“ภูมิธรรม” มอบนโยบาย ก.มหาดไทย ยันไม่ข่มขู่ข้าราชการ-ใช้อำนาจบาตรใหญ่

เมืองทองธานี 7 ส.ค.-“ภูมิธรรม” มอบนโยบาย ก.มหาดไทย บอกมีแกะดำมาเป็นราชการ ขอใช้ใจในการแก้ไขปัญหาเพื่อประชาชน ชี้ จนท.รัฐทำตัวเป็นอุปสรรค​ จะต้องปรับเปลี่ยน​ ยันไม่ข่มขู่ข้าราชการ-ใช้อำนาจบาตรใหญ่​ แต่อยากเห็นการแก้ไขที่เป็นรูปธรรม ซัดคนวิจารณ์แก้โป๊กเกอร์เป็นกีฬา เอาไปบิดเบือนโจมตีเอื้อบางกลุ่ม นายภูมิธรรม​ เวชยชัย​ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย​ ในฐานะรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี​ กล่าวมอบนโยบายสำคัญเร่งด่วนของกระทรวงมหาดไทย (8 Quick Wins: 3 ไร้ทุกข์ 5 สร้างสุข) และการขับเคลื่อนการป้องกัน ปราบปราม และแก้ไขปัญหายาเสพติด​ แก่ผู้ว่าการ​จังหวัด​ ผู้การจังหวัด​ และหัวหน้าส่วนราชการทั่วประเทศ​ นายภูมิธรรม​ ระบุว่า​ กระทรวงมหาดไทยมีกลไกครบถ้วนในการประสานกันทุกภาคส่วน หากเราสามารถรวบรวมและดึงเอาความร่วมมือของทุกจังหวัด นำนโยบายรัฐบาลไปดำเนินการถึงมือประชาชน ในการช่วยแก้ไขปัญหาวิกฤตของประเทศโดยเฉพาะอย่างยิ่ง มิติที่เป็นภัยคุกคามไม่ว่าจะเป็นยาเสพติด สงครามไซเบอร์ สแกรมเมอร์ พนันออนไลน์ หรือเรื่องการมีชีวิตที่ดีขึ้นของประชาชน ซึ่งความรับผิดชอบของกระทรวงมหาดไทยในการดูแลเศรษฐกิจฐานรากและการดูแลประชาชนทั้งในระดับจังหวัดอำเภอไปจนถึงหมู่บ้านทั่วประเทศ นายภูมิธรรม​ กล่าวย้ำว่า​ ตนต้องการสื่อสารความตั้งใจของตนและรัฐมนตรีช่วยกระทรวงมหาดไทยทั้ง 2 คน ในการนำนโยบายต่างๆมาแปลให้เป็นรูปธรรมสามารถแก้ไขปัญหาให้กับประชาชนได้ วันนี้เรามากันพร้อมเพียง ผู้บริหาร ผู้ว่าราชการจังหวัด และผู้ปฏิบัติงานทั้งหมดเพราะฉะนั้นสิ่งที่สื่อสารในวันนี้จะมีความสำคัญเป็นอย่างมาก ตนมาเพื่อตอกย้ำและให้รู้สึกว่าจะนำนโยบายต่างๆเหล่านี้ไปปฏิบัติให้ได้เพราะนี่คือหัวใจ […]

“ประเสริฐ” เผยรัฐเดินหน้าจัดการเฟคนิวส์สร้างความแตกแยก

ทำเนียบ 7 ส.ค.-“ประเสริฐ” เผยรัฐเดินหน้าจัดการเฟคนิวส์สร้างความแตกแยก โดยเฉพาะสถานการณ์ชายแดน กำหนด KPI ต้องวิเคราะห์ได้ใน 3 ชม. ชี้ตั้งแตปี 62 พบข่าวอยู่ในข่ายต้องตรวจ 1,100 ล้านข่าว นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรี และและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม แถลงภายหลังการประชุมและวิเคราะห์สื่อสังคมออนไลน์ว่า เนื่องจากสถานการณ์ในขณะนี้ปรากฏว่ามีข่าวที่ไม่ตรงกับข้อเท็จจริง หรือที่เรียกว่าข่าวปลอมจำนวนมาก ซึ่งข่าวดังกล่าวส่งผลทางด้านลบ สร้างความแตกแยกทำให้เกิดความสับสน เกิดความไม่เข้าใจเกิดความแตกแยกในระหว่างพี่น้องประชาชน และเรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญ และเมื่อ วันที่ 5 ส.ค.ที่ผ่านมา ตนเชิญโซเชียลมีเดียแพลตฟอร์มต่าง ๆ มาหารือในการป้องกันปราบปรามข่าวปลอม ซึ่งทางแพลตฟอร์มยินดีให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี และได้ข้อสรุปว่าให้ความสำคัญกับข่าวที่เกี่ยวข้องกับสถานการณ์ชายแดน จึงสนับสนุนการจัดการข่าวปลอม หรือปิดกั้นข่าวปลอม และมีมาตรการในการรองรับการดำเนินการกับข่าวปลอม หากมีการตรวจพบการดำเนินการด้านไอโอ ขอให้แจ้ง เพื่อ ระงับการเผยแพร่และการยกระดับการยืนยันตัวตนบนแพลตฟอร์มสื่อสังคมออนไลน์ โดยผู้ที่จะลงโฆษณาต้องเป็นบริษัทที่มีการยืนยันตัวตนและตอนนี้ได้เริ่มดำเนินการบางส่วนแล้ว นายประเสริฐ กล่าวว่ ที่ประชุมยังได้พิจารณาในเรื่องของการจัดการข่าวปลอม เมื่อได้รับทราบข่าวปลอมหรือมีการพบข่าวปลอม กระทรวงดิอิทัลจะทำงานกันอย่างใกล้ชิดและติดตามสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง โดยกำหนดเคพีไอหรือเป้าหมายว่าภายใน 3 ชั่วโมง เราต้องวิเคราะห์ และสามารถแจ้งกลับไปได้ว่าข่าวนั้นมีลักษณะเป็นข่าวที่มีข้อเท็จจริงหรือไม่อย่างไร และตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ถ้าพี่น้องประชาชนพบเห็นข่าวปลอม […]

“วิสุทธิ์” รับ สส.ฝั่งรัฐบาลหาย หวิดทำสภาล่ม พร้อมเปิดชื่อไม่ไว้หน้า

รัฐสภา 7 ส.ค.-“วิสุทธิ์” รับ สส.ฝั่งรัฐบาลหาย หวิดทำสภาล่ม บอกรอบหน้าปล่อยล่มเลย พร้อมเปิดชื่อไม่ไว้หน้า คนสันหลังยาวโกงเวลาราชการ นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ ประธานวิปรัฐบาล กล่าว ถึงปัญหาองค์ประชุม ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎรเมื่อวานนี้ว่า ได้หารือกับนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาฯ แล้วว่าครั้งต่อไปขอให้มีการเปิดรายชื่อ สส. ที่มาร่วมประชุม “ผมได้เรียนท่านประธานวันนอร์แล้ว ขอความกรุณาว่าให้ล่มไปเลย ผมอยากได้ชื่อ พรรคไหนก็แล้วแต่ผมไม่ไว้หน้าหรอก คนสันหลังยาวเนี่ย มันโกงเวลาราชการ อาทิตย์ละ 2 วันยังไม่ทำ ข้าราชการเขายังไม่ให้ ถ้าล่มเลยได้ ถ้าไม่ล่มเขาให้ไม่ได้ มันผิดระเบียบ ก็ไม่อยากไปทำให้เขาเดือดร้อนจึงไม่ไปถาม เพราะหลักการนี้ไม่ได้” นายวิสุทธิ์ กล่าว ส่วนข้อสงสัยว่าเกี่ยวข้องกับการต่อรอง “ตำแหน่ง” หรือไม่ นายวิสุทธิ์ กล่าวว่า หลายกลุ่ม อย่างรวมไทยสร้างชาติก็มีสองฝั่ง ตนยังแนะนำให้แยกพรรค เพราะต้องนึกประเทศชาติ เมื่อถามย้ำว่า เสียงที่หายไปคือฝั่งรัฐบาลใช่หรือไม่ นายวิสุทธิ์ ยอมรับ พร้อมระบุว่า วันนี้เสียงรัฐบาลมากกว่าฝ่ายค้านแค่สิบกว่าเสียง แต่เมื่อวาน สส. […]

สว.ธณัชญ์พงศ์ บอกไม่รู้ใครปลอมลายเซ็นถอดถอน 136 สว.

รัฐสภา 7 ส.ค.-สว.ธณัชญ์พงศ์ บอกไม่รู้ใครปลอมลายเซ็นถอดถอน 136 สว. แจงไม่มีเจตนาถอดใครจากตำแหน่ง พร้อมบอกมีคนถูกปลอมลายเซ็นอีก 2 คน ทำชื่อหนุนเรื่องร้องศาลไม่ครบจำนวน นายธณัชญ์พงศ์ วงศ์มุลาลี สว. ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ลงบันทึกประจำวันที่ สน.บางโพ ในกรณีที่ถูกแอบอ้างการลงลายมือชื่อ ว่า ตนได้ลงบันทึกประจำวัน เมื่อวันที่ 6 ส.ค. หลังจากที่มีการตรวจสอบในเอกสารซึ่ง สว.กลุ่มหนึ่ง ยื่นเรื่องต่อศาลรัฐธรรมนูญให้ถอดถอน 136 สว. และพบว่ามีชื่อของตนปรากฎในเอกสาร ทั้งที่ตนไม่ทราบเรื่อง อีกทั้งทางสำนักประธานวุฒิสภา ได้ตรวจสอบการลงลายมือชื่อ และพบว่าการลงลายมือชื่อของตนนั้นไม่ตรงกับที่เคยให้ไว้กับสำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา เมื่อครั้งมารายงานตัวและเมื่อครั้งที่ลงลายมือชื่อเข้าประชุม ทำให้ตนทราบว่ามีการปลอมลายมือชื่อ จึงได้ลงบันทึกประจำวันวันไว้เป็นหลักฐานเพราะเกรงว่าอาจจะเกิดอันตรายกับตนเอง ไม่ใช่เพื่อมุ่งหวังดำเนินคดีกับใคร อย่างไรก็ดีการนำชื่อของตนไปแอบอ้างในกรณียื่นถอดถอนนั้น ตนไม่ทราบว่าใครเป็นคนทำ “ผมทราบว่ามีกรณีที่โดนเหมือนผมด้วย และทางสำนักงานได้แจ้งให้ไปตรวจสอบแล้ว ซึ่งมีคนที่ทำเหมือนที่ผมทำแล้ว จำนวน2 คน ดังนั้นการลงลายมือชื่อในเอกสารคำร้องนั้น ตอนนี้มีคนสนับสนุนไม่ถึง 20 คนแล้ว อย่างไรก็ดีผมเป็นสว.น้องใหม่ ตั้งใจเข้ามาทำงานเพื่อประชาชนและประเทศชาติ ไม่ต้องการถอดถอนใครออกจากตำแหน่ง” นายธณัชญ์พงศ์ กล่าว นายธณัชญ์พงศ์ กล่าวต่อว่า ไม่ใช่หน้าที่ของสว.ที่จะสั่งให้ใครหยุดทำหน้าที่ […]

“พปชร.” เรียกร้องรัฐบาลเปิดข้อมูลเจรจาภาษีทรัมป์

รัฐสภา 7ส.ค.-“พปชร.” เรียกร้องรัฐบาลเปิดข้อมูลเจรจาภาษีทรัมป์ จี้แจงข้อเท็จจริง ถกในสภา รู้กันอยู่ 19% ได้มาอย่างไร แนะต้องไม่นำความมั่นคงไปเกี่ยว ถามมีรายการใดให้สหรัฐฯ 0% บ้างหวั่นกระทบเกษตรกร นายชัยมงคล ไชยรบ สส.สกลนคร พรรคพลังประชารัฐ แถลงถึงกรณีสหรัฐอมริกาเก็บภาษีขาเข้าจากไทยในอัตรา 19%ว่า เป็นที่ทราบกันว่าประเทศไทยต้องเสียภาษีนำเข้าสหรัฐอเมริกา 19% ซึ่งไม่แตกต่างกับประเทศอาเซียน ที่ได้ 19% เหมือนกัน ยกเว้นลาวและพม่า ซึ่งภาษีทรัมป์นั้นจะส่งผลต่อเศรษฐกิจไทยเป็นอย่างยิ่งทั้งในระยะสั้นและระยะยาว เราดีใจด้วยที่ประเทศไทยได้ 19% แต่การได้มาซึ่ง 19% นั้นอยากทราบข้อเท็จจริงอยากรู้เบื้องหลัง ทั้งนี้ พรรคพลังประชารัฐแสดงจุดยืนอย่างชัดเจน โดยพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรค ว่า การเจรจาภาษีครั้งนี้จะต้องไม่นำความมั่นคงเข้าไปเกี่ยวข้องด้วย และยังมีข้อกังวลถึงการไม่เปิดเผยข้อมูลอย่างตรงไปตรงมาจากรัฐบาล ไม่ว่าจะเป็นกรณีที่มีความมั่นคงเข้าไปเกี่ยวข้องหรือไม่ และมีรายการใดบ้างที่เราให้สหรัฐอเมริกา 0% เพราะประเทศไทยจะกระทบเป็นอย่างยิ่งโดยเฉพาะภาคการเกษตร ซึ่งอาจจะส่งผลกระทบต่อเกษตรกรประเทศไทย ซึ่งเรื่องนี้เป็นความสำคัญอย่างยิ่ง นายชัยมงคล กล่าวว่ารัฐบาลจะต้องรีบออกมาประกาศทำความเข้าใจกับประชาชนว่า 0% กระทบแบบไหนอย่างไรและมีวิธีแก้อย่างไร โดยเฉพาะในเรื่องนี้กฎหมายระบุไว้ว่า รัฐบาลต้องนำเข้าสภาเพื่อให้พิจารณาภายใน 60 วัน ดังนั้นสิ่งที่รัฐบาลต้องเปิดเผยคือข้อเท็จจริงทั้งหมดเพื่อให้ประชาชนรับทราบ ให้สส.และสว.ได้รับทราบเพื่อนำไปถกแถลงแสดงเหตุผลกันอีกครั้งหนึ่ง ดังนั้นจึงอยากขอร้องรัฐบาลไม่ควรกระทำการใดๆที่ไม่โปร่งใสเพื่อรักษาอำนาจรัฐบาลเพียงอย่างเดียวแต่รัฐบาลควรคำนึงถึงความเป็นอยู่ของประชาชนที่จะกระทบเป็นวงกว้าง […]

“พล.อ.ณัฐพล” เข้าเยี่ยมคำนับนายกฯ มาเลเซีย

มาเลเซีย 7 ส.ค.- “พล.อ.ณัฐพล” รมช.กลาโหม เข้าเยี่ยมคำนับนายกฯ มาเลเซีย ก่อนถก GBC ไทย – กัมพูชา สมัยวิสามัญ บ่ายนี้ เมื่อเช้าวันนี้ (7 ส.ค. 68) พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม รักษาราชการแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้เข้าเยี่ยมคำนับ ดาโตะ เซอรี อันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ซึ่งเป็นประธานอาเซียนในขณะนี้และเป็นเจ้าภาพของสถานที่การประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป(General Border Committee: GBC) ไทย – กัมพูชา สมัยวิสามัญ โดยมีรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมของกัมพูชาเข้าร่วมด้วย ซึ่งเป็นโอกาสแรกที่ฝ่ายไทยและฝ่ายกัมพูชาได้พบกันในระดับรัฐมนตรีก่อนที่จะเข้าร่วมประชุม GBC สมัยวิสามัญ ที่จะมีขึ้นในช่วงบ่ายของวันนี้ Deputy Minister of Defence pays courtesy call on Malaysian Prime Minister before Extraordinary Session […]

“ธีรรัตน์” ซัดผู้ว่าฯ อุบลฯ เบิกจ่ายงบล่าช้าผิดปกติ

เมืองทองธานี 7 ส.ค.-“ธีรรัตน์” ซัดผู้ว่าฯ อุบลฯ เบิกจ่ายงบฯ ล่าช้าผิดปกติ หากเปรียบเทียบจังหวัดข้างเคียงเสียหายมากกว่า ชี้ไม่สามารถสร้างความเข้าใจให้ประชาชนได้ นางสาวธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงการสั่งย้ายผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี กรณีเบิกจ่ายงบประมาณ ในการช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่จังหวัดอุบลราชธานีจากเหตุปะทะชายแดนไทย- กัมพูชา ว่า เมื่อคืนได้มีการเรียกประชุมเพื่อชี้แจงอีกรอบหนึ่ง ในส่วนของกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย หรือ ปภ. ว่าแต่ละจังหวัด นอกจากเงินทดรองจ่าย 100 ล้านบาท จะมีในส่วนเงินรับบริจาค สิ่งของที่นำลงไปใช้ เพื่อที่จะให้มีความเหมาะสมกับจำนวนผู้อพยพ เนื่องจากแต่ละจังหวัดมีความแตกต่างกัน จึงต้องดูเรื่องของความสมเหตุสมผล เมื่อถามว่า เหตุใดผู้ว่าราชการจังหวัด จึงไม่กล้าเบิกเงินทดรองจ่าย ในส่วนขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เป็นเพราะเบิกจ่ายผิดประเภทใช่หรือไม่ นางสาวธีรรัตน์ ยืนยันว่า มีการพูดคุยกันแล้ว ตั้งแต่วันที่ 29 กรกฎาคมที่ผ่านมา ที่มีการเรียกประชุมกรมบัญชีกลาง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตั้งแต่ระดับผู้ว่าราชการจังหวัดลงมา เพื่อรับทราบแนวทางการปฏิบัติ ว่าส่วนใดมีความเร่งด่วนหรือจำเป็น หรือต้องของดเว้นเรื่องระเบียบ ให้สามารถทำได้ทันทีเพราะทุกคนเข้าใจตรงกันหมด ซึ่งสาเหตุที่มีความแตกต่างอย่างเห็นได้ชัด ว่ามีความผิดปกติ จะบอกว่าทำงานล่าช้า ก็ขอให้ดูจังหวัดข้างๆด้วย เขาเดือดร้อนกว่า คนเสียชีวิตมากกว่า ต้องเอาหลายๆ อย่างมาเปรียบเทียบด้วย […]

“ภูมิธรรม” สั่งเด้ง ผู้ว่าฯอุบลฯ เหตุบกพร่องบริหารจัดการงบฯ

กทม. 7 ส.ค.-“ภูมิธรรม” สั่งเด้ง ผู้ว่าฯอุบลฯ เหตุมีความบกพร่องในการบริหารจัดการ ปมเบิกจ่ายงบเยียวยาชายแดนเพียง 55,600 บาท นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี กล่าวในรายการเจาะลึกทั่วไทยอินไซต์ไทยแลนด์ ถึงกรณีผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี เบิกจ่ายงบประมาณเยียวยาชายแดนไทยกัมพูชาเพียง 55,600 บาท ว่า ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานีเคยถูกกล่าวหามาแล้วเรื่องเทียนพรรษาที่เคยเป็นประเด็นมาแล้ว ซึ่งครั้งนี้ก็ได้กำชับและขยายวงเงินเป็น 100 ล้านบาท เพื่อให้ดำเนินการช่วยเหลือประชาชนโดยทันที และอย่างที่นางสาวธีรรัตน์ สำเร็จวานิช รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้พูดไป เราพยายามระมัดระวัง เวลาย้ายใครจะโดนกล่าวหาว่าถูกกลั่นแกล้งกัน เพราะเป็นคนเก่าของรัฐมนตรีเดิม หรือมาจากจังหวัดผู้มีอิทธิพล ซึ่งเมื่อรับทราบได้มีการสั่งให้ตรวจสอบ ไม่ใช่ฟังแล้วจัดการเลย เดี๋ยวจะหาว่าเรามีใจไม่เที่ยงธรรม แต่เหตุนี้ไม่ไหว ทราบมาตั้งแต่เมื่อวาน (6 ส.ค.) แล้ว สั่งให้ไปตรวจสอบ ว่าเรื่องนี้เป็นอย่างไร ทำไมยอดน้อยกว่าคนอื่น 40-50 ล้าน แต่ยอดที่จังหวัดอุบลราชธานีเบิกจ่าย กว่า 55,600 บาท พอฟังแล้วและนำเงินบริจาคมาใช้ ซึ่งทำให้เห็นว่ามีความบกพร่องในการบริหารจัดการ จึงบอกปลัดกระทรวงมหาดไทยให้ย้ายมาช่วยราชการ โดยจะให้หัวหน้าผู้ตรวจราชการที่ดูแลในพื้นที่ลงไปรักษาการแทนก่อน ซึ่งต้องขอโทษพี่น้องประชาชนที่ประสบปัญหาและทำให้เกิดความไม่เข้าใจกัน อย่างที่มีคนของบางพรรคการเมืองเข้าไปพูดในสภาฯ […]

มท.1 เด้งฟ้าผ่า ผู้ว่าฯ อุบลราชธานี

เมืองทองธานี 7 ส.ค.-รมว.มหาดไทย สั่งเด้งฟ้าผ่า “ผู้ว่าฯ อุบลราชธานี” ก่อนประชุมมอบนโยบายกระทรวงมหาดไทย เหตุมีปัญหาเบิกจ่ายงบประมาณดูแลประชาชนได้รับผลกระทบชายแดนไทย-กัมพูชา นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี เปิดเผยก่อนการประชุมมอบนโยบายสำคัญของกระทรวงมหาดไทย ว่า ได้มีการสั่งย้าย ว่าที่พันตรี อดิศักดิ์ น้อยสุวรรณ ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี ให้มาช่วยราชการที่กระทรวงมหาดไทย หลังมีปัญหาเรื่องการเบิกจ่ายงบประมาณในการช่วยเหลือดูแลประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งมีการเบิกงบทดรองราชการจ่ายเพียง 55,600 บาท จากที่รัฐบาลจัดสรรงบประมาณให้ 100 ล้านบาท ส่วนจะย้ายชั่วคราว หรือถาวรน้้น นายภูมิธรรม กล่าวว่า เดี๋ยวค่อยว่ากัน เมื่อถามว่า จะรอผลสอบก่อนใช่หรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า เดี๋ยวค่อยว่ากันในรายละเอียด โดยคำสั่งจะออกในช่วงเช้าวันนี้ อย่างไรก็ตาม มีการยืนยันจากผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี ว่าได้เดินทางมาร่วมการประชุมในครั้งนี้ด้วย​ แต่ปฏิเสธที่จะแสดง​ความเห็น​ และไม่ขอให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชน.-315.-สำนักข่าวไทย

รมช.กห. และคณะ ถึงมาเลเซีย ร่วมการประชุม GBC

กทม. 7 ส.ค.-รมช.กห. และคณะเดินทางถึงมาเลเซีย เพื่อเข้าร่วมการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (GBC) ไทย-กัมพูชา สมัยวิสามัญ ยึดกรอบหัวใจสำคัญในการเจรจา พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะ รักษาการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (GBC) ไทย-กัมพูชา สมัยวิสามัญ เดินทางถึง ท่าอากาศยานทหาร Subang ประเทศมาเลเซีย เวลา 08.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น ซึ่งเร็วกว่าเวลาตามประเทศไทย 1 ชั่วโมง ทั้งนี้ ในช่วงเช้าของวันนี้ พลเอก ณัฐพล จะเข้าเยี่ยมคารวะนาย อันวา อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย และประธานอาเซียนในขณะนี้ ที่สำนักงานนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ในฐานะเจ้าภาพของสถานที่การประชุม ก่อนที่จะเข้าร่วมการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (GBC) ไทย–กัมพูชา สมัยวิสามัญ ในช่วงบ่ายของวันนี้ สำหรับการประชุมในครั้งนี้ หัวใจสำคัญของการเจรจา มุ่งเน้นความปลอดภัยและความเป็นอยู่ของพี่น้องประชาชนของทั้งสองประเทศเป็นหลัก โดยการเจรจานี้จะต้องเป็นไปตามกฎหมายของประเทศไทย กฎหมายระหว่างประเทศ และยึดผลประโยชน์และศักดิ์ศรีของประเทศชาติเป็นสำคัญ.-313.-สำนักข่าวไทย

รัฐบาลมอบ กยศ. ขยายเวลากู้ยืม นักเรียน รร. 7 จังหวัด

ทำเนียบ 7 ส.ค.-รัฐบาลมอบ กยศ. ขยายเวลากู้ยืม นักเรียน รร. 7 จังหวัด พร้อมจัดสรรงบประมาณ 8,488 ล้านบาท รองรับการกู้ยืมครั้งที่ 2 ปีการศึกษา 68 แก่นักเรียน นักศึกษา ดำเนินการขยายเวลาเปิดระบบกู้ยืมให้นักเรียน นักศึกษา สถานศึกษาที่ได้รับผลกระทบชายแดนไทย-กัมพูชา นายอนุกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาล โดยกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) เตรียมจัดสรรงบประมาณ จำนวน 8,488 ล้านบาท รองรับการจัดสรรเงินกู้ยืมครั้งที่ 2 ของปีการศึกษา 2568 สำหรับเป็นค่าเล่าเรียน ค่าครองชีพ และค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวเนื่องกับการศึกษาให้แก่นักเรียน นักศึกษาผู้กู้ยืมรายเก่าและรายใหม่ ที่มีคุณสมบัติเป็นไปตามที่ กยศ.กำหนด โดยเป้าหมายสำคัญคือ การสนับสนุนให้นักเรียน/นักศึกษาได้เรียนอย่างต่อเนื่อง ไม่ต้องพักการศึกษา หรือเลิกเรียนกลางคัน การให้เงินกู้ยืมแก่นักเรียน นักศึกษายังทำให้เกิดการกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยมีการใช้จ่ายเงินในพื้นที่โดยรอบสถานศึกษา เนื่องจากนักเรียน นักศึกษา จะนำเงินที่ได้รับจาก กยศ. ไปใช้จ่ายเป็นค่าหนังสือ อุปกรณ์การเรียน […]

รัฐบาลสั่งทุกองคาพยพของรัฐช่วยเหลือประชาชนชายแดนไทย-กัมพูชา

ทำเนียบ 7 ส.ค.-รัฐบาลสั่งทุกองคาพยพของรัฐ ต้องช่วยเหลือพี่น้องประชาชนที่ได้รับผลกระทบชายแดนไทย-กัมพูชา สั่งเว้นค่าเช่าที่ราชพัสดุ 2 เดือน บรรเทาภาระอย่างต่อเนื่อง นางสาวศศิกานต์ วัฒนะจันทร์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผยว่า รัฐบาลได้กำชับให้ทุกหน่วยงานเร่งให้ความช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ความไม่สงบอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะผลกระทบต่อการประกอบอาชีพและการใช้ประโยชน์จากที่ราชพัสดุที่เช่าอยู่ ซึ่งถือเป็นเหตุสาธารณภัยตามพระราชบัญญัติป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย พ.ศ. 2550 มาตรา 4 เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนอย่างเร่งด่วน รัฐบาลโดยกรมธนารักษ์ กระทรวงการคลัง ได้ออกมาตรการ “งดเว้นค่าเช่าที่ราชพัสดุทุกประเภทเป็นระยะเวลา 2 เดือน” ให้แก่ผู้เช่าที่ราชพัสดุในพื้นที่ประสบเหตุสาธารณภัย ซึ่งไม่สามารถใช้ประโยชน์ในที่เช่าตามปกติได้ โดยครอบคลุม 7 จังหวัด ได้แก่ สุรินทร์ ศรีสะเกษ อุบลราชธานี บุรีรัมย์ สระแก้ว จันทบุรี และตราด ผู้เช่าที่ประสงค์เข้าร่วมมาตรการนี้สามารถยื่นคำร้องได้แล้วตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ณ สำนักงานธนารักษ์พื้นที่ที่ทรัพย์สินตั้งอยู่ โดยครอบคลุมผู้เช่าทุกประเภทที่อยู่ในพื้นที่ตามประกาศของกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย หรือประกาศจังหวัดแล้วแต่กรณี “รัฐบาลมุ่งมั่นดำเนินมาตรการในทุกมิติอย่างต่อเนื่อง เพื่อดูแลความเป็นอยู่ของประชาชนให้ดีที่สุด โดยเฉพาะในพื้นที่เปราะบางที่ได้รับผลกระทบโดยตรงจากสถานการณ์ชายแดน เพราะ หน้าที่ของรัฐ คือการดูแลประชาชนให้ดีที่สุดในทุกสถานการณ์” นางสาวศศิกานต์ กล่าว.-314.-สำนักข่าวไทย

1 149 150 151 152 153 5,784
...