ทลายเครือข่ายแก๊งมังกรเจียงซี ตระเวนตุ๋นขาย “ทองเก๊”

กทม. 25 เม.ย.- สืบนครบาลทลายเครือข่ายแก๊ง “มังกรเจียงซี” รวบ 6 มิจฉาชีพชาวจีน ศิษย์เก่าแก๊งคอลเซ็นเตอร์ตระเวนตุ๋นขาย “ทองเก๊” เสียหายกว่า 10 ล้านบาท


พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. นำกำลังชุดสืบนครบาล ทลายเครือข่ายแก๊ง “มังกรเจียงซี” รวบตัวมิจฉาชีพชาวจีน 6 ราย ตรวจยึดของกลาง “ทองเก๊” ได้เกือบ 200 ก้อน น้ำหนักรวมประมาณ 30 กิโลกรัม หลังตระเวนเดินสายหลอกขายคนไทยเชื้อสายจีนย่านเยาวราช มีผู้เสียหายหลายรายรวมมูลค่าความเสียหายกว่า 10 ล้านบาท โดย พล.ต.ต.ธีรเดช เปิดเผยถึงแผนประทุษกรรมสุดแสบของมิจฉาชีพกลุ่มนี้ว่าใช้วิธีการหาเหยื่อจากลายแทง “สมุดรายชื่อคนไทยเชื้อสายจีน” คัดรายชื่อเฉพาะบุคคลที่มีฐานะดีที่อยู่ในประเทศไทย จากนั้นใช้วิธีโทรติดต่อเหยื่อแบบแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่ตั้งฐานอยู่ประเทศอินโดนีเซีย ซึ่งเป็นอาชีพเก่าของคนร้าย เมื่อคนร้ายเลือกเหยื่อได้แล้วก็จะใช้การต้มตุ๋นที่วางแผนมาอย่างแยบยลด้วยการ “นำทองจริงฝังไว้กลางทองปลอม แล้วผ่าให้ตรวจพิสูจน์ว่าเป็นทองจริง” โดยอ้างว่าได้รับสัมปทานการขุดทองมาจากจังหวัดพระนครศรีอยุธยา

พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. ได้สั่งการให้ พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. ควบคุมการสืบสวนโดยเร็ว เนื่องจากกลุ่มมิจฉาชีพชาวจีนได้เข้ามาสร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชน ทำลายบรรยากาศการท่องเที่ยวของประเทศไทย และให้กวาดล้างอย่างเด็ดขาด


เมื่อวันที่ 24 เมษายน 2566 พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. สั่งการให้ พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. / ชหน.PCT ชุดที่ 5, พ.ต.อ.วรพจน์ รุ่งกระจ่าง รอง ผบก.สส.บช.น. พ.ต.อ.จักราวุธ คล้ายนิล ผกก.วิเคราะห์ข่าวฯ บก.สส.บช.น., พ.ต.อ.ณรงค์ฤทธิ์ ทองแพ, พ.ต.อ.สามารถ พันธุ์ล้วน พ.ต.อ.พัชรดนัย การินทร์ ผกก.(สอบสวน) บก.สส.บช.น., พ.ต.ท.มาโนชย์ ทองแก้ว สว.กก.2 บก.สส.บช.น., พ.ต.ต.วรุตม์ คำหล้า สว.กก.3 บก.สส.บช.น., พ.ต.ต.ธัญพีรสิษฐ์ จุลพิภพ สว.ฯ, ร.ต.อ.วรภัทร แสงเทียนประไพร รอง สว.ฯ, ร.ต.อ.พลวัต นาคถมยา รอง สว.ฯ, ร.ต.อ.หญิง ธิดารัตน์ ผดุงประเสริฐ รอง สว.ฯ ร่วมกับเจ้าหน้าที่ บก.สส.บช.น. สืบสวนติดตามจับกุมตัว

  1. Mr.Zhong Xiaocong อายุ 44 ปี ชาวจีน ผู้ต้องหาที่ 1
  2. Mr.Li Xiaoyuan อายุ 45 ปี ชาวจีน ผู้ต้องหาที่ 2
  3. Mr.Zeng NanJing อายุ 54 ปี ชาวจีน ผู้ต้องหาที่ 3
  4. Mr.Yang Cuiyuan อายุ 51 ปี ชาวจีน ผู้ต้องหาที่ 4
  5. Mr.Zhu Zhihua อายุ 48 ปี ชาวจีน ผู้ต้องหาที่ 5
  6. Mr.Guo Xianyu อายุ 49 ปี ชาวจีน ผู้ต้องหาที่ 6

โดยกล่าวหาว่า “ร่วมกันพยายามลักทรัพย์โดยใช้กลอุบาย และซ่องโจร” จับกุมตัวได้ที่หน้าสถานีรถไฟหัวลำโพง แขวงรองเมือง เขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร ตรวจยึดของกลางกว่า 7 รายการ ดังนี้

  1. ทองคำ (ปลอม) ลักษณะเป็นก้อน จำนวน 179 ชิ้น
  2. ทองคำ (ปลอม) ลักษณะเป็นรูปปั้นเทวรูป จำนวน 10 ชิ้น
  3. ทองคำ (แท้) ลักษณะเป็นแผ่นบาง 2×1 ซม. จำนวน 8 ชิ้น
  4. สมุดสมาคมคนจีนในประเทศไทย 46 เล่ม
  5. บัตร ATM จำนวน 24 ใบ
  6. โทรศัพท์มือถือ จำนวน 12 เครื่อง
  7. อุปกรณ์เลื่อยตัดทอง จำนวน 1 ชุด

พฤติการณ์กล่าวคือ ชุดลาดตระเวนออนไลน์ของ บก.สส.บช.น. ได้รับแจ้งจากผู้เสียหายชาวจีน สัญชาติไทย รายหนึ่ง ซึ่งถูกกลุ่มมิจฉาชีพชาวจีน “ต้มตุ๋น” หลอกขายทองคำ โดยกลุ่มมิจฉาชีพทำทีว่ามีทองคำแท้จำนวนมาก ขุดเจอที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา นำมาขายให้กับผู้เสียหายในราคาถูก ผู้เสียหายรายนี้หลงเชื่อและเสียเงินให้กับกลุ่มมิจฉาชีพไปกว่า 500,000 บาท ซึ่งหลังจากให้เงินแล้ว กลุ่มมิจฉาชีพก็ได้หายเข้ากลีบเมฆ ไม่สามารถติดต่อได้อีก ต่อมา พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. ได้ตระเวน “เปิดแฟ้มคดี” ที่กลุ่มมิจฉาชีพกลุ่มนี้เคยตระเวนหลอกลวงเหล่าผู้เสียหาย พบว่าลักษณะการก่อเหตุมีความแยบยลอย่างมืออาชีพ และมีลักษณะการทำงานเรียกได้ว่าเป็นระดับ “องค์กร” เริ่มต้นจากกลุ่มคนร้ายจะหาลายแทงของเหยื่อโดยการ “กางโพย” คือสมุดรายชื่อตระกูลคนจีนในประเทศไทย ตั้งแต่เจ้าสัวตระกูลดัง จากนั้นจะไล่สืบประวัติและติดตามบุคคลเหล่านั้นกระทั่งได้ข้อมูลเบื้องต้น จากนั้นจะเริ่มเข้าสู่กระบวนการต้มตุ๋นด้วยการโทรศัพท์ไปพูดคุย โดยอ้างข้อมูลต่างๆ ที่ได้จากการไล่สืบประวัติมาจึงทำให้เหยื่อ “ติดกับดัก” หลงเชื่อใจกลุ่มมิจฉาชีพ และต่อมาก็จะเข้าสู่กระบวนการ “นัดพบ” เมื่อสามารถนัดพบกับเหยื่อได้แล้ว จะมีการใช้จิตวิทยาด้วย “การแสดง” โดยกลุ่มมิจฉาชีพจะนำทองคำ (ปลอม) ซึ่งมีลักษณะเป็นก้อนจำนวนมากมาโชว์ให้เหยื่อดูและแสร้งนำเลื่อยมาหั่นให้เป็นชิ้นเล็กเพื่อนำให้เหยื่อเอาไปตรวจสอบ ซึ่งแท้จริงมีเพียงชิ้นเล็กเท่านั้นที่เป็นทองแท้ ซึ่งเมื่อเหยื่อนำทองชิ้นเล็กเหล่านั้นไปตรวจสอบกับร้านทอง ก็จะพบว่าเป็นทองคำแท้ ทำให้หลงเชื่อกลุ่มมิจฉาชีพอย่างสนิทใจ เมื่อเหยื่อยอมนำเงินมอบให้กับกลุ่มมิจฉาชีพแล้วก็จะหายเข้ากลีบเมฆทันที


ต่อมา พล.ต.ต.ธีรเดช ได้นำกำลังเจ้าหน้าที่ บก.สส.บช.น. ลงพื้นที่สืบสวนด้วยวิธีการ “ดักหน้า” โดยพบกับเหยื่ออีกรายหนึ่งซึ่งกำลังจะถูกกลุ่มมิจฉาชีพกลุ่มนี้หลอกลวง ได้นำกำลังเข้าไปวางแผนและเปิดปฏิบัติการซ้อนแผน “ขอดเกล็ด” โดยจัดฉากทำทีให้เหยื่อหลงเชื่อและนัดพบกับกลุ่มมิจฉาชีพกลุ่มนี้ ต่อมาวันที่ 24 เม.ย. 66 เวลาประมาณ 14.30 น. กลุ่มมิจฉาชีพ 2 คน ได้ปรากฏตัว ณ จุดนัดพบ บริเวณหน้าสถานีรถไฟหัวลำโพง แขวงรองเมือง เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ พล.ต.ต.ธีรเดช จึงได้นำกำลังเข้าจับกุมตัวคนร้ายทั้งสองรายคือ Mr.Zhong Xiaocong อายุ 44 ปี ผู้ต้องหาที่ 1 และ Mr.Li Xiaoyuan อายุ 45 ปี ผู้ต้องหาที่ 2 และจากการตรวจค้นพบ ทองคำ (ปลอม) ลักษณะเป็นก้อน จำนวน 17 ชิ้น ใบเลื่อย 1 ใบ จากการซักถามและตรวจสอบเบื้องต้นพบว่ายังมีผู้ร่วมขบวนการอีกจำนวน 4 ราย ซึ่งอยู่ห้องพักที่โรงแรมหรูย่านรัชดา 4 ห้อง พล.ต.ต.ธีรเดช จึงได้นำกำลังเจ้าหน้าที่เข้าตรวจค้นโดยจับกุมตัวผู้ร่วมขบวนการได้อีก 4 ราย คือ Mr.Zeng NanJing อายุ 54 ปี ผู้ต้องหาที่ 3, Mr.Yang Cuiyuan อายุ 51 ปี ผู้ต้องหาที่ 4, Mr.Zhu Zhihua อายุ 48 ปี ผู้ต้องหาที่ 5, Mr.Guo Xianyu อายุ 49 ปี ผู้ต้องหาที่ 6 และจากการตรวจค้นห้องพักทั้ง 4 ห้องพบ ทองคำปลอมอีกกว่า 172 ชิ้น, ทองคำ (แท้) ลักษณะเป็นแผ่นบาง 2×1 ซม. จำนวน 8 ชิ้น, สมุดสมาคมคนจีนในประเทศไทย 46 เล่ม, บัตร ATM จำนวน 24 ใบ, โทรศัพท์มือถือ จำนวน 12 เครื่อง และอุปกรณ์เลื่อยตัดทอง จำนวน 1 ชุด จึงได้ตรวจยึดไว้เป็นของกลาง โดยเจ้าหน้าที่ได้ทำการจับกุมตัวผู้ต้องหาทั้ง 6 ราย โดยแจ้งข้อหาว่า “ร่วมกันพยายามลักทรัพย์โดยใช้กลอุบาย และซ่องโจร”

ในชั้นจับกุมผู้ต้องหาทั้ง 6 รายให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา โดยให้การว่า “กลุ่มตนนั้นมาจากเมือง Jiangxi ประเทศจีน เคยทำงานเป็นแก๊งคอลเซ็นเตอร์อยู่ที่อินโดนิเซีย ก่อนที่จะมาตระเวนหลอกลวงในประเทศไทย โดยยอมรับอีกว่าการสั่งซื้อทองปลอมนั้นนำเข้ามาจากเมือง Jiangxi ประเทศจีน โดยสั่งมาทางพัสดุเข้ามาในประเทศไทย ยอมรับว่ากลุ่มของตนชื่นชอบการต้มตุ๋นซึ่งได้แรงบรรดาลใจจากซีรีย์ดังในต่างประเทศ ส่วนเรื่องทางคดีนั้นขอต่อสู้คดีในชั้นศาล” โดยหลังการจับกุมเจ้าหน้าที่ได้นำตัวผู้ต้องหาทั้ง 6 คนพร้อมของกลางนำส่งพนักงานสอบสวน ส.รฟ.นพวงศ์ ดำเนินคดีตามกฎหมาย

พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. กล่าวว่า “คนร้ายกลุ่มนี้ถือเป็นแก๊งต้มตุ๋นมืออาชีพ มีแรงบรรดาลใจที่จะเป็นนักต้มตุ๋นเป็นทุนเดิม และยังมีพื้นฐานการหลอกลวงมาจากประสบการณ์ที่เคยทำแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ทำให้กรรมวิธีในการหลอกลวงนั้นแยบยลและยังมีการวางแผนที่จะหลอกลวงอย่างเป็นระบบ ถือเป็นภัยสังคมที่น่ากลัวอย่างยิ่ง จากการขยายผลเชื่อว่ายังมีผู้ร่วมขบวนการรายอื่นๆ ที่ยังอยู่ในประเทศไทย ซึ่งเราจะมีการขยายผลจนถึงที่สุด และขอแจ้งเตือนไปยังประชาชนที่มีชื่ออยู่ในสมาคมคนจีนในประเทศไทย ให้ระวังกลุ่มมิจฉาชีพประเภทนี้ จากข้อมูลทางการสืบสวนมิจฉาชีพกลุ่มนี้มักให้เหยื่อผู้เสียหายเดินทางไปพบเพียงคนเดียว หากเหยื่อรายใดไหวตัวทันก่อนอาจร้ายแรงถึงขั้นถูกจับตัวไปเรียกค่าไถ่ และขอฝากถึงห้างร้านทองต่างๆ กรณีที่มีคนนำแผ่นเศษทองมาให้ทางร้านตรวจสอบนั้นผู้ที่นำมาตรวจสอบอาจเป็นผู้เสียหายที่กำลังตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพกลุ่มนี้ ฉะนั้นแล้วหากพบให้รีบแจ้งเบาะแสให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทราบ หรือสามารถแจ้งมาทางช่องทางเฟซบุ๊กเพจ สืบนครบาล IDMB เรามีเจ้าหน้าที่พร้อมให้คำแนะนำตลอด 24 ชั่วโมง แม้ไม่ใช่คดีอุกฉกรรจ์แต่หากเป็นเรื่องความเดือดร้อนของประชาชน เราทำทันที ตามนโยบายของ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. และ พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น.” .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่มซิ่งกระบะชนเสาไฟฟ้าล้มขวางถนน 12 ต้น

ชลบุรี 28 ก.ย. – หนุ่มซิ่งกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรตลอดทั้งวัน คาดจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) รถกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน ต.บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น เป็นเสาไฟฟ้าแรงสูง 6 ต้น เสาไฟฟ้าสูง 12 เมตร อีก 6 ต้น ระยะทาง 500 เมตร โชคดีนายสิทธิพงษ์ อายุ 41 ปี คนขับ บาดเจ็บเล็กน้อย แต่ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรบนถนนสายบึง-บ่อวิน ตลอดทั้งวัน คาดว่าจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) จากการสอบสวนทราบว่า นายสิทธิพงษ์ เพิ่งเลิกงาน ขับรถกลับบ้านด้วยความเร็ว อาจหลับใน ทำให้รถเปลี่ยนเลนข้ามไปชนกับเสาไฟฟ้าอีกฝั่ง ส่วนความเสียหายยังประเมินค่าไม่ได้.-สำนักข่าวไทย

“อนุทิน” ร่วมงานศพพ่อ “อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้า ภท.

ราชบุรี 28 ก.ย.- “อนุทิน” ร่วมสวดอภิธรรมศพพ่อ “สส.อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้าภูมิใจไทย ลั่นได้ส่งจิตขออนุญาตคุณพ่อแล้ว นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตาีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วยนายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายศักดา วิเชียรศิลป์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นายสรอรรถ กลิ่นประทุม อดีต สส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย ได้ร่วมไว้อาลัยและสวดอภิธรรมศพ คุณพ่อวุฒิพงศ์ วงษ์พิทักษ์โรจน์ บิดาของนายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สส.ราชบุรี พรรครวมไทยสร้างชาติ เมื่อค่ำวันที่ 27 ก.ย. ที่จังหวัดราชบุรี โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี หัวหน้าส่วนราชการ และประชาชนกว่า 2,000 ร่วมพิธีโดยเป็นการสวดอภิธรรมเป็นคืนที่ 4 และจะมีพิธีบรรจุศพในวันที่ 30 ก.ย. นี้ ในช่วงท้าย นายอนุทิน ได้กล่าวกับผู้ที่ร่วมสวดอภิธรรมศพ ว่า ตนเองมีความสนิทสนมกับ นายอัครเดช มาหลายปีแล้ว นายอัครเดชเป็นคนมีความวิริยะอุสาหะ ตั้งใจทำงานให้พี่น้องประชาชน ตนมีความชื่นชมและศรัทธา ในความขัยนขันแข็งของท่าน ยิ่งไปกว่านั้นการปฏิบัติหน้าที่ในสภาผู้แทนราษฎร ท่านก็ทำหน้าที่ได้ดีเป็นดาวสภา […]

โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA

กรุงเทพฯ 28 ก.ย. – โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA หลัง “อนุทิน” มอบดาบการทูตสู้กัมพูชา ขณะนายกฯ ย้ำยึดสันติในการแก้ปัญหา เพื่อประโยชน์ของประเทศ ภายหลังจากที่นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวในเวทีการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ หรือ UNGA สมัยสามัญ ครั้งที่ 80 ที่นครนิวยอร์ก ทำให้กระแสโซเชียลในประเทศไทย พึงพอใจกับการทำหน้าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ในรัฐบาลของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี เป็นอย่างมาก ทั้งนี้ การเดินทางไปเวที UNGA ของนายสีหศักดิ์ ครั้งนี้ยึดแนวทางแก้ปัญหาความมั่นคงและการต่างประเทศ ที่นายอนุทิน มอบหมายให้ดำเนินการ โดยใช้มาตรการทางการทหารควบคู่กับการทูต เพื่อรักษาอธิปไตยอย่างสันติ เพื่อผลประโยชน์ของประชาชน โดยเฉพาะในกรณีพิพาทไทย-กัมพูชา ขณะที่นายอนุทิน เชื่อว่า การกล่าวถ้อยแถลงในที่ประชุม UNGA ของนายสีหศักดิ์ ทำให้คนไทยมีความเชื่อมั่นอย่างชัดเจนต่อจุดยืนของรัฐบาล สำหรับนโยบาย 4 เดือน 4 ภารกิจหลัก คืนความมั่นใจให้ประเทศไทย ตามนโยบายรัฐบาลของนายอนุทิน […]

กรมอุตุฯ เตือนฝนถล่มทั่วไทย รับมืออิทธิพลพายุบัวลอย

กทม. 28 ก.ย.- กรมอุตุฯ เตือนทั่วไทยรับมือฝนถล่ม อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง จับตาอิทธิพลพายุไต้ฝุ่น “บัวลอย” คาดเคลื่อนขึ้นฝั่งเวียดนามตอนบน พรุ่งนี้ (29 ก.ย.) กรมอุตุนิยมวิทยาเผยประเทศไทยมีฝนตกหนักหลายพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออก โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดสกลนคร นครพนม อุดรธานี ขอนแก่น กาฬสินธุ์ มุกดาหาร จันทบุรี และตราด ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่าน พื้นที่ลุ่ม และพื้นที่น้ำท่วมขัง เนื่องจากร่องมรสุมกำลังแรงพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังแรง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง พายุไต้ฝุ่น […]

ข่าวแนะนำ

สีสัน! อภิปรายนโยบายรัฐบาลวันแรก

29 ก.ย.- การแถลงนโยบายรัฐบาลวันนี้ เหมือนเป็นการซ้อมศึกซักฟอกย่อย เพราะมีการตอบโต้และตั้งฉายามากมาย ติดตามสีสันการอภิปรายนโยบายฯ วันแรก .-สำนักข่าวไทย

เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดฝนหนักคืนนี้

29 ก.ย.- หลายพื้นที่เฝ้าระวังฝนตกหนัก จากอิทธิพล #พายุบัวลอย เชียงใหม่เปิดประตูระบายน้ำทุกจุด เร่งระบายน้ำปิงลงทะเลสาบดอยเต่า พร่องน้ำในเขื่อนแม่งัดฯ เตรียมรับน้ำฝน คาดตกหนักคืนนี้ ขณะที่ จ.นครราชสีมา น้ำล้นสปิลเวย์ เตือนประชาชนระวังน้ำท่วมฉับพลัน พายุฝนตกกระหน่ำหลายพื้นที่จังหวัดสระแก้ว โดยพื้นที่ ต.บ้านแก้ง อ.เมืองสระแก้ว นายก อบต.บ้านแก้ง พร้อมผู้นำชุมชน และอาสาสมัครกู้ภัย ได้นำเรือเครื่องยนต์ท้องแบน เข้าช่วยเหลือ ตาชู-ยายทองคำ และสุนัข 1 ตัว ออกจากบ้านที่โดนน้ำป่าไหลหลาก เข้าท่วมเกือบมิดหลังคา  มาอยู่ในที่ปลอดภัย ยายทองคำ เล่าว่าเมื่อคืนพักอยู่กับตาและหมา กำลังจะเข้านอนแต่ก็มีฝนตกตลอดทั้งคืน น้ำที่คลองก็ยังไม่เห็นว่าจะขึ้นล้นตลิ่งเท่าไร แต่ก็กังวล จึงเฝ้าดูกระทั่งน้ำไหลมาและเข้าท่วม ตกใจ จึงได้นำสุนัขขึ้นบนบ้าน ส่วนข้าวของก็เก็บไม่ทัน จากนั้นจึงอยู่แต่บนบ้านจนถึงเช้า กู้ภัยมาช่วยนำออกมาจากบ้าน อยู่มาหลายสิบปีไม่เคยเจอแบบนี้มาก่อนเลย  ผู้ว่าฯ เชียงใหม่ เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดตกหนักคืนนี้ เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา หลายพื้นที่เชียงใหม่ เริ่มมีฝนตกลงมาบ้างแล้ว ระดับน้ำในลำน้ำปิงที่ไหลผ่านตัวเมืองเชียงใหม่ ที่จุดวัดพี1 เชิงสะพานนวรัฐ ยังอยู่ที่ 2 เมตร 49 เซนติเมตร ต่ำกว่าจุดวิกฤติแจ้งเตือนที่ […]

แถลงนโยบายวันแรกเดือด ประท้วงกันวุ่น

29 ก.ย.- สภาเดือด! แถลงนโยบายรัฐบาลวันแรก อภิปรายตอบโต้-ประท้วงกันเป็นระยะ เมื่อมีการพาดพิงปมเขากระโดง-ฮั้ว สว. แต่ประธานฯ คุมสถานการณ์ได้ ด้านนายกฯ ไม่กังวลวาทกรรมของฝ่ายค้าน ชี้ประเด็นซ้ำๆ และมีการแถลงข้อเท็จจริงไปแล้ว -สำนักข่าวไทย

ฝ่าดงทุ่นระเบิดเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก “ผลักดัน-รื้อถอน”

29 ก.ย.- ทหารเรือฝ่าดงทุ่นระเบิดเข้าเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก จ.ตราด ผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้าม-รื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง 3 หลัง รุกล้ำเขตอธิปไตยไทย ขณะที่ชาวบ้านหนองจาน จ.สระแก้ว นำอาหารมอบให้ทหารแนวหน้า ยังไม่พบความเคลื่อนไหวผิดปกติ พลเรือเอก จิรพล ว่องวิทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ และพลเรือเอก ไพโรจน์ เฟื่องจันทร์ ว่าที่ ผู้บัญชาการทหารเรือ คนใหม่ มอบหมายพลเรือโทอภิชาติ ทรัพย์ประเสริฐ ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน และผู้บัญชาการกองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรี-ตราด (กกล.กปช.จต.) เข้าเคลียร์พื้นที่ชายแดนบ้านชำราก อันเป็นอธิปไตยของไทย โดยหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินตราด กองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรีตราด จึงได้ผลักดันกองกำลังกัมพูชา ออกจากพื้นที่บริเวณตรงข้ามบ้านหนองรี ตำบลชำราก ไม่มีกำลังฝ่ายกัมพูชาวางกำลังแล้ว ผลจากการปฏิบัติการ บรรลุเป้าหมายสำคัญ คือ สามารถทำลายสิ่งปลูกสร้างทั้ง 3 หลังลงได้อย่างสิ้นเชิง ที่สำคัญที่สุดคือ สามารถผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้ามให้ออกจากพื้นที่รุกล้ำได้อย่างสมบูรณ์ ประชาชนนำอาหารมอบทหารแนวหน้า บ้านหนองจาน จ.สระแก้ว ส่วนที่บ้านหนองจาน จังหวัดสระแก้ว บรรยาศเงียบเหงา แต่ยังคงมีประชาชนเดินทางนำอาหาร เช่น ไข่ไก่ น้ำดื่ม นำมามอบให้กับทหารแนวหน้า ถึงแม้จะไม่คึกคักเหมือนวันก่อนๆ […]