ทั่วไทย

พระนครศรีอยุธยา 20 ก.ย.- ตำรวจแกะรอยคดียิงหนุ่มกู้ภัยเสียชีวิตกลางถนนบ้านแพรก บุกรวบมือปืนได้แล้ว รับสารภาพถูกผู้ใหญ่บ้าน ว่าจ้างลงมือ พบโยงเรื่องเงินประกันชีวิต จากกรณีเมื่อวันที่ 11 กันยายน 2568 ที่ผ่านมา เกิดเหตุคนร้ายใช้อาวุธปืนลูกซอง ยิงนายศรายุทธ หรือ “เก่ง” อายุ 24 ปี เสียชีวิตบริเวณถนนเลียบคลอง หมู่ 5 ตำบลคลองน้อย อำเภอบ้านแพรก จังหวัดพระนครศรีอยุธยา สภาพศพนอนหงาย สวมกางเกงขายาวสีดำ เสื้อโปโลสีน้ำเงิน ข้างรถจักรยานยนต์กู้ชีพคู่ใจ จอดตั้งขาตั้งอยู่กลางถนน ถูกยิงด้วยอาวุธปืนไม่ทราบชนิด เข้าบริเวณลำคอด้านขวา 1 นัด และหน้าอกซ้าย 1 นัด ด้านผู้กำกับการ สภ.บ้านแพรก ลงพื้นที่เกิดเหตุ เปิดเผยว่า ตำรวจตั้งไว้หลายประเด็นทั้งความขัดแย้งส่วนตัว ความขัดแย้งเฉพาะหน้าและชู้สาว โดยยังไม่ตัดประเด็นใดทิ้ง คาดคนร้ายอาจจอดรถพูดคุยกับผู้ตาย ก่อนใช้อาวุธปืนยิงในระยะประชิด เพราะบาดแผลถูกเฉพาะจุดสำคัญ ล่าสุด ตำรวจ สภ.บ้านแพรก สามารถจับกุมนายวชรวิทย์ หรือ “โจ้” อายุ […]

ชัยภูมิ 20 ก.ย.- หัวหน้าอุทยานแห่งชาติน้ำตกตาดโตน ประกาศแจ้งเตือนนักท่องเที่ยว งดเล่นน้ำใกล้ผาน้ำตก หลังฝนตกหนักต่อเนื่องจนเกิดน้ำป่าไหลหลากหนักสุดในรอบปี หัวหน้าอุทยานแห่งชาติน้ำตกตาดโตน อำเภอเมือง ชัยภูมิ แจ้งว่าพื้นที่บนเทือกเขาภูแลน เกิดฝนตกหนักติดต่อกัน 3 วัน ทำให้มีน้ำป่าไหลหลากเข้าเขื่อนลำปะทาวทั้งเขื่อนบนและเขื่อนล่าง จำนวนมาก จากที่รับน้ำได้ 16 ล้านลูกบาศก์เมตร ขณะนี้เกินการเก็บกัก และล้นทางระบายน้ำแล้ว 12 เซนติเมตร ทำให้ต้องเร่งระบายออก 300,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวัน นอกจากนี้ปริมาณฝนที่ตกต่อเนื่อง ทำให้มีน้ำป่าหลากมายังลานน้ำตกตาดโตน หนักสุดในรอบปี อุทยานฯ เกรงเกิดอันตราย จึงออกประกาศห้ามนักท่องเที่ยวเล่นน้ำ บริเวณน้ำตกตาดโตนด้านบนใกล้บริเวณผาน้ำตกโดยเด็ดขาด แต่ยังสามารถนั่งกินอาหารและชมวิว ถ่ายรูปได้ -สำนักข่าวไทย

อุดรธานี 19 ก.ย. – รวบคนร้ายใช้จอบทุบหัว “เจ๊หน่อง” เจ้าของร้านขายของเบ็ดเตล็ด 20 บาท เสียชีวิตคาร้านในตลาดอำเภอเพ็ญ จ.อุดรธานี ขณะนำตัวไปฝากขัง ญาติโกรธจัดรุมด่าประณาม ลั่นไม่ขออโหสิกรรม ขอโทษประหารชีวิตสถานเดียว ภาพความวุ่นวายเกิดขึ้นหน้า สภ.เพ็ญ จ.อุดรธานี ขณะเจ้าหน้าที่ควบคุมตัวนายธนชัย หรือนาย อายุ 23 ปี ผู้ต้องหา ออกจากห้องควบคุมไปขึ้นรถนำตัวไปฝากขังที่ศาล จ.อุดรธานี แต่จังหวะนั้นกลุ่มญาติเจ๊หน่อง หรือ นางเพชราพร อายุ 59 ปี ผู้เสียชีวิต พยายามเดินเข้าไปดูหน้าใกล้ๆ ตะโกนด่า สาปแช่ง โดยเฉพาะหลานสาวเจ๊หน่องถึงกับทนไม่ไหว ถอดรองเท้าจะเข้าไปตีผู้ต้องหา แต่เจ้าหน้าที่พยายามกันตัวผู้ต้องหาขึ้นรถออกไปฝากขังทันที ด้านหลานสาวผู้เสียชีวิต ยืนยันไม่ให้อภัยคนก่อเหตุฆ่าน้าได้ น้าถูกคนร้ายใช้จอบตีศีรษะจนเสียชีวิต โดยไม่มีโอกาสแม้แต่จะพูดขอชีวิตสักคำเดียว ตนและครอบครัวต้องการให้ผู้ก่อเหตุได้รับโทษประหารสถานเดียว ตร.เปลี่ยนทำแผนบนโรงพักหลังเกรงญาติรุมประชาทัณฑ์ก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่วางแผนเตรียมคุมตัวนายธนชัย ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพที่ร้านเจ๊หน่อง ในตลาดสด อ.เพ็ญ แต่เนื่องจากทราบว่ามีญาติๆ และชาวบ้านมารอดูการทำแผนเป็นจำนวนมาก ทำให้ต้องเปลี่ยนแผนไปทำแผนประกอบคำสารภาพบนโรงพักแทน เพราะหวั่นถูกชาวบ้านรุมประชาทัณฑ์ ผู้ก่อเหตุร่ำไห้ขอโทษ อ้างแค่จะไปขโมยเงินเจ๊หน่องเท่านั้นขณะที่ผู้ต้องหาสารภาพทั้งน้ำตา ก่อนเกิดเหตุขี่รถมาดูที่เกิดเหตุตั้งแต่ช่วงบ่าย […]

ปทุมธานี 19 ก.ย. – ดีเอสไอ พร้อมฝ่ายปกครอง ลุยค้น 25 จุด อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี ทลายเหมืองบิตคอยน์ ยึดของกลางประมาณ 600 เครื่อง เตรียมขยายผลว่ามีเจ้าหน้าที่รัฐเกี่ยวข้องหรือไม่ ดีเอสไอ พร้อมฝ่ายปกครอง และเจ้าหน้าที่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ลงพื้นที่ตรวจค้นอาคารพาณิชย์และบ้านเช่าใน อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี รวม 25 จุด หลังได้รับแจ้งการลักลอบใช้ไฟฟ้าทำเหมืองขุดเงินดิจิทัล หรือบิตคอยน์ ส่งผลให้รัฐได้รับความเสียหาย และกระทบต่อความมั่นคงทางเศรษฐกิจของประเทศ ผลการตรวจค้นทั้ง 25 จุด พบเครื่องขุดบิตคอยน์ประมาณ 600 เครื่อง โดยการกระทำผิดมีลักษณะเป็นองค์กรอาชญากรรม แบ่งหน้าที่กันทำอย่างชัดเจน มีการดัดแปลงตัวอาคารป้องกันความร้อนและเสียงแนบเนียนยิ่งขึ้น มีการกระจายไปยังพื้นที่ชุมชน แทนที่จะรวมกลุ่มไว้เป็นจุดเดียว เช่าโกดังหรือบ้านหลังใหญ่แบบเดิม โดยเตรียมขยายผลว่ามีเจ้าหน้าที่รัฐเกี่ยวข้องหรือไม่ ทั้งนี้ ตั้งแต่ปี 2565 จนถึงปัจจุบัน รวมกรณีนี้ รัฐเสียหายจากการลอบใช้ไฟฟ้าทำเหมืองบิตคอยน์แล้ว 738 ล้านบาท .-สำนักข่าวไทย

สระแก้ว 19 ก.ย. – กองทัพบก นำคณะสื่อลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์ที่บริเวณชายแดนบ้านหนองหญ้าแก้ว จ.สระแก้ว พบยังคงมีชาวกัมพูชาปักหลักอยู่จุดที่เคยปะทะ บรรยากาศช่วงเช้า ที่บริเวณชายแดนบ้านหนองหญ้าแก้ว จ.สระแก้ว ศูนย์ประชาสัมพันธ์กองทัพบก ได้นำคณะสื่อลงพื้นที่เพื่อติดตามสถานการณ์ พบว่ายังคงมีชาวกัมพูชาปักหลักอยู่ที่บริเวณรั้วลวดหนามจำนวนมาก ใกล้กับจุดที่เกิดการประทะกันเมื่อวันที่ 17 ก.ย. ซึ่งคาดว่าเป็นความพยายามเพื่อจะยึดพื้นที่ที่เป็นดินแดนของไทย พันเอกชัยณรงค์ กาสี ผบ.ฉก.12 ชี้แจงถึงพื้นที่บ้านหนองหญ้าแก้วบางส่วน ที่มีความพยายามจากชาวกัมพูชา อ้างว่าอาศัยอยู่มานานแล้ว แต่ในข้อเท็จจริง ยืนยันว่าพื้นที่ในสามเหลี่ยมสีฟ้า เป็นของไทยทั้งหมด โดยอ้างอิงตาม MOU 43 ที่มีเส้นเขตแดนของทั้งสองฝั่งที่ยังตกลงกันไม่ได้ คือเส้นสีแดงและสีน้ำเงินเท่านั้น และยืนยันว่า ไม่ว่าจะมีการทำลายหรือย้ายหมุดอย่างไร ก็ไม่สามารถทำให้เส้นเขตแดนไทยเปลี่ยนแปลงได้ ซึ่งการดำเนินการหากมีการรุกล้ำเข้ามาในแนวรั้วลวดหนาม จะใช้วิธีการทางกฎหมายโดยเจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมฝูงชนจากเบาไปหาหนัก ส่วนกำลังทหารจะเพียงช่วยดูแลหากมีการพังรั้วลวดหนาม แต่จะไม่มีการใช้อาวุธใดๆ ทั้งสิ้น เพื่อไม่ให้เกิดการเพลี่ยงพล้ำในเวทีโลก พร้อมยืนยันว่าทางการไทย เคยส่งหนังสือประท้วงไปยังกัมพูชา นับตั้งแต่ปี 2551 เป็นจำนวนถึง 12 ครั้ง รวมถึงปักป้ายประกาศให้ชาวกัมพูชาออกไปจากพื้นที่ แต่ก็ไม่มีการดำเนินการใดจากทางฝั่งกัมพูชา ซึ่งก่อนหน้านี้ไทยสามารถยึดคืนพื้นที่บ้านหนองหญ้าแก้วคืนจากชาวกัมพูชาได้แล้วกว่า 100 ไร่ ที่ปรากฏตามแนวรั้วลวดหนาม เหลือส่วนที่ยังมีชาวกัมพูชาอาศัยอยู่อีก […]