Line Today การเมือง //

คะแนนท่วมท้น! “ชัชชาติ” ผงาดนั่งว่าที่ผู้ว่าฯ กทม.คนใหม่

ผลการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.อย่างไม่เป็นทางการ หลังนับคะแนนครบ 100% “ชัชชาติ” คว้าชัยด้วยคะแนนท่วมท้น 1,386,769 คะแนน นั่งว่าที่ผู้ว่าฯ กทม.คนใหม่

Areewan

23/05/2565

วัดนครสวรรค์ฯ พร้อมแจงบัญชี หลังอดีตเจ้าอาวาสลาสิกขา

นครสวรรค์ 21 ก.ค. – วัดนครสวรรค์ฯ พร้อมแจงทุกประเด็น เตรียมเอกสารการเงินให้ตรวจสอบ หลังอดีตเจ้าอาวาสลาสิกขา พระครูสุธีธรรมบัณฑิต ผู้ช่วยเจ้าอาวาส ได้เตรียมความพร้อมสำหรับการเข้าตรวจสอบบัญชีรายรับ-รายจ่ายของวัด และสมุดบัญชีธนาคารเกือบ 20 บัญชี ตั้งแต่ปี 2564 จนถึงปัจจุบัน เพื่อให้คณะกรรมการจากสำนักพระพุทธศาสนาและเจ้าคณะอำเภอเข้าตรวจสอบทรัพย์สินและเส้นทางการเงินของอดีตเจ้าอาวาสในวันนี้ พระครูสุธีธรรมบัณฑิต เปิดเผยว่า การเตรียมเอกสารครั้งนี้เป็นไปตามนโยบายของวัดที่เน้นความโปร่งใสสูงสุด โดยเอกสารการเงินที่นำมาตรวจสอบเป็นเพียงส่วนหนึ่ง เนื่องจากเอกสารอีกส่วนหนึ่งอดีตเจ้าอาวาสได้ว่าจ้างสำนักงานตรวจสอบบัญชีภายนอกให้ดำเนินการ ซึ่งทางวัดมีการส่งบัญชีเข้าสำนักตรวจสอบบัญชีมาตั้งแต่ปี 2554 จนถึงปัจจุบัน นอกจากนี้ วัดยังอยู่ระหว่างการพัฒนาระบบบริหารจัดการแบบดิจิทัลผ่านแอปพลิเคชัน เพื่อให้ประชาชนสามารถตรวจสอบรายรับ-รายจ่ายของวัดได้ทุกที่ทุกเวลา เพื่อเพิ่มความโปร่งใสยิ่งขึ้น อดีตเจ้าอาวาสได้เน้นย้ำให้เงินบริจาคทุกบาททุกสตางค์ต้องผ่านระบบบัญชีธนาคาร โดยตู้บริจาคในพระอุโบสถจะมี QR Code สำหรับการโอนเงินเข้าบัญชีธนาคารโดยตรง ผู้บริจาคที่ต้องการใบอนุโมทนาบัตรเพื่อลดหย่อนภาษี สามารถติดต่อรับได้ที่สำนักงานวัด ซึ่งข้อมูลจะเชื่อมโยงกับกรมสรรพากรโดยตรง พระครูสุธีธรรมบัณฑิต บอกว่า ตัวเองเข้ามารับผิดชอบดูแลบัญชีของวัดได้ประมาณ 6-7 เดือนแล้ว จึงสามารถชี้แจงในส่วนนี้ได้ แต่หากเป็นช่วงเวลาก่อนหน้านั้นจะต้องรอข้อมูลจากสำนักตรวจสอบบัญชี สำหรับกุฏิของอดีตเจ้าอาวาสในขณะนี้ถูกปิดไว้ โดยข้าวของส่วนตัวบางส่วนได้ถูกนำออกไปแล้ว พระครูสุธีธรรมบัณฑิต เน้นย้ำว่า ต้องให้ความเป็นธรรมแก่อดีตเจ้าอาวาสในเรื่องทรัพย์สินส่วนตัวที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับวัด เนื่องจากท่านยังไม่มรณภาพ และพร้อมให้ความร่วมมือกับทุกหน่วยงานที่เข้ามาตรวจสอบ พระครูสุธีธรรมบัณฑิต ยังได้เล่าถึงคำสั่งเสียของอดีตเจ้าอาวาสก่อนลาสิกขาที่กล่าวกับรองเจ้าอาวาสว่า “หลวงพ่อครับผมได้พลาดไปแล้ว […]

ทบ.ยันทุ่นระเบิดไม่ใช่ของไทย ชี้กัมพูชาบิดเบือนข้อเท็จจริง

20 ก.ค.- โฆษก ทบ. ชี้แจงกรณีฝ่ายกัมพูชากล่าวหาว่าทหารไทยเป็นผู้ฝังทุ่นระเบิด ยืนยันทุ่นระเบิดที่พบไม่ใช่ของไทย ข้อมูลจากฝ่ายกัมพูชาเป็นการบิดเบือนข้อเท็จจริง วันนี้ (20 ก.ค. 68) พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก ได้ออกมาชี้แจงข้อเท็จจริงเพื่อสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องต่อสาธารณชน จากกรณีที่นาย แฮง รัตนา ผู้อำนวยการสำนักงานปฏิบัติการทุ่นระเบิดแห่งชาติกัมพูชา (CMAA) ให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชน โดยกล่าวหาว่าทหารไทยเป็นผู้ฝังกับระเบิดใหม่บริเวณแนวชายแดนไทย–กัมพูชา พร้อมอ้างว่ามีภาพถ่ายและคลิปวิดีโอที่บ่งชี้พฤติกรรมดังกล่าว โดยมีข้อเท็จจริง ดังนี้ 1. ทุ่นระเบิดที่ตรวจพบในพื้นที่ชายแดนไทย–กัมพูชา บริเวณช่องบกและพื้นที่อื่น ๆ เป็นระเบิดชนิด PMN-2 ซึ่งเป็นระเบิดสังหารบุคคล ผลิตจากประเทศรัสเซีย โดยกองทัพบกไทยไม่มีระเบิดชนิดนี้อยู่ในครอบครอง ไม่เคยมีอยู่ในสารบบ การจัดหาเข้ามาใช้ในหน่วยทหารของกองทัพไทย และไม่เคยมีการนำมาใช้ในการปฏิบัติงานในทุกพื้นที่แนวชายแดนแต่อย่างใด 2. ภาพถ่ายและคลิปวิดีโอที่เผยแพร่โดยสื่อ Fresh News ของกัมพูชา ซึ่งถูกนำเสนอว่าเป็นหลักฐานการวางระเบิดของทหารไทยนั้น ตรวจสอบแล้วพบว่าเป็นภาพจากภารกิจของศูนย์ปฏิบัติการทุ่นระเบิดเพื่อมนุษยธรรม (T-MAC) ในช่วงการฝึกเก็บกู้ หรือช่วงเวลาพักของกำลังพล ไม่ใช่การวางกับระเบิดแต่อย่างใด การนำเสนอข้อมูลในลักษณะดังกล่าวถือเป็นการบิดเบือนข้อเท็จจริง และสร้างความเสียหายต่อประเทศไทยอย่างร้ายแรง 3. การที่นายแฮง รัตนา กล่าวว่าทุ่นระเบิดอยู่ในเขตไทย […]

มวลชนแสดงออกเชิงสัญลักษณ์หน้าสถานทูตกัมพูชา

20 ก.ค.- “คปท.-ศปปส.” รวมพลังหน้าสถานทูตกัมพูชา แสดงออกเชิงสัญลักษณ์ เรียกร้องรัฐบาลรักษาอธิปไตยไทย หลังเหตุทหารเหยียบกับระเบิด บาดเจ็บ 3 นาย กำลังตำรวจ กว่า 100 นาย ตรึงกำลังบริเวณหน้าสถานทูตกัมพูชา และกระจายกำลังประจำจุดต่างๆ นำแผงเหล็กวางกั้นตลอดแนว ดูแลความเรียบร้อยและรักษาความปลอดภัย รวมถึงดูแลการจราจรโดยรอบพื้นที่ ขณะที่ เครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย (คปท.) กองทัพธรรม ศูนย์รวมประชาชนปกป้องสถาบัน (ศปปส.) และมวลชน เดินทางไปสถานทูตกัมพูชา รวมพลังเรียกร้องหน้าสถานทูตกัมพูชา หลังกำลังพลทหารไทยเหยียบกับระเบิดขณะออกลาดตระเวนจากฐานปฏิบัติการมรกตไปยังเนิน 481 ชายแดนไทย-กัมพูชา บาดเจ็บ 3 นาย และเหยียบกับระเบิดขาขาด โดยกลุ่มผู้ชุมนุมมีการแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ โบกธงชาติไทย ชูป้ายไม่ยอมเสียดินแดน ร้องเพลงปลุกใจเพลง “สู้ตรงนี้ สู้จนตาย เป็นคนสุดท้าย” และมีรถติดตั้งเครื่องขยายเสียงจอดริมถนนกล่าวปราศรัยถึงกรณีทหารไทยเหยียบกับระเบิด พร้อมเรียกร้องรัฐบาลรักษาอธิปไตยของชาติ ทั้งนี้ บริเวณถนนหน้าสถานทูตกัมพูชา ยังเปิดให้รถสัญจรได้ตามปกติทุกช่องทาง นายพิชิต ไชยมงคล แกนนำกลุ่มผู้ชุมนุม เปิดเผยว่า วันนี้มาเพื่อแสดงออกเชิงสัญลักษณ์สื่อสารไปถึงรัฐบาลและทหารของกัมพูชา หลังเกิดข้อพิพาทบริเวณแนวชายแดน ส่วนตัวไม่เห็นด้วยกับพฤติกรรมดังกล่าว เพราะมองว่าเป็นภัยต่อความมั่นคงของประเทศไทย […]

มทภ.2 ชวนคนไทย ร้องเพลงชาติให้กึกก้อง ส่งกำลังใจทหารแนวหน้า

19 ก.ค.- แม่ทัพภาคที่ 2 ชวนพี่น้องคนไทยทุกคน ร่วมกันร้องเพลงชาติให้ดังกึกก้อง แสดงออกถึงความเป็นหนึ่งเดียว ส่งกำลังใจให้น้องๆ ทหารหาญแนวหน้า ที่กองกำลังสุรนารี จ.สุรินทร์ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลัง พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 แถลงข่าวผลการตรวจกับระเบิดที่แนวชายแดนช่องบก จ.อุบลราชธานี ว่าเป็นของใหม่ เป็นเหตุให้ทหารไทย 3 นายเหยียบกับระเบิดจนได้รับบาดเจ็บนั้น พล.ท.บุญสิน กล่าวว่า ขอเชิญชวนพี่น้องคนไทยทุกคน ร่วมกันแสดงออกถึงความเป็นหนึ่งเดียวของความรักชาติ รักแผ่นดิน และส่งกำลังใจให้น้องๆ ทหารหาญที่อยู่แนวหน้า ด้วยการร้องเพลงชาติ ซึ่งเป็นเพลงประจำแผ่นดินของเรา จากนั้น แม่ทัพภาคที่ 2 ได้นำร้องเพลงชาติไทยอย่างสง่างาม ขณะที่โลกออนไลน์แห่แชร์คลิปดังกล่าว พร้อมติดแฮชแท็ก #70ล้านกำลังใจแด่รั้วของชาติ เชิญชวนคนไทยร่วมกันร้องเพลงชาติไทยให้ดังกึกก้องทั้งแผ่นดินไม่ว่าคุณจะอยู่ที่ไหน ก็ร่วมแสดงพลัง เพื่อเป็นกำลังใจให้เจ้าหน้าที่ทหารที่สละชีพ สละร่างกายเพื่อชาติ แด่ผู้สูญเสีย และผู้ที่ทำหน้าที่อยู่ในขณะนี้ทุกคน การร่วมกันร้องเพลงชาติ บันทึกภาพ คลิปวิดีโอ และโพสต์เป็นกำลังใจให้เจ้าหน้าที่ทหารทุกนาย พร้อมติด แฮชแท็ก #70ล้านกำลังใจแด่รั้วของชาติ #ปลดปล่อยมันออกมาพี่น้องชาวไทย #รักชาติไทย #ไม่ใช่กิจกรรมฯเพื่อแสวงหาผลประโยชน์ทางการเมือง […]

วิกฤติพระพุทธศาสนา ทำคนเสื่อมศรัทธา ?

19 ก.ค. – ข่าวสีกากับพระที่เกิดขึ้นในช่วงนี้ เกิดคำถามว่าจะทำให้เกิดวิกฤติศรัทธาในพระพุทธศาสนาหรือไม่ แต่สำหรับผู้ที่ปฏิบัติธรรม และพระสงฆ์ที่ปฏิบัติดี มองว่าถือเป็นโอกาสในการชำระล้างวงการสงฆ์.-สำนักข่าวไทย

damages from violence in southern Syria

ซีเรียประกาศหยุดยิงหลังอิสราเอลแทรกแซง

ดามัสกัส 19 ก.ค.- ทำเนียบประธานาธิบดีซีเรียประกาศหยุดยิงโดยให้มีผลทันทีและครอบคลุมในพื้นที่ที่มีความขัดแย้ง หลังจากอิสราเอลเข้ามาแทรกแซงด้วยการโจมตีซีเรียเมื่อหลายวันก่อน ด้านแหล่งข่าวเผยซีเรียส่งทหารไปทางใต้ด้วยความเข้าใจผิด ทำเนียบประธานาธิบดีซีเรียออกแถลงการณ์ในวันนี้เรื่องหยุดยิง และขอให้ทุกฝ่ายเคารพข้อตกลงหยุดยิงและยุติความเป็นปรปักษ์ในทุกพื้นที่โดยทันที หลังจากเกิดเหตุนองเลือดในพื้นที่ที่ชาวดรูซอาศัยอยู่เป็นส่วนใหญ่ และมีคนล้มตายหลายร้อยคน ก่อนหน้านั้นในวันเดียวกันโฆษกกระทรวงมหาดไทยซีเรียแถลงว่า รัฐบาลได้เริ่มส่งกองกำลังรักษาความมั่นคงภายในไปยังเขตผู้ว่าการจังหวัดซูไวดา ทางตอนใต้ของประเทศแล้ว ด้านนายโทมัสหรือทอม บาร์รัค เอกอัครราชทูตสหรัฐประจำทูร์เคียหรือตุรกี และทูตพิเศษสหรัฐเรื่องซีเรีย แจ้งเมื่อวันศุกร์ว่า นายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮูของอิสราเอลและประธานาธิบดีอาหมัด อัล-ชาราของซีเรีย เห็นชอบเรื่องหยุดยิงตามที่ทูร์เคีย จอร์แดนและประเทศเพื่อนบ้านสนับสนุนแล้ว จังหวัดซูไวดาเกิดเหตุรุนแรงมาตั้งแต่วันที่ 13 กรกฎาคม โดยเริ่มจากการปะทะกันระหว่างกลุ่มชนเผ่าเบดูอินกับกลุ่มชาวดรูซที่เป็นกลุ่มความเชื่อทางศาสนา ทำให้รัฐบาลซีเรียส่งกองกำลังเข้าไปรักษาความสงบเรียบร้อย ต่อมาอิสราเอลได้เข้าร่วมเป็นคู่ขัดแย้ง ด้วยการใช้ปฏิบัติการโจมตีทางอากาศถล่มกระทรวงกลาโหมในกรุงดามัสกัสของซีเรียเมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม โดยอ้างว่าเพื่อปกป้องชุมชนชาวดรูซในซีเรียที่เป็นพี่น้องกับชาวดรูซทางตอนเหนือของอิสราเอล และหยุดยั้งซีเรียส่งทหารเข้าไปในพื้นที่ทางใต้ที่อิสราเอลต้องการให้เป็นเขตปลอดทหาร  แหล่งข่าวหลายกระแสเปิดเผยว่า รัฐบาลซีเรียเข้าใจผิดว่า สหรัฐและอิสราเอลเห็นชอบให้ส่งกองกำลังลงไปยังพื้นที่ทางใต้ โดยตีความจากคำพูดที่เป็นการส่วนตัวและต่อสาธารณะของเจ้าหน้าที่ทั้ง 2 ประเทศ รวมถึงการที่นายบาร์รัคเรียกร้องให้ซีเรียบริหารประเทศแบบรวมศูนย์ในฐานะประเทศเดียวที่ไม่มีเขตปกครองตนเองหลายเขต ซีเรียจึงได้ส่งกองกำลังและรถถังไปยังจังหวัดซูไวดาเมื่อวันที่ 14 กรกฎาคมเพื่อยุติความขัดแย้งระหว่างนักรบของ 2 กลุ่ม กองกำลังซีเรียถูกกลุ่มติดอาวุธชาวดรูซโจมตี จึงได้จับพลเรือนชาวดรูซมาดูหมิ่นและสังหาร ทำให้เกิดความรุนแรงติดตามมา และเป็นเหตุให้อิสราเอลไม่พอใจ.-820(814).-สำนักข่าวไทย

“ทักษิณ” แจงหมอให้การห้องพักไม่ตรงกัน

วัดบ้านไร่ 19 ก.ค.-“ทักษิณ” ลั่นไม่เข้าใจ ทำไมหมอรักษาคนหายไม่ได้รางวัล แจงปมหมอที่เกี่ยวข้องให้การห้องพักไม่ตรงกัน นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่นายแพทย์โรงพยาบาลตำรวจ เข้าเบิกพยานให้ปากคำกับศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ในคดีชั้น 14 และมีการหลั่งน้ำตาออกมา โดยตอบคำถามว่า เป็นเรื่องที่ตนไม่เข้าใจเหมือนกัน พอหมอรักษาคนหาย ไม่ได้รับรางวัล ต้องหมอรักษาคนตายหรืออย่างไร ส่วนคำให้การที่ไม่ตรงกันของนายแพทย์ใหญ่โรงพยาบาลตำรวจ ที่ระบุว่าห้องที่พักรักษาตัวเป็นห้องพิเศษ แต่อีกคนกลับระบุว่าเป็นห้องธรรมดา เรื่องนี้ นายทักษิณ นิ่งไปครู่หนึ่ง แล้วระบุเพียงว่า “มันมีช่วง เป็นช่วงของห้องอยู่”.-313.-สำนักข่าวไทย

ฝากขัง “เสือปุ่น” พร้อมสมุนแก๊งปล้นเงิน 3.4 ล้านย่านลาดพร้าว

กทม. 19 ก.ค.-ตัว “เสือปุ่น-เสือบอล” 2 ใน 7 คนร้าย แก๊งปล้นเงิน 3.4 ล้านย่านลาดพร้าว ไปฝากขัง หลังหลบหนีนานกว่า 2 สัปดาห์ เร่งล่า “นายโบ้” พนักงานสอบสวน สน.พหลโยธิน ได้เบิกตัวนายวรวัฒน์ หรือเสือปุ่น อายุ 43 ปี ซึ่งเป็นหัวหน้าแก๊ง พร้อมลูกสมุน นายบอล อายุ 35 ปี ออกจากห้องควบคุมมาขึ้นรถควบคุมผู้ต้องหา เพื่อนำตัวไปขออำนาจศาลฝากขังที่ศาลอาญา รัชดา ในความผิดฐาน “ร่วมกันปล้นทรัพย์โดยมีอาวุธในเวลากลางคืน โดยใช้ยานพาหนะเพื่อกระทำความผิด” พร้อมคัดค้านการประกันตัวเนื่องจากคดีมีอัตราโทษสูง หากได้รับการปล่อยตัวชั่วคราวกลัวว่าจะหลบหนี ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงเช้าก่อนนำตัวไปฝากขังมารดาของเสือปุ่น ได้นำอาหารและขนมหวาน เข้ามาเยี่ยมและพูดคุยกัน ทั้งนี้ระหว่างการควบคุมตัวไปฝากขังผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามผู้ต้องหาถึงการก่อเหตุว่าทำไมถึงเลือกก่อเหตุในห้างสรรพสินค้า และเป็นหัวหน้าแก๊งจริงหรือไม่ แต่ทางเสือปุ่น ไม่ได้ตอบคำถามใดๆ เมื่อถามอีกว่าแม่รออยู่ข้างนอกอยากจะขอโทษแม่หรือไม่ เสือปุ่นบอกว่า “ครับ” โดยระหว่างอยู่ที่รถควบคุมผู้ต้องหาทางมารดาได้พยายามพูดคุยกับเสือปุ่นบอกว่าเดี๋ยวแม่จะไปหาที่ศาล โดยเสือปุ่นได้ตอบรับคำถามของมารดา บอกว่า ไม่ต้องครับแม่ กลับบ้านเลย กลับบ้านดีๆ […]

“ไผ่ ลิกค์” แจงงบฯ จวนผู้ว่าฯ ถูกตัดก่อนมีข่าว

กทม. 19 ก.ค.-“ไผ่ ลิกค์” แจงงบฯ จวนผู้ว่าฯ ถูกตัดก่อนมีข่าว ชี้ไม่เกี่ยว “พวกใคร-ไม่ใช่พวกใคร” ย้ำหน้าที่นิติบัญญัติคือตรวจสอบเพื่อความคุ้มค่า นายไผ่ ลิกค์ สส.กำแพงเพชร และเลขาธิการพรรคกล้าธรรม โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ชี้แจงถึงกรณีงบประมาณจวนผู้ว่าราชการจังหวัด ซึ่งถูกวิพากษ์วิจารณ์ในช่วงที่ผ่านมาว่า เรื่องนี้เป็นงบประมาณที่จัดทำโดยกระทรวงมหาดไทย และผ่านการประเมินราคาจากสำนักงบประมาณ โดยหลักการเมื่อเข้าสู่ชั้นอนุกรรมาธิการ งบที่ประเมินไว้สูงเกินความจำเป็น หรือมีลักษณะเป็น “ชั้นไขมันส่วนเกิน” จะถูกปรับลดหรือตัดออกตามความเหมาะสม เพื่อความคุ้มค่าและโปร่งใส ในกรณีนี้ คณะอนุกรรมาธิการฯ โดยมี สส.เพชรภูมิ พรรคกล้าธรรม เป็นหนึ่งในผู้พิจารณา ได้ร่วมกันตัดงบประมาณในส่วนนี้ออกไป “ก่อนที่ข่าวจะถูกนำมาเผยแพร่” จึงน่าแปลกใจว่าเหตุใดจึงมีการนำประเด็นที่ “ถูกตัดไปแล้ว” มานำเสนอราวกับว่ายังอยู่ นายไผ่ กล่าวย้ำว่า ขอเรียนให้เข้าใจตรงกันว่า การเสนอของบประมาณเป็นหน้าที่ของส่วนราชการ แต่การพิจารณา ตัด หรือปรับลดงบประมาณนั้น เป็นหน้าที่ของฝ่ายนิติบัญญัติ ซึ่งกระบวนการนี้เกิดขึ้นเป็นปกติในทุกปี ไม่ได้เกี่ยวข้องกับใครเป็นพิเศษ และไม่ได้มีเรื่องของ “พวกใคร-ไม่ใช่พวกใคร” มาเกี่ยวข้องเลยครับ “ตอนผมทำหน้าที่ในอนุกรรมาธิการฯ ผมเองก็เคยตัดงบที่คิดว่าเกินความจำเป็นไปมากกว่านี้อีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นของหน่วยงานใดหรือใครเสนอมา หากมีเหตุผลเพียงพอ ก็สามารถพิจารณาตัดได้ทั้งหมด แม้กระทั่งโครงการใหญ่ทั้งชุด […]

9 ทันโลก : เปิดอนุสัญญาออตตาวา กรณีทุ่นระเบิด

18 ก.ค. – รายงาน 9 ทันโลกวันนี้ พาไปติดตามอนุสัญญาออตตาวา ที่กลายเป็นประเด็นระหว่างไทยกับกัมพูชาล่าสุด มีความสำคัญอย่างไร โดยเฉพาะแนวทางสำหรับกรณีเกิดการละเมิดขึ้น .-สำนักข่าวไทย

“พิชัย” มั่นใจอัตราภาษีใหม่สหรัฐต่ำกว่า 36% คาดทราบผลเร็ววันนี้

กรุงเทพฯ 18 ก.ค. – “พิชัย” เผยผลหารือรอบ 2 กับ USTR เป็นไปในทิศทางบวก มั่นใจได้อัตราภาษีต่ำกว่า 36% โดยจะเป็นอัตราใกล้เคียงประเทศในภูมิภาค คาดสหรัฐแจ้งผลเร็วๆ นี้ ย้ำข้อเสนอไทยผ่านการกลั่นกรองรอบด้าน เตรียมแผนสำรองรับมือทุกสถานการณ์ พร้อมเดินหน้าขยายตลาดส่งออกทั่วโลก นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยภายหลังการหารืออย่างเป็นทางการระหว่างคณะผู้แทนไทยและสำนักงานผู้แทนการค้าสหรัฐอเมริกา (USTR) รอบที่ 2 ผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ ช่วงค่ำของวันที่ 17 กรกฎาคม โดยระบุว่า บรรยากาศหารือเป็นไปด้วยดี ฝ่ายไทยมีความมั่นใจว่า อัตราภาษีนำเข้าสินค้าไทยที่สหรัฐฯ กำลังอยู่ระหว่างการพิจารณานั้น จะต้องต่ำกว่า 36% ซึ่งเป็นอัตราเดิมที่ถูกตั้งไว้ก่อนหน้านี้ และเชื่อว่า จะถูกปรับให้อยู่ในระดับที่ใกล้เคียงกับประเทศอื่นในภูมิภาค เพื่อให้เกิดการแข่งขันที่เป็นธรรม สำหรับข้อเสนอที่ไทยยื่นต่อสหรัฐฯ ในรอบนี้ ยังคงอยู่ในกรอบหลัก 5 ประเด็นสำคัญ โดยเฉพาะเรื่องภาษีนำเข้า ซึ่งมีการปรับปรุงรายละเอียดตามข้อเสนอแนะจากหลายภาคส่วนภายในประเทศ ทั้งภาคธุรกิจ ภาคเกษตร และหน่วยงานรัฐ โดยฝ่ายไทยได้ดำเนินการ “Stress Test” หรือการทดสอบความพร้อมและผลกระทบเชิงลึก เพื่อให้ข้อเสนอมีความรอบด้านและตรงจุดที่สุด […]

ศบ.ทก.​เผยไทยเตรียมประท้วง หากกัมพูชาวางทุ่นระเบิดใหม่

ทำเนียบ 18 ก.ค.-ศบ.ทก.​ ยัน​ไทยไม่เพิกเฉย​ เตรียมประท้วง หากพบกัมพูชาวางทุ่นระเบิดใหม่​ ผิดอนุสัญญา​ออตตาวา​ ปี​ 2542 ทำ 3 ทหารพรานเหยียบทุ่นระเบิดขณะลาดตระเวน​ เผย​ผลหารือร่วม​ เหตุหญิงกัมพูชาทำวุ่นปราสาทตาเมือนธม​ คัดกรองเข้มนักท่องเที่ยว​ ส่งชุดประสานงานไทย-กัมพูชา ฝ่ายละ 7 คน ดูแลนักท่องเที่ยว ห้ามเรียกกำลังเพิ่ม​ หวังลดการเผชิญหน้า พลเรือตรีสุรสันต์ คงสิริ รองโฆษกกองบัญชาการกองทัพไทย และนางมาระตี นะลิตา อันดาโม รองอธิบดีกรมสารนิเทศ และรองโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ แถลงผลการประชุมศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา หรือ​ ศบ.ทก.​ โดยพลเรือตรีสุร​สันต์​ กล่าวชี้แจงกรณี พลเอกณัฐพล​ นาคพาณิชย์​รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม​ รักษาราชการแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และในฐานะผอ.ศบ.ทก​ ได้ลงพื้นที่โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จ.อุบลราชธานีเยี่ยมทหารที่ได้รับบาดเจ็บจากการเหยียบกับระเบิด​ ขณะปฏิบัติภารกิจลาดตระเวนพื้นที่ช่องบก​ จังหวัดอุบลราชธานี โดยทหารทั้ง 3 นาย​ อยู่ในสภาวะขวัญและกำลังใจที่ดีเยี่ยม ปัจจุบันได้ดูแลอย่างใกล้ชิดจากคณะแพทย์ เป็นไปตามมาตรฐาน​ และทันท่วงทีจนอาการทั้ง 3 นายอยู่ในเกณฑ์ที่ปลอดภัย สำหรับพลทหารที่เหยียบกับระเบิดจนทำให้ขาด้านซ้ายขาด กองทัพภาคที่ 2 […]

1 22 23 24 25 26 1,920
...