ดีเอสไอ เผยใช้ AI จับพิรุธฮั้วเลือก สว.ระดับประเทศ

กทม. 25 เม.ย.-ดีเอสไอ เผยใช้ AI จับพิรุธฮั้วเลือก สว.ระดับประเทศ ใช้หลักสถิติ เปิดกล้องจับผิดกระบวนการ ลั่น! สอบความผิดปกติทั้งหมด ยืนยันทำงานตรงไปตรงมา

พันตำรวจตรี ยุทธนา แพรดำ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ DSI เปิดเผยภายหลังการลงพื้นที่ฟอรั่มฮอลล์ อิมแพคเมืองทองธานี ติดตามการจำลองเหตุการณ์การเลือก สว.ระดับประเทศ เมื่อ 26 มิถุนายน 2567 ที่ผ่านมาว่า เป็นไปตามที่มีผู้ร้องทุกข์กล่าวโทษ และพยานที่เป็นผู้สมัครที่เป็นผู้ร้องเรียนพาชี้จุดเกิดเหตุ ซึ่งเป็นห้องที่เป็นการเลือกระดับประเทศ และมีการกล่าวหามีการพบโพย มีการรวมตัว และภาพพยานหลักฐานจากกล้องวงจรปิด โดยจะสามารถนำมาวิเคราะห์ รวมถึงจำลองสถานการณ์ เพื่อเวลาเรียกพยานมาชี้แจงจะได้ทราบ และสามารถพิสูจน์ข้อเท็จจริงกับพยานหลักฐานบุคคล และวัตถุ รวมถึงผลักฐานจากผู้เชี่ยวชาญ ที่มีการตั้งข้อสังเกตถึงคะแนนซ้ำ ๆ กันได้


ส่วนการใช้เทคโนโลยี AI เข้ามาช่วยในการวิเคราะห์นั้น อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ยังไม่ขอลงรายละเอียดในเชิงเทคนิค แต่ชี้แจงว่า จะใช้เทคนิค AI มาวิเคราะห์ ซึ่งหากได้ภาพทุกคนที่เข้ามาในพื้นที่ ทั้งผู้สมัครและผู้เข้าร่วมว่า ใครอยู่จุดใด และมีพฤติกรรมอย่างไร ก็จะสามารถจับ และวิเคราะห์ได้ทั้งหมด เพื่อพิจารณาว่า เป็นไปตามพยานอื่นๆ หรือไม่ โดยการใช้ AI จะมีความเป็นวิทยาศาสตร์ และเป็นหลักฐานที่มีความหนักแน่น

อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ยังยืนยันว่า การลงพื้นที่เพื่อจำลองเหตุการณ์ในวันนี้ จะเป็นประโยชน์ เพื่อให้ทราบว่าจุดเกิดเหตุใดอยู่ในจุดไหนบ้าง รวมถึงยังมีภาพจากกล้องวงจรปิดมาประกอบ หรือมีการพบโพยในห้องน้ำจุดใด โดยหลังจากนี้ก็จะมีการกลับไปเปรียบเทียบ พยานหลักฐานทั้งหมดว่า เพียงพอแล้วที่จะทำให้ข้อเท็จจริงกระจ่างหรือไม่ ซึ่งโพยที่พบก็ถือเป็นหลักฐานชนิดหนึ่ง ที่เจ้าหน้าที่สอบสวนจะนำไปพิจารณา แต่ยังไม่ขอเปิดเผยในรายละเอียดเช่นเดียวกัน


พร้อมกันนี้ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ยังชี้แจงถึงขั้นตอนการดำเนินคดีอาญาว่า จะต้องรอพิสูจน์ให้ชัดเจนว่ามีคนใดบ้างที่กระทำความผิด ซึ่งจะต้องมีการพิสูจน์พยานหลักฐานให้มีความชัดเจนก่อนมีการแจ้งข้อกล่าวหา ส่วนที่ไปร่วมมือกับกกตในการตรวจสอบนั้น ก็จะแยกเป็นความผิดที่เกิดขึ้นกับพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการได้มาซึ่ง สว. เพื่อพิสูจน์การเลือก สว.ไม่เป็นธรรม โดยที่พอดีทั้ง 2 ส่วนไม่จำเป็นจะต้องเสร็จสิ้นพร้อมกัน ตามที่ กกต.ได้ตั้งเป้าหมายการสอบสวนคดีการเลือก สว.ไม่เป็นธรรมไว้ว่า จะให้แล้วเสร็จในเดือนหน้า

ส่วนภาพนิ่งที่มีการถ่าย และส่งต่อกันจะเป็นประโยชน์หรือไม่นั้น อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ระบุว่า อยู่ในระหว่างการวิเคราะห์ว่า สอดคล้องกับบัตรลงคะแนน ที่เป็นไปตามโพยที่พบหรือไม่ และจะมีการใช้สูตรคำนวณ เพราะหากการลงคะแนนเป็นไปตามโพย มีการลงคะแนนซ้ำ ๆ ในหลาย ๆ บัตร ก็อาจจะต้องมีการวิเคราะห์ว่า มีการกระทำจัดตั้งเป็นกลุ่มบุคคล เพื่อทำให้การเลือกไม่เป็นโดยสุจริตหรือไม่ ซึ่งเป็นไปตามหลักสถิติ และหากได้ AI มาช่วยในการวิเคราะห์ และไปสอดคล้องกับพยานหลักฐานอื่น ๆ ก็จะทำให้พยานหลักฐานมีน้ำหนักมากขึ้น แต่หากไม่ตรงก็จะเป็นการหักล้างกัน จึงยืนยันได้ว่า กรมสอบสวนคดีพิเศษ กรมสอบสวนคดีพิเศษ พิสูจน์ข้อเท็จจริงด้วยความตรงไปตรงมาด้วยการนำหลักวิทยาศาสตร์เข้ามาช่วย

ทั้งนี้ องค์ประกอบอื่นๆ เช่น การเดินทางมาพร้อมกัน พักด้วยกัน หรือการใส่ชุดเหมือนกัน จะมีการนำมาพิจารณาด้วยหรือไม่นั้น อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ยืนยันว่า จะมีการนำมาพิจารณาด้วยทั้งหมด ซึ่งหากมีหลักฐานใดๆ ก็สามารถนำมาพิจารณาได้ทั้งหมด


พ.ต.ต.ยุทธนา ระบุว่า ภาพกล้องวงจรปิดจะโชว์ใบลงคะแนนทีละใบแทบจะ 100% ที่พิสูจน์ข้อเท็จจริงได้ ส่วนการที่ดรมการปกครองออกหนังสือ ในชั้นนี้ยังไม่ได้เป็นอุปสรรคในการทำงาน

ด้านนายภัทรพงศ์ ศุภักษร หรือทนายอั๋นบุรีรัมย์ ได้เดินทางมาสอบถามเรื่องภาพกล้องวงจรปิด และหีบการลงคะแนน ซึ่งได้สอบถามว่าจะมีการเปิดหีบหรือไม่ และกล่าวว่ากรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย ได้ทำหนังสือไป ภายใต้สังกัดว่าไม่ให้ความร่วมมือกับดีเอสไอ ซึ่งเป็นการสกัดไม่ให้ข้อมูลกับดีเอสไอ

นอกจากนี้ ทนายอั๋นบุรีรัมย์ นำรูป พญ.เกศกมล เปลี่ยนสมัย สว. เป็นรูปจี้ห้อยสร้อยคอ พร้อมบอกว่า นายแสวง บุญมี เลขาธิการ กกต. ไม่สมควรได้รางวัลจากหน่วยงานองค์กรดีเด่น ซึ่งเหมาะกับรางวัลจี้พญ.เกศกมล เพราะตนหมดเงินกับการร้องเรียนไปจำนวนมาก อยากมอบรูปภาพนี้ให้นายแสวง บุญมี และ กกต.

ขณะที่ พล.ต.ท.คำรบ ปัญญาแก้ว อดีตผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในฐานะ สว. สำรอง ได้โชว์เอกสารที่ระบุเป็นโพยฮั้วเลือก สว. ที่ตกอยู่ในห้องน้ำ โดยกล่าวว่า ผู้สมัคร สว. ระดับประเทศที่เดินทางมาจากต่างจังหวัดน่าจะขยำทิ้งไว้ในห้องน้ำแต่ไม่ลงถัง คนที่เข้าห้องน้ำต่อจึงเก็บได้ แล้วถ่ายรูปส่งมาในไลน์ เมื่อแกะดูพบว่าคะแนนตรงกันกับ สว. ที่ได้รับเลือกทุกกลุ่ม นอกจากนี้ยังมีโพยที่ 2-3 ตามมา รวมเป็นสิบกว่าโพย แต่ละโพยจะมีหัวรายชื่อ ประมาณ 7 คน รวมเป็นจำนวน 140 คน เกาะกลุ่มกันทั้งหมด ซึ่งข้อเท็จจริง ใน 140 รายชื่อ เป็น สว.ตัวจริง 138 รายชื่อ ซึ่งในวันนี้ดีเอสไอพยายามนำ CCTV มานำเสนอ แต่ยังไม่ครอบคลุม จึงมีการประสานงานกันต่อว่าจะขอร้องให้ กกต. เปิดหีบ เพื่อดูบัตรที่อยู่ในกล่อง โดยเฉพาะในรอบสุดท้ายที่มีการเลือกไขว้จะรู้ว่าที่มาของ สว. ที่ได้ 70-80 คะแนน มีที่มาอย่างไร โดยเรากำลังประกาศกับดีเอสไอว่าหากหีบเปิดไดยิ่งดี แต่ถ้าเปิดไม่ได้อาจดูจากกล้อง CCTV เพราะมีบันทึกไว้อยู่แล้ว เราจะเห็นว่าเป็นหลักฐานจะได้รู้ว่าไม่มโน 

ส่วนที่มีเสียงสะท้อนว่า สว. สำรองก็ฮั้วเหมือนกันแต่ไม่ชนะ ข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร พล.ต.ท. คำรบ กล่าวทันทีว่าไม่เป็นไร ใครมีพยานหลักฐานก็ขอให้เอามาเปิดเผยได้ เพราะเรื่องนี้มันกล่าวหากันได้หมด สว. สำรองบางส่วนก็มีปัญหา โดนดีเอสไอตรวจสอบด้วยเหมือนกัน ไม่ต่ำกว่า 2-3 คน ทั้งที่ฮั้วและไม่ฮั้ว แต่ได้คะแนนมาโดยไม่สุจริตเที่ยงธรรม 

ทั้งนี้ กรอบเวลา 1 ปี ที่ กกต. ต้องตรวจสอบคุณสมบัติ สว. ตัวจริงตอนนี้ใกล้ครบเวลาแล้ว กังวลหรือไม่ว่า กกต. จะทำงานไม่ทน พล.ต.ท. คำรบ กล่าวว่า การตรวจสอบดังกล่าวเป็นระเบียบภายในที่ต้องส่งให้บอร์ด กกต. ภายใน 1 ปี ซึ่งข้อเท็จจริงยังไม่พบว่าตามกฎหมายเกิน 1 ปีได้หรือไม่ ที่ผ่านมาประชาชนยังไม่ได้ฟังจาก กกต. ชัดเจนว่า 1 ปีสามารถขยายได้หรือไม่ ซึ่งตนคิดว่า 1 ปีควรจะจบได้แล้ว.-414.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่มซิ่งกระบะชนเสาไฟฟ้าล้มขวางถนน 12 ต้น

ชลบุรี 28 ก.ย. – หนุ่มซิ่งกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรตลอดทั้งวัน คาดจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) รถกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน ต.บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น เป็นเสาไฟฟ้าแรงสูง 6 ต้น เสาไฟฟ้าสูง 12 เมตร อีก 6 ต้น ระยะทาง 500 เมตร โชคดีนายสิทธิพงษ์ อายุ 41 ปี คนขับ บาดเจ็บเล็กน้อย แต่ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรบนถนนสายบึง-บ่อวิน ตลอดทั้งวัน คาดว่าจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) จากการสอบสวนทราบว่า นายสิทธิพงษ์ เพิ่งเลิกงาน ขับรถกลับบ้านด้วยความเร็ว อาจหลับใน ทำให้รถเปลี่ยนเลนข้ามไปชนกับเสาไฟฟ้าอีกฝั่ง ส่วนความเสียหายยังประเมินค่าไม่ได้.-สำนักข่าวไทย

“อนุทิน” ร่วมงานศพพ่อ “อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้า ภท.

ราชบุรี 28 ก.ย.- “อนุทิน” ร่วมสวดอภิธรรมศพพ่อ “สส.อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้าภูมิใจไทย ลั่นได้ส่งจิตขออนุญาตคุณพ่อแล้ว นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตาีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วยนายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายศักดา วิเชียรศิลป์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นายสรอรรถ กลิ่นประทุม อดีต สส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย ได้ร่วมไว้อาลัยและสวดอภิธรรมศพ คุณพ่อวุฒิพงศ์ วงษ์พิทักษ์โรจน์ บิดาของนายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สส.ราชบุรี พรรครวมไทยสร้างชาติ เมื่อค่ำวันที่ 27 ก.ย. ที่จังหวัดราชบุรี โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี หัวหน้าส่วนราชการ และประชาชนกว่า 2,000 ร่วมพิธีโดยเป็นการสวดอภิธรรมเป็นคืนที่ 4 และจะมีพิธีบรรจุศพในวันที่ 30 ก.ย. นี้ ในช่วงท้าย นายอนุทิน ได้กล่าวกับผู้ที่ร่วมสวดอภิธรรมศพ ว่า ตนเองมีความสนิทสนมกับ นายอัครเดช มาหลายปีแล้ว นายอัครเดชเป็นคนมีความวิริยะอุสาหะ ตั้งใจทำงานให้พี่น้องประชาชน ตนมีความชื่นชมและศรัทธา ในความขัยนขันแข็งของท่าน ยิ่งไปกว่านั้นการปฏิบัติหน้าที่ในสภาผู้แทนราษฎร ท่านก็ทำหน้าที่ได้ดีเป็นดาวสภา […]

โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA

กรุงเทพฯ 28 ก.ย. – โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA หลัง “อนุทิน” มอบดาบการทูตสู้กัมพูชา ขณะนายกฯ ย้ำยึดสันติในการแก้ปัญหา เพื่อประโยชน์ของประเทศ ภายหลังจากที่นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวในเวทีการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ หรือ UNGA สมัยสามัญ ครั้งที่ 80 ที่นครนิวยอร์ก ทำให้กระแสโซเชียลในประเทศไทย พึงพอใจกับการทำหน้าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ในรัฐบาลของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี เป็นอย่างมาก ทั้งนี้ การเดินทางไปเวที UNGA ของนายสีหศักดิ์ ครั้งนี้ยึดแนวทางแก้ปัญหาความมั่นคงและการต่างประเทศ ที่นายอนุทิน มอบหมายให้ดำเนินการ โดยใช้มาตรการทางการทหารควบคู่กับการทูต เพื่อรักษาอธิปไตยอย่างสันติ เพื่อผลประโยชน์ของประชาชน โดยเฉพาะในกรณีพิพาทไทย-กัมพูชา ขณะที่นายอนุทิน เชื่อว่า การกล่าวถ้อยแถลงในที่ประชุม UNGA ของนายสีหศักดิ์ ทำให้คนไทยมีความเชื่อมั่นอย่างชัดเจนต่อจุดยืนของรัฐบาล สำหรับนโยบาย 4 เดือน 4 ภารกิจหลัก คืนความมั่นใจให้ประเทศไทย ตามนโยบายรัฐบาลของนายอนุทิน […]

กรมอุตุฯ เตือนฝนถล่มทั่วไทย รับมืออิทธิพลพายุบัวลอย

กทม. 28 ก.ย.- กรมอุตุฯ เตือนทั่วไทยรับมือฝนถล่ม อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง จับตาอิทธิพลพายุไต้ฝุ่น “บัวลอย” คาดเคลื่อนขึ้นฝั่งเวียดนามตอนบน พรุ่งนี้ (29 ก.ย.) กรมอุตุนิยมวิทยาเผยประเทศไทยมีฝนตกหนักหลายพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออก โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดสกลนคร นครพนม อุดรธานี ขอนแก่น กาฬสินธุ์ มุกดาหาร จันทบุรี และตราด ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่าน พื้นที่ลุ่ม และพื้นที่น้ำท่วมขัง เนื่องจากร่องมรสุมกำลังแรงพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังแรง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง พายุไต้ฝุ่น […]

ข่าวแนะนำ

สีสัน! อภิปรายนโยบายรัฐบาลวันแรก

29 ก.ย.- การแถลงนโยบายรัฐบาลวันนี้ เหมือนเป็นการซ้อมศึกซักฟอกย่อย เพราะมีการตอบโต้และตั้งฉายามากมาย ติดตามสีสันการอภิปรายนโยบายฯ วันแรก .-สำนักข่าวไทย

เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดฝนหนักคืนนี้

29 ก.ย.- หลายพื้นที่เฝ้าระวังฝนตกหนัก จากอิทธิพล #พายุบัวลอย เชียงใหม่เปิดประตูระบายน้ำทุกจุด เร่งระบายน้ำปิงลงทะเลสาบดอยเต่า พร่องน้ำในเขื่อนแม่งัดฯ เตรียมรับน้ำฝน คาดตกหนักคืนนี้ ขณะที่ จ.นครราชสีมา น้ำล้นสปิลเวย์ เตือนประชาชนระวังน้ำท่วมฉับพลัน พายุฝนตกกระหน่ำหลายพื้นที่จังหวัดสระแก้ว โดยพื้นที่ ต.บ้านแก้ง อ.เมืองสระแก้ว นายก อบต.บ้านแก้ง พร้อมผู้นำชุมชน และอาสาสมัครกู้ภัย ได้นำเรือเครื่องยนต์ท้องแบน เข้าช่วยเหลือ ตาชู-ยายทองคำ และสุนัข 1 ตัว ออกจากบ้านที่โดนน้ำป่าไหลหลาก เข้าท่วมเกือบมิดหลังคา  มาอยู่ในที่ปลอดภัย ยายทองคำ เล่าว่าเมื่อคืนพักอยู่กับตาและหมา กำลังจะเข้านอนแต่ก็มีฝนตกตลอดทั้งคืน น้ำที่คลองก็ยังไม่เห็นว่าจะขึ้นล้นตลิ่งเท่าไร แต่ก็กังวล จึงเฝ้าดูกระทั่งน้ำไหลมาและเข้าท่วม ตกใจ จึงได้นำสุนัขขึ้นบนบ้าน ส่วนข้าวของก็เก็บไม่ทัน จากนั้นจึงอยู่แต่บนบ้านจนถึงเช้า กู้ภัยมาช่วยนำออกมาจากบ้าน อยู่มาหลายสิบปีไม่เคยเจอแบบนี้มาก่อนเลย  ผู้ว่าฯ เชียงใหม่ เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดตกหนักคืนนี้ เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา หลายพื้นที่เชียงใหม่ เริ่มมีฝนตกลงมาบ้างแล้ว ระดับน้ำในลำน้ำปิงที่ไหลผ่านตัวเมืองเชียงใหม่ ที่จุดวัดพี1 เชิงสะพานนวรัฐ ยังอยู่ที่ 2 เมตร 49 เซนติเมตร ต่ำกว่าจุดวิกฤติแจ้งเตือนที่ […]

แถลงนโยบายวันแรกเดือด ประท้วงกันวุ่น

29 ก.ย.- สภาเดือด! แถลงนโยบายรัฐบาลวันแรก อภิปรายตอบโต้-ประท้วงกันเป็นระยะ เมื่อมีการพาดพิงปมเขากระโดง-ฮั้ว สว. แต่ประธานฯ คุมสถานการณ์ได้ ด้านนายกฯ ไม่กังวลวาทกรรมของฝ่ายค้าน ชี้ประเด็นซ้ำๆ และมีการแถลงข้อเท็จจริงไปแล้ว -สำนักข่าวไทย

ฝ่าดงทุ่นระเบิดเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก “ผลักดัน-รื้อถอน”

29 ก.ย.- ทหารเรือฝ่าดงทุ่นระเบิดเข้าเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก จ.ตราด ผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้าม-รื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง 3 หลัง รุกล้ำเขตอธิปไตยไทย ขณะที่ชาวบ้านหนองจาน จ.สระแก้ว นำอาหารมอบให้ทหารแนวหน้า ยังไม่พบความเคลื่อนไหวผิดปกติ พลเรือเอก จิรพล ว่องวิทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ และพลเรือเอก ไพโรจน์ เฟื่องจันทร์ ว่าที่ ผู้บัญชาการทหารเรือ คนใหม่ มอบหมายพลเรือโทอภิชาติ ทรัพย์ประเสริฐ ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน และผู้บัญชาการกองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรี-ตราด (กกล.กปช.จต.) เข้าเคลียร์พื้นที่ชายแดนบ้านชำราก อันเป็นอธิปไตยของไทย โดยหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินตราด กองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรีตราด จึงได้ผลักดันกองกำลังกัมพูชา ออกจากพื้นที่บริเวณตรงข้ามบ้านหนองรี ตำบลชำราก ไม่มีกำลังฝ่ายกัมพูชาวางกำลังแล้ว ผลจากการปฏิบัติการ บรรลุเป้าหมายสำคัญ คือ สามารถทำลายสิ่งปลูกสร้างทั้ง 3 หลังลงได้อย่างสิ้นเชิง ที่สำคัญที่สุดคือ สามารถผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้ามให้ออกจากพื้นที่รุกล้ำได้อย่างสมบูรณ์ ประชาชนนำอาหารมอบทหารแนวหน้า บ้านหนองจาน จ.สระแก้ว ส่วนที่บ้านหนองจาน จังหวัดสระแก้ว บรรยาศเงียบเหงา แต่ยังคงมีประชาชนเดินทางนำอาหาร เช่น ไข่ไก่ น้ำดื่ม นำมามอบให้กับทหารแนวหน้า ถึงแม้จะไม่คึกคักเหมือนวันก่อนๆ […]