ดีเอสไอรับ “คดีตู้ห่าว” เป็นคดีพิเศษ “ฐานฟอกเงิน”

กรุงเทพฯ 15 ธ.ค. – ดีเอสไอรับคดี “ตู้ห่าว” เป็นคดีพิเศษ เข้าเงื่อนไขฟอกเงิน ยึดทรัพย์แล้ว 4,401 ล้านบาท ขณะ “ชูวิทย์” ตั้ง 5 คำถามถึง ผบช.น. คดีผับจินหลิง


นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม พร้อมด้วยว่าที่ร้อยตรี ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ เลขานุการ รมว.ยุติธรรม แถลงข่าวรับคดี “นายตู้ห่าว” หนึ่งในกลุ่มธุรกิจจีนสีเทา เป็นคดีพิเศษ เนื่องจากคดีนี้มีความซับซ้อน มีนอมินีและชาวต่างชาติเข้ามาเกี่ยวข้อง และทุนทรัพย์เกิน 3,000 ล้านบาท

โดยทางดีเอสไอรับเป็นคดีพิเศษเมื่อวานนี้ (14 ธ.ค.) เลขที่ 314/2565 ซึ่งเป็นการรับเป็นคดีพิเศษโดยอาศัยประกาศตามบัญชีท้าย โดยไม่ต้องเข้าสู่การพิจารณาของคณะกรรมการ เบื้องต้นจะรับเป็นคดีพิเศษเฉพาะคดีฟอกเงินก่อน เพราะเป็นความผิดที่บัญญัติไว้บัญชีท้ายของ พ.ร.บ.การสอบสวนคดีพิเศษ ส่วนจะรับคดีอาญาอื่นๆ มาดำเนินการด้วยหรือไม่ ยังเป็นเรื่องของอนาคต ซึ่งต้องเข้าสู่การพิจารณาของบอร์ดดีเอสไอก่อน


สำหรับทรัพย์สินที่ ป.ป.ส. และดีเอสไอ ยึดอายัดจากกลุ่มทุนจีนสีเทามาได้แล้วตอนนี้มีทั้งหมด 4,401,140,000 บาท โดยกรณีของนายตู้ห่าว ตอนนี้ดีเอสไอตรวจสอบพบว่ามีกลุ่มนายทุนต่างชาติ 4-5 กลุ่ม อยู่เบื้องหลัง ถือพาสปอร์ตต่างประเทศ น่าจะเป็นคนส่งทุนเข้ามาให้ โดยดีเอสไอมีเลขพาสปอร์ตของคนกลุ่มนี้แล้ว ขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบเตรียมดำเนินคดีนอมินีต่อไป

ขณะเดียวกันยังเร่งตรวจสอบเส้นทางการเงิน และสอบสวนขยายผลไปยังนิติบุคคล กรรมการบริษัท และพยานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งจะติดตามตัวมาสอบปากคำให้แล้วเสร็จภายใน 2 สัปดาห์ และจะสรุปตั้งข้อกล่าวหาให้แล้วเสร็จภายใน 1 เดือน

ขณะเดียวกัน ป.ป.ส. เตรียมออกคำสั่งยึดอายัดทรัพย์กลุ่มทุนจีนสีเทาเพิ่มเติมอีกกว่า 1,200 ล้านบาท และเตรียมขยายผลเพิ่มเติม คาดจะยึดอายัดทรัพย์ได้อีกจำนวนมาก


ด้านนายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ เดินทางมาส่งมอบหลักฐานเพิ่มเติมให้กับกระทรวงยุติธรรม พร้อมทั้งมอบกระเช้าดอกไม้ให้นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม เพื่อแสดงความขอบคุณและเป็นกำลังใจให้อธิบดีและเจ้าหน้าที่ทุกท่านที่รับคดีนี้เป็นคดีพิเศษ เพราะเป็นที่พึ่งสุดท้ายแล้ว ถ้ายังไม่มีอะไรคืบหน้าอีกตนคงต้องไปกระโดดน้ำสะพานพุทธแล้ว

นายชูวิทย์ กล่าวว่า ตนเองมั่นใจว่า รมว.ยุติธรรม และดีเอสไอ มีความสามารถในการดำเนินคดีนี้ หลังที่ผ่านมาเคยไปร้องเรียนกับตำรวจแต่เกิดปัญหาล่าช้า ไม่ได้มีการแจ้งข้อหาฟอกเงินกับนายตู้ห่าว ทั้งๆ ที่ตนเองนำหลักฐานทั้งหมดมอบให้ตำรวจแล้ว

การออกมาเปิดเผยหลักฐานในคดีตู้ห่าว จนสู่ขั้นตอนการดำเนินคดีในฐานความผิดหลายข้อหา ตนเองยืนยันว่าไม่ได้รู้จักกับนายตู้ห่าว หรือใครเป็นส่วนตัว และไม่มีใครอยู่เบื้องหลังให้ออกมากลั่นแกล้งใคร แต่ตนเองออกมาในฐานะพลเมืองหรือประชาชนคนหนึ่งที่ต้องการเรียกร้องความยุติธรรมเท่านั้น ไม่ได้ต้องการรับผลประโยชน์ใดๆ ตอบแทน หากได้รับส่วนแบ่งในคดีนี้เป็นทรัพย์สิน 5% ตนเองจะนำไปบริจาคให้กับโรงพยาบาล โดยวันพรุ่งนี้ (16 ธ.ค.) เวลา 11.30 น. จะเดินทางไปพบ ผบ.ตร. ที่โรงพยาบาลตำรวจ เพื่อมอบหลักฐานเพิ่มเติมในการดำเนินคดีอาญาที่ยังอยู่ในการดูแลกับตำรวจ พร้อมทั้งบริจาครถให้กับโรงพยาบาล

“ชูวิทย์” ฝาก 5 คำถามถึง ผบช.น. คดีผับจินหลิง
นายชูวิทย์ยังได้ฝากคำถาม 5 ข้อ ถึง พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. และคณะ ที่แถลงข่าวความคืบหน้าคดีผับจินหลิงในวันนี้ ประกอบด้วย 1.ทำไมถึงตั้งข้อกล่าวหาสมคบฟอกเงินกับคดียาเสพติด แต่ไม่ตั้งข้อหาสมคบฟอกเงิน 2.ทำไมไม่ตรวจสอบพยานบุคคลจากการเช่าสถานที่ของนายตู้ห่าว 3.ทำไมไม่ตรวจสอบพยานบุคคลและนักท่องเที่ยวที่เข้าไปใช้บริการ แต่กลับปล่อยกลับบ้าน 4.ใครพาเดวิส ฮอล์ และหลานตู้ห่าว หลบหนีไป ซึ่งนายชูวิทย์มองว่าเป็นการปล่อยตัวโดยมิชอบ โดยไม่มีการสอบปากคำ และ 5.มีพยานในคดีผับจินหลิงหรือไม่ และสอบปากคำพยานจีนแล้วหรือไม่

ผบช.น.แจงข้อสงสัยคดีผับจินหลิง
ด้าน พล.ต.ท.โทธิติ แสงสว่าง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล แจงข้อสงสัยต่างๆ ที่ถูกตั้งคำถามถึง โดยอธิบายถึงกระบวนการทำงานของเจ้าหน้าที่ตั้งแต่วันที่เข้าตรวจค้นผับจินหลิง คือวันที่ 26 ต.ค.ที่ผ่านมา หลังมีข้อมูลว่ามีการลักลอบเล่นการพนัน เสพยาเสพติด ลักลอบเปิดเป็นสถานบันเทิง ซึ่งพบบุคคลหลายสัญชาติ ส่วนใหญ่เป็นชาวจีน และพบยาเสพติดหลายประเภท นอกจากนี้ยังพบรถหรูอีก 35 คัน โดยได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ติดตามหาเจ้าของรถ ส่วนที่มีการปล่อยรถคืนไปนั้น มีพยานหลักฐานที่เชื่อได้ว่ามีการทุจริต ทางกองบัญชาการตำรวจนครบาลได้ตั้งกรรมการสอบสวนแล้ว

เบื้องต้นจากการตรวจสอบในที่เกิดเหตุพบสารเสพติด 104 คน และจากการส่งไปตรวจละเอียดที่โรงพยาบาล พบว่ามีสารเสพติดที่สามารถระบุได้ชัดเจน 77 คน จึงดำเนินคดีเสพยาเสพติด ทั้งนี้ ยอมรับว่ามีเจ้าหน้าที่ตำรวจ 3 ราย ที่ไม่ใช่ผู้รับมอบหมายให้เป็นผู้รับผิดชอบคดี นำหนึ่งในผู้ต้องหาแยกออกไปฟ้องเอง โดยได้รับการว่าจ้างจากผู้มีอิทธิพลทางการเงิน ขณะนี้ดำเนินคดีอาญาและส่งเรื่องให้ ป.ป.ช. แล้ว ยืนยันว่าเป็นการกระทำเฉพาะบุคคล ส่วนบุคคลที่เป็นผู้จ้างวาน ขณะนี้อยู่ระหว่างการติดตาม โดยการสอบสวนอยู่ในอำนาจของป.ป.ช.

ส่วนผู้เสพที่เหลือ 76 ราย หลังส่งฟ้องได้ส่งกลับไปยังห้องกักของสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ยืนยันว่าสอบปากคำทั้งหมดแล้ว รวมทั้งตรวจสอบเส้นทางการเงิน การซื้อยาเสพติดทั้งหมด ซึ่งผู้เสพรับว่ามีรถไปรับและพามาเสพ

สำหรับความคืบหน้าในคดี ตำรวจได้ดำเนินคดีกับบุคคลชาวจีน 2 คน ที่ตรวจพบในห้องเก็บยา ในข้อหามีเคตามีนไว้ในครอบครอง และจากการสืบสวนเส้นทางการเงินและการติดต่อสื่อสาร พบความเกี่ยวข้องกับบุคคลอื่นๆ อีก 10 คน ทั้งที่อยู่และไม่อยู่ในที่เกิดเหตุ จนนำไปสู่การออกหมายจับ ตอนนี้จับกุมได้แล้ว 7 คน โดยได้เสนอให้อัยการสูงสุดพิจารณาว่าทั้ง 10 รายนี้เกี่ยวข้องกับองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติหรือไม่

พล.ต.ท.ธิติ ยังกล่าวถึงบุคคลที่เป็นผู้ดูแลสถานที่ ซึ่งมีผู้กล่าวถึงว่าเป็นเพียง รภป.นั้น ยืนยันว่าบุคคลนี้ไม่ใช่ รปภ. ขณะเข้าตรวจค้นก็แสดงตนเป็นผู้รับหมาย และบอกว่าเป็นคนดูแล เมื่อตรวจพบยาเสพติดต้องแจ้งข้อหาตามหลักฐาน

ส่วนกรณีไม่ได้ดำเนินคดีฐานฟอกเงิน พล.ต.ท.ธิติ ระบุว่า เรื่องหลักฐานเส้นทางการเงิน ตำรวจได้ส่ง ปปง. ตรวจสอบ เพื่อดำเนินคดีตามความผิดฐานฟอกเงินถึง 2 ครั้ง ยืนยันตำรวจมีการตั้งมูลฐานที่จะดำเนินคดีในความผิดฐานฟอกเงิน แต่ทุกอย่างต้องมีพยานหลักฐานที่ชัดเจน ซึ่งที่ผ่านมาใช้เวลาในการรวบรวมพยานหลักฐานมาตลอด

ตรวจยึดโรงแรมดีวาลักษณ์ เชื่อมโยง “ตู้ห่าว”
ด้าน พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. พร้อมด้วยนายธนากร คัยนันท์ รองเลขาธิการ ป.ป.ส. นำกำลังเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบโรงแรมดีวาลักซ์ ซึ่งเป็นที่ตั้งของบริษัท ดีวาลักซ์ รีสอร์ทแอนด์สปา จำกัด หมู่ 3 ต.ศีรษะจรเข้น้อย อ.บางเสาธง จ.สมุทรปราการ ซึ่งเป็นหนึ่งในบริษัทที่เกี่ยวข้องกับนายตู้ห่าว โดยเจ้าหน้าที่ตรวจสอบเอกสารเพิ่มเติม และแจ้งเข้าควบคุมกิจการ โดยเลขาธิการ ป.ป.ส. อาศัยอำนาจตามมาตรา 73 วรรคสอง ประกอบมาตรา 68 วรรคสอง แห่ง พ.ร.บ.ยาเสพติดฯ มีคำสั่งให้ตรวจสอบทรัพย์สินของนายตู้ห่าว และแจ้งคำสั่งอายัดทรัพย์สินของบริษัท ดีวาลักซ์ รวมทั้งโฉนดที่ดินที่ตั้งของโรงแรมดังกล่าวจำนวน 5 แปลง รวมเนื้อที่ 37 ไร่ มูลค่ากว่า 2,970 ล้านบาท รวมทั้งรายได้อื่นใดที่อาจเกิดขึ้นหลังจากรับทราบคำสั่งนี้ และอายัดบัญชีธนาคารและบัญชีกองทุนในชื่อของนางพัชรินทร์ ในฐานะกรรมการบริษัทดังกล่าว อีกจำนวน 7 บัญชี โดยมีนางพัชรินทร์รับทราบคำสั่ง.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่มซิ่งกระบะชนเสาไฟฟ้าล้มขวางถนน 12 ต้น

ชลบุรี 28 ก.ย. – หนุ่มซิ่งกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรตลอดทั้งวัน คาดจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) รถกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน ต.บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น เป็นเสาไฟฟ้าแรงสูง 6 ต้น เสาไฟฟ้าสูง 12 เมตร อีก 6 ต้น ระยะทาง 500 เมตร โชคดีนายสิทธิพงษ์ อายุ 41 ปี คนขับ บาดเจ็บเล็กน้อย แต่ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรบนถนนสายบึง-บ่อวิน ตลอดทั้งวัน คาดว่าจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) จากการสอบสวนทราบว่า นายสิทธิพงษ์ เพิ่งเลิกงาน ขับรถกลับบ้านด้วยความเร็ว อาจหลับใน ทำให้รถเปลี่ยนเลนข้ามไปชนกับเสาไฟฟ้าอีกฝั่ง ส่วนความเสียหายยังประเมินค่าไม่ได้.-สำนักข่าวไทย

“อนุทิน” ร่วมงานศพพ่อ “อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้า ภท.

ราชบุรี 28 ก.ย.- “อนุทิน” ร่วมสวดอภิธรรมศพพ่อ “สส.อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้าภูมิใจไทย ลั่นได้ส่งจิตขออนุญาตคุณพ่อแล้ว นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตาีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วยนายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายศักดา วิเชียรศิลป์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นายสรอรรถ กลิ่นประทุม อดีต สส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย ได้ร่วมไว้อาลัยและสวดอภิธรรมศพ คุณพ่อวุฒิพงศ์ วงษ์พิทักษ์โรจน์ บิดาของนายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สส.ราชบุรี พรรครวมไทยสร้างชาติ เมื่อค่ำวันที่ 27 ก.ย. ที่จังหวัดราชบุรี โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี หัวหน้าส่วนราชการ และประชาชนกว่า 2,000 ร่วมพิธีโดยเป็นการสวดอภิธรรมเป็นคืนที่ 4 และจะมีพิธีบรรจุศพในวันที่ 30 ก.ย. นี้ ในช่วงท้าย นายอนุทิน ได้กล่าวกับผู้ที่ร่วมสวดอภิธรรมศพ ว่า ตนเองมีความสนิทสนมกับ นายอัครเดช มาหลายปีแล้ว นายอัครเดชเป็นคนมีความวิริยะอุสาหะ ตั้งใจทำงานให้พี่น้องประชาชน ตนมีความชื่นชมและศรัทธา ในความขัยนขันแข็งของท่าน ยิ่งไปกว่านั้นการปฏิบัติหน้าที่ในสภาผู้แทนราษฎร ท่านก็ทำหน้าที่ได้ดีเป็นดาวสภา […]

โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA

กรุงเทพฯ 28 ก.ย. – โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA หลัง “อนุทิน” มอบดาบการทูตสู้กัมพูชา ขณะนายกฯ ย้ำยึดสันติในการแก้ปัญหา เพื่อประโยชน์ของประเทศ ภายหลังจากที่นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวในเวทีการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ หรือ UNGA สมัยสามัญ ครั้งที่ 80 ที่นครนิวยอร์ก ทำให้กระแสโซเชียลในประเทศไทย พึงพอใจกับการทำหน้าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ในรัฐบาลของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี เป็นอย่างมาก ทั้งนี้ การเดินทางไปเวที UNGA ของนายสีหศักดิ์ ครั้งนี้ยึดแนวทางแก้ปัญหาความมั่นคงและการต่างประเทศ ที่นายอนุทิน มอบหมายให้ดำเนินการ โดยใช้มาตรการทางการทหารควบคู่กับการทูต เพื่อรักษาอธิปไตยอย่างสันติ เพื่อผลประโยชน์ของประชาชน โดยเฉพาะในกรณีพิพาทไทย-กัมพูชา ขณะที่นายอนุทิน เชื่อว่า การกล่าวถ้อยแถลงในที่ประชุม UNGA ของนายสีหศักดิ์ ทำให้คนไทยมีความเชื่อมั่นอย่างชัดเจนต่อจุดยืนของรัฐบาล สำหรับนโยบาย 4 เดือน 4 ภารกิจหลัก คืนความมั่นใจให้ประเทศไทย ตามนโยบายรัฐบาลของนายอนุทิน […]

กรมอุตุฯ เตือนฝนถล่มทั่วไทย รับมืออิทธิพลพายุบัวลอย

กทม. 28 ก.ย.- กรมอุตุฯ เตือนทั่วไทยรับมือฝนถล่ม อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง จับตาอิทธิพลพายุไต้ฝุ่น “บัวลอย” คาดเคลื่อนขึ้นฝั่งเวียดนามตอนบน พรุ่งนี้ (29 ก.ย.) กรมอุตุนิยมวิทยาเผยประเทศไทยมีฝนตกหนักหลายพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออก โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดสกลนคร นครพนม อุดรธานี ขอนแก่น กาฬสินธุ์ มุกดาหาร จันทบุรี และตราด ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่าน พื้นที่ลุ่ม และพื้นที่น้ำท่วมขัง เนื่องจากร่องมรสุมกำลังแรงพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังแรง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง พายุไต้ฝุ่น […]

ข่าวแนะนำ

สีสัน! อภิปรายนโยบายรัฐบาลวันแรก

29 ก.ย.- การแถลงนโยบายรัฐบาลวันนี้ เหมือนเป็นการซ้อมศึกซักฟอกย่อย เพราะมีการตอบโต้และตั้งฉายามากมาย ติดตามสีสันการอภิปรายนโยบายฯ วันแรก .-สำนักข่าวไทย

เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดฝนหนักคืนนี้

29 ก.ย.- หลายพื้นที่เฝ้าระวังฝนตกหนัก จากอิทธิพล #พายุบัวลอย เชียงใหม่เปิดประตูระบายน้ำทุกจุด เร่งระบายน้ำปิงลงทะเลสาบดอยเต่า พร่องน้ำในเขื่อนแม่งัดฯ เตรียมรับน้ำฝน คาดตกหนักคืนนี้ ขณะที่ จ.นครราชสีมา น้ำล้นสปิลเวย์ เตือนประชาชนระวังน้ำท่วมฉับพลัน พายุฝนตกกระหน่ำหลายพื้นที่จังหวัดสระแก้ว โดยพื้นที่ ต.บ้านแก้ง อ.เมืองสระแก้ว นายก อบต.บ้านแก้ง พร้อมผู้นำชุมชน และอาสาสมัครกู้ภัย ได้นำเรือเครื่องยนต์ท้องแบน เข้าช่วยเหลือ ตาชู-ยายทองคำ และสุนัข 1 ตัว ออกจากบ้านที่โดนน้ำป่าไหลหลาก เข้าท่วมเกือบมิดหลังคา  มาอยู่ในที่ปลอดภัย ยายทองคำ เล่าว่าเมื่อคืนพักอยู่กับตาและหมา กำลังจะเข้านอนแต่ก็มีฝนตกตลอดทั้งคืน น้ำที่คลองก็ยังไม่เห็นว่าจะขึ้นล้นตลิ่งเท่าไร แต่ก็กังวล จึงเฝ้าดูกระทั่งน้ำไหลมาและเข้าท่วม ตกใจ จึงได้นำสุนัขขึ้นบนบ้าน ส่วนข้าวของก็เก็บไม่ทัน จากนั้นจึงอยู่แต่บนบ้านจนถึงเช้า กู้ภัยมาช่วยนำออกมาจากบ้าน อยู่มาหลายสิบปีไม่เคยเจอแบบนี้มาก่อนเลย  ผู้ว่าฯ เชียงใหม่ เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดตกหนักคืนนี้ เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา หลายพื้นที่เชียงใหม่ เริ่มมีฝนตกลงมาบ้างแล้ว ระดับน้ำในลำน้ำปิงที่ไหลผ่านตัวเมืองเชียงใหม่ ที่จุดวัดพี1 เชิงสะพานนวรัฐ ยังอยู่ที่ 2 เมตร 49 เซนติเมตร ต่ำกว่าจุดวิกฤติแจ้งเตือนที่ […]

แถลงนโยบายวันแรกเดือด ประท้วงกันวุ่น

29 ก.ย.- สภาเดือด! แถลงนโยบายรัฐบาลวันแรก อภิปรายตอบโต้-ประท้วงกันเป็นระยะ เมื่อมีการพาดพิงปมเขากระโดง-ฮั้ว สว. แต่ประธานฯ คุมสถานการณ์ได้ ด้านนายกฯ ไม่กังวลวาทกรรมของฝ่ายค้าน ชี้ประเด็นซ้ำๆ และมีการแถลงข้อเท็จจริงไปแล้ว -สำนักข่าวไทย

ฝ่าดงทุ่นระเบิดเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก “ผลักดัน-รื้อถอน”

29 ก.ย.- ทหารเรือฝ่าดงทุ่นระเบิดเข้าเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก จ.ตราด ผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้าม-รื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง 3 หลัง รุกล้ำเขตอธิปไตยไทย ขณะที่ชาวบ้านหนองจาน จ.สระแก้ว นำอาหารมอบให้ทหารแนวหน้า ยังไม่พบความเคลื่อนไหวผิดปกติ พลเรือเอก จิรพล ว่องวิทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ และพลเรือเอก ไพโรจน์ เฟื่องจันทร์ ว่าที่ ผู้บัญชาการทหารเรือ คนใหม่ มอบหมายพลเรือโทอภิชาติ ทรัพย์ประเสริฐ ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน และผู้บัญชาการกองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรี-ตราด (กกล.กปช.จต.) เข้าเคลียร์พื้นที่ชายแดนบ้านชำราก อันเป็นอธิปไตยของไทย โดยหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินตราด กองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรีตราด จึงได้ผลักดันกองกำลังกัมพูชา ออกจากพื้นที่บริเวณตรงข้ามบ้านหนองรี ตำบลชำราก ไม่มีกำลังฝ่ายกัมพูชาวางกำลังแล้ว ผลจากการปฏิบัติการ บรรลุเป้าหมายสำคัญ คือ สามารถทำลายสิ่งปลูกสร้างทั้ง 3 หลังลงได้อย่างสิ้นเชิง ที่สำคัญที่สุดคือ สามารถผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้ามให้ออกจากพื้นที่รุกล้ำได้อย่างสมบูรณ์ ประชาชนนำอาหารมอบทหารแนวหน้า บ้านหนองจาน จ.สระแก้ว ส่วนที่บ้านหนองจาน จังหวัดสระแก้ว บรรยาศเงียบเหงา แต่ยังคงมีประชาชนเดินทางนำอาหาร เช่น ไข่ไก่ น้ำดื่ม นำมามอบให้กับทหารแนวหน้า ถึงแม้จะไม่คึกคักเหมือนวันก่อนๆ […]