“บิ๊กโจ๊ก” ยัน “ตู้ห่าว” เป็นเจ้าของผับจินหลิง เล็งยึดทรัพย์กว่า 1,000 ล้าน

กรุงเทพฯ 23 พ.ย. – “พล.ต.อ.สุรเชษฐ์” เผยหลักฐานชัด “ตู้ห่าว” เป็นเจ้าของผับจินหลิง ขยายผลยึดทรัพย์กว่า 1,000 ล้านบาท ขณะที่ “ชูวิทย์-สันธนะ” หวิดปะทะกลางสภาฯ


เมื่อเวลา 13.00 น. นายชัยณัฐร์ หรือตู้ห่าว พร้อมทนายความ เดินทางเข้ามอบตัวกับพนักงานสอบสวนชุดคลี่คายคดีนายทุนจีนสีเทา ที่สโมสรตำรวจ ถ.วิภาวดี หลังถูกศาลอาญากรุงเทพใต้ออกหมายจับในฐานความผิดสมคบ โดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไป เพื่อกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด ผู้นั้นสมคบกันกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด, ร่วมกันค้ายาเสพติด และร่วมกันมีวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาทไว้ในความครอบครองเพื่อจำหน่าย

เบื้องต้นเจ้าตัวปฏิเสธว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับยาเสพติด แต่การที่ตำรวจมีหลักฐานในการออกหมายจับนั้นจะให้ทนายความเป็นผู้ชี้แจง รวมถึงเรื่องการประกันตัวจะให้ทนายเป็นผู้ดำเนินการ


เมื่อช่วงเช้าพนักงานสอบสวนนำหมายศาล พร้อมกำลัง เข้าตรวจค้น 2 จุด จุดที่สำคัญคือ บ้านพักหรู ถนนราชพกฤษ์ ย่านตลิ่งชัน ที่เชื่อว่าเป็นแหล่งกบดานของนายตู้ห่าว แต่จากการตรวจค้นไม่พบนายตู้ห่าวอยู่ในบ้านพักหลังดังกล่าว พบเพียง “พ.ต.อ.หญิง” ที่เป็นภรรยาของนายตู้ห่าว แจ้งว่านายตู้ห่าวไม่ได้พักอาศัยอยู่ที่บ้านหลังดังกล่าว แต่ให้ความร่วมมือเจ้าหน้าที่ โดยพยายามติดต่อกับ นายตู้ห่าว ที่พักอยู่ที่อื่น เพื่อประสานให้เข้ามอบตัว ซึ่งมีการนัดหมายจะนำตัวนายตู้ห่าว สามี เข้ามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจในวันนี้ (23 พ.ย.) ส่วนการตรวจสอบในบ้านพักไม่พบสิ่งผิดกฎหมายแต่อย่างใด

“บิ๊กโจ๊ก” ยัน “ตู้ห่าว” เป็นเจ้าของผับจินหลิง เล็งยึดทรัพย์กว่า 1,000 ล้านบาท
พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ แถลงภายหลังจากที่นายตู้ห่าว เข้ามอบตัวว่า สำหรับการจับกุมนายทุนจีนสีเทาและนอมินีครั้งนี้สืบเนื่องมาจากมีกลุ่มนายทุนจีนสีเทา 5 กลุ่ม เข้ามาประกอบธุรกิจสถานบันเทิงในไทย ประกอบด้วย 1.กลุ่มนายตู้ห่าว 2.กลุ่มนายเดวิด 3.กลุ่มนายหยู่ฉางเฟ่ย 4.กลุ่มนายโทนี่ และ 5.กลุ่มนายหมิง ตอนนี้จับกุมแล้ว 3 กลุ่ม คือ นายตู้ห่าว นายเดวิด และนายหยู่ฉางเฟ่ย ส่วนนายโทนี่อยู่ระหว่างจับกุมและกำลังหลบหนีในไทย ส่วนนายหมิงหลบหนีออกนอกประเทศ อยู่ระหว่างการออกหมายจับสากล โดยทั้ง 5 กลุ่มมีความสัมพันธ์รู้จักกัน โดยแต่ละกลุ่มจะแยกย้ายไปทำธุรกิจผับในพื้นที่ต่างๆ เช่น ท็อปวัน ในพื้นที่ สน.สุทธิสาร ที่มีนักท่องเที่ยวจีนเสพยาเกินขนาดและเสียชีวิต รวมทั้งมีการลักทรัพย์ของผู้เสียชีวิตไปทำลายเผาเพื่อหลักฐาน โดยในกลุ่มนี้มีการจับกุมผู้ที่เกี่ยวข้องไปแล้ว 8 ราย ในหลายข้อหา

ส่วนกลุ่มที่ 2 คือ คลับวัน ในพื้นที่เมืองพัทยา โดยมีนอมินีที่เป็นชาวจีน 4 ราย ที่สวมบัตรประชาชนไทย เคยสร้างวีรกรรมด่าผู้ว่าฯ และตำรวจ “ว่ามีการจ่ายเงินแล้วทำไมถึงถูกจับกุม” ซึ่งตำรวจมีการตรวจสอบนำดีเอ็นเอพ่อแม่ของเจ้าของบัตรประชาชนเดิมไปตรวจสอบ แต่ปรากฏว่าไม่มีความเกี่ยวข้องทางเครือญาติ จึงประสานทางการจีนพบว่าผู้ก่อเหตุมีความเกี่ยวข้องทางเครือญาติกับที่ประเทศจีน


ส่วนกลุ่มที่ 3 คือ ผับจินหลิง ที่มีการตรวจสอบและพบยาเสพติดจำนวนมาก โดยตำรวจมีข้อมูลหลักฐานชัดเจนว่านายตู้ห่าวเป็นเจ้าของสถานบันเทิงดังกล่าว จึงมีการออกหมายจับตามข้อหาที่ได้เป็นข่าวไปแล้ว ซึ่งพฤติกรรมที่แสดงความเป็นเจ้าของคือ มีการเข้าออกในสถานที่ดังกล่าวเป็นประจำ และในวันเกิดเหตุนายตู้ห่าวก็อยู่ด้วย นอกจากนี้จากเส้นทางการเงินนายตู้ห่าวมีรายชื่อในการเช่าสถานที่และจ่ายค่าเช่า

ส่วนกลุ่มที่ 4 คือ Baby face ในพื้นที่ สน.ทองหล่อ กลุ่มนี้มีคนไทยเป็นนอมินี เป็นแม่ยายของนายเดวิด โดยตำรวจขอหมายค้นบ้านพบรถยนต์หรู 3 คัน สุรานอก 28 ลัง ปืน 2 กระบอก เงินสด 19 ล้านบาท

วันนี้ตำรวจขอหมายค้นพื้นที่เกี่ยวข้องรวม 4 จุด หนึ่งในนั้นคือบ้านพักของนายตู้ห่าว ซึ่งมีชื่อภรรยายศ พ.ต.อ.หญิง เป็นเจ้าของบ้าน มูลค่าบ้านมากกว่า 200 ล้านบาท ทั้งนี้ ได้ยึดอายัดทรัพย์สินของนายตู้ห่าว ทั้งอสังหาฯ รถยนต์ เงินสด มากกว่า 1,000 ล้านบาท

ที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ตำรวจมีการระดมตรวจค้น 20 จังหวัด 75 จุด จับกุมผู้ต้องหาในเครือข่ายเดียวกัน 93 ราย

หลังจากนี้ตำรวจจะขยายผลตรวจสอบทะเบียนราษฎร์ผู้ที่เกี่ยวข้องในเครือข่าย รวมทั้งเส้นทางการเงิน และเจ้าหน้าที่รัฐที่เกี่ยวข้องทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็น ตม.อุดรธานี ขอนแก่น แพร่ และเชียงใหม่ ว่ามีการอนุญาตให้เปลี่ยนวีซ่าจากนักท่องเที่ยวเป็นวีซ่านักศึกษาได้อย่างไร เนื่องจากผู้ต้องหาบางคนอายุมากกว่า 50 ปี และการจะขอวีซ่านักเรียนได้นั้นต้องมีโรงเรียนรับรอง ซึ่งต้องตรวจสอบโรงเรียนที่เป็นผู้รับรองด้วย

นอกจากนี้ยังพบนายตำรวจระดับ พงส.สน.ยานาวา และรอง ผกก.จร.สน.ลาดพร้าว และรอง ผบก.น.6 ที่เข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องในคดี ในลักษณะการปล่อยตัวผู้ต้องหาสำคัญ และปล่อยรถหรู ซึ่งเป็นของกลางในคดี โดยมีหลักฐานยืนยันว่ามีการแลกรับผลประโยชน์คันละ 2 ล้านบาท จำนวน 4 คัน หลังจากนี้ต้องขยายผลอีกว่ามีใครร่วมขบวนการที่มีตำแหน่งใหญ่กว่ารอง ผบก.น.6 หรือไม่ ส่วนตัวเชื่อว่ามี

สำหรับการตรวจสอบภรรยาของนายตู้ห่าว ถึงเรื่องเงินจำนวน 200 ล้านบาท ที่นำมาซื้อบ้าน เจ้าตัวต้องชี้แจงที่มาของเงินให้ได้ เพราะลำพังเงินเดือนข้าราชการไม่น่าจะมีทรัพย์ขนาดที่จะซื้อบ้านหลังดังกล่าวได้ หากชี้แจงไม่ได้ถือว่ามีความผิด ส่วนที่ว่าภรรยาของนายตู้ห่าวเป็นหลานของอดีต ผบ.ตร. จะมีการช่วยเหลือหรือไม่ ยืนยันว่ามีการคุยกับทุกฝ่าย ซึ่ง ผบ.ตร. และอดีต ผบ.ตร. ยินดีที่จะให้ดำเนินคดีตามหลักฐานที่ปรากฏอย่างตรงไปตรงมา ไม่ได้มีใครมาขอให้ดูแลอะไรเป็นพิเศษ หากพบใครกระทำผิดจะดำเนินคดีทุกราย ไม่มีละเว้น

ภายหลังการสอบปากคำนายตู้ห่าวนานกว่า 3 ชั่วโมง มีการส่งตัวผู้ต้องหาไปสอบปากคำต่อที่ สน.ยานาวา โดยจะมีการคัดค้านการประกันตัวในชั้นพนักงานสอบสวน และในท้ายคำร้องฝากขังจะมีการคัดค้านประกันตัวเช่นเดียวกัน เนื่องจากเป็นคดียาเสพติดที่เกี่ยวกับความมั่นคง

“ชูวิทย์” ร้องสอบเส้นทางการเงิน “สันธนะ”
นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) ยื่นหนังสือต่อ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ประธานคณะกรรมาธิการป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (ป.ป.ช.) ขอให้สอบสวนเส้นทางการเงินนายสันธนะ ประยูรรัตน์ อดีตตำรวจสันติบาล จากที่เห็นอยู่บ้านราคาแพง ภรรยาและลูกมีรถหรู ใช้จ่ายเงินทั้งๆ ที่ถูกไล่ออกจากราชการ โดยอ้างว่าทำงานต่างประเทศ ไม่ทราบว่าอยู่บริษัทอะไร เสียภาษีหรือไม่

นายชูวิทย์ กล่าวว่า สืบเนื่องจากที่ตนได้ออกมาเปิดเผยเรื่องนายทุนจีนสีเทา ซึ่งถือว่าตอนนี้เป็นวาระแห่งชาติ จนวันนี้มีการออกหมายจับ “นายหาว เจ๋อ ตู้” หรือนายตู้ห่าว ถือว่าตนหมดภาระหน้าที่แล้ว และยินดีมอบข้อมูลต่างๆ ที่แสดงถึงทรัพย์สินของกลุ่มทุนจีนสีเทานี้ให้ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ไปทำตามหน้าที่ต่อ แต่ภายหลังจากตนเผยข้อมูลได้ไม่นานมีนายสันธนะที่ตนมองว่าเป็นบุคคลอันตรายต่อสังคม โดยใช้สื่อตีมูลค่าตนเอง เข้ามาที่โรงแรมของตนและป้ายสีว่ามีการมั่วสุมเสพยา มีการอ้างเรื่องอาบอบนวดที่ตนขายไปเมื่อหลายปีก่อน วันนี้ตนจึงยื่น กมธ.ป.ปช. และเชื่อว่าการทำหน้าที่ของ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ จะมีความตรงไปตรงมา ชัดเจน

นายชูวิทย์ กล่าวว่า ได้มอบเอกสารหลักฐานสาเหตุที่ราชการปลดนายสันธนะออกจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งนายสันธนะได้ขออุทธรณ์แต่ฟังไม่ขึ้น จึงมีคำสั่งใหม่ให้ไล่ออกจากราชการเป็นการถูกต้องเหมาะสมแล้ว จากนั้นถูกเรียกคืนเครื่องราชย์ถอดยศทั้งหมด เมื่อปี 61 เหตุผลเพราะเข้าไปแสดงพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมที่ดอนเมือง หลังจากนี้ตนยินดีมาให้ข้อมูลกับ กมธ.ป.ป.ช. ทั้งในกรณีที่ตนมายื่น หรือกรณีที่นายสันธนะจะมายื่นให้สอบตนก็ตาม

นายชูวิทย์ กล่าวต่อว่า ทราบข่าวว่าวันนี้นายสันธนะจะมายื่นหนังสือที่นี่ ตนจะรอ สังเกตมาหลายครั้งแล้วเมื่อตนไปที่ใด นายสันธนะจะตามมาทีหลังเสมอ ตนจึงมีของมาฝาก คือเกมแกะน้ำตาล ที่เป็นเกมในซีรีย์เรื่อง squid Game ไปให้เล่น เพราะชีวิตนายสันธนะอยู่บนเส้นด้ายแล้ว อีกทั้งนายสันธนะไม่คำนึงถึงศักดิ์ศรีขององค์กรเก่า พฤติกรรมแบบนี้ตำรวจด้วยกันก็ไม่เอาด้วย ตนไม่ได้อาศัยสภาฯ แห่งนี้มาพูดถึงพฤติกรรมของนายสันธนะ แต่พูดถึงข้อเท็จจริง

ด้าน พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าวว่า นายชูวิทย์ทำอะไรก็ประสบความสำเร็จ การเปิดอาบอบนวดก็ไม่ได้ผิดกฎหมาย แต่อาจจะผิดเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด ยอมรับนายชูวิทย์เป็นคนแน่ที่จะกล้าพบกับนายสันธนะ เพื่อพิสูจน์ความจริง ถ้ามาสร้างปัญหาภายในสภาฯ ก็เป็นหน้าที่ของตำรวจสภาฯ ในการดูแลความเรียบร้อย และส่งมอบให้ตำรวจท้องที่ดำเนินการต่อ ซึ่งตนได้สั่งการไว้แล้ว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายชูวิทย์ยังเปิดหลักฐานที่เกี่ยวข้องกับ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ต่อหน้าสื่อมวลชนถึงเที่ยวบินที่เดินทางไป จ.ร้อยเอ็ด อีกทั้งยังกล่าวถึงเส้นทางการเงินของนายตู้ห่าว โดยเฉพาะการบริจาคเงินให้พรรคพลังประชารัฐ 3 ล้านบาท จะมีความเกี่ยวข้องอย่างไร กับใครบ้าง เป็นหน้าที่ของทางการที่จะต้องตรวจสอบ

ตร.ยืนกั้น “ชูวิทย์-สันธนะ” หวั่นปะทะกันที่สภาฯ
นายสันธนะ ประยูรรัตน์ อดีตตำรวจสันติบาล เดินทางมายังอาคารรัฐสภา นำชาวบ้านย่านพระโขนงที่ถูกดำเนินคดีจากเจ้าหน้าที่โดยมิชอบฐานบุกรุก กรณีข้อพิพาทที่ดิน โดยร้องเรียนต่อคณะกรรมาธิการ ป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ สภาผู้แทนราษฎร โดยมีนายสุทา ประทีบ ณ ถลาง รองประธาน กมธ.ป.ป.ช. เป็นผู้รับหนังสือ

ก่อนที่นายสันธนะจะมาถึงบริเวณจุดยื่นหนังสืออาคารรัฐสภา นายชูวิทย์ที่เดินทางมายื่นหนังสือร้องเรียนต่อ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ประธาน กมธ.ป.ป.ช. ให้ตรวจสอบเส้นทางการเงินของนายสันธนะ ได้มายืนรอพบนายสันธนะ และทันทีที่นายสันธนะปรากฏตัว นายชูวิทย์ตะโกนถามว่า “ใส่กระโปรงมาหรือเปล่าให้ถอดมาเลย จะเดินหนีทำไม ชอบตีกินไปเรื่อย เก่งทุกอย่าง รู้ทุกเรื่อง ขอให้นายสันธนะเดินเข้ามาหาตน สัญญาต่อหน้าตำรวจว่าไม่ทำอะไร ไม่ต้องกลัว ทำต่อหน้าดีกว่า อย่าเก่งลับหลัง” แต่นายสันธนะไม่ได้เดินเข้าไปหานายชูวิทย์ เพียงยืนให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนห่างกันประมาณ 10 เมตร ท่ามกลางตำรวจจาก สน.บางโพ และตำรวจประจำรัฐสภา ยืนกั้นกลางเพื่อป้องกันการเผชิญหน้า

นายสันธนะ ให้สัมภาษณ์ยืนยันไม่ได้ตั้งใจตามนายชูวิทย์มาที่อาคารรัฐสภา เพื่อยั่วยุ แต่มีนัดหมายล่วงหน้าอยู่แล้ว แต่เชื่อว่านายชูวิทย์ทราบว่าการเดินทางมาที่รัฐสภา เจ้าหน้าที่ไม่ปล่อยให้เกิดการปะทะกันอยู่แล้ว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายชูวิทย์ยืนรอนายสันธนะร่วม 40 นาที ก่อนเดินทางกลับโดยไม่มีเหตุความรุนแรง อย่างไรก็ตาม ก่อนกลับนายชูวิทย์ได้แตะบ่าเจ้าหน้าที่ตำรวจและกล่าวชื่นชมที่มาดูแลรักษาความปลอดภัย ขอบใจมาก วันนี้คงไม่ต้องบอกว่าตนเป็นคนดีหรือใครเป็นคนเลว ขอให้ดูเอาแล้วกัน อย่างน้อยสังคมบ้าแบบนี้ ต้องมีคนที่พูดความจริง เอาเรื่องจริงมาพูด ไม่อย่างนั้นสังคมนี้จะอยู่ไม่ได้ คนแบบนี้ต้องจัดการ.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่มซิ่งกระบะชนเสาไฟฟ้าล้มขวางถนน 12 ต้น

ชลบุรี 28 ก.ย. – หนุ่มซิ่งกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรตลอดทั้งวัน คาดจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) รถกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน ต.บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น เป็นเสาไฟฟ้าแรงสูง 6 ต้น เสาไฟฟ้าสูง 12 เมตร อีก 6 ต้น ระยะทาง 500 เมตร โชคดีนายสิทธิพงษ์ อายุ 41 ปี คนขับ บาดเจ็บเล็กน้อย แต่ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรบนถนนสายบึง-บ่อวิน ตลอดทั้งวัน คาดว่าจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) จากการสอบสวนทราบว่า นายสิทธิพงษ์ เพิ่งเลิกงาน ขับรถกลับบ้านด้วยความเร็ว อาจหลับใน ทำให้รถเปลี่ยนเลนข้ามไปชนกับเสาไฟฟ้าอีกฝั่ง ส่วนความเสียหายยังประเมินค่าไม่ได้.-สำนักข่าวไทย

“อนุทิน” ร่วมงานศพพ่อ “อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้า ภท.

ราชบุรี 28 ก.ย.- “อนุทิน” ร่วมสวดอภิธรรมศพพ่อ “สส.อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้าภูมิใจไทย ลั่นได้ส่งจิตขออนุญาตคุณพ่อแล้ว นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตาีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วยนายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายศักดา วิเชียรศิลป์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นายสรอรรถ กลิ่นประทุม อดีต สส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย ได้ร่วมไว้อาลัยและสวดอภิธรรมศพ คุณพ่อวุฒิพงศ์ วงษ์พิทักษ์โรจน์ บิดาของนายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สส.ราชบุรี พรรครวมไทยสร้างชาติ เมื่อค่ำวันที่ 27 ก.ย. ที่จังหวัดราชบุรี โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี หัวหน้าส่วนราชการ และประชาชนกว่า 2,000 ร่วมพิธีโดยเป็นการสวดอภิธรรมเป็นคืนที่ 4 และจะมีพิธีบรรจุศพในวันที่ 30 ก.ย. นี้ ในช่วงท้าย นายอนุทิน ได้กล่าวกับผู้ที่ร่วมสวดอภิธรรมศพ ว่า ตนเองมีความสนิทสนมกับ นายอัครเดช มาหลายปีแล้ว นายอัครเดชเป็นคนมีความวิริยะอุสาหะ ตั้งใจทำงานให้พี่น้องประชาชน ตนมีความชื่นชมและศรัทธา ในความขัยนขันแข็งของท่าน ยิ่งไปกว่านั้นการปฏิบัติหน้าที่ในสภาผู้แทนราษฎร ท่านก็ทำหน้าที่ได้ดีเป็นดาวสภา […]

โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA

กรุงเทพฯ 28 ก.ย. – โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA หลัง “อนุทิน” มอบดาบการทูตสู้กัมพูชา ขณะนายกฯ ย้ำยึดสันติในการแก้ปัญหา เพื่อประโยชน์ของประเทศ ภายหลังจากที่นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวในเวทีการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ หรือ UNGA สมัยสามัญ ครั้งที่ 80 ที่นครนิวยอร์ก ทำให้กระแสโซเชียลในประเทศไทย พึงพอใจกับการทำหน้าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ในรัฐบาลของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี เป็นอย่างมาก ทั้งนี้ การเดินทางไปเวที UNGA ของนายสีหศักดิ์ ครั้งนี้ยึดแนวทางแก้ปัญหาความมั่นคงและการต่างประเทศ ที่นายอนุทิน มอบหมายให้ดำเนินการ โดยใช้มาตรการทางการทหารควบคู่กับการทูต เพื่อรักษาอธิปไตยอย่างสันติ เพื่อผลประโยชน์ของประชาชน โดยเฉพาะในกรณีพิพาทไทย-กัมพูชา ขณะที่นายอนุทิน เชื่อว่า การกล่าวถ้อยแถลงในที่ประชุม UNGA ของนายสีหศักดิ์ ทำให้คนไทยมีความเชื่อมั่นอย่างชัดเจนต่อจุดยืนของรัฐบาล สำหรับนโยบาย 4 เดือน 4 ภารกิจหลัก คืนความมั่นใจให้ประเทศไทย ตามนโยบายรัฐบาลของนายอนุทิน […]

กรมอุตุฯ เตือนฝนถล่มทั่วไทย รับมืออิทธิพลพายุบัวลอย

กทม. 28 ก.ย.- กรมอุตุฯ เตือนทั่วไทยรับมือฝนถล่ม อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง จับตาอิทธิพลพายุไต้ฝุ่น “บัวลอย” คาดเคลื่อนขึ้นฝั่งเวียดนามตอนบน พรุ่งนี้ (29 ก.ย.) กรมอุตุนิยมวิทยาเผยประเทศไทยมีฝนตกหนักหลายพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออก โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดสกลนคร นครพนม อุดรธานี ขอนแก่น กาฬสินธุ์ มุกดาหาร จันทบุรี และตราด ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่าน พื้นที่ลุ่ม และพื้นที่น้ำท่วมขัง เนื่องจากร่องมรสุมกำลังแรงพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังแรง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง พายุไต้ฝุ่น […]

ข่าวแนะนำ

สีสัน! อภิปรายนโยบายรัฐบาลวันแรก

29 ก.ย.- การแถลงนโยบายรัฐบาลวันนี้ เหมือนเป็นการซ้อมศึกซักฟอกย่อย เพราะมีการตอบโต้และตั้งฉายามากมาย ติดตามสีสันการอภิปรายนโยบายฯ วันแรก .-สำนักข่าวไทย

เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดฝนหนักคืนนี้

29 ก.ย.- หลายพื้นที่เฝ้าระวังฝนตกหนัก จากอิทธิพล #พายุบัวลอย เชียงใหม่เปิดประตูระบายน้ำทุกจุด เร่งระบายน้ำปิงลงทะเลสาบดอยเต่า พร่องน้ำในเขื่อนแม่งัดฯ เตรียมรับน้ำฝน คาดตกหนักคืนนี้ ขณะที่ จ.นครราชสีมา น้ำล้นสปิลเวย์ เตือนประชาชนระวังน้ำท่วมฉับพลัน พายุฝนตกกระหน่ำหลายพื้นที่จังหวัดสระแก้ว โดยพื้นที่ ต.บ้านแก้ง อ.เมืองสระแก้ว นายก อบต.บ้านแก้ง พร้อมผู้นำชุมชน และอาสาสมัครกู้ภัย ได้นำเรือเครื่องยนต์ท้องแบน เข้าช่วยเหลือ ตาชู-ยายทองคำ และสุนัข 1 ตัว ออกจากบ้านที่โดนน้ำป่าไหลหลาก เข้าท่วมเกือบมิดหลังคา  มาอยู่ในที่ปลอดภัย ยายทองคำ เล่าว่าเมื่อคืนพักอยู่กับตาและหมา กำลังจะเข้านอนแต่ก็มีฝนตกตลอดทั้งคืน น้ำที่คลองก็ยังไม่เห็นว่าจะขึ้นล้นตลิ่งเท่าไร แต่ก็กังวล จึงเฝ้าดูกระทั่งน้ำไหลมาและเข้าท่วม ตกใจ จึงได้นำสุนัขขึ้นบนบ้าน ส่วนข้าวของก็เก็บไม่ทัน จากนั้นจึงอยู่แต่บนบ้านจนถึงเช้า กู้ภัยมาช่วยนำออกมาจากบ้าน อยู่มาหลายสิบปีไม่เคยเจอแบบนี้มาก่อนเลย  ผู้ว่าฯ เชียงใหม่ เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดตกหนักคืนนี้ เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา หลายพื้นที่เชียงใหม่ เริ่มมีฝนตกลงมาบ้างแล้ว ระดับน้ำในลำน้ำปิงที่ไหลผ่านตัวเมืองเชียงใหม่ ที่จุดวัดพี1 เชิงสะพานนวรัฐ ยังอยู่ที่ 2 เมตร 49 เซนติเมตร ต่ำกว่าจุดวิกฤติแจ้งเตือนที่ […]

แถลงนโยบายวันแรกเดือด ประท้วงกันวุ่น

29 ก.ย.- สภาเดือด! แถลงนโยบายรัฐบาลวันแรก อภิปรายตอบโต้-ประท้วงกันเป็นระยะ เมื่อมีการพาดพิงปมเขากระโดง-ฮั้ว สว. แต่ประธานฯ คุมสถานการณ์ได้ ด้านนายกฯ ไม่กังวลวาทกรรมของฝ่ายค้าน ชี้ประเด็นซ้ำๆ และมีการแถลงข้อเท็จจริงไปแล้ว -สำนักข่าวไทย

ฝ่าดงทุ่นระเบิดเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก “ผลักดัน-รื้อถอน”

29 ก.ย.- ทหารเรือฝ่าดงทุ่นระเบิดเข้าเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก จ.ตราด ผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้าม-รื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง 3 หลัง รุกล้ำเขตอธิปไตยไทย ขณะที่ชาวบ้านหนองจาน จ.สระแก้ว นำอาหารมอบให้ทหารแนวหน้า ยังไม่พบความเคลื่อนไหวผิดปกติ พลเรือเอก จิรพล ว่องวิทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ และพลเรือเอก ไพโรจน์ เฟื่องจันทร์ ว่าที่ ผู้บัญชาการทหารเรือ คนใหม่ มอบหมายพลเรือโทอภิชาติ ทรัพย์ประเสริฐ ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน และผู้บัญชาการกองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรี-ตราด (กกล.กปช.จต.) เข้าเคลียร์พื้นที่ชายแดนบ้านชำราก อันเป็นอธิปไตยของไทย โดยหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินตราด กองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรีตราด จึงได้ผลักดันกองกำลังกัมพูชา ออกจากพื้นที่บริเวณตรงข้ามบ้านหนองรี ตำบลชำราก ไม่มีกำลังฝ่ายกัมพูชาวางกำลังแล้ว ผลจากการปฏิบัติการ บรรลุเป้าหมายสำคัญ คือ สามารถทำลายสิ่งปลูกสร้างทั้ง 3 หลังลงได้อย่างสิ้นเชิง ที่สำคัญที่สุดคือ สามารถผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้ามให้ออกจากพื้นที่รุกล้ำได้อย่างสมบูรณ์ ประชาชนนำอาหารมอบทหารแนวหน้า บ้านหนองจาน จ.สระแก้ว ส่วนที่บ้านหนองจาน จังหวัดสระแก้ว บรรยาศเงียบเหงา แต่ยังคงมีประชาชนเดินทางนำอาหาร เช่น ไข่ไก่ น้ำดื่ม นำมามอบให้กับทหารแนวหน้า ถึงแม้จะไม่คึกคักเหมือนวันก่อนๆ […]