ตร.ประชุมคดี 7 ตำรวจรุมทำร้ายผิดตัว เร่งทำสำนวนส่ง ป.ป.ช.ใน 30 วัน

สน.บางเขน 9 ธ.ค. – รอง ผบก.น.2 ประชุมคืบหน้า 7 ตำรวจรุมทำร้ายผิดตัว เร่งทำสำนวนส่ง ป.ป.ช.ใน 30 วัน หารือร่วมอัยการพิจารณาความผิดเข้าข่ายตาม พ.ร.บ.อุ้มหายหรือไม่


เมื่อเวลา 09.00 น. ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณีตำรวจกองบังคับการตำรวจจราจรได้ตั้งด่านตรวจบริเวณริมถนนประเสริฐมนูกิจ ได้รุมทำร้ายร่างกายประชาชน หลังเข้าใจผิดว่าแหกด่านจนได้รับบาดเจ็บ เหตุเกิดเมื่อวันที่ 4 ธ.ค. เวลาประมาณ 01.40 น. ว่า ในวันนี้ทางตำรวจที่ทำคดีได้ทยอยเดินทางมาประชุมติดตามความคืบหน้าของคดีที่ 7 ตำรวจ ที่รุมกระทืบผู้เสียหายที่เป็นลูกนายตำรวจ โดยได้ประชุมที่ห้องประชุม ศปก.สน.บางเขน ชั้น 2 มีพ.ต.อ.ธิติพงศ์ ภิวัฒน์วุฒิกุล รองผู้บังคับการตำรวจนครบาล 2 (รอง ผบก.น.2) เป็นประธานการประชุม

พ.ต.อ.ธิติพงศ์ กล่าวภายหลังการประชุมนาน 2 ชั่วโมง ว่า ตั้งแต่รับแจ้งเหตุวันที่ 4 ธ.ค.67 เวลาประมาณ 05.00 น โดยเหตุเกิดตั้งแต่เวลา 01.40 น. พนักงานสอบสวนได้รวบรวมพยานหลักฐานโดยได้สอบสวนปากคำพ่อแม่และน้องสาวของผู้บาดเจ็บประกอบสำนวนเรียบร้อยแล้ว จากนั้นตำรวจฝ่ายสืบสวนได้ทำการไล่กล้องวงจรปิดซึ่งเป็นกล้องของกรุงเทพมหานคร ได้มีการไล่กล้องวงจรปิดตั้งแต่วันแรกในบริเวณจุดที่มีการตั้งด่านตรวจวัดแอลกอฮอล์ ซึ่งได้ภาพเรียบร้อยแล้วว่ามีการตั้งด่านจริง และมีรถได้ขับติดตามไปจริง ส่วนจุดเกิดเหตุตำรวจบางเขนได้ค้นหาแล้วแต่ไม่พบจนกระทั่งวันที่ 5 ธันวาคม 2567 ตำรวจ สน.บางเขน ได้ประสานไปยังน้องสาวและพ่อของผู้บาดเจ็บให้มาชี้จุดเกิดเหตุและหาภาพกล้องวงจรปิดบริเวณจุดเกิดเหตุเป็นหลักฐานประกอบสำนวนคดีของพนักงานสอบสวนเรียบร้อยแล้วเพื่อพิจารณาความผิดของผู้ต้องหา


พ.ต.อ.ธิติพงศ์ กล่าวว่า หลังจากนั้นได้มีการสอบสวน ผู้บาดเจ็บ ได้ให้การสอดคล้องกับกล้องวงจรปิดจากภาพข่าวพฤติกรรมของผู้ต้องหา ได้กระทำความผิดจึงได้เรียกตัว ผู้ต้องหาทั้ง 7 ราย มาแจ้งข้อกล่าวหาเรียบร้อย ในข้อหาปฏิบัติหน้าที่ หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ทำให้ผู้หนึ่งผู้ใดได้รับความเสียหาย และข้อหาร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่นได้รับบาดเจ็บ ทางคณะกรรมการได้มีการประชุมการและมีการปรึกษาผู้บังคับบัญชา รวมถึงพนักงานอัยการว่าพฤติการณ์ของผู้ต้องหาที่กระทำการแบบนี้จะเข้าข่าย ตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการทำร้ายและการกระทำที่ทำให้บุคคลสูญหาย พ.ศ. 2565 หรือ “พ.ร.บ.อุ้มหาย” หรือไม่ เมื่อพิจารณาแล้วเข้าข่าย ในความผิดตามมาตรา 6 เป็นเจ้าพนักงานทำด้วยประการใด ๆ ให้ผู้หนึ่งผู้ใดได้รับความเสียหายหรือบาดเจ็บ หลังจากนี้จะทำหนังสือไปถึงอัยการ เพื่อมาร่วมทำการสอบสวนในประเด็นนี้ หากสอบสวนแล้วปรากฏว่าเป็นความผิด จะเรียกผู้ต้องหามาแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติม

พ.ต.อ.ธิติพงศ์ กล่าวว่า ส่วนผู้ขับขี่รถยนต์ที่แหกด่านแล้วหลบหนีไป เมื่อพิจารณาแล้วมีพฤติการณ์ตั้งแต่ตอนต้นเมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เรียกตรวจสอบเบื้องต้นแล้วสงสัยว่าจะดื่มสุรามาในขณะขับรถจึงได้ตรวจสอบเบื้องต้นพบว่ามีแอลกอฮอล์ในร่างกาย จึงสั่งให้ผู้ขับขี่ ขับรถชิดซ้ายเพื่อทำการตรวจสอบอย่างละเอียดแต่ผู้ขับขี่ไม่ยอมให้ตรวจจึงได้ขับรถหลบหนีและชนด่านก่อนหลบหนีไป พฤติการณ์การกระทำต่าง ๆ ของผู้ขับขี่ พิจารณาแล้วเป็นความผิดในข้อหาเมาสุราในขณะขับรถ, ขัดคำสั่งเจ้าพนักงาน ที่ให้ขับรถชิดซ้ายแต่ไม่ดำเนินการ และข้อหาทำให้เสียทรัพย์ จะเรียกมาแจ้งข้อกล่าวหาในช่วงเย็นวันนี้ ซึ่งคาดว่าผู้ขับขี่จะให้การรับสารภาพ

พ.ต.อ.ธิติพงศ์ กล่าวว่า ส่วนผู้ต้องหาทั้ง 7 ที่ได้กระทำความผิด จะส่งให้ ป.ป.ช.ก่อนเพื่อพิจารณา ว่าทาง ป.ป.ช.จะดำเนินการเองหรือจะคืนกลับมาให้ตำรวจดำเนินการสอบสวนต่อไป ทั้งนี้ในส่วนของตำรวจเมื่อได้รับแจ้งเหตุจะทำการสอบสวนให้เสร็จสิ้น ภายใน 30 วัน และส่งสำนวนให้กับทางป.ป.ช. ส่วนทาง ป.ป.ช.จะดำเนินการเร็วแค่ไหนไม่อาจก้าวล่วงได้


ส่วนมาตรการในการตั้งด่านหลังจากนี้มีนโยบายจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ซึ่งมีนโยบายอยู่แล้วให้ปฏิบัติตามขั้นตอนที่มีหนังสือสั่งการเรียบร้อย หากเกิดความเสียหายจากการปฏิบัติหน้าที่แล้วไม่ปฏิบัติตามคำสั่งก็จะมีความผิดทางวินัยอยู่แล้ว ส่วนความผิดที่เกิดขึ้นหากไปกระทบต่อประชาชน หรือได้รับความเสียหายก็จะต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมายอีกส่วนหนึ่ง

พ.ต.อ.ธิติพงศ์ กล่าวว่า หลังทราบว่าผู้ก่อเหตุเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีหนังสือแจ้งไปยังต้นสังกัด ว่าตำรวจมีพฤติการณ์ อย่างไร เพื่อให้ยืนยันตัวบุคคล ว่าใครเป็นผู้กระทำความผิดบ้าง และขอให้ส่งภาพถ่ายจากวีดีโอที่ติดอยู่ที่เสื้อ ของตำรวจมาประกอบสำนวนคดีด้วย ซึ่งทางกองบังคับการตำรวจจราจรรับทราบแล้ว ทั้งนี้ เบื้องต้นยังไม่ได้มีการส่งมา แต่ได้มีการประสานงานกันแล้วว่าจะมีการนำภาพกล้องมาส่งให้เรียบร้อย

อย่างไรก็ตาม ภาพถ่ายจากกล้องวีดีโอที่ติดอยู่ที่เสื้อของตำรวจเป็นเพียงส่วนประกอบหนึ่งของพยานหลักฐาน แต่ยืนยันว่าพยานหลักฐานกล้องวงจรปิดและคำให้การของผู้เสียหายกับครอบครัวของผู้เสียหายครบถ้วนเพียงพอที่จะแจ้งข้อกล่าวหาดำเนินคดีกับผู้ต้องหาทั้ง 7 นายแล้ว

ผู้สื่อข่าวจึงตั้งข้อสังเกตว่ากล้องตัวนี้อาจจะมีการบันทึกบทสนทนาได้ดีกว่ากล้องวงจรปิดหากยังไม่ได้พยานหลักฐานส่วนนี้ จะทำให้คดีคลาดเคลื่อนหรือไม่ พ.ต.อ.ธิติพงศ์ ยืนยันว่าไม่มีผลใดๆ เพราะทางตำรวจมีพยานหลักฐานด้านอื่นๆ ครบถ้วนแล้ว ทั้งนี้ไม่กังวลว่ากล้องจะมีปัญหาว่าเสีย เพราะกล้องดังกล่าวนั้นมีหรือไม่มีก็ไม่ใช่สาระสำคัญ ส่วนการเยียวยาผู้เสียหายที่ได้รับบาดเจ็บ และเกิดความเสียหายเบื้องต้นจะมีค่ารักษาพยาบาล ทั้งนี้ ได้มีการสอบปากคำผู้ได้รับบาดเจ็บไปแล้ว 2 ครั้งที่โรงพยาบาล หลังจากนี้หากผู้บาดเจ็บออกจากโรงพยาบาลแล้วจะรอสอบปากคำเพิ่มเติ่มอย่างละเอียดอีกครั้ง และจะแจ้งสิทธิให้กับผู้เสียหายที่จะได้รับการเยียวยาจากภาครัฐ ส่วนที่ได้รับบาดเจ็บหากจะมีการเรียกร้องค่าเสียหายก็ขึ้นอยู่กับผู้เสียหายว่าจะมีการเรียกร้องค่าเสียหายกับผู้กระทำความผิดทางแพ่งอย่างไร

อย่างไรก็ตาม ผู้ต้องหา 7 ราย ได้มีการแจ้งข้อกล่าวหาเรียบร้อยแล้วโดยผู้ต้องหาได้ให้การปฏิเสธ โดยจะนำคำให้การอย่างละเอียดส่งมอบเป็นหนังสือภายใน 7 วัน และหลังจากนี้ได้มีการนัดหมายให้ผู้ต้องหาทั้ง 7 ราย ได้เข้ามาพบกับทางพนักงานสอบสวนตามระยะเวลาที่กำหนด เพื่อมาสอบสวนปากคำเพิ่มเติม.-419- สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่มซิ่งกระบะชนเสาไฟฟ้าล้มขวางถนน 12 ต้น

ชลบุรี 28 ก.ย. – หนุ่มซิ่งกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรตลอดทั้งวัน คาดจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) รถกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน ต.บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น เป็นเสาไฟฟ้าแรงสูง 6 ต้น เสาไฟฟ้าสูง 12 เมตร อีก 6 ต้น ระยะทาง 500 เมตร โชคดีนายสิทธิพงษ์ อายุ 41 ปี คนขับ บาดเจ็บเล็กน้อย แต่ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรบนถนนสายบึง-บ่อวิน ตลอดทั้งวัน คาดว่าจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) จากการสอบสวนทราบว่า นายสิทธิพงษ์ เพิ่งเลิกงาน ขับรถกลับบ้านด้วยความเร็ว อาจหลับใน ทำให้รถเปลี่ยนเลนข้ามไปชนกับเสาไฟฟ้าอีกฝั่ง ส่วนความเสียหายยังประเมินค่าไม่ได้.-สำนักข่าวไทย

“อนุทิน” ร่วมงานศพพ่อ “อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้า ภท.

ราชบุรี 28 ก.ย.- “อนุทิน” ร่วมสวดอภิธรรมศพพ่อ “สส.อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้าภูมิใจไทย ลั่นได้ส่งจิตขออนุญาตคุณพ่อแล้ว นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตาีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วยนายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายศักดา วิเชียรศิลป์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นายสรอรรถ กลิ่นประทุม อดีต สส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย ได้ร่วมไว้อาลัยและสวดอภิธรรมศพ คุณพ่อวุฒิพงศ์ วงษ์พิทักษ์โรจน์ บิดาของนายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สส.ราชบุรี พรรครวมไทยสร้างชาติ เมื่อค่ำวันที่ 27 ก.ย. ที่จังหวัดราชบุรี โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี หัวหน้าส่วนราชการ และประชาชนกว่า 2,000 ร่วมพิธีโดยเป็นการสวดอภิธรรมเป็นคืนที่ 4 และจะมีพิธีบรรจุศพในวันที่ 30 ก.ย. นี้ ในช่วงท้าย นายอนุทิน ได้กล่าวกับผู้ที่ร่วมสวดอภิธรรมศพ ว่า ตนเองมีความสนิทสนมกับ นายอัครเดช มาหลายปีแล้ว นายอัครเดชเป็นคนมีความวิริยะอุสาหะ ตั้งใจทำงานให้พี่น้องประชาชน ตนมีความชื่นชมและศรัทธา ในความขัยนขันแข็งของท่าน ยิ่งไปกว่านั้นการปฏิบัติหน้าที่ในสภาผู้แทนราษฎร ท่านก็ทำหน้าที่ได้ดีเป็นดาวสภา […]

โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA

กรุงเทพฯ 28 ก.ย. – โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA หลัง “อนุทิน” มอบดาบการทูตสู้กัมพูชา ขณะนายกฯ ย้ำยึดสันติในการแก้ปัญหา เพื่อประโยชน์ของประเทศ ภายหลังจากที่นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวในเวทีการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ หรือ UNGA สมัยสามัญ ครั้งที่ 80 ที่นครนิวยอร์ก ทำให้กระแสโซเชียลในประเทศไทย พึงพอใจกับการทำหน้าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ในรัฐบาลของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี เป็นอย่างมาก ทั้งนี้ การเดินทางไปเวที UNGA ของนายสีหศักดิ์ ครั้งนี้ยึดแนวทางแก้ปัญหาความมั่นคงและการต่างประเทศ ที่นายอนุทิน มอบหมายให้ดำเนินการ โดยใช้มาตรการทางการทหารควบคู่กับการทูต เพื่อรักษาอธิปไตยอย่างสันติ เพื่อผลประโยชน์ของประชาชน โดยเฉพาะในกรณีพิพาทไทย-กัมพูชา ขณะที่นายอนุทิน เชื่อว่า การกล่าวถ้อยแถลงในที่ประชุม UNGA ของนายสีหศักดิ์ ทำให้คนไทยมีความเชื่อมั่นอย่างชัดเจนต่อจุดยืนของรัฐบาล สำหรับนโยบาย 4 เดือน 4 ภารกิจหลัก คืนความมั่นใจให้ประเทศไทย ตามนโยบายรัฐบาลของนายอนุทิน […]

กรมอุตุฯ เตือนฝนถล่มทั่วไทย รับมืออิทธิพลพายุบัวลอย

กทม. 28 ก.ย.- กรมอุตุฯ เตือนทั่วไทยรับมือฝนถล่ม อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง จับตาอิทธิพลพายุไต้ฝุ่น “บัวลอย” คาดเคลื่อนขึ้นฝั่งเวียดนามตอนบน พรุ่งนี้ (29 ก.ย.) กรมอุตุนิยมวิทยาเผยประเทศไทยมีฝนตกหนักหลายพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออก โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดสกลนคร นครพนม อุดรธานี ขอนแก่น กาฬสินธุ์ มุกดาหาร จันทบุรี และตราด ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่าน พื้นที่ลุ่ม และพื้นที่น้ำท่วมขัง เนื่องจากร่องมรสุมกำลังแรงพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังแรง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง พายุไต้ฝุ่น […]

ข่าวแนะนำ

สีสัน! อภิปรายนโยบายรัฐบาลวันแรก

29 ก.ย.- การแถลงนโยบายรัฐบาลวันนี้ เหมือนเป็นการซ้อมศึกซักฟอกย่อย เพราะมีการตอบโต้และตั้งฉายามากมาย ติดตามสีสันการอภิปรายนโยบายฯ วันแรก .-สำนักข่าวไทย

เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดฝนหนักคืนนี้

29 ก.ย.- หลายพื้นที่เฝ้าระวังฝนตกหนัก จากอิทธิพล #พายุบัวลอย เชียงใหม่เปิดประตูระบายน้ำทุกจุด เร่งระบายน้ำปิงลงทะเลสาบดอยเต่า พร่องน้ำในเขื่อนแม่งัดฯ เตรียมรับน้ำฝน คาดตกหนักคืนนี้ ขณะที่ จ.นครราชสีมา น้ำล้นสปิลเวย์ เตือนประชาชนระวังน้ำท่วมฉับพลัน พายุฝนตกกระหน่ำหลายพื้นที่จังหวัดสระแก้ว โดยพื้นที่ ต.บ้านแก้ง อ.เมืองสระแก้ว นายก อบต.บ้านแก้ง พร้อมผู้นำชุมชน และอาสาสมัครกู้ภัย ได้นำเรือเครื่องยนต์ท้องแบน เข้าช่วยเหลือ ตาชู-ยายทองคำ และสุนัข 1 ตัว ออกจากบ้านที่โดนน้ำป่าไหลหลาก เข้าท่วมเกือบมิดหลังคา  มาอยู่ในที่ปลอดภัย ยายทองคำ เล่าว่าเมื่อคืนพักอยู่กับตาและหมา กำลังจะเข้านอนแต่ก็มีฝนตกตลอดทั้งคืน น้ำที่คลองก็ยังไม่เห็นว่าจะขึ้นล้นตลิ่งเท่าไร แต่ก็กังวล จึงเฝ้าดูกระทั่งน้ำไหลมาและเข้าท่วม ตกใจ จึงได้นำสุนัขขึ้นบนบ้าน ส่วนข้าวของก็เก็บไม่ทัน จากนั้นจึงอยู่แต่บนบ้านจนถึงเช้า กู้ภัยมาช่วยนำออกมาจากบ้าน อยู่มาหลายสิบปีไม่เคยเจอแบบนี้มาก่อนเลย  ผู้ว่าฯ เชียงใหม่ เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดตกหนักคืนนี้ เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา หลายพื้นที่เชียงใหม่ เริ่มมีฝนตกลงมาบ้างแล้ว ระดับน้ำในลำน้ำปิงที่ไหลผ่านตัวเมืองเชียงใหม่ ที่จุดวัดพี1 เชิงสะพานนวรัฐ ยังอยู่ที่ 2 เมตร 49 เซนติเมตร ต่ำกว่าจุดวิกฤติแจ้งเตือนที่ […]

แถลงนโยบายวันแรกเดือด ประท้วงกันวุ่น

29 ก.ย.- สภาเดือด! แถลงนโยบายรัฐบาลวันแรก อภิปรายตอบโต้-ประท้วงกันเป็นระยะ เมื่อมีการพาดพิงปมเขากระโดง-ฮั้ว สว. แต่ประธานฯ คุมสถานการณ์ได้ ด้านนายกฯ ไม่กังวลวาทกรรมของฝ่ายค้าน ชี้ประเด็นซ้ำๆ และมีการแถลงข้อเท็จจริงไปแล้ว -สำนักข่าวไทย

ฝ่าดงทุ่นระเบิดเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก “ผลักดัน-รื้อถอน”

29 ก.ย.- ทหารเรือฝ่าดงทุ่นระเบิดเข้าเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก จ.ตราด ผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้าม-รื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง 3 หลัง รุกล้ำเขตอธิปไตยไทย ขณะที่ชาวบ้านหนองจาน จ.สระแก้ว นำอาหารมอบให้ทหารแนวหน้า ยังไม่พบความเคลื่อนไหวผิดปกติ พลเรือเอก จิรพล ว่องวิทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ และพลเรือเอก ไพโรจน์ เฟื่องจันทร์ ว่าที่ ผู้บัญชาการทหารเรือ คนใหม่ มอบหมายพลเรือโทอภิชาติ ทรัพย์ประเสริฐ ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน และผู้บัญชาการกองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรี-ตราด (กกล.กปช.จต.) เข้าเคลียร์พื้นที่ชายแดนบ้านชำราก อันเป็นอธิปไตยของไทย โดยหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินตราด กองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรีตราด จึงได้ผลักดันกองกำลังกัมพูชา ออกจากพื้นที่บริเวณตรงข้ามบ้านหนองรี ตำบลชำราก ไม่มีกำลังฝ่ายกัมพูชาวางกำลังแล้ว ผลจากการปฏิบัติการ บรรลุเป้าหมายสำคัญ คือ สามารถทำลายสิ่งปลูกสร้างทั้ง 3 หลังลงได้อย่างสิ้นเชิง ที่สำคัญที่สุดคือ สามารถผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้ามให้ออกจากพื้นที่รุกล้ำได้อย่างสมบูรณ์ ประชาชนนำอาหารมอบทหารแนวหน้า บ้านหนองจาน จ.สระแก้ว ส่วนที่บ้านหนองจาน จังหวัดสระแก้ว บรรยาศเงียบเหงา แต่ยังคงมีประชาชนเดินทางนำอาหาร เช่น ไข่ไก่ น้ำดื่ม นำมามอบให้กับทหารแนวหน้า ถึงแม้จะไม่คึกคักเหมือนวันก่อนๆ […]