ช่วยเด็กหญิง 5 ขวบ ถูกแม่ทำร้ายร่างกายบาดเจ็บ

กรุงเทพฯ 22 ก.ค. – “เอกภพ” พร้อมตำรวจ สน.คันนายาว และเจ้าหน้าที่ พม. ให้ความช่วยเหลือเด็กหญิงวัย 5 ขวบ ถูกแม่ทำร้ายร่างกายบาดเจ็บบริเวณใบหน้า ลำตัว และหูด้านซ้ายฉีกขาด


นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด นำทีมพร้อมกับตำรวจ สน.คันนายาว และเจ้าหน้าที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ หรือ พม. เข้าให้ความช่วยเหลือน้องนูรีน เด็กหญิงวัย 5 ขวบ ในซอยพระยาสุเรนทร์ 30 แยก 9 เขตคันนายาว หลังเมื่อวานนี้ (21 ก.ค.) ช่วงค่ำ ทางทีมได้รับแจ้งจากพลเมืองดีและคุณยายว่าน้องถูก น.ส.ส้ม อายุ 24 ปี ผู้เป็นแม่ ทำร้ายร่างกายได้รับบาดเจ็บบริเวณใบหน้า ลำตัว และหูด้านซ้ายฉีกขาด

ทันทีที่ทีมข่าวลงพื้นที่พบว่าน้องได้มาพักอาศัยชั่วอยู่กับยายและพลเมืองดีในท้องที่ สน.คันนายาว สภาพมีบาดแผลฟกช้ำทั่วร่างกาย และมีอาการเหม่อลอย จากนั้นเจ้าหน้าที่ พม. และทีมสายไหมต้องรอด ได้เข้าไปพูดคุยกับเด็กและยาย ก่อนจะพานำส่งโรงพยาบาลเพื่อตรวจร่างกาย


นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ระบุว่า ทันทีที่ได้รับแจ้งจึงรีบประสานตำรวจและเจ้าหน้าที่ พม. ให้เข้าช่วยเหลือ เบื้องต้นได้รับแจ้งว่าเด็กถูกแม่แท้ๆ ทุบตีและทำร้ายร่างกายเป็นประจำ จนมีบาดแผลฟกช้ำตามร่างกาย หนักสุดคือน้องถูกแม่ปาโทรศัพท์ใส่ศีรษะจนปูดบวม และบิดหูข้างซ้ายจนมีบาดแผลฉีกขาด

นอกจากนี้ตัวแม่เด็กมีพฤติกรรมเสพยาเสพติด สาเหตุที่ทำร้ายร่างกายลูกเกิดจากการเมายา อีกทั้งตัวน้องไม่ได้เรียนหนังสือ เนื่องจากถูกเลี้ยงดูแบบปล่อยปละละเลย ตนจึงประสานให้เจ้าหน้าที่ พม. มานำตัวเด็กไปดูแลสงเคราะห์ตามกฎหมาย และอยากให้ตำรวจนำตัวแม่เด็กไปดำเนินคดี เนื่องจากทราบว่าตัวแม่เด็กมีลูกเล็กวัย 8 เดือนอีกคนหนึ่ง ซึ่งตนกังวลเรื่องความปลอดภัย อยากให้อยู่ในการสงเคราะห์ของทาง พม.

อีกทั้งอยากให้ตำรวจ สน.บางชัน ซึ่งเป็นท้องที่ที่แม่เด็กพักอาศัยและทำร้ายร่างกายลูก นำตัวแม่เด็กไปตรวจสารเสพติด และตรวจสอบว่าแม่เด็กได้ยาเสพติดมาจากใคร รวมทั้งฝากกวาดล้างยาเสพติดในพื้นที่ด้วย


ด้านคุณนภัสวรรณ แย้มเมือง เจ้าหน้าที่ พม. ระบุว่า จากการพูดคุยกับ น้องนูรีนก็พูดอย่างชัดเจนว่าถูกแม่ทำร้าย หลังจากนี้ต้องพูดคุยกับเด็กเพื่อหาสาเหตุและรายละเอียดของการทำร้ายร่างกาย เบื้องต้นทาง พม. จะรับตัวน้องนูรีนไปอยู่ภายใต้การคุ้มครองดูแลที่บ้านเด็กและครอบครัวกรุงเทพมหานคร พร้อมทั้งจะพาไปตรวจร่างกายและสภาพจิตใจ รวมถึงประเมินการให้ความช่วยเหลือสงเคราะห์ด้านการศึกษาและที่พักอาศัย นอกจากนี้ต้องประเมินเด็ก 8 เดือน ซึ่งเป็นลูกของผู้ก่อเหตุอีกคนว่าสมควรจะอยู่ในการคุ้มครองของทาง พม. หรือไม่

ทีมข่าวยังได้พูดคุยกับ น.ส.ลัดดา อายุ 42 ปี พลเมืองดีในชุมชน ผู้แจ้งเหตุแม่วัย 24 ปี ทุบตีเด็กหญิง 5 ขวบ ว่าน้องนูรีนถูกทำร้ายร่างกายจากแม่แท้ๆ เป็นประจำ ก่อนหน้านี้เวลาเจอกันน้องจะบอกประจำว่าถูกแม่ทำร้ายร่างกาย ทั้งทุบตี หัวโขกบ้าง ซึ่งตนสังเกตเห็นว่าทุกครั้งที่เจอกัน น้องจะมีรอยช้ำเขียวตามตัว ศีรษะบวม บางครั้งเห็นรอยเล็บใต้ตา

กระทั่งเมื่อวานนี้ (21 ก.ค.) ลูกชายมาบอกตนว่าเห็นน้องนูรีนถูกทำร้ายร่างกาย อยู่ในสภาพรอยช้ำตามตัว ศีรษะแตก เมื่อตนได้พูดคุยกับยายของเด็ก ทางยายขอให้ช่วยเหลือ แต่ตนทำอะไรไม่ได้ เลยประสานกับทีมสายไหมต้องรอดให้มาช่วยเหลือ

จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตนรู้สึกตกใจ คิดว่าทำไมแม่เด็กชอบทำร้ายร่างกายลูกในไส้ของตนเอง บางครั้งถึงขั้นตบศีรษะ เอาศีรษะโขกกำแพงก็มี ที่ผ่านมาตนยอมรับว่าไม่เคยคุยกับแม่เด็ก เพราะเขาเป็นคนที่ไม่รับฟังใคร ไม่ยอมรับความจริง ตนจึงไม่อยากเข้าไปยุ่งเกี่ยวมากนัก ส่วนสาเหตุที่ทำร้ายร่างกาย ตนไม่ทราบแน่ชัด แต่จากที่คุยกับน้อง น้องบอกว่ามักถูกทุบตีเวลาน้องเล่นกันเสียงดัง จนแม่เด็กไม่พอใจ เพราะแม่เด็กเองติดนิสัยการนอน ไม่ชอบเสียงรบกวน

การกระทำในครั้งนี้ทำให้ตนรู้สึกกังวล เนื่องจากนางสาวส้มเองก็มีลูกเล็กวัย 8 เดือน อีก 1 คน ซึ่งเด็กคนนี้มีอาการโรคปอด เพราะถูกเลี้ยงดูอย่างปล่อยปละละเลย ไม่สนใจลูก ปล่อยให้ร้องตลอดเวลา อีกทั้งน้องนูรีนเอง ตนรู้สึกสงสาร เพราะไม่ได้รับการเลี้ยงดูที่ดี ไม่ได้ส่งเสียเรียนหนังสือ ตัวพ่อแม่เองก็แยกกันอยู่ แม่เด็กไม่ประกอบอาชีพใดๆ มีแต่พ่อเด็กที่ทำงานที่เชียงใหม่ส่งเงินมาให้ ตนรู้สึกสงสารเด็กคนนี้มาก เคยจะช่วยพาเข้าเรียน แต่ไม่ใช่ผู้ปกครองตามกฎหมายจึงไม่มีสิทธิ

ส่วนเรื่องยาเสพติด ตนไม่มั่นใจว่าแม่เด็กมีส่วนเกี่ยวข้องหรือไม่ แต่อยากให้เจ้าหน้าที่ช่วยตรวจสอบ พร้อมฝากถึงแม่เด็กว่าคุณไม่สงสารลูกตัวเองหรือ อุตส่าห์คลอดเขาออกมาแต่ไม่ดูแลให้ดีเท่าที่ควร ทำร้ายร่างกายเด็กทำไม กลัวว่าเด็กโตไปจะเป็นเด็กเก็บกดจากการถูกทำร้ายร่างกายได้ อยากให้เขาอยู่ในความดูแลของ พม. และมีอนาคตที่ดีกว่านี้

ต่อมาทางทีมสายไหมต้องรอด พร้อมตำรวจ สน.คันนายาว และเจ้าหน้าที่ พม. พาทีมข่าวไปตรวจห้องเช่าห้องหนึ่งที่เกิดเหตุ ห่างจากบ้านของพลเมืองดีที่น้องหลบหนีมาอยู่ด้วยประมาณ 600 เมตร ในท้องที่ สน.บางชัน โดยทันทีที่เจ้าหน้าที่เข้าไปถึงได้เชิญตัว น.ส.ส้ม แม่ของเด็ก วัย 24 ปี ออกมาพูดคุย ก่อนจะพบผ้าอ้อมเปื้อนเลือด ซึ่งคาดว่าเป็นเลือดของน้องนูรีน พร้อมกับอุปกรณ์ทำแผล

หลังจากนั้นยายของเด็กได้นำตัว น.ส.ส้ม ไปพูดคุยกันภายในบ้าน จากการสังเกตของทีมข่าวเห็นว่าบรรยากาศการพูดคุยของทั้งสองต่างคนต่างร้องไห้ ก่อนทางแม่เด็กพร้อมยาย จะเดินออกมาจากบ้านเพื่อชี้แจงผ่านสื่อมวลชน

น.ส.ส้ม ยอมรับผิดในสิ่งที่ทำลงไป สารภาพว่าก่อนเกิดเหตุเสพยาก่อนจะลงมือทำร้ายร่างกายลูก ประกอบกับตนเกิดอารมณ์โมโหจากการที่น้องนูรีนไม่ช่วยดูแลน้องวัย 8 เดือน ที่กำลังร้อง แต่น้องนูรีนกลับหยิบโทรศัพท์มาเล่น ตนเลยคว้าโทรศัพท์มาเขวี้ยงใส่น้องนูรีนและทุบตี ส่วนบาดแผลที่หูนั้นตนไม่ทราบว่าไปโดนอะไรมา แต่ยืนยันว่าตนไม่ได้เป็นคนทำ

น.ส.ส้ม ยังรับอีกว่า ก่อนหน้านี้ตนตีลูกหลายครั้ง แต่ทำไปเพราะอารมณ์โมโหและฤทธิ์ยาเสพติด หลังจากนี้ตนสัญญาว่าจะไม่ยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด แล้วจะยินยอมเข้าสู่กระบวนการบำบัด รวมทั้งกล่าวขอโทษต่อสังคม ตนรู้สึกสำนึกผิดหลังจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งเมื่อคืนนี้หลังจากลูกออกจากบ้าน ตนยังติดต่อกับยายเด็กว่าขอเอาลูกกลับมา ตนรู้สึกผิดไปแล้ว น.ส.ส้ม ยังขอโอกาสดูแลลูกหลังจากนี้ แต่ทางแม่ของ น.ส.ส้ม ปฏิเสธ อ้างว่า น.ส.ส้ม ทุบตีลูกหลายครั้งตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา

จากนั้นตำรวจ สน.คันนายาว นำตัวแม่เด็ก พร้อมยาย ไปส่งให้พนักงานสอบสวน สน.บางชัน ท้องที่เกิดเหตุ เพื่อรอการเข้าแจ้งความจากเจ้าหน้าที่ พม. และสอบปากคำต่อไป.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่มซิ่งกระบะชนเสาไฟฟ้าล้มขวางถนน 12 ต้น

ชลบุรี 28 ก.ย. – หนุ่มซิ่งกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรตลอดทั้งวัน คาดจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) รถกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน ต.บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น เป็นเสาไฟฟ้าแรงสูง 6 ต้น เสาไฟฟ้าสูง 12 เมตร อีก 6 ต้น ระยะทาง 500 เมตร โชคดีนายสิทธิพงษ์ อายุ 41 ปี คนขับ บาดเจ็บเล็กน้อย แต่ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรบนถนนสายบึง-บ่อวิน ตลอดทั้งวัน คาดว่าจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) จากการสอบสวนทราบว่า นายสิทธิพงษ์ เพิ่งเลิกงาน ขับรถกลับบ้านด้วยความเร็ว อาจหลับใน ทำให้รถเปลี่ยนเลนข้ามไปชนกับเสาไฟฟ้าอีกฝั่ง ส่วนความเสียหายยังประเมินค่าไม่ได้.-สำนักข่าวไทย

“อนุทิน” ร่วมงานศพพ่อ “อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้า ภท.

ราชบุรี 28 ก.ย.- “อนุทิน” ร่วมสวดอภิธรรมศพพ่อ “สส.อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้าภูมิใจไทย ลั่นได้ส่งจิตขออนุญาตคุณพ่อแล้ว นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตาีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วยนายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายศักดา วิเชียรศิลป์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นายสรอรรถ กลิ่นประทุม อดีต สส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย ได้ร่วมไว้อาลัยและสวดอภิธรรมศพ คุณพ่อวุฒิพงศ์ วงษ์พิทักษ์โรจน์ บิดาของนายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สส.ราชบุรี พรรครวมไทยสร้างชาติ เมื่อค่ำวันที่ 27 ก.ย. ที่จังหวัดราชบุรี โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี หัวหน้าส่วนราชการ และประชาชนกว่า 2,000 ร่วมพิธีโดยเป็นการสวดอภิธรรมเป็นคืนที่ 4 และจะมีพิธีบรรจุศพในวันที่ 30 ก.ย. นี้ ในช่วงท้าย นายอนุทิน ได้กล่าวกับผู้ที่ร่วมสวดอภิธรรมศพ ว่า ตนเองมีความสนิทสนมกับ นายอัครเดช มาหลายปีแล้ว นายอัครเดชเป็นคนมีความวิริยะอุสาหะ ตั้งใจทำงานให้พี่น้องประชาชน ตนมีความชื่นชมและศรัทธา ในความขัยนขันแข็งของท่าน ยิ่งไปกว่านั้นการปฏิบัติหน้าที่ในสภาผู้แทนราษฎร ท่านก็ทำหน้าที่ได้ดีเป็นดาวสภา […]

โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA

กรุงเทพฯ 28 ก.ย. – โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA หลัง “อนุทิน” มอบดาบการทูตสู้กัมพูชา ขณะนายกฯ ย้ำยึดสันติในการแก้ปัญหา เพื่อประโยชน์ของประเทศ ภายหลังจากที่นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวในเวทีการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ หรือ UNGA สมัยสามัญ ครั้งที่ 80 ที่นครนิวยอร์ก ทำให้กระแสโซเชียลในประเทศไทย พึงพอใจกับการทำหน้าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ในรัฐบาลของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี เป็นอย่างมาก ทั้งนี้ การเดินทางไปเวที UNGA ของนายสีหศักดิ์ ครั้งนี้ยึดแนวทางแก้ปัญหาความมั่นคงและการต่างประเทศ ที่นายอนุทิน มอบหมายให้ดำเนินการ โดยใช้มาตรการทางการทหารควบคู่กับการทูต เพื่อรักษาอธิปไตยอย่างสันติ เพื่อผลประโยชน์ของประชาชน โดยเฉพาะในกรณีพิพาทไทย-กัมพูชา ขณะที่นายอนุทิน เชื่อว่า การกล่าวถ้อยแถลงในที่ประชุม UNGA ของนายสีหศักดิ์ ทำให้คนไทยมีความเชื่อมั่นอย่างชัดเจนต่อจุดยืนของรัฐบาล สำหรับนโยบาย 4 เดือน 4 ภารกิจหลัก คืนความมั่นใจให้ประเทศไทย ตามนโยบายรัฐบาลของนายอนุทิน […]

กรมอุตุฯ เตือนฝนถล่มทั่วไทย รับมืออิทธิพลพายุบัวลอย

กทม. 28 ก.ย.- กรมอุตุฯ เตือนทั่วไทยรับมือฝนถล่ม อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง จับตาอิทธิพลพายุไต้ฝุ่น “บัวลอย” คาดเคลื่อนขึ้นฝั่งเวียดนามตอนบน พรุ่งนี้ (29 ก.ย.) กรมอุตุนิยมวิทยาเผยประเทศไทยมีฝนตกหนักหลายพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออก โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดสกลนคร นครพนม อุดรธานี ขอนแก่น กาฬสินธุ์ มุกดาหาร จันทบุรี และตราด ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่าน พื้นที่ลุ่ม และพื้นที่น้ำท่วมขัง เนื่องจากร่องมรสุมกำลังแรงพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังแรง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง พายุไต้ฝุ่น […]

ข่าวแนะนำ

สีสัน! อภิปรายนโยบายรัฐบาลวันแรก

29 ก.ย.- การแถลงนโยบายรัฐบาลวันนี้ เหมือนเป็นการซ้อมศึกซักฟอกย่อย เพราะมีการตอบโต้และตั้งฉายามากมาย ติดตามสีสันการอภิปรายนโยบายฯ วันแรก .-สำนักข่าวไทย

เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดฝนหนักคืนนี้

29 ก.ย.- หลายพื้นที่เฝ้าระวังฝนตกหนัก จากอิทธิพล #พายุบัวลอย เชียงใหม่เปิดประตูระบายน้ำทุกจุด เร่งระบายน้ำปิงลงทะเลสาบดอยเต่า พร่องน้ำในเขื่อนแม่งัดฯ เตรียมรับน้ำฝน คาดตกหนักคืนนี้ ขณะที่ จ.นครราชสีมา น้ำล้นสปิลเวย์ เตือนประชาชนระวังน้ำท่วมฉับพลัน พายุฝนตกกระหน่ำหลายพื้นที่จังหวัดสระแก้ว โดยพื้นที่ ต.บ้านแก้ง อ.เมืองสระแก้ว นายก อบต.บ้านแก้ง พร้อมผู้นำชุมชน และอาสาสมัครกู้ภัย ได้นำเรือเครื่องยนต์ท้องแบน เข้าช่วยเหลือ ตาชู-ยายทองคำ และสุนัข 1 ตัว ออกจากบ้านที่โดนน้ำป่าไหลหลาก เข้าท่วมเกือบมิดหลังคา  มาอยู่ในที่ปลอดภัย ยายทองคำ เล่าว่าเมื่อคืนพักอยู่กับตาและหมา กำลังจะเข้านอนแต่ก็มีฝนตกตลอดทั้งคืน น้ำที่คลองก็ยังไม่เห็นว่าจะขึ้นล้นตลิ่งเท่าไร แต่ก็กังวล จึงเฝ้าดูกระทั่งน้ำไหลมาและเข้าท่วม ตกใจ จึงได้นำสุนัขขึ้นบนบ้าน ส่วนข้าวของก็เก็บไม่ทัน จากนั้นจึงอยู่แต่บนบ้านจนถึงเช้า กู้ภัยมาช่วยนำออกมาจากบ้าน อยู่มาหลายสิบปีไม่เคยเจอแบบนี้มาก่อนเลย  ผู้ว่าฯ เชียงใหม่ เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดตกหนักคืนนี้ เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา หลายพื้นที่เชียงใหม่ เริ่มมีฝนตกลงมาบ้างแล้ว ระดับน้ำในลำน้ำปิงที่ไหลผ่านตัวเมืองเชียงใหม่ ที่จุดวัดพี1 เชิงสะพานนวรัฐ ยังอยู่ที่ 2 เมตร 49 เซนติเมตร ต่ำกว่าจุดวิกฤติแจ้งเตือนที่ […]

แถลงนโยบายวันแรกเดือด ประท้วงกันวุ่น

29 ก.ย.- สภาเดือด! แถลงนโยบายรัฐบาลวันแรก อภิปรายตอบโต้-ประท้วงกันเป็นระยะ เมื่อมีการพาดพิงปมเขากระโดง-ฮั้ว สว. แต่ประธานฯ คุมสถานการณ์ได้ ด้านนายกฯ ไม่กังวลวาทกรรมของฝ่ายค้าน ชี้ประเด็นซ้ำๆ และมีการแถลงข้อเท็จจริงไปแล้ว -สำนักข่าวไทย

ฝ่าดงทุ่นระเบิดเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก “ผลักดัน-รื้อถอน”

29 ก.ย.- ทหารเรือฝ่าดงทุ่นระเบิดเข้าเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก จ.ตราด ผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้าม-รื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง 3 หลัง รุกล้ำเขตอธิปไตยไทย ขณะที่ชาวบ้านหนองจาน จ.สระแก้ว นำอาหารมอบให้ทหารแนวหน้า ยังไม่พบความเคลื่อนไหวผิดปกติ พลเรือเอก จิรพล ว่องวิทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ และพลเรือเอก ไพโรจน์ เฟื่องจันทร์ ว่าที่ ผู้บัญชาการทหารเรือ คนใหม่ มอบหมายพลเรือโทอภิชาติ ทรัพย์ประเสริฐ ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน และผู้บัญชาการกองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรี-ตราด (กกล.กปช.จต.) เข้าเคลียร์พื้นที่ชายแดนบ้านชำราก อันเป็นอธิปไตยของไทย โดยหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินตราด กองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรีตราด จึงได้ผลักดันกองกำลังกัมพูชา ออกจากพื้นที่บริเวณตรงข้ามบ้านหนองรี ตำบลชำราก ไม่มีกำลังฝ่ายกัมพูชาวางกำลังแล้ว ผลจากการปฏิบัติการ บรรลุเป้าหมายสำคัญ คือ สามารถทำลายสิ่งปลูกสร้างทั้ง 3 หลังลงได้อย่างสิ้นเชิง ที่สำคัญที่สุดคือ สามารถผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้ามให้ออกจากพื้นที่รุกล้ำได้อย่างสมบูรณ์ ประชาชนนำอาหารมอบทหารแนวหน้า บ้านหนองจาน จ.สระแก้ว ส่วนที่บ้านหนองจาน จังหวัดสระแก้ว บรรยาศเงียบเหงา แต่ยังคงมีประชาชนเดินทางนำอาหาร เช่น ไข่ไก่ น้ำดื่ม นำมามอบให้กับทหารแนวหน้า ถึงแม้จะไม่คึกคักเหมือนวันก่อนๆ […]