former Russian president Dmitry Medvedev Feb 21, 2022

รัสเซียขู่ไล่ล่าทุกประเทศที่จะยึดทรัพย์สินรัสเซีย

มอสโก 15 ก.ย.- รัสเซียเตือนประเทศในยุโรปว่า จะไล่ล่าประเทศใดก็ตามที่หาทางยึดทรัพย์สินของรัสเซีย หลังจากมีข่าวว่าสหภาพยุโรป หรืออียู มีแนวคิดจะนำทรัพย์สินของรัสเซียที่อายัดไว้ไปช่วยเหลือยูเครน ขณะที่ผู้นำสหรัฐพร้อมลงโทษรัสเซีย แต่ยุโรปต้องเลิกซื้อน้ำมันจากรัสเซีย ทั้งนี้หลังจากรัสเซียบุกยูเครนในเดือนกุมภาพันธ์ 2565 สหรัฐและพันธมิตรได้สั่งห้ามการทำธุรกรรมกับธนาคารกลางและกระทรวงการคลังรัสเซีย รวมทั้งอายัดทรัพย์สินของรัฐบาลรัสเซียมูลค่า 300,000-350,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 9.57-11.16 ล้านล้านบาท) ส่วนใหญ่เป็นพันธบัตรรัฐบาลยุโรป สหรัฐและอังกฤษที่รัสเซียฝากไว้กับศูนย์รับฝากหลักทรัพย์ในยุโรป รอยเตอร์รายงานเมื่อไม่นานมานี้ว่า นางอัวร์ซูลา ฟอน แดร์ ไลเอิน ประธานคณะกรรมาธิการยุโรป ต้องการให้อียูหาทางนำบัญชีเงินสดที่ผูกกับทรัพย์สินของรัสเซียที่ถูกอายัดไว้มาใช้สนับสนุนยูเครน ขณะที่โพลิติโก (Politico) ที่เป็นเว็บไซต์ข่าวการเมืองรายงานว่า คณะกรรมาธิการยุโรปกำลังพิจารณาแนวคิดเรื่องนำเงินสดที่รัสเซียฝากไว้กับธนาคารกลางยุโรป ซึ่งเป็นเงินจากพันธบัตรครบกำหนดที่รัสเซียถือครองไว้ มาใช้สนับสนุนสินเชื่อฟื้นฟูยูเครน นายดมิทรี เมดเวเดฟ รองประธานสภาความมั่นคงสหพันธรัฐรัสเซีย ซึ่งเป็นอดีตประธานาธิบดีและอดีตนายกรัฐมนตรีโพสต์ในแพลตฟอร์มเทเลแกรมในวันนี้ว่า หากเรื่องเหล่านี้เกิดขึ้นจริง รัสเซียจะไล่ล่าประเทศสมาชิกอียู ตลอดจนคนเลวทรามของอียูและประเทศสมาชิกที่พยายามยึดทรัพ์สินของรัสเซียไปจนกว่าจะสิ้นศตวรรษนี้ รัสเซียจะไล่ล่าในทุกหนทางและทุกศาลทั้งระดับประเทศระดับสากล รวมถึงหนทางนอกศาลด้วย ที่ผ่านมารัสเซียระบุว่า การที่ชาติตะวันตกยึดทรัพย์สินของรัสเซียจะเท่ากับเป็นการขโมย อีกทั้งยังจะสั่นคลอนความเชื่อมั่นในพันธบัตรและสกุลเงินของสหรัฐและยุโรปด้วย ขณะเดียวกันประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐกล่าวกับผู้สื่อข่าวเมื่อวานนี้ว่า เขายินดีที่ใช้มาตรการลงโทษรัสเซีย แต่ยุโรปจะต้องยุติการซื้อน้ำมันจากรัสเซีย นอกจากนี้ยุโรปจะต้องปรับเปลี่ยนมาตรการคว่ำบาตรรัสเซียให้มีความเข้มข้นเท่ากับมาตรการของเขาด้วย นายทรัมป์แสดงความมั่นใจด้วยว่า ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูตินของรัสเซียและประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกีของยูเครนจะพบกันในอีกไม่นาน […]

Trump intensifies crackdown on Washington, DC, threatens national emergency over ICE cooperation

“ทรัมป์” จะประกาศเหตุฉุกเฉินระดับชาติกับวอชิงตัน ดีซี

วอชิงตัน 15 ก.ย.- ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐจะประกาศเหตุฉุกเฉินระดับชาติกับกรุงวอชิงตัน ดีซี ซึ่งเป็นเขตปกครองพิเศษโคลัมเบีย และให้มาอยู่ภายใต้การปกครองของรัฐบาลกลาง หากจำเป็น หลังจากนายกเทศมนตรีวอชิงตัน ดีซีกล่าวว่า ตำรวจของเขตนี้จะไม่ให้ความร่วมมือกับหน่วยตรวจคนเข้าเมือง ประธานาธิบดีทรัมป์โพสต์ในทรูธโซเชียลที่เป็นสื่อสังคมออนไลน์ของเขาในวันนี้ว่า รัฐบาลกลางภายใต้การอุปถัมป์ของเขาในฐานะประธานาธิบดีแห่งสหรัฐอเมริกา ได้เข้ามาจัดการความยุ่งเหยิงทางอาญาในกรุงวอชิงตัน ดีซี เมืองหลวงของประเทศ จากที่เป็นเมืองอันตรายและเต็มไปด้วยคดีฆาตกรรมมากที่สุดแห่งหนึ่งของสหรัฐหรือของโลก มาเป็นเมืองที่ปลอดภัยที่สุดแห่งหนึ่งภายในเวลาเพียงไม่กี่สัปดาห์ เมืองแห่งนี้กำลังเบ่งบานไปด้วยธุรกิจและร้านค้าเป็นครั้งแรกในรอบหลายทศวรรษโดยปราศจากอาชญากรรมอย่างแท้จริง โพสต์ของนายทรัมป์ระบุต่อไปว่า แต่ด้วยแรงกดดันจากสมาชิกพรรคเดโมแครตซ้ายตกขอบ นายกเทศมนตรีมิวเรียล เบาเซอร์ ผู้บริหารเมืองที่ถูกอาชญากรรมยึดครองมาหลายปี ได้แจ้งรัฐบาลกลางว่า ตำรวจนครบาลวอชิงตันจะไม่ให้ความร่วมมือกับสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากรหรือไอซ์ (ICE) ในการจับกุมคนต่างด้าวผิดกฎหมายที่เป็นอันตรายอีกต่อไป หากเขาปล่อยให้สิ่งนี้เกิดขึ้น อาชญากรรมก็จะกลับมาอาละวาดอีก ดังนั้นเขาจะประกาศเหตุฉุกเฉินระดับประเทศกับกรุงวอชิงตัน ดีซี และให้มาอยู่ภายใต้การปกครองของรัฐบาลกลาง หากจำเป็นต้องทำ ก่อนหน้านี้ผู้นำสหรัฐได้สั่งให้ตำรวจนครบาลวอชิงตันมาอยู่ภายใต้การควบคุมของรัฐบาลกลางโดยตรงเมื่อวันที่ 11 สิงหาคม และส่งกองกำลังพิทักษ์มาตุภูมิ 800 นายไปเสริมกำลังเจ้าหน้าที่รักษากฎหมายของรัฐบาลกลางออกลาดตระเวนตามท้องถนน จุดกระแสวิจารณ์ว่าเป็นการใช้อำนาจเกินขอบเขต.-814.-สำนักข่าวไทย

Devastating fire displaces over a thousand families in Manila

ไฟไหม้ชุมชนแออัดในเมืองหลวงฟิลิปปินส์

มะนิลา 15 ก.ย. – เกิดเหตุไฟไหม้ลุกลามอย่างรวดเร็วในย่านชุมชนแออัดในกรุงมะนิลาของฟิลิปปินส์ เมื่อช่วงหัวค่ำวันเสาร์ตามเวลาท้องถิ่น ทำให้ประชาชนมากกว่า 1,100 ครอบครัวกลายเป็นคนไร้บ้าน ไฟไหม้เริ่มขึ้นเมื่อเวลา 20.00 น.วันเสาร์ตามเวลาท้องถิ่น ซึ่งเร็วกว่าไทย 1 ชั่วโมง ในเขตทอนโด ซึ่งเป็นเขตที่มีพื้นที่และประชากรมากที่สุดในบรรดาเขตทั้งหมด 16 เขต ของกรุงมะนิลา ไฟไหม้ลามอย่างรวดเร็วไปทั่วย่านชุมชนที่มีบ้านพักอาศัยตั้งอยู่อย่างแออัด ภาพถ่ายจากโดรนเห็นรถดับเพลิงจำนวนมากฉีดน้ำไปยังบ้านที่มีไฟโหมไหม้ หน่วยดับเพลิงจากสำนักงานป้องกันเพลิงไหม้และทีมดับเพลิงอาสาสมัครใช้เวลานานหลายชั่วโมงกว่าจะประกาศว่าควบคุมสถานการณ์ได้เมื่อเวลา 02.46 น.วันอาทิตย์ และดับไฟได้มอดสนิทเมื่อเวลา 06.01 น.วันเดียวกัน ประชาชนมากกว่า 1,100 ครอบครัวกลายเป็นคนไร้ที่อยู่อาศัยและต้องอพยพไปอาศัยตามโรงเรียนในท้องถิ่นเป็นการชั่วคราว ไม่มีรายงานผู้บาดเจ็บหรือเสียชีวิตจากเหตุไฟไหม้ดังกล่าว ส่วนสาเหตุอยู่ระหว่างการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ ฟิลิปปินส์เกิดเหตุไฟไหม้อาคารบ้านเรือนและสำนักงานอยู่บ่อยครั้ง โดยเมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา มีผู้เสียชีวิต 11 คน จากเหตุไฟไหม้อาคารชุดพักอาศัย 5 ชั้น ในย่านไชน่าทาวน์ของกรุงมะนิลา.-820(814).-สำนักข่าวไทย

Photo of Chinese Vice Premier He Lifeng and U.S. Treasury Secretary Scott Bessent

จีน-สหรัฐเจรจาการค้ารอบที่ 4 เป็นวันที่ 2

มาดริด 15 ก.ย.- คณะผู้แทนจีนและสหรัฐเตรียมเจรจาการค้ารอบที่ 4 เป็นวันที่ 2 ที่กรุงมาดริดของสเปนในวันนี้ หลังจากเสร็จสิ้นการเจรจาวันแรกเมื่อวานนี้ เพื่อแก้ไขความตึงเครียดทางการค้า โดยเฉพาะเรื่องภาษีศุลกากรและติ๊กต็อก แอปพลิเคชันยอดนิยมของจีน คณะผู้แทนจีนนำโดยรองนายกรัฐมนตรีเหอ ลี่เฟิง และนายหลี่ เฉิงกัง ผู้แทนการค้าสากลและรัฐมนตรีช่วยพาณิชย์ ขณะที่คณะผู้แทนสหรัฐนำโดยนายสกอตต์ เบสเซนต์ รัฐมนตรีคลังและนายเจมีสัน เกรียร์ ผู้แทนการค้า การเจรจามีขึ้นที่ปาลาซิโอเดซานตาครูซ สถาปัตยกรรมแบบบารอก ซึ่งเป็นที่ตั้งกระทรวงต่างประเทศสเปน การเจรจาวันแรกเสร็จสิ้นลงหลังจากใช้เวลา 6 ชั่วโมง ส่วนการเจรจาวันนี้กำหนดเวลาไว้ตั้งแต่ 08.00-10.00 น.ตามเวลาท้องถิ่น ซึ่งช้ากว่าไทย 5 ชั่วโมง และจะมีการแถลงข่าวในช่วงบ่าย การเจรจาจะมีขึ้นทั้งหมด 4 วันตั้งแต่วันอาทิตย์จนถึงวันพุธ และเป็นการเจรจาการค้ารอบที่ 4 ในรอบ 4 เดือน หลังจากเจรจารอบล่าสุดที่กรุงสตอกโฮล์มของสวีเดนเมื่อเดือนกรกฎาคม ครั้งนั้นทั้งสองฝ่ายตกลงในหลักการเรื่องต่ออายุการพักรบทางการค้าออกไปอีก 90 วัน จนถึงวันที่ 10 พฤศจิกายน และฟื้นการส่งออกธาตุหายากหรือแรร์เอิร์ธจากจีนไปสหรัฐอีกครั้ง ผู้เชี่ยวชาญทางการค้ามองว่า มีความเป็นไปได้น้อยที่การเจรจารอบนี้จะบรรลุข้อตกลงสำคัญ ผลลัพธ์ที่น่าจะเกิดขึ้นน่าจะเป็นการต่ออายุอีกครั้งให้ไบแดนซ์ (ByteDance) […]

US lawmakers and officials gathered for a prayer service and candlelight vigil honoring Charlie Kirk Sep 14,2025

ผู้ต้องสงสัยยิงนักเคลื่อนไหวพันธมิตร “ทรัมป์” ไม่ร่วมมือทางการ

ยูทาห์ 15 ก.ย.- ผู้ว่าการรัฐยูทาห์ของสหรัฐเปิดเผยว่า ผู้ต้องสงสัยยิงสังหารนายชาร์ลี เคิร์ก นักเคลื่อนไหวฝ่ายขวาที่เป็นพันธมิตรกับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ไม่ให้ความร่วมมือกับทางการในการสอบสวน นายสเปนเซอร์ ค็อกซ์ ผู้ว่าการรัฐยูทาห์ให้สัมภาษณ์สถานีโทรทัศน์หลายแห่งเมื่อวานนี้ว่า นายไทเลอร์ โรบินสัน ผู้ต้องสงสัยวัย 22 ปี จะถูกฟ้องอย่างเป็นทางการในวันอังคาร ขณะนี้ยังคงถูกควบคุมตัวอยู่ที่รัฐยูทาห์ นายโรบินสันไม่รับสารภาพและไม่ให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่สอบสวน แต่คนรอบตัวเขาให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี หนึ่งในนั้นคือเพื่อนร่วมห้องที่เป็นผู้หญิงข้ามเพศและเป็นคู่รักของนายโรบินสัน นายค็อกซ์กล่าวว่า เจ้าหน้าที่กำลังรวบรวมข้อมูลทุกอย่างเพื่อปะติดปะต่อเรื่องราว รวมถึงปลอกกระสุนที่มีการแกะสลักข้อความไว้บนปลอกที่ยิงไปแล้ว 1 นัด และยังไม่ยิง 3 นัด เช่น “Hey fascist! CATCH!” แปลได้ว่า “เฮ้ย เจ้าฟาสต์ซิสต์! รับไว้!” และ “If you read This, you are GAY Lmao” แปลได้ว่า “ใครอ่านข้อความนี้ คนนั้นเป็นเกย์” ทั้ง 2 ข้อความนี้ซึ่งอยู่บนปลอกกระสุนที่ยังไม่ถูกยิง ผู้ว่าการรัฐยูทาห์เปิดเผยด้วยว่า นายโรบินสันเติบโตมาในครอบครัวเคร่งศาสนาในย่านที่มีความคิดอนุรักษนิยมเข้มข้นของรัฐยูทาห์ […]

Nepal interim PM says she is 'here to serve', not interested in power

นายกฯ เฉพาะกาลเนปาลขอเวลาทำงาน 6 เดือน

กาฐมาณฑุ 15 ก.ย.- นายกรัฐมนตรีเฉพาะกาลของเนปาลประกาศขอทำงานรับใช้ประเทศเพียง 6 เดือน ก่อนจะส่งมอบอำนาจบริหารให้รัฐบาลชุดใหม่ที่มาจากการเลือกตั้งในปีหน้า สุชีลา การ์กี นายกรัฐมนตรีเฉพาะกาลของเนปาล แถลงเมื่อวานนี้ระหว่างประชุมที่ทำเนียบนายกรัฐมนตรีในกรุงกาฐมาณฑุที่เพิ่งตระเตรียมใหม่ว่า เธอเข้ามาทำหน้าที่เพราะความต้องการของผู้ประท้วง เธอและทีมงานไม่ได้สนใจที่อยู่ในอำนาจ แต่จะทุ่มเททำงานรับใช้ประเทศ ภารกิจหลักคือฟื้นฟูบ้านเมืองที่เสียหายจากการประท้วง แก้ไขปัญหาทุจริตในรัฐบาล และเพิ่มโอกาสทางเศรษฐกิจให้ประชาชน รัฐบาลเฉพาะกาลของเธอจะทำงานเป็นเวลา 6 เดือน จากนั้นจะส่งมอบอำนาจบริหารประเทศให้รัฐบาลชุดใหม่ที่มาจากการเลือกตั้งในวันที่ 5 มีนาคมปีหน้า เธอยังประกาศมอบเงินชดเชย 1 ล้านรูปีเนปาล (ราว 230,000 บาท) ให้แก่ครอบครัวผู้เสียชีวิตในเหตุประท้วงของกลุ่มคนเจเนอเรชันซี หรือเจนซี (Gen Z) เมื่อวันที่ 8 กันยายน และมอบเงินชดเชยให้แก่ผู้ได้รับบาดเจ็บด้วย กระทรวงสาธารณสุขของเนปาลแถลงยอดผู้เสียชีวิตสะสมจากการประท้วงต่อต้านรัฐบาลเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่า เพิ่มเป็นอย่างน้อย 72 ราย ในจำนวนนี้เป็นตำรวจ 3 นาย มีผู้บาดเจ็บมากกว่า 3,000 คน ขณะที่เจ้าหน้าที่ยังคงพยายามติดตามค้นหาเก็บกู้ศพจากห้างสรรพสินค้า โรงแรม และอาคารอื่นๆ หลายแห่งที่ถูกวางเพลิงเสียหายในเหตุจลาจลช่วงที่เกิดการประท้วงนองเลือด การ์กี วัย 73 ปี […]

The U.S. Deputy Secretary of State Christopher Landau shakes hand with South Korea’s First Vice Foreign Minister Park Yoon-joo

รมว.ช่วยต่างประเทศสหรัฐ เสียใจเรื่องจับแรงงานเกาหลีใต้

โซล 14 ก.ย. – เกาหลีใต้เปิดเผยว่า รัฐมนตรีช่วยต่างประเทศสหรัฐได้แสดงความเสียใจ กรณีเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองสหรัฐบุกจับแรงงานชาวเกาหลีใต้หลายร้อยคนที่รัฐจอร์เจียของสหรัฐ เมื่อสัปดาห์ก่อน และเสนอให้พลิกวิกฤตินี้เป็นโอกาสในการเสริมสร้างความสัมพันธ์ กระทรวงต่างประเทศเกาหลีใต้แถลงว่า นายคริสโตเฟอร์ แลนเดา รัฐมนตรีช่วยต่างประเทศสหรัฐได้แสดงความเสียใจระหว่างพบกับนายพัก ยุน จู รัฐมนตรีช่วยต่างประเทศเกาหลีใต้ที่กรุงโซลของเกาหลีใต้ในวันนี้ พร้อมกับเสนอให้ใช้กรณีนี้เป็นโอกาสในการปรับปรุงระบบและเสริมสร้างความสัมพันธ์ของสองประเทศ รวมทั้งกล่าวด้วยว่าประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐให้ความสนใจอย่างยิ่งต่อกรณีนี้ แถลงการณ์ของกระทรวงต่างประเทศเกาหลีใต้ระบุว่า รัฐมนตรีช่วยต่างประเทศสหรัฐเรียกร้องให้ทั้งสองฝ่ายเร่งการหารือระดับคณะทำงานเพื่อสร้างความมั่นใจว่า การออกวีซ่าทำงานให้แก่ชาวเกาหลีใต้จะสมน้ำสมเนื้อกับสิ่งที่สหรัฐจะได้จากแรงงานชาวเกาหลีใต้ และว่าการลงทุนของเกาหลีใต้มีส่วนช่วยฟื้นฟูภาคการผลิตในสหรัฐ ขณะที่รัฐมนตรีช่วยต่างประเทศเกาหลีใต้กล่าวถึงการเยือนของนายแลนเดาว่า ทันการพอดีกับที่เกิดเหตุการณ์ และว่านายแลนเดาได้อ้างประธานาธิบดีทรัมป์ว่า แรงงานเกาหลีใต้กลุ่มที่ถูกจับกุมและเดินทางกลับประเทศมาแล้วจะไม่เสียเปรียบใด ๆ หากเดินทางกลับเข้าสหรัฐ แรงงานชาวเกาหลีใต้ประมาณ 300 คนเดินทางกลับถึงประเทศเมื่อวันศุกร์ หลังจากถูกเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองของสหรัฐบุกค้นตรวจและควบคุมตัวที่โรงงานผลิตแบตเตอรีของเกาหลีใต้ในรัฐจอร์เจียเมื่อสัปดาห์ก่อน สร้างความตกตะลึงให้แก่เกาหลีใต้ที่เป็นพันธมิตรสำคัญในเอเชียของสหรัฐ เกาหลีใต้เรียกร้องให้สหรัฐมีแนวทางที่ชัดเจนเกี่ยวกับวีซ่าทำงานในปัจจุบัน และสร้างวีซ่าประเภทใหม่ให้แก่ผู้เชี่ยวชาญชาวเกาหลี เพื่อรองรับโครงการลงทุนขนานใหญ่ของเกาหลีใต้ในสหรัฐ และป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์จับกุมดังกล่าวซ้ำรอยขึ้นอีก.-814.-สำนักข่าวไทย

U.S. Secretary of State Marco Rubio and wife arrive in Israel

รมว.ต่างประเทศสหรัฐ ไปคุยอิสราเอลเรื่องถล่มกาตาร์

เทลอาวีฟ 14 ก.ย. – นายมาร์โก รูบิโอ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐ เดินทางถึงอิสราเอลแล้ว ในช่วงที่ความสัมพันธ์ของ 2 ประเทศตึงเครียดจากเรื่องที่อิสราเอลพยายามสังหารแกนนำฮามาสในกาตาร์ นายรูบิโอและนางเจเน็ตต์ ดูสดีบส์ ภริยา ได้รับการต้อนรับจากนายไมค์ ฮักกาบี เอกอัครราชทูตสหรัฐประจำอิสราเอล ขณะเดินลงจากเครื่องบินที่ท่าอากาศยานนานาชาติเบนกูเรียน ใกล้กรุงเทลอาวีฟของอิสราเอลในวันนี้ ก่อนหน้านี้นายรูบิโอได้ย้ำกับผู้สื่อข่าวก่อนเดินทางออกจากสหรัฐเมื่อวันเสาร์ตามเวลาท้องถิ่นว่า สหรัฐและประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ไม่ชอบใจเรื่องที่อิสราเอลใช้ปฏิบัติการทางอากาศหวังสังหารแกนนำฮามาสที่กำลังประชุมในย่านที่พักอาศัยในกรุงโดฮาของกาตาร์เมื่อวันที่ 9 กันยายน แม้ว่าเรื่องนี้จะไม่กระทบต่อความสัมพันธ์ของสหรัฐกับอิสราเอล แต่เขาจะพูดคุยให้อิสราเอลทราบว่า เรื่องนี้จะกระทบต่อความปรารถนาของประธานาธิบดีทรัมป์ที่ต้องการให้ตัวประกันที่เหลืออยู่ทั้งหมด 48 คนได้รับการปล่อยตัว การกำจัดกลุ่มฮามาส และการยุติสงครามในกาซา ส่วนเมื่อวันศุกร์เขาได้พบหารือกับเชค มูฮัมหมัด บิน อับดุลราห์มาน อัล-ธานี นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีต่างประเทศกาตาร์ทื่ทำเนียบขาว สะท้อนถึงความต้องการรักษาสมดุลความสัมพันธ์ของสหรัฐกับพันธมิตรในภูมิภาคตะวันออกกลาง เจ้าหน้าที่สหรัฐระบุว่า การโจมตีของอิสราเอลทำให้สถานการณ์รุนแรงขึ้นแต่ฝ่ายเดียว ซึ่งไม่เป็นประโยชน์ทั้งต่อสหรัฐหรืออิสราเอล ด้านชาติอาหรับพากันประณามอิสราเอล ขณะที่การเจรจาหยุดยิงและปล่อยตัวประกันที่มีกาตาร์เป็นคนกลางในการไกล่เกลี่ยพลอยได้รับผลกระทบไปด้วย.-814.-สำนักข่าวไทย

Drone breaches Romanian airspace during Russian attack on neighboring Ukraine

โรมาเนียส่งฝูงบินสกัดโดรนรัสเซียล่วงล้ำน่านฟ้า

บูคาเรสต์ 14 ก.ย. – โรมาเนียส่งฝูงบินขึ้นสกัดอากาศยานไร้คนขับหรือโดรน ที่ล่วงล้ำน่านฟ้าในช่วงที่รัสเซียโจมตียูเครนใกล้พรมแดนโรมาเนีย หลังจากเมื่อไม่กี่วันก่อนโปแลนด์เพิ่งยิงโดรนล่วงล้ำน่านฟ้าตก กระทรวงกลาโหมโรมาเนียออกแถลงการณ์เมื่อวันเสาร์ตามเวลาท้องถิ่นว่า ได้ส่งเครื่องบินขับไล่เอฟ-16 (F-16) จำนวน 2 ลำ ตามด้วยเครื่องบินขับไล่ยูโรไฟเตอร์ (Eurofighter) 2 ลำ พร้อมกับแจ้งเตือนพลเรือนในเทศมณฑลตุลชา ทางตะวันออกเฉียงใต้ที่อยู่ติดกับพรมแดนยูเครนให้หาที่หลบภัย นักบินของเอฟ-16 เตรียมยิงทำลายโดรนลำดังกล่าวที่กำลังบินในระดับต่ำมาก แต่โดรนได้ออกนอกน่านฟ้าโรมาเนียมุ่งหน้าไปยังยูเครนเสียก่อน นอกจากนี้ฝูงบินโรมาเนียยังตรวจพบโดรนอีกลำในน่านฟ้าโรมาเนีย จึงได้บินติดตามไปจนกระทั่งโดรนหายไปจากจอเรดาร์ กระทรวงกลาโหมจะส่งเฮลิคอปเตอร์ไปสำรวจหาซากโดรน แต่ข้อมูลที่มีอยู่บ่งชี้ว่าโดรนลำนั้นได้ออกจากน่านฟ้าโรมาเนียไปยังยูเครนแล้ว โรมาเนียซึ่งเป็นสมาชิกสหภาพยุโรปหรืออียู (EU) และองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือหรือนาโต (NATO) มีพรมแดนร่วมกับยูเครนยาว 650 กิโลเมตร และพบเศษซากโดรนตกในดินแดนของตนเองอยู่เสมอนับตั้งแต่รัสเซียเริ่มบุกยูเครนในเดือนกุมภาพันธ์ 2565 ประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกีของยูเครนโพสต์ผ่านแพลตฟอร์มเอ็กซ์ (X) ว่า ข้อมูลบ่งชี้ว่าโดรนลำดังกล่าวล่วงล้ำเข้าไปในน่านฟ้าโรมาเนียเป็นระยะทาง 10 กิโลเมตร และอยู่ในน่านฟ้าของนาโตราว 50 นาที เห็นได้ชัดว่ารัสเซียกำลังขยายพื้นที่ทำสงคราม จึงจำเป็นต้องใช้มาตรการคว่ำบาตรรัสเซีย ใช้มาตรการภาษีศุลกากรกับรัสเซีย และดำเนินมาตรการป้องกันร่วมกัน ก่อนหน้านี้เมื่อวันศุกร์นาโตได้ประกาศแผนการเพิ่มการปกป้องฝั่งตะวันออกของยุโรป หลังจากโปแลนด์ยิงโดรนหลายลำที่ต้องสงสัยว่าเป็นของรัสเซียตกเมื่อวันที่ 10 กันยายน เนื่องจากล่วงล้ำน่านฟ้าโปแลนด์ โดยมีเครื่องบินของพันธมิตรนาโตให้การสนับสนุนโปแลนด์ด้วย […]

Aerials over central London as thousands march in anti-immigration rally

ชุมนุมใหญ่กว่าแสนคนในลอนดอน ต้านผู้อพยพ

ลอนดอน 14 ก.ย. – ผู้ชุมนุมมากกว่า 100,000 คน รวมตัวเดินขบวนทั่วใจกลางกรุงลอนดอนของอังกฤษ เมื่อวานนี้ เพื่อแสดงการต่อต้านผู้อพยพ และเกิดการปะทะกับตำรวจ ตำรวจนครบาลลอนดอนแจ้งว่า การเดินขบวน “รวมราชอาณาจักร” หรือ “ยูไนต์เดอะคิงดอม” (Unite the Kingdom) จัดขึ้นโดยนายทอมมี โรบินสัน นักเคลื่อนไหวต่อต้านผู้อพยพ มีผู้เข้าร่วมประมาณ 110,000 คน มากจนล้นถนนไวต์ฮอลล์ ซึ่งเป็นเส้นทางที่ตำรวจอนุญาตให้จัดการเดินขบวน โดยเป็นถนนกว้างที่มีที่ทำการรัฐบาลตั้งอยู่ 2 ข้างทาง ตำรวจพยายามสกัดผู้ประท้วงไม่ให้เดินขบวนออกนอกเส้นทาง จึงถูกผู้ประท้วงทำร้ายร่างกายและขว้างปาสิ่งของรวมถึงพลุไฟใส่ ทำให้มีตำรวจได้รับบาดเจ็บ 26 นาย ในจำนวนนี้ 4 นายบาดเจ็บสาหัส มีผู้ถูกจับกุมแล้ว 25 คน ขณะนี้ตำรวจกำลังระบุตัวผู้ก่อความรุนแรงและจะดำเนินการสถานหนักในเร็ว ๆ นี้ ตำรวจลอนดอนส่งเจ้าหน้าที่มากกว่า 1,600 นายประจำการทั่วเมืองหลวงเมื่อวานนี้ ในจำนวนนี้ 500 นายเป็นกำลังพลที่ขอยืมตัวมาจากกองกำลังอื่น เพราะนอกจากต้องดูแลความเรียบร้อยของกลุ่มรวมราชอาณาจักร และกลุ่มยืนหยัดต่อต้านการเหยียดผิว (Stand Up to […]

Sudden hailstorm hits Beijing

พายุลูกเห็บถล่มปักกิ่งกะทันหัน

ปักกิ่ง 14 ก.ย.- เกิดพายุลูกเห็บตกกระหน่ำอย่างกะทันหันในกรุงปักกิ่งของจีนเมื่อช่วงเย็นวานนี้ ทำให้ผู้คนในพื้นที่ไม่ทันตั้งตัว ภาพจากสถานีโทรทัศน์ซีซีทีวี (CCTV) ของจีนเผยให้เห็นพายุลูกเห็บและฝนตกกระหน่ำในหลายพื้นที่ของกรุงปักกิ่งเมื่อช่วงเย็นและค่ำวันเสาร์ตามเวลาท้องถิ่น ทำให้ผู้คนและนักท่องเที่ยวไม่ทันตั้งตัว เพราะไม่มีสัญญาณเตือนล่วงหน้าว่าจะมีพายุลูกเห็บเกิดขึ้น ลูกเห็บที่ตกหนักมาพร้อมพายุส่งผลให้ต้นไม้หักโค่นทับรถยนต์เสียหายไปหลายคัน แต่ไม่มีรายงานผู้บาดเจ็บ ขณะที่ฝนตกกระหน่ำแบบไม่ลืมหูลืมตา บางพื้นที่ตกหนักถึงกว่า 40 มิลลิเมตรในเวลาเพียงครึ่งชั่วโมง จนเกิดน้ำท่วมขังตามท้องถนนหลายสาย ทางการท้องถิ่นกรุงปักกิ่งประกาศเตือนภัยสภาพอากาศในระดับสีเหลือง ซึ่งเป็นระดับ 2 จากทั้งหมด 4 ระดับ โดยเริ่มจากสีแดงระดับสูงสุด ลงไปเป็นสีส้ม สีเหลือง และสีฟ้าตามลำดับ ด้านเจ้าหน้าที่พยากรณ์อากาศคาดว่า พายุฝนฟ้าคะนองและพายุลูกเห็บจะเคลื่อนตัวทั่วกรุงปักกิ่งจากฝั่งตะวันตกไปจนถึงฝั่งตะวันออก ซึ่งจะส่งผลให้เกิดฝนตกเป็นช่วงสั้น ๆ และลมพัดแรงในหลายพื้นที่.-815(814).-สำนักข่าวไทย

Bar and restaurant exploded in Madrid, Spain

ระเบิดสนั่นร้านอาหารกึ่งบาร์ในสเปน

มาดริด 14 ก.ย.- เกิดเหตุระเบิดที่ร้านอาหารกึ่งบาร์แห่งหนึ่งในกรุงมาดริด เมืองหลวงของสเปนเมื่อช่วงบ่ายวันเสาร์ตามเวลาท้องถิ่น ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บอย่างน้อย 25 คน เจ้าหน้าที่เหตุฉุกเฉินแจ้งว่า ผู้ได้รับบาดเจ็บ 2 คน อาการหนัก และผู้ได้รับบาดเจ็บอีก 3 คน มีแนวโน้มจะมีอาการหนัก ขณะที่หัวหน้าหน่วยดับเพลิงเปิดเผยว่า ช่วยผู้ประสบภัย 4 คนออกจากซากความเสียหาย สื่อท้องถิ่นรายงานว่า เหตุระเบิดเกิดขึ้นที่มิสเตอโซโรส (Mis Tesoros) ซึ่งเป็นร้านอาหารกึ่งบาร์ในเขตปวนเตเดบาเญกัส ของกรุงมาดริด เมื่อเวลา 15.00 น.วันเสาร์ตามเวลาท้องถิ่น ซึ่งช้ากว่าไทย 5 ชั่วโมง สาเหตุเกิดจากแก๊สรั่ว หนังสือพิมพ์เอลปาสรายงานอ้างหัวหน้าหน่วยดับเพลิงกรุงมาดริดว่า เป็นแก๊สรั่ว แต่ยังไม่สามารถระบุชัดเจนได้ว่าเป็นแก๊สประเภทใด มีสาเหตุจากอะไร หรือเกิดขึ้นที่จุดใด ขณะที่ทางการกรุงมาดริดออกตัวว่า ยังเร็วเกินไปที่จะคาดเดาสาเหตุของการระเบิด ผู้อยู่อาศัยในละแวกใกล้เคียงเปิดเผยว่า แรงระเบิดมีความรุนแรงจนรู้สึกเหมือนกำลังเกิดแผ่นดินไหว ก่อนที่ทุกอย่างจะสงบลง อย่างไรก็ดี ทางการระบุว่า ผู้อาศัยในห้องชุด 9 ห้องที่เป็นส่วนหนึ่งของอาคารซึ่งเป็นที่ตั้งของร้านอาหารที่เกิดเหตุจะต้องย้ายไปพำนักที่อื่นในช่วงหลายวันข้างหน้า เนื่องจากขณะนี้อาคารอยู่ในสภาพที่ไม่มั่นคง เพราะถึงแม้ว่าห้องชุดที่อยู่ด้านบนไม่ได้รับความเสียหาย แต่จุดที่ระเบิดเป็นบริเวณทางเข้าอาคาร จึงไม่สามารถเข้าอาคารได้ไปอีกระยะหนึ่ง.-820(814).-สำนักข่าวไทย

1 11 12 13 14 15 5,563
...