ยึดทรัพย์เครือข่ายยาเสพติด “มินมินอู” เพิ่มกว่า 93 ล้านบาท

บช.น. 19 ส.ค.- ผบช.น. แถลงผลการยึดทรัพย์ขบวนการค้ายาเสพติดเครือข่าย “มินมินอู” เพิ่มอีกกว่า 93 ล้านบาท โดยก่อนหน้านี้อายัดไปแล้ว 385 ล้านบาท พบแผนฟอกเงิน เตรียมสร้างสถานบริการใจกลางเมืองธุรกิจเพื่อรองรับทัวร์จีน


เมื่อเวลา 13.30 น. พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล พร้อมด้วยนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่และเจ้าหน้าที่จากสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด แถลงผลการตรวจยึดทรัพย์เครือข่ายยาเสพติดมิน​มินอู เมื่อช่วงเช้ามืดที่ผ่านมา ย่านศรีนครินทร์

ผู้บัญชาการตำรวจนครบาลกล่าวว่า การปิดล้อมตรวจค้นและยึดทรัพย์เครือข่ายยาเสพติดครั้งนี้เป็นไปตามนโยบายของรัฐบาลที่ต้องการปราบปรามเครือข่ายยาเสพติดในพื้นที่กรุงเทพฯ โดยเฉพาะกลุ่มเครือข่ายมินมินอู ซึ่งถือว่าเป็นเครือข่ายค้ายาเสพติดรายสำคัญในพื้นที่กรุงเทพมหานคร​ และยังเชื่อมโยงกับเครื่อข่ายค้ายาในทุกภูมิภาคของไทย และยังเชื่อมโยงไปอีกหลายประเทศ และถูกจับกุมไปแล้ว


โดยเป็นการจับกุมเครือข่ายค้าและลำเลียงยาเสพติดจากปี 63 ต่อเนื่องถึงปลายปี 64 รวม 8 คดี และจากการสืบสวนขยายผล 6 ผู้ต้องหาตรวจการใหญ่ เป็นชาวจีน 1 คน และชาวเมียนมา 3 คน ตำรวจจึงออกหมายจับทั้ง 4 คน ประกอบด้วย มินมินอู ชาวจีน ถูกจับกุมตัวและศาลพิพากษาลงโทษจำคุก ส่วนอีก 3 คนสันชาติเมียนมา คือ ทะมิอ่อง, ตอดาลิน, อ่องมิวเมียน ยังจับตัวไม่ได้

ก่อนหน้านี้สำหรับเครือข่ายมินมินอู ถูกจับกุมตัวได้ทั้งหมด 22 คน ยึดของกลางเป็นยาบ้าได้ถึง 22 ล้านเม็ด ยาไอซ์อีก 600 กิโลกรัม และพร้อมอายัดทรัพย์ไปแล้ว 385 ล้านบาท อาทิ คอนโดมิเนียม และสัญญาเช่าคอนโดมิเนียม 127 ล้านบาท เงินสดในบัญชีธนาคาร 73 ล้านบาท บ้านหรูมูลค่า 180 ล้านบาท จากการสอบสวนและตรวจสอบเส้นทางการเงินตาม พ.ร.บ.ฟอกเงิน พบเครือข่ายนี้ยังมีทรัพย์สินที่ได้มาจากการค้ายาเสพติดมากถึง 1,000 ล้านบาท ตำรวจร่วมกับ ป.ป.ส.จึงดำเนินการขอหมายศาลเข้ายึดทรัพย์เพิ่มเติม หลังศาลชั้นต้น​พิพากษา​จำคุกจังเลยทั้ง 22 คน ตาม พ.ร.บ.ยาเสพติด และมีคำสั่งยึดทรัพย์

สำหรับการยึดทรัพย์กระบวนการค้ายารายนี้รวม 13 จุด 3 จุดแรกเป็นบ้านพักหรู 3 หลัง ส่วนอีก 10 จุด เป็นสถานที่ตั้งของบริษัทห้างร้านและกลุ่มบุคคลที่รับจ้างเป็นนอมินี ซึ่งพักอาศัยอยู่ ในกรุงเทพฯ และปริมณฑล สามารถยึดทรัพย์สินได้เพิ่มเติมอีก 93 ล้านบาท ประกอบด้วย เงินสด สกุลเงินบาทจำนวน 4.2 ล้าน บาท, เงินดอลลาร์สหรัฐ 70,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 2.45 ล้านบาท, รถตู้อัลพาร์ด​ 1 คัน, ตู้เซฟ 3 ตู้, โฉนดคอนโดมิเนียม 19 ห้อง, สมุดบัญชีเงินฝากธนาคาร 4 ธนาคาร รวม 53 เล่ม ทั้งหมดเป็นบัญชี​ม้า และพาสปอร์ตอีกจำนวน 16 เล่ม เจ้าของเป็นคนจีนทั้งสิ้น ในระหว่างการตรวจค้นพบตัวเพียง 4 คน


สำหรับขบวนการค้ายาเสพติดมินมินอู ถูกจับกุมมาตั้งแต่ปี 63 ต่อเนื่องถึง 64 รวม 8 คดี และจากการสืบสวนขยายผลขบวนการนี้มีตัวการใหญ่ 4 คน เป็น ผู้ผลิตยา 3 คน สัญชาติเมียนมา ประกอบด้วย นายมินมินอู ถูกจับกุมและศาลพิพากษาลงโทษจำคุก และมีคำสั่งยึดทรัพย์ในวันนี้ อีก 2 คนยัง​จับไม่ได้ คือ นายทะมิอ่อง, นายตอดาลิน และอีกคนคือผู้บงการ​ใหญ่​ เป็นคนจีนทราบชื่อ นายอ่องมิวเมียน ซึ่งยังจับตัวไม่ได้เช่นกัน

สำหรับขบวนการนี้เริ่มต้นขบวนการจากนายทุนชาวจีนคนหนึ่ง ผู้บงการใหญ่ สั่ง 3 ผู้ผลิตยาสัญชาติเมียนมา คือ มินมินอู, ทะมิอ่อง และตอดาลิน ผลิตยา และส่งขายให้ขบวนการค้ายาในไทย เมื่อทั้งสามคนได้เงินก็จะโอนเงินต่อไปให้กับนายทุนคนจีน จากนั้นจะทำการว่าจ้างกลุ่มคนไทยและคนจีนที่เข้ามาพักอาศัยในประเทศไทย เป็นนอมินีรับทำธุรกรรมทางด้านการเงิน และกว้านซื้ออสังหาริมทรัพย์ ทั้งคอนโดมิเนียม บ้านพักสุดหรู และที่สำคัญซื้อที่ดินในพื้นที่ธุรกิจ เตรียมเปิดกิจการโรงแรม ร้านอาหาร รวมถึงสถานบริการประเภทอาบอบนวด รองรับทัวร์จีนอีกทอด ซึ่งเป็นกลไกการฟอกเงินที่ส่งผลกระทบต่อความมั่นคงของประเทศไทยเป็นอย่างมาก

ผู้บัญชาการตำรวจนครบาลยังกล่าวอีกว่า เตรียมขยายผลจับกลุ่มผู้รับจ้างเปิดบัญชีม้าทั้ง 53 บัญชี ตาม พ.ร.บ.ยาเสพติดใหม่.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่มซิ่งกระบะชนเสาไฟฟ้าล้มขวางถนน 12 ต้น

ชลบุรี 28 ก.ย. – หนุ่มซิ่งกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรตลอดทั้งวัน คาดจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) รถกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน ต.บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น เป็นเสาไฟฟ้าแรงสูง 6 ต้น เสาไฟฟ้าสูง 12 เมตร อีก 6 ต้น ระยะทาง 500 เมตร โชคดีนายสิทธิพงษ์ อายุ 41 ปี คนขับ บาดเจ็บเล็กน้อย แต่ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรบนถนนสายบึง-บ่อวิน ตลอดทั้งวัน คาดว่าจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) จากการสอบสวนทราบว่า นายสิทธิพงษ์ เพิ่งเลิกงาน ขับรถกลับบ้านด้วยความเร็ว อาจหลับใน ทำให้รถเปลี่ยนเลนข้ามไปชนกับเสาไฟฟ้าอีกฝั่ง ส่วนความเสียหายยังประเมินค่าไม่ได้.-สำนักข่าวไทย

“อนุทิน” ร่วมงานศพพ่อ “อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้า ภท.

ราชบุรี 28 ก.ย.- “อนุทิน” ร่วมสวดอภิธรรมศพพ่อ “สส.อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้าภูมิใจไทย ลั่นได้ส่งจิตขออนุญาตคุณพ่อแล้ว นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตาีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วยนายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายศักดา วิเชียรศิลป์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นายสรอรรถ กลิ่นประทุม อดีต สส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย ได้ร่วมไว้อาลัยและสวดอภิธรรมศพ คุณพ่อวุฒิพงศ์ วงษ์พิทักษ์โรจน์ บิดาของนายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สส.ราชบุรี พรรครวมไทยสร้างชาติ เมื่อค่ำวันที่ 27 ก.ย. ที่จังหวัดราชบุรี โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี หัวหน้าส่วนราชการ และประชาชนกว่า 2,000 ร่วมพิธีโดยเป็นการสวดอภิธรรมเป็นคืนที่ 4 และจะมีพิธีบรรจุศพในวันที่ 30 ก.ย. นี้ ในช่วงท้าย นายอนุทิน ได้กล่าวกับผู้ที่ร่วมสวดอภิธรรมศพ ว่า ตนเองมีความสนิทสนมกับ นายอัครเดช มาหลายปีแล้ว นายอัครเดชเป็นคนมีความวิริยะอุสาหะ ตั้งใจทำงานให้พี่น้องประชาชน ตนมีความชื่นชมและศรัทธา ในความขัยนขันแข็งของท่าน ยิ่งไปกว่านั้นการปฏิบัติหน้าที่ในสภาผู้แทนราษฎร ท่านก็ทำหน้าที่ได้ดีเป็นดาวสภา […]

โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA

กรุงเทพฯ 28 ก.ย. – โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA หลัง “อนุทิน” มอบดาบการทูตสู้กัมพูชา ขณะนายกฯ ย้ำยึดสันติในการแก้ปัญหา เพื่อประโยชน์ของประเทศ ภายหลังจากที่นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวในเวทีการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ หรือ UNGA สมัยสามัญ ครั้งที่ 80 ที่นครนิวยอร์ก ทำให้กระแสโซเชียลในประเทศไทย พึงพอใจกับการทำหน้าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ในรัฐบาลของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี เป็นอย่างมาก ทั้งนี้ การเดินทางไปเวที UNGA ของนายสีหศักดิ์ ครั้งนี้ยึดแนวทางแก้ปัญหาความมั่นคงและการต่างประเทศ ที่นายอนุทิน มอบหมายให้ดำเนินการ โดยใช้มาตรการทางการทหารควบคู่กับการทูต เพื่อรักษาอธิปไตยอย่างสันติ เพื่อผลประโยชน์ของประชาชน โดยเฉพาะในกรณีพิพาทไทย-กัมพูชา ขณะที่นายอนุทิน เชื่อว่า การกล่าวถ้อยแถลงในที่ประชุม UNGA ของนายสีหศักดิ์ ทำให้คนไทยมีความเชื่อมั่นอย่างชัดเจนต่อจุดยืนของรัฐบาล สำหรับนโยบาย 4 เดือน 4 ภารกิจหลัก คืนความมั่นใจให้ประเทศไทย ตามนโยบายรัฐบาลของนายอนุทิน […]

กรมอุตุฯ เตือนฝนถล่มทั่วไทย รับมืออิทธิพลพายุบัวลอย

กทม. 28 ก.ย.- กรมอุตุฯ เตือนทั่วไทยรับมือฝนถล่ม อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง จับตาอิทธิพลพายุไต้ฝุ่น “บัวลอย” คาดเคลื่อนขึ้นฝั่งเวียดนามตอนบน พรุ่งนี้ (29 ก.ย.) กรมอุตุนิยมวิทยาเผยประเทศไทยมีฝนตกหนักหลายพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออก โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดสกลนคร นครพนม อุดรธานี ขอนแก่น กาฬสินธุ์ มุกดาหาร จันทบุรี และตราด ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่าน พื้นที่ลุ่ม และพื้นที่น้ำท่วมขัง เนื่องจากร่องมรสุมกำลังแรงพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังแรง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง พายุไต้ฝุ่น […]

ข่าวแนะนำ

สีสัน! อภิปรายนโยบายรัฐบาลวันแรก

29 ก.ย.- การแถลงนโยบายรัฐบาลวันนี้ เหมือนเป็นการซ้อมศึกซักฟอกย่อย เพราะมีการตอบโต้และตั้งฉายามากมาย ติดตามสีสันการอภิปรายนโยบายฯ วันแรก .-สำนักข่าวไทย

เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดฝนหนักคืนนี้

29 ก.ย.- หลายพื้นที่เฝ้าระวังฝนตกหนัก จากอิทธิพล #พายุบัวลอย เชียงใหม่เปิดประตูระบายน้ำทุกจุด เร่งระบายน้ำปิงลงทะเลสาบดอยเต่า พร่องน้ำในเขื่อนแม่งัดฯ เตรียมรับน้ำฝน คาดตกหนักคืนนี้ ขณะที่ จ.นครราชสีมา น้ำล้นสปิลเวย์ เตือนประชาชนระวังน้ำท่วมฉับพลัน พายุฝนตกกระหน่ำหลายพื้นที่จังหวัดสระแก้ว โดยพื้นที่ ต.บ้านแก้ง อ.เมืองสระแก้ว นายก อบต.บ้านแก้ง พร้อมผู้นำชุมชน และอาสาสมัครกู้ภัย ได้นำเรือเครื่องยนต์ท้องแบน เข้าช่วยเหลือ ตาชู-ยายทองคำ และสุนัข 1 ตัว ออกจากบ้านที่โดนน้ำป่าไหลหลาก เข้าท่วมเกือบมิดหลังคา  มาอยู่ในที่ปลอดภัย ยายทองคำ เล่าว่าเมื่อคืนพักอยู่กับตาและหมา กำลังจะเข้านอนแต่ก็มีฝนตกตลอดทั้งคืน น้ำที่คลองก็ยังไม่เห็นว่าจะขึ้นล้นตลิ่งเท่าไร แต่ก็กังวล จึงเฝ้าดูกระทั่งน้ำไหลมาและเข้าท่วม ตกใจ จึงได้นำสุนัขขึ้นบนบ้าน ส่วนข้าวของก็เก็บไม่ทัน จากนั้นจึงอยู่แต่บนบ้านจนถึงเช้า กู้ภัยมาช่วยนำออกมาจากบ้าน อยู่มาหลายสิบปีไม่เคยเจอแบบนี้มาก่อนเลย  ผู้ว่าฯ เชียงใหม่ เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดตกหนักคืนนี้ เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา หลายพื้นที่เชียงใหม่ เริ่มมีฝนตกลงมาบ้างแล้ว ระดับน้ำในลำน้ำปิงที่ไหลผ่านตัวเมืองเชียงใหม่ ที่จุดวัดพี1 เชิงสะพานนวรัฐ ยังอยู่ที่ 2 เมตร 49 เซนติเมตร ต่ำกว่าจุดวิกฤติแจ้งเตือนที่ […]

แถลงนโยบายวันแรกเดือด ประท้วงกันวุ่น

29 ก.ย.- สภาเดือด! แถลงนโยบายรัฐบาลวันแรก อภิปรายตอบโต้-ประท้วงกันเป็นระยะ เมื่อมีการพาดพิงปมเขากระโดง-ฮั้ว สว. แต่ประธานฯ คุมสถานการณ์ได้ ด้านนายกฯ ไม่กังวลวาทกรรมของฝ่ายค้าน ชี้ประเด็นซ้ำๆ และมีการแถลงข้อเท็จจริงไปแล้ว -สำนักข่าวไทย

ฝ่าดงทุ่นระเบิดเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก “ผลักดัน-รื้อถอน”

29 ก.ย.- ทหารเรือฝ่าดงทุ่นระเบิดเข้าเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก จ.ตราด ผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้าม-รื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง 3 หลัง รุกล้ำเขตอธิปไตยไทย ขณะที่ชาวบ้านหนองจาน จ.สระแก้ว นำอาหารมอบให้ทหารแนวหน้า ยังไม่พบความเคลื่อนไหวผิดปกติ พลเรือเอก จิรพล ว่องวิทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ และพลเรือเอก ไพโรจน์ เฟื่องจันทร์ ว่าที่ ผู้บัญชาการทหารเรือ คนใหม่ มอบหมายพลเรือโทอภิชาติ ทรัพย์ประเสริฐ ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน และผู้บัญชาการกองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรี-ตราด (กกล.กปช.จต.) เข้าเคลียร์พื้นที่ชายแดนบ้านชำราก อันเป็นอธิปไตยของไทย โดยหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินตราด กองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรีตราด จึงได้ผลักดันกองกำลังกัมพูชา ออกจากพื้นที่บริเวณตรงข้ามบ้านหนองรี ตำบลชำราก ไม่มีกำลังฝ่ายกัมพูชาวางกำลังแล้ว ผลจากการปฏิบัติการ บรรลุเป้าหมายสำคัญ คือ สามารถทำลายสิ่งปลูกสร้างทั้ง 3 หลังลงได้อย่างสิ้นเชิง ที่สำคัญที่สุดคือ สามารถผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้ามให้ออกจากพื้นที่รุกล้ำได้อย่างสมบูรณ์ ประชาชนนำอาหารมอบทหารแนวหน้า บ้านหนองจาน จ.สระแก้ว ส่วนที่บ้านหนองจาน จังหวัดสระแก้ว บรรยาศเงียบเหงา แต่ยังคงมีประชาชนเดินทางนำอาหาร เช่น ไข่ไก่ น้ำดื่ม นำมามอบให้กับทหารแนวหน้า ถึงแม้จะไม่คึกคักเหมือนวันก่อนๆ […]