว ออกจากบ้านที่โดนน้ำป่าไหลหลาก เข้าท่วมเกือบมิดหลังคา  มาอยู่ในที่ปลอดภัย ยายทองคำ เล่าว่าเมื่อคืนพักอยู่กับตาและหมา กำลังจะเข้านอนแต่ก็มีฝนตกตลอดทั้งคืน น้ำที่คลองก็ยังไม่เห็นว่าจะขึ้นล้นตลิ่งเท่าไร แต่ก็กังวล จึงเฝ้าดูกระทั่งน้ำไหลมาและเข้าท่วม ตกใจ จึงได้นำสุนัขขึ้นบนบ้าน ส่วนข้าวของก็เก็บไม่ทัน จากนั้นจึงอยู่แต่บนบ้านจนถึงเช้า กู้ภัยมาช่วยนำออกมาจากบ้าน อยู่มาหลายสิบปีไม่เคยเจอแบบนี้มาก่อนเลย  ผู้ว่าฯ เชียงใหม่ เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดตกหนักคืนนี้ เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา หลายพื้นที่เชียงใหม่ เริ่มมีฝนตกลงมาบ้างแล้ว ระดับน้ำในลำน้ำปิงที่ไหลผ่านตัวเมืองเชียงใหม่ ที่จุดวัดพี1 เชิงสะพานนวรัฐ ยังอยู่ที่ 2 เมตร 49 เซนติเมตร ต่ำกว่าจุดวิกฤติแจ้งเตือนที่ […]

แถลงนโยบายวันแรกเดือด ประท้วงกันวุ่น

29 ก.ย.- สภาเดือด! แถลงนโยบายรัฐบาลวันแรก อภิปรายตอบโต้-ประท้วงกันเป็นระยะ เมื่อมีการพาดพิงปมเขากระโดง-ฮั้ว สว. แต่ประธานฯ คุมสถานการณ์ได้ ด้านนายกฯ ไม่กังวลวาทกรรมของฝ่ายค้าน ชี้ประเด็นซ้ำๆ และมีการแถลงข้อเท็จจริงไปแล้ว -สำนักข่าวไทย

ฝ่าดงทุ่นระเบิดเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก “ผลักดัน-รื้อถอน”

29 ก.ย.- ทหารเรือฝ่าดงทุ่นระเบิดเข้าเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก จ.ตราด ผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้าม-รื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง 3 หลัง รุกล้ำเขตอธิปไตยไทย ขณะที่ชาวบ้านหนองจาน จ.สระแก้ว นำอาหารมอบให้ทหารแนวหน้า ยังไม่พบความเคลื่อนไหวผิดปกติ พลเรือเอก จิรพล ว่องวิทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ และพลเรือเอก ไพโรจน์ เฟื่องจันทร์ ว่าที่ ผู้บัญชาการทหารเรือ คนใหม่ มอบหมายพลเรือโทอภิชาติ ทรัพย์ประเสริฐ ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน และผู้บัญชาการกองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรี-ตราด (กกล.กปช.จต.) เข้าเคลียร์พื้นที่ชายแดนบ้านชำราก อันเป็นอธิปไตยของไทย โดยหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินตราด กองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรีตราด จึงได้ผลักดันกองกำลังกัมพูชา ออกจากพื้นที่บริเวณตรงข้ามบ้านหนองรี ตำบลชำราก ไม่มีกำลังฝ่ายกัมพูชาวางกำลังแล้ว ผลจากการปฏิบัติการ บรรลุเป้าหมายสำคัญ คือ สามารถทำลายสิ่งปลูกสร้างทั้ง 3 หลังลงได้อย่างสิ้นเชิง ที่สำคัญที่สุดคือ สามารถผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้ามให้ออกจากพื้นที่รุกล้ำได้อย่างสมบูรณ์ ประชาชนนำอาหารมอบทหารแนวหน้า บ้านหนองจาน จ.สระแก้ว ส่วนที่บ้านหนองจาน จังหวัดสระแก้ว บรรยาศเงียบเหงา แต่ยังคงมีประชาชนเดินทางนำอาหาร เช่น ไข่ไก่ น้ำดื่ม นำมามอบให้กับทหารแนวหน้า ถึงแม้จะไม่คึกคักเหมือนวันก่อนๆ […]