‘แควนตัส’ ลงจอดอย่างปลอดภัยหลังนักบินแจ้งขอความช่วยเหลือ

ซิดนีย์ 26 ก.ย. – สายการบิน แควนตัส แอร์เวย์ส ของออสเตรเลียแถลงว่า สัญญาณเตือนไฟไหม้ที่ทำให้นักบินของเที่ยวบินที่เดินทางจากนครซิดนีย์ ของออสเตรเลียต้องแจ้งขอความช่วยเหลือฉุกเฉินก่อนจะลงจอดอย่างปลอดภัยที่สนามบินออคแลนด์ในนิวซีแลนด์ในวันศุกร์นั้น น่าจะเป็นการแจ้งเตือนที่ผิดพลาด สายการบินระบุในแถลงการณ์ว่า นักบินของเครื่องบินโบอิ้ง 737 ได้แจ้งขอความช่วยเหลือฉุกเฉินและขอลงจอดฉุกเฉิน หลังจากได้รับสัญญาณแจ้งเตือนเป็นระยะ ๆ เกี่ยวกับความเป็นไปได้ที่จะเกิดไฟไหม้ในห้องเก็บสัมภาระด้านหน้า แควนตัสกล่าวเพิ่มเติมว่า การตรวจสอบเบื้องต้นไม่พบว่ามีไฟไหม้ในห้องเก็บสัมภาระด้านหน้าแต่อย่างใด และวิศวกรของบริษัทจะเข้าตรวจสอบเครื่องบินลำดังกล่าวเพื่อหาสาเหตุของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นต่อไป โฆษกของสายการบินแควนตัสระบุว่า เที่ยวบินจากนครซิดนีย์ไปยังเมืองออคแลนด์ลำนี้มีผู้โดยสารอยู่บนเครื่อง 156 คน และทุกคนได้ลงจากเครื่องบินเรียบร้อยแล้ว.-813.-สำนักข่าวไทย

‘ทรัมป์’ ลงนามคำสั่งพร้อมขาย ‘ติ๊กต็อก’ เพื่อตอบโจทย์ด้านความมั่นคง

วอชิงตัน 26 ก.ย. – ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ลงนามในคำสั่งฝ่ายบริหารในวันพฤหัสบดี ประกาศว่าแผนการขายกิจการของแอปพลิเคชัน “ติ๊กต็อก” ในสหรัฐ ซึ่งมีบริษัทจีนเป็นเจ้าของ ให้กับนักลงทุนชาวอเมริกันและนักลงทุนทั่วโลกนั้น จะสามารถแก้ไขข้อกำหนดด้านความมั่นคงของชาติที่ระบุไว้ในกฎหมายปี 2024 ได้ คำสั่งของนายทรัมป์ ระบุว่า “อัลกอริทึม” (Algorithm) ของติ๊กต็อกจะถูกเฝ้าติดตามตรวจสอบโดยพันธมิตรด้านความปลอดภัยของบริษัทสหรัฐแห่งใหม่ และการดำเนินงานของอัลกอริทึ่มจะอยู่ภายใต้การควบคุมของกิจการร่วมค้า (joint venture) ที่จัดตั้งใหม่นี้ นายทรัมป์ กล่าวว่า ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีน ได้แสดงความเห็นชอบต่อแผนการดังกล่าว นายทรัมป์ ระบุว่า เขาได้พูดคุยกับประธานาธิบดีสี ซึ่งเป็นไปด้วยดี โดยได้แจ้งสิ่งที่กำลังดำเนินการอยู่ และนายสี ก็บอกให้ดำเนินการต่อไปได้เลย นายทรัมป์ ให้เครดิตกับติ๊กต็อก แอปพลิเคชันวิดีโอสั้นยอดนิยม ซึ่งมีผู้ใช้งานในสหรัฐถึง 170 ล้านคน ว่ามีส่วนช่วยให้เขาชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดีเป็นสมัยที่ 2 เมื่อปีที่แล้ว และตัวเขามีผู้ติดตาม 15 ล้านคน ในบัญชีติ๊กต็อกส่วนตัว นอกจากนี้ทำเนียบขาวยังได้เปิดตัวบัญชีติ๊กต็อกอย่างเป็นทางการเมื่อเดือนที่แล้วด้วย นายทรัมป์ ยืนยันว่า หลังจากนี้ติ๊กต็อกจะถูกดำเนินการโดยชาวอเมริกันอย่างเต็มที่ […]

ฟิลิปปินส์เตรียมรับมือพายุลูกใหม่ ‘บัวลอย’

มะนิลา 26 ก.ย. – พายุโซนร้อนบัวลอย จ่อทวีความรุนแรงเป็นไต้ฝุ่นวันนี้และพัดเข้าเกาะลูซอนของฟิลิปปินส์ จะทำให้เกิดฝนตกหนักและดินถล่ม เพียงสัปดาห์เดียวหลังจากพายุไต้ฝุ่นรากาซาเพิ่งพัดขึ้นฝั่งไปหมาดๆ ฟิลิปปินส์สั่งปิดโรงเรียนและยกเลิกเที่ยวบินโดยสารในหลายพื้นที่ของเกาะลูซอน หลังมีพายุลูกใหม่กำลังเคลื่อนตัวเข้าประเทศ เพียงไม่กี่วันหลังจากซุปเปอร์ไต้ฝุ่นรากาซา ที่เพิ่งพัดถล่มเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว โดยพายุโซนร้อนกำลังแรง ‘บัวลอย’ (Bualoi) คาดว่าจะทวีกำลังเป็นไต้ฝุ่นในวันศุกร์นี้ จากนั้นจะพัดเข้าทางตอนใต้ของเกาะลูซอน ซึ่งเป็นเกาะใหญ่ที่สุดของประเทศ ซึ่งจะส่งผลให้เกิดฝนตกหนักต่อเนื่อง จนอาจเกิดน้ำท่วมฉับพลันในวงกว้าง ดินถล่มในพื้นที่ภูเขา และความเสี่ยงสูงจากคลื่นพายุซัดฝั่ง (storm surge) ที่อันตรายถึงชีวิตซึ่งอาจสูงถึง 3 เมตร หน่วยยามฝั่งฟิลิปปินส์ระบุว่า มีประชาชนประมาณ 1,500 คนติดค้างอยู่ตามท่าเรือในภูมิภาคบีโคล ซึ่งเป็นพื้นที่ที่คาดว่าพายุจะพัดเข้าถล่ม นอกจากนี้ ยังมีประชาชนอีกหลายพันคนที่ยังคงไร้ที่อยู่อาศัยหลังจากซุปเปอร์ไต้ฝุ่นรากาซา ได้พัดถล่มทางตอนเหนือสุดของประเทศ และคร่าชีวิตอย่างน้อย 10 ราย ด้านประธานาธิบดีเฟอร์ดินานด์ มาร์กอส ผู้นำฟิลิปปินส์ กล่าวเมื่อค่ำวันพุธว่า ทางการได้เตรียมอาหาร, ยา และสิ่งของบรรเทาทุกข์ไว้ในพื้นที่ที่คาดว่าพายุบัวลอยจะเคลื่อนผ่าน ฟิลิปปินส์ต้องเผชิญกับพายุและไต้ฝุ่นเฉลี่ยปีละ 20 ลูก ทำให้ประชาชนหลายล้านคนต้องอยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัยตกอยู่ในภาวะความยากจนเรื้อรัง ขณะที่ชาวฟิลิปปินส์จำนวนมากออกมาเดินขบวนประท้วงเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เพื่อแสดงความไม่พอใจรัฐบาลต่อเรื่องอื้อฉาวที่เกี่ยวข้องกับโครงการของรัฐมากมายที่อ้างว่าจัดทำเพื่อป้องกันปัญหาน้ำท่วม แต่ที่ผ่านมาไม่เคยประสบความสำเร็จและแก้ไขปัญหาไม่ได้ เชื่อว่าโครงการปลอมๆ เหล่านี้ ผลาญเงินงบประมาณที่มาจากภาษีประชาชนไปแล้วหลายพันล้านดอลลาร์.-815.-สำนักข่าวไทย

9 ทันโลก : ซูเปอร์ไต้ฝุ่นทลายทะเลสาบไต้หวัน

25 ก.ย. – พายุไต้ฝุ่นรากาซา แม้ไม่ได้ขึ้นฝั่งโดยตรงแต่สร้างความเสียหายหนักหน่วงในไต้หวันที่ปกติแล้วมีระบบป้องกันหายนะภัยที่ดีมาก เป็นเพราะสาเหตุใด ติดตามจากรายงาน 9 ทันโลก.-สำนักข่าวไทย

ไต้หวันยังคงค้นหาผู้สูญหายหลังไต้ฝุ่น ‘รากาซา’ ผ่านพ้น

ฮวาเหลียน, ไต้หวัน, 25 ก.ย. – ไต้หวันยังคงค้นหาผู้สูญหาย 22 ราย ในวันพฤหัสบดี หลังซูเปอร์ไต้ฝุ่น “รากาซา” (Ragasa) ที่พัดถล่มทำให้เกิดน้ำท่วมล้นทะเลสาบสันดอนกั้นที่อยู่เหนือเมืองเล็ก ๆ บนชายฝั่งตะวันออกที่ห่างไกล โดยภัยพิบัติครั้งนี้เกิดขึ้นเนื่องจากผู้เสียชีวิตจำนวนมากเป็นผู้สูงอายุเกินกว่าที่จะปฏิบัติตามคำแนะนำให้อพยพขึ้นไปอยู่บนชั้นสองของบ้าน จำนวนผู้เสียชีวิตในไต้หวันถูกปรับลดลงจาก 17 ราย เหลือ 14 ราย หลังเกิดฝนตกหนักจากอิทธิพลของพายุรากาซาในเทศมณฑลฮวาเหลียน ทำให้ทะเลสาบสันดอนกั้นที่บนภูเขามีน้ำล้นทะลักและปล่อยปริมาณน้ำขนาดมหาศาลเข้าท่วมเมืองกว่างฟู่ (Guangfu) รัฐบาลยังปรับลดจำนวนผู้สูญหายจาก 33 ราย เหลือ 22 ราย เนื่องจากสามารถติดตามตัวผู้คนได้มากขึ้น ตามปกติแล้ว ไต้หวันมีแผนการอพยพที่ซักซ้อมมาอย่างดีก่อนเกิดพายุไต้ฝุ่น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในพื้นที่ภูเขาและชายฝั่งตะวันออกที่มีประชากรเบาบาง ซึ่งช่วยจำกัดจำนวนผู้บาดเจ็บล้มตายได้ แต่จำนวนผู้เสียชีวิตในครั้งนี้ทำให้เกิดคำถามว่าคำสั่งให้อพยพจากชั้นล่างขึ้นไปชั้นบนนั้นเหมาะสมหรือไม่ และมีสิ่งใดบ้างที่สามารถทำแตกต่างไปจากเดิมได้ นายกรัฐมนตรีโช จุง-ไถ (Cho Jung-tai) กล่าวในการประชุมคณะรัฐมนตรีในวันพฤหัสบดีว่า นอกเหนือจากการไว้อาลัยเหยื่อผูัเสียชีวิตแล้ว รัฐบาลต้องสืบสวนสาเหตุการเสียชีวิต ซึ่งส่วนใหญ่เกิดขึ้นที่ชั้นหนึ่งของบ้านพักอาศัย การหาความกระจ่างในเรื่องเหล่านี้เป็นสิ่งสำคัญสำหรับการปรับปรุงระเบียบปฏิบัติการอพยพในอนาคต พื้นที่ชนบทหลายแห่งของไต้หวัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งทางตะวันออก มีประชากรสูงอายุจำนวนมาก เนื่องจากคนหนุ่มสาวได้ย้ายเข้าเมืองเพื่อหางานที่ดีกว่า นายหลิน จุง-หลู่ (Lin Jung-lu) […]

‘ทรัมป์’ อาจเยือนญี่ปุ่นปลายเดือนตุลาคม

โตเกียว 25 ก.ย. – แหล่งข่าวจากรัฐบาลญี่ปุ่นระบุวันพฤหัสบดีว่า ญี่ปุ่นและสหรัฐกำลังเตรียมการสำหรับความเป็นไปได้ที่ ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐจะเดินทางเยือนญี่ปุ่นในช่วงปลายเดือนตุลาคม ก่อนการประชุมสุดยอดเอเปกในเกาหลีใต้ ซึ่งจะเป็นการเยือนญี่ปุ่นครั้งแรกนับตั้งแต่นายทรัมป์กลับมาดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐเป็นสมัยที่ 2 เมื่อเดือนมกราคม สำนักข่าวเกียวโด รายงานว่า ในระหว่างที่อยู่ในญี่ปุ่น คาดว่านายทรัมป์จะได้พบกับนายกรัฐมนตรีที่รับตำแหน่งสืบต่อจาก นายชิเกรุ อิชิบะ ที่กำลังจะพ้นจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี โดยการเลือกตั้งผู้นำพรรคเสรีประชาธิปไตย หรือ แอลดีพี กำหนดจะมีขึ้นในวันที่ 4 ตุลาคม และคาดว่าการลงคะแนนเลือกนายกรัฐมนตรีคนต่อไปในรัฐสภาจะมีขึ้นในช่วงกลางเดือนตุลาคมหรือหลังจากนั้น การเยือนญี่ปุ่นของนายทรัมป์ในครั้งนี้มีแนวโน้มที่จะเป็นโอกาสแรก ๆ ที่นายกรัฐมนตรีคนใหม่จะได้ยืนยันความสำคัญของพันธมิตรระหว่างสองประเทศ ซึ่งเป็นพันธมิตรด้านความมั่นคงที่ใกล้ชิดที่สุด นอกจากนี้ ผู้นำทั้งสองอาจหารือเกี่ยวกับการลงทุนของญี่ปุ่นในสหรัฐ ซึ่งญี่ปุ่นเคยให้คำมั่นว่าจะส่งเสริมให้มากขึ้นตามข้อตกลงทางการค้าที่ลงนามไปเมื่อเดือนกันยายน เมื่อต้นเดือนกันยายน นายเรียวเซ อากาซาวะ (Ryosei Akazawa) หัวหน้าผู้เจรจาด้านภาษีของญี่ปุ่น กล่าวว่าเขาได้นำส่งจดหมายจากนายอิชิบะเพื่อเชิญนายทรัมป์มาเยือนกรุงโตเกีววแล้ว แหล่งข่าวระบุว่า การเยือนญี่ปุ่นของทรัมป์กำลังถูกจัดให้มีขึ้นก่อนที่เขาจะเข้าร่วมการประชุมสุดยอดความร่วมมือทางเศรษฐกิจเอเชีย-แปซิฟิก หรือ เอเปก (APEC) ซึ่งกำหนดจัดขึ้นเป็นเวลาสองวันในเกาหลีใต้ โดยจะเริ่มในวันที่ 31 ตุลาคม และเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา นายทรัมป์กล่าวว่าเขาได้ตกลงที่จะพบกับประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีนนอกรอบการประชุมสุดยอดดังกล่าว ในระหว่างการแถลงข่าวเมื่อวันพฤหัสบดี […]

ชาวอินโดนีเซียกว่า 1,000 คนป่วยจากโครงการอาหารกลางวันฟรี

บันดุง, อินโดนีเซีย 25 ก.ย. – เจ้าหน้าที่อินโดนีเซียรายงานว่า มีเด็กนักเรียนมากกว่า 1,000 คนในจังหวัดชวาตะวันตกล้มป่วยด้วยอาการอาหารเป็นพิษจากอาหารกลางวันของโรงเรียนในสัปดาห์นี้ ซึ่งถือเป็นเหตุการณ์ล่าสุดในเหตุการณ์อาหารเป็นพิษหลายครั้งที่เกิดขึ้นต่อเนื่องและเป็นอีกหนึ่งความถดถอยของโครงการอาหารกลางวันฟรีมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์ของประธานาธิบดีอินโดนีเซีย นายเดดี มุลยาดี (Dedi Mulyadi) ผู้ว่าการจังหวัดชวาตะวันตกเปิดเผยในพฤหัสบดีว่า มีรายงานการล้มป่วยหมู่นี้ใน 4 พื้นที่ของจังหวัดชวาตะวันตก โดยเกิดขึ้นในช่วงเวลาที่องค์กรนอกภาครัฐเรียกร้องให้ระงับโครงการนี้เนื่องจากความกังวลด้านสุขภาพ เหตุการณ์ล่าสุดนี้เกิดขึ้นหลังจากที่นักเรียน 800 คนในจังหวัดชวาตะวันตกและจังหวัดสุลาเวสีกลางล้มป่วยจากอาหารกลางวันของโรงเรียนเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งจัดหาภายใต้โครงการอาหารกลางวันบำรุงสุขภาพฟรีอันเป็นนโยบายหลักของประธานาธิบดีปราโบโว ซูเบียนโต (Prabowo Subianto) หลายฝ่ายตั้งคำถามเกี่ยวกับมาตรฐานและการกำกับดูแลโครงการนี้ ซึ่งมีการขยายตัวอย่างรวดเร็วไปครบคลุมผู้รับ 20 ล้านคน โดยมีเป้าหมายที่จะเลี้ยงอาหารนักเรียนให้ได้ 83 ล้านคนภายในสิ้นปีนี้ งบประมาณของโครงการอยู่ที่ 171 ล้านล้านรูเปียห์ (10,200 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 373,000 ล้านบาท) ซึ่งจะเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าในปีหน้า นายมุลยาดีกล่าวว่า นักเรียนกว่า 470 คนล้มป่วยในเขตบันดุงตะวันตกเมื่อวันจันทร์หลังจากรับประทานอาหารกลางวันฟรี และมีการระบาดอีก 3 ครั้งในวันพุธที่พื้นที่เดิมและในเขตสุคาบูมี ซึ่งส่งผลกระทบต่อเด็กอย่างน้อย 580 คน สำนักงานของประธานาธิบดีปราโบโวยังไม่ตอบคำขอความคิดเห็นเกี่ยวกับกรณีล่าสุดนี้ ด้านนายดาแดน ฮินดายานา […]

Vietnam's Communist Party chief To Lam

ผู้นำเวียดนามจะเยือนเกาหลีเหนือครั้งแรกในรอบเกือบ 20 ปี

ฮานอย 25 ก.ย.- เจ้าหน้าที่เวียดนามเปิดเผยว่า นายโต เลิม เลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์เวียดนามจะเดินทางเยือนเกาหลีเหนือในเดือนตุลาคม นับเป็นผู้นำเวียดนามคนแรกในรอบเกือบ 20 ปีที่จะเยือนเกาหลีเหนือ เจ้าหน้าที่เวียดนาม 2 คนที่ขอสงวนนามไม่ได้ให้กรอบเวลาการเยือนที่ชัดเจนและประเด็นที่จะหารือ เจ้าหน้าที่คนหนึ่งกล่าวว่า นายเลิมจะพบกับนายคิม จอง อึน ผู้นำเกาหลีเหนือ อย่างไรก็ดี ยังไม่มีการประกาศเรื่องนี้อย่างเป็นทางการจากทั้งสองฝ่าย ผู้นำเวียดนามที่ไปเยือนเกาหลีเหนือคนล่าสุดคือ นายหน่ง ดึ๊ก หมั่น ไปเยือนเป็นเวลา 3 วัน ในปี 2550 เป็นเลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์คนแรกที่ไปเยือนเกาหลีเหนือ นับจากประธานาธิบดีโฮจิมินห์ไปเยือนในปี 2500 ขณะที่นายคิม จอง อึน เดินทางไปเวียดนามครั้งแรกในปี 2562 เป็นการเยือนหลังจากประชุมสุดยอดเป็นครั้งที่ 2 กับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ข้อมูลในเว็บไซต์ของสถานทูตเวียดนามประจำกรุงเปียงยางของเกาหลีเหนือบ่งชี้ว่า ประเทศคอมมิวนิสต์ทั้ง 2 ประเทศนี้ยังคงมีความสัมพันธ์ทางการทูตที่ใกล้ชิด แม้ว่าปัจจุบันไม่มีการความสัมพันธ์ทางการค้าระหว่างกัน เจ้าหน้าที่ระดับล่างของทั้ง 2 ฝ่ายเดินทางไปประชุมที่เมืองหลวงของอีกฝ่ายในช่วงหลายปีมานี้ โดยได้ฟื้นการประชุมเมื่อปี 2567 หลังจากระงับไปนาน 5 ปี […]

At least one dead as gunman opens fire, kills himself at Dallas ICE facility

กราดยิงใส่สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองในสหรัฐ

ดัลลัส 25 ก.ย.- เกิดเหตุมือปืนกราดยิงใส่อาคารสำนักงานศุลกากรและตรวจคนเข้าเมืองในเมืองดัลลัสของสหรัฐ เป็นเหตุให้ผู้ต้องขังเสียชีวิต 1 คน บาดเจ็บสาหัสอีก 2 คน ก่อนที่มือปืนจะปลิดชีพตัวเอง เจ้าหน้าที่สหรัฐเปิดเผยว่า มือปืนซึ่งซุ่มยิงมาจากดาดฟ้าอาคารหลังหนึ่งได้สาดกระสุนเข้าใส่อาคารสำนักงานภาคสนามของสำนักงานศุลกากรและตรวจคนเข้าเมืองหรือไอซ์ (ICE) ในเมืองดัลลัส รัฐเท็กซัสเมื่อเช้าวันพุธตามเวลาท้องถิ่น เป็นการกราดยิงแบบไม่เลือกหน้าและยังสาดกระสุนเข้าใส่รถตู้คันหนึ่งบริเวณทางเข้าอาคาร ทำให้มีผู้ถูกเจ้าหน้าที่ควบคุมตัวไว้ในรถเสียชีวิต 1 คนและได้รับบาดเจ็บอาการสาหัส 2 คน ส่วนมือปืนหลังจากก่อเหตุได้ยิงตัวตายบนดาดฟ้าอาคารที่ใช้เป็นจุดซุ่มยิง คริสตี โนม รัฐมนตรีความมั่นคงมาตุภูมิยืนยันในการให้สัมภาษณ์สื่อว่า ผู้ก่อเหตุคือนายโจชัว ยาห์น วัย 29 ปี ทางการสหรัฐได้เผยแพร่ภาพถ่ายผู้ต้องหาของเขาที่ถ่ายไว้เมื่อ 9 ปีที่แล้ว จากการที่ตกเป็นผู้ต้องสงสัยว่ากระทำความผิดเมื่อปี 2559 นายกาช ปาเทล ผู้อำนวยการสำนักงานสอบสวนกลางหรือเอฟบีไอ (FBI) ได้โพสต์ภาพกระสุนปืนของผู้ต้องสงสัยที่ยังไม่ใช้งาน ซึ่งมีข้อความว่า “ANTI-ICE” สลักเอาไว้บนปลอกกระสุนนัดหนึ่ง รัฐมนตรีความมั่นคงมาตุภูมิระบุว่า จากหลักฐานเบื้องต้นแสดงให้เห็นถึงแรงจูงใจทางการเมืองที่อยู่เบื้องหลังการโจมตีครั้งนี้ โดยผู้ก่อเหตุเล็งเป้าไปที่สำนักงานศุลกากรและตรวจคนเข้าเมือง  สำหรับที่เกิดเหตุเป็นสำนักงานภาคสนามของ ICE ซึ่งเจ้าหน้าที่ใช้สำหรับการประมวลผลระยะสั้นของผู้ที่เพิ่งถูกจับกุม ด้านประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ โพสต์ข้อความในทรูธโซเชียลกล่าวหาว่า กลุ่มเดโมแครตฝ่ายซ้ายหัวรุนแรงเป็นผู้ยุยงให้ใช้ความรุนแรงต่อ ICE […]

Closed sign outside of U.S. Library Congress during Jan. 2018 shutdown

ทำเนียบขาวให้เตรียมแผนลอยแพหมู่ หากต้อง “ชัตดาวน์”

วอชิงตัน 25 ก.ย.- ทำเนียบขาวของสหรัฐขอให้หน่วยงานรัฐบาลกลางเตรียมแผนการเลิกจ้างครั้งใหญ่ในช่วงที่อาจต้องปิดหน่วยงานรัฐชั่วคราวหรือชัตดาวน์ในสัปดาห์หน้า หากรัฐสภาไม่ผ่านร่างกฎหมายงบประมาณก่อนวันที่ 1 ตุลาคม นับเป็นการเปลี่ยนนโยบายครั้งสำคัญเพราะปกติแล้วจะพักงานโดยไม่จ่ายค่าจ้างเป็นการชั่วคราวเท่านั้น สำนักงานการจัดการและงบประมาณหรือโอเอ็มบี (OMB) ของทำเนียบขาวส่งบันทึกไปยังหน่วยงานรัฐบาลกลางเมื่อวันพุธตามเวลาท้องถิ่น ขอให้ระบุชื่อโครงการและกิจกรรมต่าง ๆ ที่จะไม่ได้รับงบประมาณสนับสนุนในวันที่ 1 ตุลาคม หากรัฐสภาไม่ผ่านร่างงบประมาณ พร้อมกับนำเสนอแผนลดกำลังคนต่อโอเอ็มบี และแจ้งให้คนทำงานทราบแม้ว่าเป็นกลุ่มที่จะไม่ถูกเลิกจ้าง หรืออาจถูกพักงานชั่วคราวก็ตาม รอยเตอร์ระบุว่า ยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่าทำเนียบขาวจะใช้โอกาสนี้เดินหน้าแผนการลดจำนวนคนทำงานในหน่วยงานรัฐบาลกลางของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์หรือไม่ หรือเป็นเทคนิคการต่อรองเพื่อบีบให้พรรคเดโมแครตผ่านร่างกฎหมายงบประมาณของพรรครีพับลิกัน เนื่องจากเขาได้ยกเลิกการประชุมกับแกนนำพรรคเดโมแครตเพื่อหารือเรื่องงบประมาณรัฐบาลเมื่อวันอังคาร เพิ่มความเสี่ยงที่จะเกิดการชัตดาวน์ตั้งแต่สัปดาห์หน้า โดยทั้งสองพรรคต่างกล่าวโทษอีกฝ่ายว่า ทำให้การผ่านร่างงบประมาณระยะสั้นฉบับชั่วคราวที่จะช่วยให้หน่วยงานรัฐบาลกลางทำงานได้จนถึงวันที่ 21 พฤศจิกายน ถึงทางตัน นายทรัมป์ประกาศตั้งแต่รับตำแหน่งเมื่อเดือนมกราคมเรื่องจะลดจำนวนคนทำงานในหน่วยงานรัฐบาลกลางที่มีทั้งหมด 2.4 ล้านคน โดยอ้างว่าเทอะทะและไร้ประสิทธิภาพ รอยเตอร์อ้างนายสกอตต์ คูเปอร์ ผู้อำนวยการสำนักงานบริหารบุคคลเมื่อเดือนสิงหาคมว่า คนทำงานของรัฐบาลกลางจะออกจากงานราว 300,000 คนภายในสิ้นปีนี้ ในจำนวนนี้ 154,000 คนรับข้อเสนอว่าจะลาออกในวันที่ 30 กันยายน ซึ่งเป็นวันสุดท้ายของปีงบประมาณ 2568 และเป็นเส้นตายที่รัฐสภาต้องผ่านร่างประมาณรายจ่ายรัฐบาลเพื่อเลี่ยงการชัตดาวน์.-814.-สำนักข่าวไทย

‘ทรัมป์’ ให้หน่วยอารักขาสอบเหตุบันไดเลื่อนขัดข้องที่ยูเอ็น

วอชิงตัน 24 ก.ย. – ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐกล่าววันพุธว่า หน่วยหน่วยอารักขาประธานาธิบดี หรือ ซีเครตเซอร์วิส (Secret Service) กำลังสอบสวนสิ่งที่เขาเรียกว่าเป็น “การก่อวินาศกรรม” ที่องค์การสหประชาชาติ หรือ ยูเอ็น (UN) โดยอ้างว่าเหตุบันไดเลื่อนขัดข้อง ความผิดพลาดของเครื่องเทเลพรอมเตอร์ และปัญหาด้านระบบเสียง ได้ขัดขวางภารกิจของเขาในการปรากฏตัวที่ยูเอ็นเมื่อวันอังคาร นายทรัมป์ระบุในข้อความที่เขาโพสต์บนแพลตฟอร์ม “ทรูธ โซเชียล” (Truth Social) ว่า บันไดเลื่อนที่เขากำลังใช้งานพร้อมกับนางเมลาเนีย ผู้เป็นภรรยา ได้หยุดกระทันหัน ขณะกำลังขึ้นไปยังชั้นหลักของอาคารสหประชาชาติ จนเกือบทำให้ทั้งคู่ล้มลง และเขาเรียกร้องให้มีการจับกุมผู้ที่รับผิดชอบ นอกจากนี้ เขายังกล่าวอีกว่า เทเลพรอมเตอร์ หรือ เครื่องฉายบท ของเขาดับลงตั้งแต่เริ่มกล่าวสุนทรพจน์ และผู้นำโลกรวมถึงผู้เข้าร่วมประชุมในห้องโถงไม่สามารถได้ยินสิ่งที่เขาพูด เนื่องจากระบบเสียงมีปัญหา นายทรัมป์ระบุว่า ไม่ใช่แค่หนึ่ง ไม่ใช่แค่สอง แต่เป็นเหตุการณ์เลวร้ายถึงสามครั้ง อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ของยูเอ็นชี้แจงว่า กลไลรักษาความปลอดภัยภายในตัวบันไดเลื่อนเปิดเดินระบบทำงานโดยอัตโนมัติ และเครื่องเทเลพรอมเตอร์นั้นถูกควบคุมโดยเจ้าหน้าที่ทำเนียบขาว ไม่ใช่องค์การสหประชาชาติ นายทรัมป์เรียกเหตุการณ์เหล่านี้ว่าเป็น “การก่อวินาศกรรมสามครั้งซ้อน” พร้อมระบุว่าเขาได้ขอให้ยูเอ็นเก็บรักษาภาพจากกล้องวงจรปิดไว้ และเรียกร้องให้มีการสอบสวน […]

ฮ่องกงกลับมาเปิดเมืองหลังพายุ ‘รากาซา’ พัดผ่าน

ฮ่องกง 25 ก.ย. – ฮ่องกงได้กลับมาเปิดให้บริการเที่ยวบินขาออกจากสนามบินนานาชาติอีกครั้งในวันพฤหัสบดี หลังจากการระงับไป 36 ชั่วโมง พร้อมทั้งเปิดทำการธุรกิจ บริการขนส่ง และโรงเรียนบางแห่ง หลังจากการถูกพายุหมุนเขตร้อน “รากาซา” (Ragasa) ซึ่งเป็นพายุที่ทรงพลังที่สุดในโลกประจำปีนี้ พัดถล่มศูนย์กลางทางการเงินแห่งนี้ พายุรากาซาทำให้เมืองที่มีประชากรหนาแน่นแห่งนี้หยุดนิ่งตั้งแต่บ่ายวันอังคาร หลังพัดผ่านตอนเหนือของฟิลิปปินส์และไต้หวัน ซึ่งมีผู้เสียชีวิตไป 14 ราย ก่อนจะขึ้นฝั่งที่เมืองหยางเจียงทางตอนใต้ของจีนเมื่อวันพุธ รายงานระบุว่า มีผู้บาดเจ็บในฮ่องกงมากกว่า 100 ราย โดยทางการได้ประกาศเตือนภัยไต้ฝุ่นระดับสูงสุดที่ระดับ 10 เกือบตลอดทั้งวันในวันพุธ ส่วนในวันพฤหัสบดี หอสังเกตการณ์ประกาศเตือนภัยไต้ฝุ่นไว้ที่ระดับ 3 ทำให้โรงเรียนอนุบาลและโรงเรียนบางแห่งยังคงปิดทำการ แม้พายุรากาซาเคลื่อนตัวออกจากเมืองและอ่อนกำลังลงเป็นพายุโซนร้อน ในวันพุธ มีคลื่นขนาดใหญ่ซัดเข้าท่วมพื้นที่ชายฝั่งทางตะวันออกและใต้ของฮ่องกง ทำให้เกิดน้ำท่วมเป็นบริเวณกว้างตามถนนและที่พักอาศัยบางแห่ง น้ำทะเลได้ทะลักเข้าโรงแรมฟูลเลอร์ตันทางตอนใต้ของเกาะ ทำให้ประตูกระจกแตกและน้ำท่วมล็อบบี้ แต่ไม่มีรายงานผู้บาดเจ็บ และทางโรงแรมกล่าวว่าการบริการยังคงดำเนินการตามปกติ ท่าอากาศยานฮ่องกง ระบุว่า สายการบินต่างๆ จะค่อยๆ ทยอยกลับมาให้บริการเที่ยวบินตั้งแต่เวลา 06.00 น. ซึ่งตรงกับ 05.00 น. ตามเวลาในประเทศไทย ของวันพฤหัสบดี โดยจะเปิดใช้งานรันเวย์ทั้งสามพร้อมกัน โดยจะรองรับเที่ยวบินกว่า […]

1 2 3 4 5 6 5,563
...