“บิ๊กโจ๊ก” แถลงปิดคดีหลอกขายพระเครื่องปลอมวัดเขาชีจรรย์

8 ส.ค. – “บิ๊กโจ๊ก” แถลงปิดคดีหลอกขายพระเครื่องปลอมวัดเขาชีจรรย์ ปั่นราคาจากองค์ละ 400 บาท ขายคนจีนด้วยกันราคาพุ่ง 20,000 บาท ยึดทรัพย์กว่า 130 ล้านบาท รวบผู้ต้องหากว่า 20 ราย พร้อมดำเนินคดีเจ้าอาวาสวัด


พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ร่วมกับสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ และสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) แถลงปิดคดีกลุ่มคนจีนเช่าวัดในพื้นที่ จ.ชลบุรี เพื่อหลอกขายพระเครื่องให้กับทัวร์จีนว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมผู้ต้องหาชาวจีนที่ทำหน้าที่ขายพระในวัดได้ทั้งหมดรวม 12 ราย และขยายผลออกหมายจับชาวจีนเพิ่มเติมอีก 6 ราย สามารถจับกุมได้แล้ว 4 ราย หลบหนี 2 ราย โดยดำเนินคดีฐานร่วมกันฉ้อโกงประชาชน

นอกจากนี้ยังได้แจ้งข้อกล่าวหาพระครูวิสุทธิ์ธรรมานุสิฐสมศักดิ์ เจ้าอาวาสวัด ในความผิดฐานเป็นเจ้าพนักงานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ หรือ ม.157 โดยได้ส่งสำนวนคดีไปยัง ป.ป.ช. แล้ว พร้อมจับกุมนางสาวพยอม แม่บ้านของวัด ในความผิดฐานสนับสนุนให้เจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ยังยึดทรัพย์สินของผู้ต้องหาชาวจีนได้รวมกว่า 100 ล้านบาท และทรัพย์สินของเจ้าอาวาสและเครือญาติ รวมมูลค่ากว่า 137 ล้านบาท


ขณะเดียวกันยังตรวจสอบพบว่าหนึ่งในผู้ต้องหาชาวจีนมีการแจ้งความเท็จต่อเจ้าหน้าที่อำเภอ เพื่อให้บุตรได้สัญชาติไทย ได้แจ้งข้อกล่าวหาแจ้งความเท็จเพิ่มเติมอีกหนึ่งข้อหา

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า กลุ่มทุนชาวจีนเข้ามาเช่าวัด พร้อมทั้งตกแต่งวัดให้ดูสวยงาม โดยจ่ายค่าเช่าให้วัด แล้วนำคนไทยเข้ามาขายวัตถุมงคลภายในวัด ถือเป็นการแบ่งผลประโยชน์ร่วมกันจากการจำหน่ายพระเครื่องปลอมที่ไม่ผ่านการปลุกเสก นำมาหลอกขายในมูลค่าสูง และได้รับความนิยมในหมู่ชาวจีน โดยต้นทุนเพียงองค์ละ 400 บาท แต่ให้เช่าในราคาสูงถึงองค์ละ 20,000 บาท ทำให้นักท่องเที่ยวชาวจีนได้รับความเสียหาย ซึ่งพฤติการณ์ดังกล่าวเปรียบได้กับทัวร์ศูนย์เหรียญที่กลับเข้ามามีบทบาทในประเทศไทยอีกครั้ง หลังจากที่ไทยเปิดการท่องเที่ยวในประเทศ

นอกจากนี้ยังพบว่าขบวนการดังกล่าวนำเครื่องรูดบัตรที่สามารถโอนเงินไปยังประเทศจีนได้ทันทีที่มีการซื้อขาย โดยทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติจะบูรณาการกับสำนักงานพระพุทธศาสนาฯ และ ปปง. เพื่อตรวจสอบเส้นทางการเงินของเครือข่ายนี้ โดยเฉพาะเจ้าอาวาสเขาชีจรรย์ และเครือญาติทั้งหมด


ทั้งนี้ ที่ผ่านมาตำรวจและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมกันตรวจสอบวัดที่เข้าข่ายการกระทำความผิดลักษณะดังกล่าวใน จ.ชลบุรี ทั้งหมด 14 แห่ง มี 4 วัดที่พบว่ามีการจำหน่ายวัตถุมงคล แต่เป็นการจำหน่ายโดยทางวัดเอง ไม่เกี่ยวข้องกับนายทุนชาวจีน ส่วนอีก 10 วัด ไม่พบว่ามีการจำหน่ายวัตถุมงคลแต่อย่างใด

ด้าน พ.ต.อ.แดนไพร แก้วเวหล รองผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ระบุว่า เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นตั้งแต่ช่วงเดือนมกราคมถึงพฤษภาคม 66 รวมระยะเวลา 6 เดือน จากการสืบสวนสอบสวนพบว่ากลุ่มผู้ต้องหาเช่าพื้นที่วัดโดยบริษัทของคนจีนที่มีภรรยาเป็นคนไทย และมีการจดทะเบียนตั้งบริษัท โดยแจ้งว่าประกอบกิจการร้านอาหาร แต่กลับมาจำหน่ายวัตถุมงคล พบเงินหมุนเวียนในบัญชีบริษัทดังกว่า 100 ล้านบาท และจ่ายค่าเช่าในราคาเดือนละ 150,000 บาท

นอกจากนี้ยังได้ดำเนินคดีกับเจ้าอาวาสวัดเขาชีจรรย์ ในความผิดตามมาตรา 157 และส่งสำนวนคดีไปให้ ป.ป.ช. แล้ว จากนี้ตำรวจยังจะขยายผลไปยังมารดาและน้องชายของเจ้าอาวาส ที่พบว่ามีทรัพย์สินประมาณ 29 ล้านบาท ขณะที่บัญชีทรัพย์สินของวัดนั้น จากการตรวจสอบพบว่าขณะนี้เหลือเพียง 3 ล้านบาท

ด้านนายอินทพร จันทร์เอี่ยม รักษาการผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาฯ กล่าวว่า ขณะนี้ได้ขยายผลตรวจสอบไปในพื้นที่ จ.ชลบุรี โดยเข้าไปตรวจค้นวัดที่มีการจำหน่ายวัตถุมงคล ซึ่งต้องเป็นไปตามเงื่อนไขของสำนักพุทธฯ ที่สามารถให้ประชาชนเช่าพื้นที่ในวัดได้ โดยวัดมีอำนาจพิจารณาได้เองในเงื่อนไขสัญญาเช่า 3 ปี หากสัญญาเช่าเกินระยะเวลา 3 ปีที่กำหนด ต้องส่งให้สำนักพุทธฯ เป็นผู้พิจารณา และไม่อนุญาตให้ทุนต่างชาติเช่าพื้นที่ นอกเหนือจากวัดใน จ.ชลบุรี แล้ว สำนักพระพุทธศาสนาฯ ยังเตรียมขยายผลตรวจค้นวัดในจังหวัดท่องเที่ยวต่างๆ เช่น จ.ภูเก็ต เนื่องจากเป็นจังหวัดท่องเที่ยวที่มีนักท่องเที่ยวจำนวนมาก

ส่วนพระสงฆ์วัดเขาชีจรรย์ และเจ้าอาวาส จะมีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบ ซึ่งต้องรอกระบวนการทางอาญาตรวจสอบให้เสร็จสิ้นก่อนจึงจะดำเนินการต่อได้

ด้านผู้แทนจาก ปปง. กล่าวว่า ขณะนี้พบความผิด 2 กรณี คือ ฉ้อโกงประชาชน และ ม.157 บุคคลที่เกี่ยวข้องจะต้องถูกตรวจสอบทรัพย์สินว่ามีการรับโอนเงินจากการกระทำความผิดหรือไม่ และการโอนเงินโดยไม่มีเหตุอันควร ซึ่งเกี่ยวข้องกับกฎหมายฟอกเงิน หากพบเส้นทางการเงินเชื่อมโยงไปถึงผู้ใดจะยึดอายัดทรัพย์สินทั้งหมดมาตรวจสอบเพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่มซิ่งกระบะชนเสาไฟฟ้าล้มขวางถนน 12 ต้น

ชลบุรี 28 ก.ย. – หนุ่มซิ่งกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรตลอดทั้งวัน คาดจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) รถกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน ต.บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น เป็นเสาไฟฟ้าแรงสูง 6 ต้น เสาไฟฟ้าสูง 12 เมตร อีก 6 ต้น ระยะทาง 500 เมตร โชคดีนายสิทธิพงษ์ อายุ 41 ปี คนขับ บาดเจ็บเล็กน้อย แต่ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรบนถนนสายบึง-บ่อวิน ตลอดทั้งวัน คาดว่าจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) จากการสอบสวนทราบว่า นายสิทธิพงษ์ เพิ่งเลิกงาน ขับรถกลับบ้านด้วยความเร็ว อาจหลับใน ทำให้รถเปลี่ยนเลนข้ามไปชนกับเสาไฟฟ้าอีกฝั่ง ส่วนความเสียหายยังประเมินค่าไม่ได้.-สำนักข่าวไทย

“อนุทิน” ร่วมงานศพพ่อ “อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้า ภท.

ราชบุรี 28 ก.ย.- “อนุทิน” ร่วมสวดอภิธรรมศพพ่อ “สส.อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้าภูมิใจไทย ลั่นได้ส่งจิตขออนุญาตคุณพ่อแล้ว นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตาีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วยนายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายศักดา วิเชียรศิลป์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นายสรอรรถ กลิ่นประทุม อดีต สส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย ได้ร่วมไว้อาลัยและสวดอภิธรรมศพ คุณพ่อวุฒิพงศ์ วงษ์พิทักษ์โรจน์ บิดาของนายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สส.ราชบุรี พรรครวมไทยสร้างชาติ เมื่อค่ำวันที่ 27 ก.ย. ที่จังหวัดราชบุรี โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี หัวหน้าส่วนราชการ และประชาชนกว่า 2,000 ร่วมพิธีโดยเป็นการสวดอภิธรรมเป็นคืนที่ 4 และจะมีพิธีบรรจุศพในวันที่ 30 ก.ย. นี้ ในช่วงท้าย นายอนุทิน ได้กล่าวกับผู้ที่ร่วมสวดอภิธรรมศพ ว่า ตนเองมีความสนิทสนมกับ นายอัครเดช มาหลายปีแล้ว นายอัครเดชเป็นคนมีความวิริยะอุสาหะ ตั้งใจทำงานให้พี่น้องประชาชน ตนมีความชื่นชมและศรัทธา ในความขัยนขันแข็งของท่าน ยิ่งไปกว่านั้นการปฏิบัติหน้าที่ในสภาผู้แทนราษฎร ท่านก็ทำหน้าที่ได้ดีเป็นดาวสภา […]

โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA

กรุงเทพฯ 28 ก.ย. – โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA หลัง “อนุทิน” มอบดาบการทูตสู้กัมพูชา ขณะนายกฯ ย้ำยึดสันติในการแก้ปัญหา เพื่อประโยชน์ของประเทศ ภายหลังจากที่นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวในเวทีการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ หรือ UNGA สมัยสามัญ ครั้งที่ 80 ที่นครนิวยอร์ก ทำให้กระแสโซเชียลในประเทศไทย พึงพอใจกับการทำหน้าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ในรัฐบาลของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี เป็นอย่างมาก ทั้งนี้ การเดินทางไปเวที UNGA ของนายสีหศักดิ์ ครั้งนี้ยึดแนวทางแก้ปัญหาความมั่นคงและการต่างประเทศ ที่นายอนุทิน มอบหมายให้ดำเนินการ โดยใช้มาตรการทางการทหารควบคู่กับการทูต เพื่อรักษาอธิปไตยอย่างสันติ เพื่อผลประโยชน์ของประชาชน โดยเฉพาะในกรณีพิพาทไทย-กัมพูชา ขณะที่นายอนุทิน เชื่อว่า การกล่าวถ้อยแถลงในที่ประชุม UNGA ของนายสีหศักดิ์ ทำให้คนไทยมีความเชื่อมั่นอย่างชัดเจนต่อจุดยืนของรัฐบาล สำหรับนโยบาย 4 เดือน 4 ภารกิจหลัก คืนความมั่นใจให้ประเทศไทย ตามนโยบายรัฐบาลของนายอนุทิน […]

กรมอุตุฯ เตือนฝนถล่มทั่วไทย รับมืออิทธิพลพายุบัวลอย

กทม. 28 ก.ย.- กรมอุตุฯ เตือนทั่วไทยรับมือฝนถล่ม อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง จับตาอิทธิพลพายุไต้ฝุ่น “บัวลอย” คาดเคลื่อนขึ้นฝั่งเวียดนามตอนบน พรุ่งนี้ (29 ก.ย.) กรมอุตุนิยมวิทยาเผยประเทศไทยมีฝนตกหนักหลายพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออก โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดสกลนคร นครพนม อุดรธานี ขอนแก่น กาฬสินธุ์ มุกดาหาร จันทบุรี และตราด ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่าน พื้นที่ลุ่ม และพื้นที่น้ำท่วมขัง เนื่องจากร่องมรสุมกำลังแรงพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังแรง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง พายุไต้ฝุ่น […]

ข่าวแนะนำ

สีสัน! อภิปรายนโยบายรัฐบาลวันแรก

29 ก.ย.- การแถลงนโยบายรัฐบาลวันนี้ เหมือนเป็นการซ้อมศึกซักฟอกย่อย เพราะมีการตอบโต้และตั้งฉายามากมาย ติดตามสีสันการอภิปรายนโยบายฯ วันแรก .-สำนักข่าวไทย

เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดฝนหนักคืนนี้

29 ก.ย.- หลายพื้นที่เฝ้าระวังฝนตกหนัก จากอิทธิพล #พายุบัวลอย เชียงใหม่เปิดประตูระบายน้ำทุกจุด เร่งระบายน้ำปิงลงทะเลสาบดอยเต่า พร่องน้ำในเขื่อนแม่งัดฯ เตรียมรับน้ำฝน คาดตกหนักคืนนี้ ขณะที่ จ.นครราชสีมา น้ำล้นสปิลเวย์ เตือนประชาชนระวังน้ำท่วมฉับพลัน พายุฝนตกกระหน่ำหลายพื้นที่จังหวัดสระแก้ว โดยพื้นที่ ต.บ้านแก้ง อ.เมืองสระแก้ว นายก อบต.บ้านแก้ง พร้อมผู้นำชุมชน และอาสาสมัครกู้ภัย ได้นำเรือเครื่องยนต์ท้องแบน เข้าช่วยเหลือ ตาชู-ยายทองคำ และสุนัข 1 ตัว ออกจากบ้านที่โดนน้ำป่าไหลหลาก เข้าท่วมเกือบมิดหลังคา  มาอยู่ในที่ปลอดภัย ยายทองคำ เล่าว่าเมื่อคืนพักอยู่กับตาและหมา กำลังจะเข้านอนแต่ก็มีฝนตกตลอดทั้งคืน น้ำที่คลองก็ยังไม่เห็นว่าจะขึ้นล้นตลิ่งเท่าไร แต่ก็กังวล จึงเฝ้าดูกระทั่งน้ำไหลมาและเข้าท่วม ตกใจ จึงได้นำสุนัขขึ้นบนบ้าน ส่วนข้าวของก็เก็บไม่ทัน จากนั้นจึงอยู่แต่บนบ้านจนถึงเช้า กู้ภัยมาช่วยนำออกมาจากบ้าน อยู่มาหลายสิบปีไม่เคยเจอแบบนี้มาก่อนเลย  ผู้ว่าฯ เชียงใหม่ เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดตกหนักคืนนี้ เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา หลายพื้นที่เชียงใหม่ เริ่มมีฝนตกลงมาบ้างแล้ว ระดับน้ำในลำน้ำปิงที่ไหลผ่านตัวเมืองเชียงใหม่ ที่จุดวัดพี1 เชิงสะพานนวรัฐ ยังอยู่ที่ 2 เมตร 49 เซนติเมตร ต่ำกว่าจุดวิกฤติแจ้งเตือนที่ […]

แถลงนโยบายวันแรกเดือด ประท้วงกันวุ่น

29 ก.ย.- สภาเดือด! แถลงนโยบายรัฐบาลวันแรก อภิปรายตอบโต้-ประท้วงกันเป็นระยะ เมื่อมีการพาดพิงปมเขากระโดง-ฮั้ว สว. แต่ประธานฯ คุมสถานการณ์ได้ ด้านนายกฯ ไม่กังวลวาทกรรมของฝ่ายค้าน ชี้ประเด็นซ้ำๆ และมีการแถลงข้อเท็จจริงไปแล้ว -สำนักข่าวไทย

ฝ่าดงทุ่นระเบิดเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก “ผลักดัน-รื้อถอน”

29 ก.ย.- ทหารเรือฝ่าดงทุ่นระเบิดเข้าเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก จ.ตราด ผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้าม-รื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง 3 หลัง รุกล้ำเขตอธิปไตยไทย ขณะที่ชาวบ้านหนองจาน จ.สระแก้ว นำอาหารมอบให้ทหารแนวหน้า ยังไม่พบความเคลื่อนไหวผิดปกติ พลเรือเอก จิรพล ว่องวิทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ และพลเรือเอก ไพโรจน์ เฟื่องจันทร์ ว่าที่ ผู้บัญชาการทหารเรือ คนใหม่ มอบหมายพลเรือโทอภิชาติ ทรัพย์ประเสริฐ ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน และผู้บัญชาการกองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรี-ตราด (กกล.กปช.จต.) เข้าเคลียร์พื้นที่ชายแดนบ้านชำราก อันเป็นอธิปไตยของไทย โดยหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินตราด กองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรีตราด จึงได้ผลักดันกองกำลังกัมพูชา ออกจากพื้นที่บริเวณตรงข้ามบ้านหนองรี ตำบลชำราก ไม่มีกำลังฝ่ายกัมพูชาวางกำลังแล้ว ผลจากการปฏิบัติการ บรรลุเป้าหมายสำคัญ คือ สามารถทำลายสิ่งปลูกสร้างทั้ง 3 หลังลงได้อย่างสิ้นเชิง ที่สำคัญที่สุดคือ สามารถผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้ามให้ออกจากพื้นที่รุกล้ำได้อย่างสมบูรณ์ ประชาชนนำอาหารมอบทหารแนวหน้า บ้านหนองจาน จ.สระแก้ว ส่วนที่บ้านหนองจาน จังหวัดสระแก้ว บรรยาศเงียบเหงา แต่ยังคงมีประชาชนเดินทางนำอาหาร เช่น ไข่ไก่ น้ำดื่ม นำมามอบให้กับทหารแนวหน้า ถึงแม้จะไม่คึกคักเหมือนวันก่อนๆ […]