กทม. 20 เม.ย. – คดีพบศพ “จีจี้” สุพิชชา ปรีดาเจริญ เน็ตไอดอลชื่อดัง อายุ 20 ปี ถูกยิงเสียชีวิตในคอนโดฯ และพบศพเพื่อนชายคนสนิท เป็นนักเรียนเตรียมทหาร ลูกชายอดีตนายทหารยศใหญ่ ถูกยิงเสียชีวิตเช่นกัน ซึ่งมีการตั้งข้อสงสัยถึงปมเหตุที่ทำให้ทั้งสองต้องจบชีวิต รวมถึงพ่อของจีจี้ ที่สงสัยที่มาของปืน
เร่งหาปมเหตุ “จีจี้ สุพิชชา” และเพื่อนชาย จบชีวิต
ย้อนดูเหตุการณ์พบศพเมื่อวานนี้ (19 เม.ย.66) เพื่อนของจีจี้ ติดต่อจีจี้ไม่ได้ จึงเดินทางไปหาที่คอนโด ใกล้แยกอโศกเพชร และด้วยความสนิทเลยรู้รหัสเปิดห้อง เมื่อเปิดเข้าไป ก็ต้องตกใจ พบศพของจีจี้ ถูกยิงด้วยอาวุธปืนเข้าศีรษะ 1 นัด นอกจากนี้ยังพบศพชาย เป็นนักเรียนเตรียมทหาร ลูกชายอดีตนายทหารยศใหญ่ และเป็นแฟนของจีจี้ ถูกยิงที่ศีรษะเหมือนกัน ใกล้กันพบอาวุธปืนสั้น และปลอกกระสุนตกอยู่
พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล บอกว่า สั่งเร่งตรวจสอบกล้องวงจรปิดเพื่อพิสูจน์ว่าเป็นการกระทำของฝ่ายใด หรือบุคคลที่สาม ส่วนความสัมพันธ์และความขัดแย้งของทั้ง 2 คน อยู่ระหว่างการตรวจสอบ สำหรับที่เกิดเหตุ เป็นห้องพักของฝ่ายหญิง ค่อนข้างเก็บเสียง ทำให้ช่วงเกิดเหตุไม่มีใครทราบ โดยทั้งสองคนเสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 1 วัน
พ่อจีจี้ สงสัยที่มาของปืนที่ก่อเหตุ
ด้านพ่อของ “จีจี้ สุพิชชา” ให้ข้อมูลว่า ลูกสาวกับฝ่ายชายเคยคบหาและเลิกรากันไปแล้ว เพราะมีเรื่องทะเลาะกัน โดยเมื่อ 2 เดือนก่อน “จีจี้” เคยบอกกับน้องสาวว่าถูกฝ่ายชายทำร้าย จึงหนีมาเช่าอยู่ที่คอนโดฯ แห่งนี้ ซึ่งตนเองได้โทรศัพท์คุยกับลูกสาวครั้งสุดท้ายเมื่อคืนวันที่ 17 เมษายนที่ผ่านมา เพื่อนัดมาจ่ายค่าห้องให้ลูกสาว แต่ก็มาเกิดเหตุไม่คาดคิดเสียก่อน เสียใจที่สุด ที่ผ่านมาลูกสาวไม่เคยเล่าอะไรให้ฟังว่ามีปัญหาอะไรกับผู้ชายคนนี้ และที่สงสัยมาก ทำไมเขาถึงมีอาวุธปืนที่มีความรุนแรงขนาดนี้ไว้ใช้ติดตัว
ชาวเน็ตขุดภาพ “จีจี้” ถูกทำร้าย – ฝ่ายชายซ้อมยิงปืน
ขณะที่ชาวเน็ตและเพื่อนร่วมวงการออกมาแสดงความเสียใจและไว้อาลัยให้กับการจากไปอย่างกะทันหันของจีจี้ บางส่วนก็แสดงความคิดเห็นตั้งข้อสงสัยปมการเสียชีวิต จนทำให้ #เรื่องของจี้ ติดเทรนด์ทวิตเตอร์ โดยชาวเน็ตบางรายได้แชร์ภาพในอดีต รวมถึงข้อความแชทของจีจี้ ที่ระบุว่าถูกแฟนหนุ่มทำร้ายร่างกาย ทุบตีบริเวณใบหน้า บวมช้ำ หนำซ้ำยังมีการส่งข้อความข่มขู่ ท้าทาย เช่น “กูใคร ถ้าจะทำให้ตาย _งตายไปแล้วครับ” และคำด่าหยาบคายอีกมากมาย ที่สำคัญยังพบข้อความแชตที่ฝ่ายหญิงได้บล็อกข้อความของฝ่ายชาย แล้วฝ่ายชายพยายามต่อว่า โดยมีการขู่ให้รับสายโทรศัพท์ ไม่งั้นจะยิง
นอกจากนี้ ชาวเน็ตได้ไปขุดข้อมูลพบว่า ฝ่ายชายชอบอาวุธปืน และศึกษาทั้งอาวุธปืนสั้น-ปืนยาวมาเป็นอย่างดี รวมถึงมักซ้อมยิงปืนเป็นประจำ จึงมีความเชี่ยวชาญในการยิงปืนอย่างแม่นยำ ไม่เพียงเท่านั้น ฝ่ายชายมักโพสต์อวดภาพปืน ที่บางชนิดเป็นอาวุธปืนสงครามด้วย ทำให้ชาวเน็ตยังตั้งข้อสงสัยว่า การครอบครองปืนที่มากมายขนาดนี้ และเป็นอาวุธปืนสงคราม สามารถครอบครองได้หรือไม่
ประชุมเร่งรัดคดี “จีจี้-แฟนหนุ่ม” เสียชีวิต
ส่วนความคืบหน้าคดี เช้านี้ (20 เม.ย.66) พ.ต.อ.เสนาะ พูนเพชร รักษาการ ผกก.สน.มักกะสัน เรียกประชุมพนักงานสอบสวน เพื่อเร่งรัดและรวบรวมพยานหลักฐาน คลี่คลายคดีให้เกิดความชัดเจน และเป็นธรรมโดยเร็วที่สุด ตอนนี้ยังอยู่ระหว่างรอผลตรวจพิสูจน์ทั้งผลชันสูตรร่างผู้เสียชีวิตจากแพทย์นิติเวช และผลตรวจทางนิติวิทยาศาสตร์จากกองพิสูจน์หลักฐาน โดยเฉพาะเรื่องคราบเขม่าดินปืน เบื้องต้นพบหัวกระสุนตกอยู่เพียง 1 นัด คาดเป็นกระสุนที่ยิงทะลุศีรษะฝ่ายหญิง ส่วนหัวกระสุนที่ยิงฝ่ายชาย คาดว่าถูกฝังอยู่ในศีรษะ ต้องรอความชัดเจนจากผลแพทย์อีกครั้ง
ขณะเดียวกันมีเจ้าหน้าที่จากกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ กระทรวงยุติธรรม ได้เข้าพบ พ.ต.อ.เสนาะ เพื่อแจ้งสิทธิในกรณีดังกล่าว โดยเบื้องต้นผู้เสียชีวิตจะได้ค่าตอบแทนเป็นเงินจำนวน 30,000 บาท แต่ไม่เกิน 100,000 บาท ค่าจัดการศพใช้จ่ายเป็นเงิน 20,000 บาท ค่าขาดอุปการะเลี้ยงดูใช้จ่ายเป็นเงินจำนวนไม่เกิน 40,000 บาท ค่าเสียหายอื่นๆ ไม่เกิน 40,000 บาท
ด้านผู้บัญชาการตำรวจนครบาล บอกว่า คดีนี้ได้ตั้งทีมสืบสวนสอบสวนใหม่ เนื่องจากทั้งคู่เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ ตอนนี้รอผลชันสูตรมารวมกับหลักฐานต่างๆที่พบในที่เกิดเหตุ วิถีกระสุน ทิศทางกระสุน รวมถึงแวดล้อมต่างๆ เบื้องต้นจากการดูทิศทางกระสุน คาดว่าฝ่ายชายน่าจะเป็น “คนก่อเหตุ” แต่ก็ต้องรอทาง พฐ. สรุปวิถีกระสุนให้ชัดเจนก่อน และมีข้อมูลจากเพื่อนฝ่ายหญิง พบว่าทั้งคู่ได้ไปเที่ยวพัทยากันในช่วงวันสงกรานต์ ก่อนกลับเข้ามายังที่พัก แต่ในส่วนวันที่ 18-19 เมษายนที่ผ่านมานั้น ยังต้องไล่ดูภาพกล้องวงจรปิด ซึ่งช่วงนั้นจีจี้ไม่ได้ติดต่อกับเพื่อน จึงไม่แน่ชัดว่าทั้งคู่หรือฝ่ายหนึ่งฝ่ายใด ได้ไปไหนกันอีกหรือไม่ พร้อมยืนยันว่าคดีนี้ไม่ซับซ้อน และตอนนี้ยังไม่ตัดประเด็นใดทิ้ง รวมถึงยังอยู่ระหว่างสืบสวนสอบสวนว่ามีตัวละครเพิ่มหรือไม่
ส่วนประเด็นเรื่องปืนที่ใช้ก่อเหตุ เบื้องต้นพบว่าเป็นของฝ่ายชาย เท่าที่ตรวจสอบน่าจะเป็นของคนในครอบครัวของฝ่ายชาย และเป็นปืนที่ใช้ในอาชีพข้าราชการ ซึ่งฝ่ายชายก็ไม่สามารถครอบครองอาวุธปืนได้อยู่แล้ว เพราะในทางกฎหมายหากผู้ที่ครอบครองปืนได้ในวัยเท่านี้ จะต้องได้รับการรับรองอย่างถูกต้องตามกฎหมายว่ามีคุณสมบัติครบถ้วน ส่วนเจ้าของปืนจะมีความผิดหรือไม่ ต้องดูว่าเข้าเกี่ยวข้องในเรื่องของความประมาทหรือไม่ แต่กฎหมายยังไม่ได้ระบุ พร้อมยืนยันว่าคดีนี้ทำทุกอย่างในกรอบกฎกติกาของกฎหมาย
ผบ.ตร.เผยปืนเป็นของพ่อฝ่ายชาย
พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ บอกว่า จากการตรวจสอบ ไม่พบบุคคลที่ 3 เข้าออกในห้องของผู้ตายในช่วงเวลาก่อนและหลังเกิดเหตุ ส่วนมูลเหตุจูงใจ น่าจะมาจากความสัมพันธ์ส่วนตัว ไม่มีประเด็นอื่น สำหรับอาวุธปืน จากการตรวจสอบพบว่าปืนมีทะเบียน เป็นของบิดาฝ่ายชาย โดยวันนี้ได้สั่งการให้ตรวจสอบอาวุธที่ฝ่ายชายโชว์ในโลกโซเชียลว่าเป็นปืนที่ถูกกฎหมายหรือไม่ ใครเป็นผู้ครอบครอง. – สำนักข่าวไทย
