บุกรวบ 2 บิ๊กบอสแก๊งคอลเซ็นเตอร์ชาวจีน

กทม. 6 ม.ค.-ตำรวจนครบาลบุกรวบ 2 บิ๊กบอสแก๊งคอลเซ็นเตอร์ชาวจีน สร้างเพจปลอมเป็นหน่วยงานตำรวจ และ ปปง. หลอกเหยื่อว่าสามารถติดตามทรัพย์สินที่ถูกหลอกคืนได้ ค้นบ้านพบซิมบ็อกซ์โทรศัพท์ และ QR Code ปลอม จำนวนมาก

ตำรวจนครบาลบุกรวบ 2 บิ๊กบอสแก๊งคอลเซ็นเตอร์ชาวจีน ในหมู่บ้านดังย่านเสนานิคม หลังก่อเหตุสร้างเพจปลอมเป็นหน่วยงานตำรวจ และ ปปง. ขึ้นข้อความหลอกเหยื่อว่าสามารถติดตามทรัพย์สินที่ถูกหลอกคืนได้ ก่อนยิงแอดโฆษณาปั่นยอดไลก์ การตรวจค้นพบซิมบ็อกซ์โทรศัพท์ และ QR Code ปลอม จำนวนมาก พร้อมอายัดทรัพย์สินรวมมูลค่ากว่า 15 ล้านบาท โดยเจ้าหน้าที่แถลงรายละเอียด 10.00 น.วันนี้


เมื่อเวลา 06.00 น. ตำรวจสืบนครบาลได้เข้าจับกุม 2 บิ๊กบอสชาวจีนหัวหน้าแก็งคอลเซ็นเตอร์ได้ภายในบ้านแห่งหนึ่งภายในซอยพหลโยธิน 32 แขวงจันทรเกษม เขตจตุจักร พบมีพฤติการณ์ใช้กลโกงโดยการสร้างเพจปลอมเป็นหน่วยงานราชการพร้อมคีย์เวิร์ด “ติดตามทรัพย์สินที่ถูกหลอกคืน” และยิงแอดโฆษณาปั่นยอดไลด์ เพื่อหลอกลวงเหยื่อที่เคยถูกหลอกจากแก๊งคอลเซ็นเตอร์ สามารถยึดทรัพย์กว่า 15 ล้านบาท ได้แก่ รถหรูราคา เงินสด นาฬิกาหรู ซิกา โทรศัพท์ สร้อยคอทองคำ และสินค้าแบรนด์เนมอีกจำนวนมาก

ซึ่งการจับกุมครั้งนี้ พล.ต.ท.สยาม บุญสม ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล พล.ต.ต.วสันต์ เตชะอัครเกษม รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ รักษาราชการรองผู้บัญชาการตำรวจนครบาลและรองหัวหน้าฝ่ายวิเคราะห์ข้อมูล ชุดปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศอปส.ตร.) พร้อมด้วยตำรวจสืบนครบาล ได้ลงมาตรวจสอบการจับกุมด้วยตนเอง


โดย พล.ต.ท.สยาม กล่าวว่า สืบเนื่องจากเมื่อเดือนกรกฎาคม 2567 ได้มีผู้เสียหายรายหนึ่งเข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สน.หัวหมาก ว่าถูกหลอกลวงผ่าน เพจ Facebook อ้างว่าให้ผู้เสียหายที่ถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกลวงมาแจ้งความร้องทุกข์ผ่านลิงก์ในเพจ Facebook ได้ โดยผู้เสียหายถูกหลอกไปมากกว่าล้านกว่าบาท

ต่อมาฝ่ายสืบสวน สน.หัวหมากและสืบนครบาลได้ทำการสืบสวนขยายผลเพิ่มเติม จนสามารถไปสอบปากคำพยานปากสำคัญที่บริเวณชายแดนได้หลายปาก ซึ่งพยานทั้งหมดได้ยืนยันตัวว่า มีตัวการใหญ่คือ 2 ผู้ต้องหาชาวจีนที่สามารถจับกุมได้ในวันนี้

ทางตำรวจจึงสามารถรวบรวมพยานหลักฐานและขออำนาจศาลออกหมายจับชาวจีนทั้ง 2 ราย ได้แก่ นายลีและนายยี ในข้อหาเป็นธุระจัดหา โฆษณา หรือไขข่าวใด ๆ เพื่อมีการซื้อขายให้เช่าหรือยืมบัญชีเงินฝากหรือบัญชีอิเล็กทรอนิกส์เพื่อในการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยีหรือความผิดทางอาญาอื่นใด และเป็นธุระจัดหา โฆษณา หรือไขข่าวใด ๆ เพื่อมีการซื้อขายให้เช่าหรือให้ยืมหมายเลขโทรศัพท์มือถือที่ซึ่งลงทะเบียนผู้ใช้ในนามของบุคคลหนึ่งแต่ไม่สามารถระบุตัวผู้ใช้บริการได้


โดยทั้งสองมีพฤติการณ์เป็นหัวหน้าผู้สั่งการแก๊งคอลเซ็นเตอร์ในพื้นที่ประเทศเพื่อนบ้านฝั่งตะวันออก เชื่อมโยงกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ขนาดใหญ่ที่อยู่ภายในตึก 20 ชั้น โดยจะให้ลูกน้องในเครือข่ายเปิดเพจ Facebook ปลอมอ้างว่าเป็นหน่วยงานราชการในไทย เพื่อให้ผู้เสียหายที่ถูกหลอกลวงมากรอกข้อมูลแจ้งความร้องทุกข์ โดยได้นำรูปนายตำรวจระดับสูงมาแอบอ้างเพื่อเพิ่มความน่าเชื่อถือ แล้วหลังจากนั้น กลุ่มแก๊งคอลเซ็นเตอร์ก็จะโทรหาผู้เสียหายทำทีอ้างว่าจะให้การช่วยเหลือ ก่อนที่จะหลอกเงินผู้เสียหายซ้ำเติมเสมือนเป็นการกระทืบเหยื่อซ้ำ โดยผู้ต้องหาทั้งสองได้ข้ามไปยังประเทศเพื่อนบ้าน เพื่อไปสั่งการงานของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ แล้วจะข้ามกลับมาที่ประเทศไทย โดยจะมากบดานเช่าบ้านภายในซอยพหลโยธิน 32 ซึ่งเปรียบเสมือนเป็น safe house ซึ่งจากข้อมูลพบว่า บ้านหลังดังกล่าวมีราคามูลค่ากว่า 15 ล้านบาท แต่ผู้ต้องหาทั้งสองเช่าอาศัยเดือนละ 100,000 กว่าบาท

จนกระทั่งในวันนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้สามารถเข้าจับกุมผู้ต้องหาทั้ง 2 รายได้ภายในหมู่บ้านหรูแห่งหนึ่งภายในซอยพหลโยธิน 32 แขวงจันทรเกษม เขตจตุจักร สามารถตรวจยึดอายัดของกลางได้เป็นเงินสดทั้งไทยและต่างประเทศมูลค่ากว่า 4 แสนกว่าบาท // สินค้าแบรนด์เนมรวมมูลค่ากว่า 4 ล้านบาท รถยนต์หรูมูลค่า 11 ล้านบาท และโทรศัพท์มือถือ 7 เครื่อง

นอกจากนี้ยังพบว่า ในโทรศัพท์มือถือนั้น มีข้อมูลเป็นรูปภาพ QR Code และรูปภาพเครื่อง SIM box และซิมโทรศัพท์มือถือที่ยังไม่เปิดใช้งานเป็นจำนวนมาก ซึ่งหลังจากนี้ ทางตำรวจจะต้องนำข้อมูลดังกล่าวไปตรวจสอบขยายผลเพิ่มเติมว่า มีความเชื่อมโยงกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์และผู้เสียหายอย่างไร

ทั้งนี้ ผู้ต้องหาทั้งสองยังไม่ให้การใดๆ กับตำรวจ ซึ่งหลังจากนี้ ทางตำรวจจะนำตัวผู้ต้องหาทั้งสองไปดำเนินคดีที่ สน.หัวหมาก อันเป็นท้องที่ที่มีการแจ้งความของผู้เสียหายต่อไป รวมทั้งหลังจากนี้ ทางตำรวจจะขยายผลในเรื่องของการฟอกเงินและตัวการหรือลูกทีมในขบวนการอื่นเพิ่มเติม เพราะพบว่าผู้ต้องหาชาวจีน 2 รายนี้เป็นส่วนหนึ่งของแก๊งขบวนการ Call Center ขนาดใหญ่ที่อยู่ภายในตึก 20 กว่าชั้นในประเทศเพื่อนบ้านฝั่งตะวันออก

พล.ต.ท.สยาม กล่าวเพิ่มเติมว่า ทรัพย์สินที่ทางตำรวจสามารถตรวจยึดอายัดได้หลังจากนี้ จะเข้าสู่กระบวนการเฉลี่ยทรัพย์สินเพื่อเยียวยาคืนแก่ผู้เสียหายตามขั้นตอนทางกฎหมาย และที่สำคัญ ทางผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติได้สั่งการมาแล้วว่า ให้ทุกสถานีตำรวจในท้องที่ไม่ว่าจะเป็นนครบาลหรือภูธร ตรวจสอบชาวต่างชาติที่มาประกอบธุรกิจในประเทศไทยว่ามีส่วนเกี่ยวข้องหรือเชื่อมโยงกับการกระทำความผิดกฎด้านกฎหมายหรือไม่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในส่วนท้องที่นครบาลได้สั่งการให้ทุกสถานีตำรวจขยายผลทุกคดีที่มีการแจ้งความเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยีทั้งหมด

นอกจากนี้ ยังฝากประชาสัมพันธ์ถึงพี่น้องประชาชนว่า หากพบพฤติการณ์ของชาวจีนหรือชาวต่างชาติรายใดที่ใช้ชีวิตหรูอยู่สบายหรือหรือเข้าข่ายว่าจะประกอบธุรกิจผิดกฎหมาย สามารถแจ้งเบาะแสให้กับทางตำรวจได้ทุกท้องที่และเน้นย้ำเตือนพี่น้องประชาชนว่า อย่าหลงเชื่อเพจแจ้งความออนไลน์ที่อ้างว่าจะสามารถช่วยเหลือและคืนเงินให้กับผู้เสียหายได้ โดยเฉพาะหลายเพจที่มักจะนำภาพของผู้บังคับบัญชาระดับสูงมาเพื่อชวนเชื่อ โปรดอย่าหลงเชื่อเด็ดขาด ให้แจ้งความกับทางตำรวจที่สถานีตำรวจหรือช่องทางของตำรวจโดยตรงเท่านั้น อีกทั้งบรรดาผู้กระทำความผิดที่เกี่ยวข้องกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ในพื้นที่ประเทศเพื่อนบ้าน สามารถเข้ามอบตัวและให้ข้อมูลกับทางตำรวจ เพื่อขยายผลกวาดล้างแก๊งค์ Call Center ให้หมดไปจากประเทศไป414.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่มซิ่งกระบะชนเสาไฟฟ้าล้มขวางถนน 12 ต้น

ชลบุรี 28 ก.ย. – หนุ่มซิ่งกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรตลอดทั้งวัน คาดจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) รถกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน ต.บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น เป็นเสาไฟฟ้าแรงสูง 6 ต้น เสาไฟฟ้าสูง 12 เมตร อีก 6 ต้น ระยะทาง 500 เมตร โชคดีนายสิทธิพงษ์ อายุ 41 ปี คนขับ บาดเจ็บเล็กน้อย แต่ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรบนถนนสายบึง-บ่อวิน ตลอดทั้งวัน คาดว่าจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) จากการสอบสวนทราบว่า นายสิทธิพงษ์ เพิ่งเลิกงาน ขับรถกลับบ้านด้วยความเร็ว อาจหลับใน ทำให้รถเปลี่ยนเลนข้ามไปชนกับเสาไฟฟ้าอีกฝั่ง ส่วนความเสียหายยังประเมินค่าไม่ได้.-สำนักข่าวไทย

“อนุทิน” ร่วมงานศพพ่อ “อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้า ภท.

ราชบุรี 28 ก.ย.- “อนุทิน” ร่วมสวดอภิธรรมศพพ่อ “สส.อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้าภูมิใจไทย ลั่นได้ส่งจิตขออนุญาตคุณพ่อแล้ว นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตาีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วยนายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายศักดา วิเชียรศิลป์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นายสรอรรถ กลิ่นประทุม อดีต สส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย ได้ร่วมไว้อาลัยและสวดอภิธรรมศพ คุณพ่อวุฒิพงศ์ วงษ์พิทักษ์โรจน์ บิดาของนายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สส.ราชบุรี พรรครวมไทยสร้างชาติ เมื่อค่ำวันที่ 27 ก.ย. ที่จังหวัดราชบุรี โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี หัวหน้าส่วนราชการ และประชาชนกว่า 2,000 ร่วมพิธีโดยเป็นการสวดอภิธรรมเป็นคืนที่ 4 และจะมีพิธีบรรจุศพในวันที่ 30 ก.ย. นี้ ในช่วงท้าย นายอนุทิน ได้กล่าวกับผู้ที่ร่วมสวดอภิธรรมศพ ว่า ตนเองมีความสนิทสนมกับ นายอัครเดช มาหลายปีแล้ว นายอัครเดชเป็นคนมีความวิริยะอุสาหะ ตั้งใจทำงานให้พี่น้องประชาชน ตนมีความชื่นชมและศรัทธา ในความขัยนขันแข็งของท่าน ยิ่งไปกว่านั้นการปฏิบัติหน้าที่ในสภาผู้แทนราษฎร ท่านก็ทำหน้าที่ได้ดีเป็นดาวสภา […]

โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA

กรุงเทพฯ 28 ก.ย. – โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA หลัง “อนุทิน” มอบดาบการทูตสู้กัมพูชา ขณะนายกฯ ย้ำยึดสันติในการแก้ปัญหา เพื่อประโยชน์ของประเทศ ภายหลังจากที่นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวในเวทีการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ หรือ UNGA สมัยสามัญ ครั้งที่ 80 ที่นครนิวยอร์ก ทำให้กระแสโซเชียลในประเทศไทย พึงพอใจกับการทำหน้าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ในรัฐบาลของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี เป็นอย่างมาก ทั้งนี้ การเดินทางไปเวที UNGA ของนายสีหศักดิ์ ครั้งนี้ยึดแนวทางแก้ปัญหาความมั่นคงและการต่างประเทศ ที่นายอนุทิน มอบหมายให้ดำเนินการ โดยใช้มาตรการทางการทหารควบคู่กับการทูต เพื่อรักษาอธิปไตยอย่างสันติ เพื่อผลประโยชน์ของประชาชน โดยเฉพาะในกรณีพิพาทไทย-กัมพูชา ขณะที่นายอนุทิน เชื่อว่า การกล่าวถ้อยแถลงในที่ประชุม UNGA ของนายสีหศักดิ์ ทำให้คนไทยมีความเชื่อมั่นอย่างชัดเจนต่อจุดยืนของรัฐบาล สำหรับนโยบาย 4 เดือน 4 ภารกิจหลัก คืนความมั่นใจให้ประเทศไทย ตามนโยบายรัฐบาลของนายอนุทิน […]

กรมอุตุฯ เตือนฝนถล่มทั่วไทย รับมืออิทธิพลพายุบัวลอย

กทม. 28 ก.ย.- กรมอุตุฯ เตือนทั่วไทยรับมือฝนถล่ม อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง จับตาอิทธิพลพายุไต้ฝุ่น “บัวลอย” คาดเคลื่อนขึ้นฝั่งเวียดนามตอนบน พรุ่งนี้ (29 ก.ย.) กรมอุตุนิยมวิทยาเผยประเทศไทยมีฝนตกหนักหลายพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออก โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดสกลนคร นครพนม อุดรธานี ขอนแก่น กาฬสินธุ์ มุกดาหาร จันทบุรี และตราด ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่าน พื้นที่ลุ่ม และพื้นที่น้ำท่วมขัง เนื่องจากร่องมรสุมกำลังแรงพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังแรง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง พายุไต้ฝุ่น […]

ข่าวแนะนำ

สีสัน! อภิปรายนโยบายรัฐบาลวันแรก

29 ก.ย.- การแถลงนโยบายรัฐบาลวันนี้ เหมือนเป็นการซ้อมศึกซักฟอกย่อย เพราะมีการตอบโต้และตั้งฉายามากมาย ติดตามสีสันการอภิปรายนโยบายฯ วันแรก .-สำนักข่าวไทย

เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดฝนหนักคืนนี้

29 ก.ย.- หลายพื้นที่เฝ้าระวังฝนตกหนัก จากอิทธิพล #พายุบัวลอย เชียงใหม่เปิดประตูระบายน้ำทุกจุด เร่งระบายน้ำปิงลงทะเลสาบดอยเต่า พร่องน้ำในเขื่อนแม่งัดฯ เตรียมรับน้ำฝน คาดตกหนักคืนนี้ ขณะที่ จ.นครราชสีมา น้ำล้นสปิลเวย์ เตือนประชาชนระวังน้ำท่วมฉับพลัน พายุฝนตกกระหน่ำหลายพื้นที่จังหวัดสระแก้ว โดยพื้นที่ ต.บ้านแก้ง อ.เมืองสระแก้ว นายก อบต.บ้านแก้ง พร้อมผู้นำชุมชน และอาสาสมัครกู้ภัย ได้นำเรือเครื่องยนต์ท้องแบน เข้าช่วยเหลือ ตาชู-ยายทองคำ และสุนัข 1 ตัว ออกจากบ้านที่โดนน้ำป่าไหลหลาก เข้าท่วมเกือบมิดหลังคา  มาอยู่ในที่ปลอดภัย ยายทองคำ เล่าว่าเมื่อคืนพักอยู่กับตาและหมา กำลังจะเข้านอนแต่ก็มีฝนตกตลอดทั้งคืน น้ำที่คลองก็ยังไม่เห็นว่าจะขึ้นล้นตลิ่งเท่าไร แต่ก็กังวล จึงเฝ้าดูกระทั่งน้ำไหลมาและเข้าท่วม ตกใจ จึงได้นำสุนัขขึ้นบนบ้าน ส่วนข้าวของก็เก็บไม่ทัน จากนั้นจึงอยู่แต่บนบ้านจนถึงเช้า กู้ภัยมาช่วยนำออกมาจากบ้าน อยู่มาหลายสิบปีไม่เคยเจอแบบนี้มาก่อนเลย  ผู้ว่าฯ เชียงใหม่ เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดตกหนักคืนนี้ เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา หลายพื้นที่เชียงใหม่ เริ่มมีฝนตกลงมาบ้างแล้ว ระดับน้ำในลำน้ำปิงที่ไหลผ่านตัวเมืองเชียงใหม่ ที่จุดวัดพี1 เชิงสะพานนวรัฐ ยังอยู่ที่ 2 เมตร 49 เซนติเมตร ต่ำกว่าจุดวิกฤติแจ้งเตือนที่ […]

แถลงนโยบายวันแรกเดือด ประท้วงกันวุ่น

29 ก.ย.- สภาเดือด! แถลงนโยบายรัฐบาลวันแรก อภิปรายตอบโต้-ประท้วงกันเป็นระยะ เมื่อมีการพาดพิงปมเขากระโดง-ฮั้ว สว. แต่ประธานฯ คุมสถานการณ์ได้ ด้านนายกฯ ไม่กังวลวาทกรรมของฝ่ายค้าน ชี้ประเด็นซ้ำๆ และมีการแถลงข้อเท็จจริงไปแล้ว -สำนักข่าวไทย

ฝ่าดงทุ่นระเบิดเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก “ผลักดัน-รื้อถอน”

29 ก.ย.- ทหารเรือฝ่าดงทุ่นระเบิดเข้าเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก จ.ตราด ผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้าม-รื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง 3 หลัง รุกล้ำเขตอธิปไตยไทย ขณะที่ชาวบ้านหนองจาน จ.สระแก้ว นำอาหารมอบให้ทหารแนวหน้า ยังไม่พบความเคลื่อนไหวผิดปกติ พลเรือเอก จิรพล ว่องวิทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ และพลเรือเอก ไพโรจน์ เฟื่องจันทร์ ว่าที่ ผู้บัญชาการทหารเรือ คนใหม่ มอบหมายพลเรือโทอภิชาติ ทรัพย์ประเสริฐ ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน และผู้บัญชาการกองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรี-ตราด (กกล.กปช.จต.) เข้าเคลียร์พื้นที่ชายแดนบ้านชำราก อันเป็นอธิปไตยของไทย โดยหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินตราด กองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรีตราด จึงได้ผลักดันกองกำลังกัมพูชา ออกจากพื้นที่บริเวณตรงข้ามบ้านหนองรี ตำบลชำราก ไม่มีกำลังฝ่ายกัมพูชาวางกำลังแล้ว ผลจากการปฏิบัติการ บรรลุเป้าหมายสำคัญ คือ สามารถทำลายสิ่งปลูกสร้างทั้ง 3 หลังลงได้อย่างสิ้นเชิง ที่สำคัญที่สุดคือ สามารถผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้ามให้ออกจากพื้นที่รุกล้ำได้อย่างสมบูรณ์ ประชาชนนำอาหารมอบทหารแนวหน้า บ้านหนองจาน จ.สระแก้ว ส่วนที่บ้านหนองจาน จังหวัดสระแก้ว บรรยาศเงียบเหงา แต่ยังคงมีประชาชนเดินทางนำอาหาร เช่น ไข่ไก่ น้ำดื่ม นำมามอบให้กับทหารแนวหน้า ถึงแม้จะไม่คึกคักเหมือนวันก่อนๆ […]