ไทยชี้แจงสถานการณ์ชายแดนต่อยูเอ็นเอสซี

นิวยอร์ก, 26 ก.ค. – คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ หรือ ยูเอ็นเอสซี (UNSC) เปิดประชุมส่วนตัวเมื่อวานนี้ ที่สำนักงานใหญ่ในนครนิวยอร์ค ภายใต้หัวข้อวาระ “ภัยคุกคามต่อสันติภาพและความมั่นคงระหว่างประเทศ” นายเชิดชาย ใช้ไววิทย์ เอกอัครราชทูตและผู้แทนถาวรของประเทศไทยประจำสหประชาชาติ ได้แถลงชี้แจงสถานการณ์ความขัดแย้งบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชาอย่างละเอียด โดยเน้นย้ำถึงการกระทำที่ยั่วยุของกัมพูชา และความจำเป็นที่ไทยต้องป้องกันตนเองตามหลักกฎหมายระหว่างประเทศ นายเชิดชาย เริ่มต้นด้วยการแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งที่ต้องมากล่าวต่อที่ประชุมภายใต้สถานการณ์ที่ร้ายแรงที่สุด โดยระบุว่า การรุกรานที่ไม่ได้เกิดจากการยั่วยุ จากฝ่ายกัมพูชานั้น คุกคามอธิปไตย บูรณภาพแห่งดินแดน และที่สำคัญที่สุดคือชีวิตพลเรือนผู้บริสุทธิ์ของประเทศไทย ซึ่งเป็นประเทศที่มุ่งมั่นในสันติภาพ เอกอัครราชทูตไทยเน้นย้ำว่า ประเทศไทยถือว่ากัมพูชาเป็นเพื่อนบ้านที่ใกล้ชิดและเป็นสมาชิกในครอบครัวอาเซียนเสมอมา ไทยได้ให้การสนับสนุนกระบวนการสันติภาพ การสร้างชาติ และการพัฒนาของกัมพูชามาโดยตลอดนับตั้งแต่การได้รับเอกราชในปี 2496 แต่ก็ยอมรับว่าในฐานะเพื่อนบ้านย่อมมีความท้าทายและความไม่เห็นด้วย ซึ่งควรแก้ไขด้วยการเจรจา ไม่ใช่ความรุนแรง นายเชิดชาย กล่าวถึงเหตุการณ์ปะทะเล็กน้อยเมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม โดยระบุว่ากองกำลังไทยกำลังลาดตระเวนตามปกติในเขตแดนไทย และถูกบังคับให้ต้องป้องกันตนเองจากการยิงที่ไม่ได้มาจากการยั่วยุ จากฝ่ายกัมพูชา ซึ่งไทยเชื่อว่าการแก้ไขปัญหาผ่านช่องทางทวิภาคีเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพที่สุด และได้มีการประชุมคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมเมื่อวันที่ 14 มิถุนายน ที่กรุงพนมเปญแล้ว อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ได้บานปลายขึ้นเมื่อวันที่ 16 และ 23 กรกฎาคม ทหารของกองทัพไทยเหยียบทุ่นระเบิดในขณะที่ลาดตระเวนตามปกติในเขตแดนไทย […]

โฆษกกระทรวงการต่างประเทศแสดงจุดยืนของไทย

กรุงเทพ 26 ก.ค. – นายนิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศ และโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ ให้สัมภาษณ์สำนักข่าวอัลจาซีรา (Al Jazeera) ชี้แจงสถานการณ์ความจริงที่เกิดขึ้น ว่า ”การปะทะกันบริเวณชายแดนรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ ในขณะที่กำลังให้สัมภาษณ์อยู่นี้ มีรายงานว่าฝ่ายไทยมีผู้เสียชีวิตแล้ว 14 คน เป็นพลเรือน 13 คน ในจำนวนนี้ เป็นเด็ก 2 คน และทหารอีก 1 นาย“ ”แม้ดูเหมือนว่า สถานการณ์เช้านี้ จะดีขึ้นกว่าเมื้อวาน แต่ไทยก็ต้องปกป้องอธิปไตยในเขตแดน และประชาชนของตน“ โฆษกกระทรวงการต่างประเทศตอบ : “ ไทยได้ติดต่อไปยังกัมพูชาแล้ว นับตั้งแต่เกิดเหตุตึงเครียดขึ้น เรายืนยันมาตลอดว่าไทยต้องการหาทางออกให้สถานการณ์นี้ด้วยสันติวิธี ผ่านกลไกระดับทวิภาคีซึ่งมีหลากหลายทางให้นำมาใช้แก้ปัญหา แต่เป็นที่น่าเสียดายว่า กัมพูชาไม่ตอบสนองแนวคิดนี้ในเชิงบวก ในทางตรงกันข้าม เมื่อวานนี้กัมพูชากลับยิงใส่กองกำลังของไทยทำให้เกิดความสูญเสียอย่างที่เห็น

จีนยืนยันไม่เคยส่งอาวุธให้กัมพูชาใช้โจมตีไทย

ปักกิ่ง 26 ก.ค. – กองทัพจีนปฏิเสธว่าไม่เคยสนับสนุนอาวุธให้กัมพูชาใช้โจมตีไทย แต่อาวุธที่กัมพูชามีอยู่เป็นผลจากความร่วมมือในอดีต การยืนยันของจีนมีขึ้นในระหว่างที่ผู้ช่วยทูตทหารไทยประจำกรุงปักกิ่ง เข้าหารือด่วนเมื่อวานนี้ และยื่นเอกสารชี้แจงเหตุปะทะชายแดน เพจของสำนักงานผู้ช่วยทูตฝ่ายทหารบก สถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงปักกิ่ง โพสต์ข้อความระบุว่า “นับตั้งแต่เกิดสถานการณ์ความตึงเครียดขึ้นบริเวณแนวชายแดนไทย-กัมพูชา จีนไม่เคยสนับสนุนยุทโธปกรณ์ใดๆ ให้กับกองทัพกัมพูชาเพื่อให้มาใช้โจมตีไทย ยุทโธปกรณ์จีนที่มีประจำการในกองทัพกัมพูชาล้วนเป็นผลมาจากการดำเนินงานความร่วมมือในอดีตทั้งสิ้น อย่าหลงเชื่อข่าวปลอมที่ถูกสร้างขึ้นโดยผู้ไม่หวังดี” เมื่อวันศุกร์ ที่ 25 กรกฎาคม 2568 เวลา 14.45 น. พันเอกศิวัตม์ รัตนอนันต์ ผู้ช่วยทูตฝ่ายทหารบก และรักษาราชการผู้ช่วยทูตฝ่ายทหาร ประจำสถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงปักกิ่ง ได้เข้าหารือข้อราชการเพื่อประสานงานเรื่องสำคัญเร่งด่วนกับสำนักงานกิจการความร่วมมือทางทหารระหว่างประเทศ (Office of International Military Cooperation) กองทัพปลดปล่อยประชาชนจีน ณ ห้องรับรอง อาคารสำนักงานกิจการความร่วมมือทางทหารระหว่างประเทศฯ กรุงปักกิ่ง สาธารณรัฐประชาชนจีน โดยมี พันเอกพิเศษเซิ่ง เวย รองผู้อำนวยการกองเอเชีย สำนักงานกิจการความร่วมมือทางทหารระหว่างประเทศฯ เป็นผู้แทนในการหารือ โดยผู้ช่วยทูตฝ่ายทหารบก และรักษาราชการ ผู้ช่วยทูตฝ่ายทหาร […]

กัมพูชาเรียกร้องที่ประชุมยูเอ็นให้ไทยหยุดยิงทันที

นิวยอร์ก 26 ก.ค. – กัมพูชาเรียกร้องต่อที่ประชุมฉุกเฉินคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ขอให้ไทยหยุดยิงทันทีโดยไม่มีเงื่อนไข นายเจีย แก้ว เอกอัครราชทูต ผู้แทนถาวรของกัมพูชาประจำสหประชาชาติ ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวภายหลังการประชุมฉุกเฉินแบบปิดของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ หรือ ยูเอ็นเอสซี (UNSC) ที่นครนิวยอร์ก วานนี้ว่ากัมพูชาเรียกร้องให้มีการหยุดยิงทันทีกับฝ่ายไทยอย่างไม่มีเงื่อนไข พร้อมกับเรียกร้องให้ประชาคมระหว่างประเทศสนับสนุนการแก้ไขข้อขัดแย้งด้วยสันติวิธี และบอกด้วยว่าสหประชาชาติ เรียกร้องให้ทั้งสองฝ่ายใช้ความอดทนอดกลั้นอย่างถึงที่สุด ซึ่งนายแก้วบอกว่ากัมพูชาเองก็เรียกร้องในสิ่งนี้เช่นเดียวกัน ขณะที่เว็บไซต์บีบีซี รายงานว่า กัมพูชาเรียกร้องให้หยุดยิงทันทีโดยไม่มีเงื่อนไข แต่ทางฝ่ายไทยยังไม่มีการแสดงความเห็นต่อข้อเสนอหยุดยิงดังกล่าว หลังจากก่อนหน้านั้นไทยได้ประกาศกฎอัยการศึกใน 8 พื้นที่ตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ไปเมื่อวานนี้.-816.-สำนักข่าวไทย

จีนเสนอจัดตั้งองค์กรความร่วมมือเอไอระดับโลก

เซี่ยงไฮ้ 26 ก.ค. – นายกรัฐมนตรีหลี่ เฉียง ของจีน เสนอในวันนี้ให้มีการจัดตั้งองค์กรความร่วมมือด้านปัญญาประดิษฐ์ระดับโลก โดยเรียกร้องให้ประเทศต่างๆ ประสานงานด้านการพัฒนาและความมั่นคงของปัญญาประดิษฐ์ หรือเอไอ ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว นายหลี่ กล่าวในการกล่าวเปิดการประชุมปัญญาประดิษฐ์โลกประจำปีที่เซี่ยงไฮ้ว่า เอไอเป็นเครื่องมือใหม่สำหรับการเติบโต แต่ชี้ว่าการกำกับดูแลยังอยูในสภาพกระจัดกระจาย และเน้นย้ำถึงความจำเป็นในการเพิ่มการประสานงานระหว่างประเทศ เพื่อสร้างกรอบการทำงานสำหรับเอไอที่เป็นที่ยอมรับในระดับโลก การประชุมปัญญาประดิษฐ์โลก ที่จัดขึ้นเป็นเวลา 3 วันนี้ มีบรรดาผู้นำอุตสาหกรรมและผู้กำหนดนโยบายมารวมตัวกันในช่วงเวลาที่การแข่งขันทางเทคโนโลยีระหว่างจีนและสหรัฐ กำลังทวีความรุนแรงขึ้น โดยเอไอกลายเป็นสมรภูมิสำคัญระหว่างสองประเทศเศรษฐกิจที่ใหญ่ที่สุดในโลก สหรัฐกำหนดข้อจำกัดการส่งออกเทคโนโลยีขั้นสูงไปยังจีน รวมถึงชิปเอไอ และอุปกรณ์ผลิตชิป โดยอ้างความกังวลว่าเทคโนโลยีดังกล่าวอาจเพิ่มขีดความสามารถทางทหารของจีน แม้จะมีข้อจำกัดเหล่านี้ จีนก็ยังคงสร้างความก้าวหน้าด้านเอไอ และถูกเฝ้าจับตามองอย่างใกล้ชิดจากสหรัฐ นายหลี่ กล่าวว่า เทคโนโลยีเอไอกำลังพัฒนาอย่างรวดเร็ว แต่ก็มีข้อจำกัด เช่น การขาดแคลนชิปคอมพิวเตอร์ระดับสูง และข้อจำกัดในการแลกเปลี่ยนผู้มีพรสวรรค์และความสามารถ เขาเรียกร้องให้มีการขจัดอุปสรรคต่างๆ เพื่อส่งเสริมสร้างนวัตกรรมที่เปิดกว้างและมีการประสานงานร่วมกัน.-813.-สำนักข่าวไทย

‘เนทันยาฮู’- ‘ทรัมป์’ ดูเหมือนจะยุติการเจรจากับฮามาส

เยรูซาเลม/วอชิงตัน/ไคโร 26 ก.ค. – นายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ของอิสราเอลและประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐดูเหมือนจะยุติการเจรจาหยุดยิงในฉนวนกาซากับกลุ่มฮามาสในวันศุกร์ที่ผ่านมา โดยทั้งอิสราเอลและสหรัฐกล่าวว่า เป็นที่ชัดเจนแล้วว่ากลุ่มติดอาวุธชาวปาเลสไตน์ไม่ต้องการข้อตกลงหยุดยิง นายเนทันยาฮูกล่าวว่า ขณะนี้อิสราเอลกำลังพิจารณา “ทางเลือกอื่น” เพื่อบรรลุเป้าหมายในการนำตัวประกันกลับจากกาซา และยุติการปกครองของฮามาสในดินแดนดังกล่าว ซึ่งขณะนี้กำลังเผชิญกับการขาดแคลนอาหารอย่างกว้างขวางและประชากรส่วนใหญ่ไร้ที่อยู่อาศัยท่ามกลางความเสียหายอย่างรุนแรง นายทรัมป์กล่าวว่าเขาเชื่อว่าผู้นำฮามาสจะถูกตามล่าตัว โดยเขาบอกกับนักข่าวว่าฮามาสไม่ต้องการทำข้อตกลงจริงๆ และเขขาคิดว่าพวกเขาอยากจะเสียชีวิต และมันเป็นเรื่องที่แย่มาก และตอนนี้จุดที่จะต้องทำงานให้เสร็จได้แล้ว คำกล่าวของผู้นำทั้งสองดูเหมือนจะแสดงให้เห็นว่า ในช่วงเวลานี้มีโอกาสน้อยสำหรับการกลับมาเจรจาเพื่อหยุดการสู้รบ ในขณะที่ความกังวลระหว่างประเทศเพิ่มขึ้นเกี่ยวกับการขาดแคลนอาหารที่สถานการณ์ย้ำแย่ลงในกาซาที่เป็นผลมาจากสงคราม อิสราเอลและสหรัฐได้ถอนคณะผู้แทนออกจากการเจรจาหยุดยิงในกาตาร์เมื่อวันพฤหัสบดี หลังจากที่ฮามาสยื่นข้อเสนอหยุดยิง แหล่งข่าวระบุเมื่อวันพฤหัสบดีว่าการถอนตัวของอิสราเอลมีขึ้นเพื่อการปรึกษาหารือเท่านั้น และไม่จำเป็นต้องหมายความว่าการเจรจาถึงจุดวิกฤต แต่คำกล่าวของนายเนทันยาฮูบ่งชี้ว่าจุดยืนของอิสราเอลแข็งกร้าวขึ้นในชั่วข้ามคืน คนกลางในการเจรจาอย่างกาตาร์และอียิปต์กล่าวว่ามีความคืบหน้าบางอย่างในการเจรจารอบล่าสุด พวกเขากล่าวว่าการระงับการเจรจาเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการปกติ และพวกเขามุ่งมั่นที่จะพยายามบรรลุข้อตกลงหยุดยิงต่อไปโดยร่วมมือกับสหรัฐ ภายใต้ข้อเสนอหยุดยิงนี้มีรายละเอียดเกี่ยวกับการพักการสู้รบเป็นเวลา 60 วัน อนุญาตให้มีการนำความช่วยเหลือเข้าสู่กาซามากขึ้น และปล่อยตัวประกันที่เหลืออยู่ 50 คนที่กลุ่มติดอาวุธจับกุมไว้ เพื่อแลกกับนักโทษปาเลสไตน์ที่ถูกจำคุกในอิสราเอล ข้อเสนอถูกระงับเนื่องจากความไม่เห็นด้วยว่าอิสราเอลควรถอนทหารออกไปไกลแค่ไหน และอนาคตหลังจาก 60 วันหากไม่มีข้อตกลงถาวร.-813.-สำนักข่าวไทย

9 ทันโลก : แจงด่วน! คณะมนตรีความมั่นคง ไทยนี้รักสงบ

25 ก.ค. – นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ จะร่วมประชุมคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ตามที่กัมพูชาร้องขอไว้ รายงาน 9 ทันโลก พาไปติดตามบทบาทและโอกาสของไทยบนเวทีสำคัญนี้ ไทยในฐานะสมาชิกสหประชาชาตินานเกือบ 80 ปี จะได้แสดงบทบาทอีกครั้งในคณะมนตรีความมั่นคง ซึ่งเป็นโอกาสสำคัญในการสื่อสารกับประชาคมโลก ถึงการกระทำของกัมพูชา ซึ่งเป็นการละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศหลายด้าน รวมถึงกฎบัตรสหประชาชาติที่ไทยยึดมั่น ในห้องประชุมนี้ ไทยในฐานะสมาชิกสหประชาชาติ ลำดับที่ 55 จะทำหน้าที่อีกครั้งในภารกิจด้านสันติภาพ ตั้งแต่เข้าเป็นสมาชิกเมื่อปี 2489 ที่นี่ไทยเคยทำหน้าที่ประธานการประชุมคณะมนตรีความมั่นคง โดยพลอากาศเอก สิทธิ เศวตศิลา และหม่อมหลวง พีระพงศ์ เกษมศรี ทำหน้าที่สองวาระ ในปี 2528 และ 2529 ในเวลาที่สงครามเย็นคุกรุ่น มาในวันนี้ไทยกำลังจะมีโอกาสอันดีที่ได้ใช้ช่องทางการทูตสำคัญ เสาหลักความมั่นคงของสหประชาชาติ ในอีกบทบาทหนึ่งที่ยังคงอยู่บนพื้นฐานการแสวงหาสันติภาพตามกลไกนี้ เมื่อประเทศสมาชิก ในกรณีนี้คือกัมพูชา ร้องขอให้เปิดประชุมเร่งด่วน สมาชิกคณะมนตรีซึ่งมีสมาชิกถาวร 5 ประเทศ และสมาชิกไม่ถาวร 10 ประเทศ พิจารณากรณีที่เป็นภัยคุกคามใดต่อสันติภาพและความมั่นคงระหว่างประเทศ เช่น กรณีการปะทะระหว่างไทยกับกัมพูชา […]

จีนร่วมมือไทยรวบคนหนีคดีทุจริตต้องการตัวมากสุดรายสุดท้าย

ปักกิ่ง 25 ก.ค. – ความร่วมมือระหว่างหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายและตุลาการของจีนกับไทยนำสู่การส่งตัว “โจวจิ้งหัว” ผู้ต้องสงสัยกระทำความผิดฐานทุจริต กลับสู่จีนเมื่อไม่นานนี้ โดยโจวนั้นมีชื่ออยู่ในบัญชีหมายแดงขององค์การตำรวจสากล (Interpol) ตั้งแต่ปี 2012 สำนักข่าวซินหัว รายงานว่า โจวเป็นหนึ่งใน 100 ผู้ต้องสงสัยกระทำความผิดฐานทุจริตที่หลบหนีการจับกุม ซึ่งติดหมายแดงขององค์การตำรวจสากลตามคำร้องของจีน และผู้ต้องสงสัยรายที่ 63 ที่ถูกจับกุมนับตั้งแต่จีนดำเนินปฏิบัติการสกายเน็ต (Sky Net) เพื่อแกะรอยผู้ต้องสงสัยกระทำความผิดที่หลบหนีไปต่างประเทศ การส่งตัวโจวกลับสู่จีนในเดือนกรกฎาคมเกิดขึ้นจากการประสานงานของสำนักงานส่งตัวผู้หลบหนีและกู้คืนสินทรัพย์ สังกัดกลุ่มประสานงานปราบปรามการทุจริตส่วนกลางของจีน สำนักงานฯ ระบุว่าการส่งตัวโจวกลับสู่จีนครั้งนี้ ทำให้มีการนำตัวผู้ต้องสงสัยกระทำความผิดที่หลบหนีอยู่ในกลุ่มประเทศเอเชียกลับสู่จีนครบ 100 ราย ซึ่งสะท้อนความแน่วแน่และเด็ดขาดของจีนในการปกป้องผลประโยชน์ของประชาชนและเกียรติภูมิของกฎหมาย นอกจากนั้นสำนักงานฯ แสดงความมุ่งมั่นจะยกระดับความร่วมมือปราบปรามการทุจริตระหว่างประเทศรวมถึงมาตรการแกะรอยผู้หลบหนีความผิดทั้งหมดที่ยังคงลอยนวลอย่างไม่โอนอ่อนผ่อนปรนด้วย.-813.-สำนักข่าวไทย

สหรัฐเตือนพลเมืองเลี่ยงการเดินทางใกล้ชายแดนไทย-กัมพูชา

25 ก.ค. – กระทรวงต่างประเทศสหรัฐได้ประกาศเตือนพลเมืองสหรัฐผ่านทางแพลตฟอร์มเอ็กซ์ในวันนี้ ให้หลีกเลี่ยงการเดินทางในรัศมี 50 กิโลเมตร จากชายแดนไทย-กัมพูชา เนื่องจากสถานการณ์ความขัดแย้งทางทหารในบริเวณดังกล่าว เว็บไซต์สถานทูตสหรัฐประจำกรุงเทพฯ ยังแจ้งเตือนพลเมืองอเมริกันที่อาศัยอยู่หรือเดินทางในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากการปะทะกันของทั้่งสองประเทศ ควรปฏิบัติตามคำแนะนำของหน่วยงานความมั่นคงของไทย และติดต่อสอบถามข้อมูลล่าสุดจากเจ้าหน้าที่รัฐบาลในท้องถิ่น นอกจากนั้นยังแจ้งด้วยว่า ในวันนี้รัฐบาลไทยได้สั่งปิดจุดผ่านแดนในจังหวัดจันทบุรี และตราด ทั้งหมดอย่างเด็ดขาด ทั้งทางบกและทางทะเล ขณะเดียวกันกระทรวงสาธารณสุขได้ประกาศปิดโรงพยาบาล 11 แห่งในพื้นที่ชายแดนเป็นการชั่วคราวทั้งหมดหรือบางส่วน และกระทรวงศึกษาธิการได้ประกาศปิดโรงเรียนชั่วคราว 751 แห่ง ในจังหวัดอุบลราชธานี ศรีสะเกษ บุรีรัมย์ สุรินทร์ สระแก้ว และจันทบุรี.-813.-สำนักข่าวไทย

รมว. ตปท. จีนระบุพร้อมช่วยคลี่คลายปัญหาไทย-กัมพูชา

ปักกิ่ง 25 ก.ค. – นายหวัง อี้ รัฐมนตรีต่างประเทศจีน กล่าววันนี้ว่า จีนพร้อมที่จะมีบทบาทที่สร้างสรรค์และยึดมั่นในจุดยืนที่ยุติธรรมและเที่ยงตรง เพื่อช่วยลดความตึงเครียดตามแนวชายแดนระหว่างกัมพูชาและไทย กระทรวงการต่างประเทศจีนระบุในแถลงการณ์ว่า นายหวัง อี้ กล่าวในการระหว่างการประชุมกับนายเกา กิม ฮวน (Kao Kim Hourn) เลขาธิการอาเซียน ซึ่งเป็นชาวกัมพูชา ที่กรุงปักกิ่งว่า การปะทะกันที่ส่งผลให้มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตเป็นเรื่องที่ “น่าเสียใจและน่ากังวลอย่างยิ่ง” นายหวังกล่าวด้วยว่า ต้นตอของปัญหานี้เป้นสิ่งที่เป็นมรดกตกทอดที่ตกค้างอยู่จากสมัยที่ชาติตะวันตกเข้ามาเป็นเจ้าอาณานิคมทิ้งไว้มาตั้งแต่ในอดีต และตอนนี้จำเป็นต้องเผชิญหน้าอย่างใจเย็นและจัดการอย่างเหมาะสม.-813.-สำนักข่าวไทย

สหรัฐยกเลิกคว่ำบาตรพันธมิตรของรัฐบาลทหารเมียนมา

วอชิงตัน 24 ก.ค. – สหรัฐยกเลิกการคว่ำบาตรกลุ่มบุคคลที่เป็นพันธมิตรกับนายทหารในรัฐบาลทหารเมียนมาเมื่อวานนี้ หลังจากเมื่อสองสัปดาห์ก่อน ผู้นำรัฐบาลทหารได้กล่าวชื่นชมประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ และเรียกร้องให้ผ่อนคลายมาตรการคว่ำบาตรในจดหมายตอบไปยังสหรัฐที่เตือนเรื่องมาตรการภาษี กลุ่มเคลื่อนไหวด้านสิทธิมนุษยชน “ฮิวแมน ไรท์ วอทช์” (Human Rights Watch) เรียกสิ่งที่เกิดขึ้นนี้ว่า “น่ากังวลอย่างยิ่ง” และระบุว่าเป็นการบ่งชี้ถึงการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของนโยบายของสหรัฐต่อกองทัพเมียนมา ซึ่งได้โค่นล้มรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตยในปี 2564 และถูกกล่าวหาว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับอาชญากรรมต่อมนุษยชาติและการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ ประกาศจากกระทรวงการคลังสหรัฐระบุว่า บริษัท เคที เซอร์วิสเซส แอนด์ โลจิสติกส์ (KT Services & Logistics) และผู้ก่อตั้งคือ โจนาทาน เมียว จ่อ ต่อง (Jonathan Myo Kyaw Thaung) กลุ่มบริษัท เอ็มซีเอ็ม กรุ้ป (MCM Group) และเจ้าของคือ อ่อง หล่าย อู (Aung Hlaing Oo) และบริษัท […]

พายุถล่มภาคเหนือของจีน-อพยพประชาชน 19,000 คน

ปักกิ่ง 25 ก.ค. – พายุรุนแรงที่พัดถล่มทางตอนเหนือของจีน ทำให้เกิดฝนตกที่มีปริมาณน้ำฝนเกือบเท่าน้ำฝนที่ตกทั้งปีที่เมืองเป่าติ้ง ซึ่งเป็นเมืองอุตสาหกรรมที่อยู่ใกล้กรุงปักกิ่ง และทำให้ประชาชนกว่า 19,000 คน ต้องอพยพออกจากบ้านเรือน เนื่องจากถนนหลายสายเริ่มจมอยู่ใต้น้ำและถูกตัดขาดจากพื้นที่อื่นๆ รายงานระบุว่า ที่อำเภออี้ ทางตะวันตกของเมืองเป่าติ้ง มีปริมาณน้ำฝนมากถึง 447.4 มิลลิเมตร ในช่วง 24 ชั่วโมง จนถึงเช้าวันศุกร์ และมีการทำลายสถิติเดิมของปริมาณน้ำฝนสูงสุดที่สถานีตรวจวัดสภาพอากาศในหลายๆ แห่งในมณฑลเหอเป่ย์ ซึ่งเป่าติ้งเป็นส่วนหนึ่งของมณฑลนี้ บันทึกอย่างเป็นทางการระบุว่าปริมาณน้ำฝนเฉลี่ยต่อปีในเป่าติ้ง อยู่ที่ประมาณ 500 มิลลิเมตร สำนักงานอุตุนิยมวิทยาจีน หรือ ซีเอ็มเอ (CMA) ระบุในสื่อสังคมออนไลน์ว่า มีการอพยพประชาชนรวม 19,453 คน จาก 6,171 ครัวเรือน ออกจากพื้นที่ เจ้าหน้าที่อุตุนิยมวิทยาไม่ได้กล่าวถึงว่าประชาชนอพยพไปยังสถานที่ใด แต่ได้แชร์คลิปสั้นๆ แสดงให้เห็นเจ้าหน้าที่ตำรวจสองนายในเสื้อกันฝนสีสะท้อนแสง ยืนลุยน้ำท่วมในถนนลึกถึงรองเท้าบูท ขณะที่ฝนยังคงตกลงมาอย่างหนักในเวลากลางคืน เมืองจัวโจวในเป่าติ้ง ซึ่งเคยได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมอย่างรุนแรงเมื่อสองปีที่แล้ว พบว่าสะพานและถนนหลายสายถูกตัดขาด หลังจากพายุทำให้เกิดฝนตกมากกว่า 190 มิลลิเมตร ในเช้าวันศุกร์ เป่าติ้งยังคงประกาศเตือนภัยสีแดงสำหรับฝนตกหนักในเช้าวันศุกร์ ในขณะที่มณฑลเหอเป่ย์ […]

1 55 56 57 58 59 5,563
...