คะแนนท่วมท้น! “ชัชชาติ” ผงาดนั่งว่าที่ผู้ว่าฯ กทม.คนใหม่
ผลการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.อย่างไม่เป็นทางการ หลังนับคะแนนครบ 100% “ชัชชาติ” คว้าชัยด้วยคะแนนท่วมท้น 1,386,769 คะแนน นั่งว่าที่ผู้ว่าฯ กทม.คนใหม่
ผลการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.อย่างไม่เป็นทางการ หลังนับคะแนนครบ 100% “ชัชชาติ” คว้าชัยด้วยคะแนนท่วมท้น 1,386,769 คะแนน นั่งว่าที่ผู้ว่าฯ กทม.คนใหม่
กระทรวงการต่างประเทศ 28 ก.ค.- กต. ยืนยัน ไทยยึดมั่นต่อพันธกรณีภายใต้อนุสัญญาห้ามอาวุธเคมี ชี้ข่าวกองกำลังไทยใช้อาวุธเคมีเป็นการบิดเบือนข้อเท็จจริง และหวังทำลายสถานะไทย ต่อประชาคมโลก นายนิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ ชี้แจงกรณีที่มีรายงานข่าวกล่าวหาว่ากองกำลังของไทยใช้อาวุธเคมี ว่า ไทยปฏิเสธข้อกล่าวหาที่ขาดหลักฐานเชิงประจักษ์ และยืนยันการยึดมั่นต่อพันธกรณีภายใต้อนุสัญญาห้ามอาวุธเคมี (Chemical Weapons Convention: CWC) และยืนหยัดในท่าทีในการประณามการใช้อาวุธเคมีไม่ว่าจะเป็นที่ใด โดยผู้ใด หรือภายใต้สถานการณ์ใดก็ตาม นอกจากนี้ ประเทศไทยยังยึดมั่นต่อตราสารระหว่างประเทศด้านการลดอาวุธและการไม่แพร่ขยายอาวุธที่มีอานุภาพทำลายล้างสูงทั้งปวง โดยนับตั้งแต่ไทยเข้าเป็นภาคีอนุสัญญาห้ามอาวุธเคมีเมื่อปี 2546 ไทยได้แสดงความมุ่งมั่นอย่างแน่วแน่ต่อการเป็นภาคีอนุสัญญาฯ ด้วยการดำเนินการอย่างเป็นรูปธรรม และร่วมมืออย่างใกล้ชิดกับองค์การห้ามอาวุธเคมี (Organisation for the Prohibition of Chemical Weapons: OPCW) รวมทั้งกับรัฐภาคีอนุสัญญาอื่น ๆ ดังนั้นข้อกล่าวหาดังกล่าวขาดมูลความจริง และสะท้อนการบิดเบือนข้อมูลอย่างเป็นระบบที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพื่อบิดเบือนข้อเท็จจริงในพื้นที่ และมีเจตนาที่จะบ่อนทำลายความน่าเชื่อถือและสถานะของประเทศไทยในประชาคมระหว่างประเทศ.-312-สำนักข่าวไทย
ศรีสะเกษ 28 ก.ค.-เปิดภาพ! ทหารไทยทำลายกระเช้า-บันได ตัดเส้นทางกัมพูชาขึ้นภูมะเขือสำเร็จ ขณะทหารกัมพูชาประจำบริเวณด้านล่างของหน้าผา เมื่อวันที่ 28 ก.ค.68 ผู้สื่อข่าวรายงานสถานการณ์ที่ภูมะเขือ ภายหลังจากทหารไทยผลักดันทหารกัมพูชาออกจากพื้นที่ พร้อมนำธงชาติไทยปักบนยอดภูมะเขือ และทางฝ่ายทหารกัมพูชาพยายามเข้าโจมตีเพื่อหวังยึดพื้นที่คืน แต่ทหารไทยได้ทำลายกระเช้าและบันได ที่ฝ่ายกัมพูชาสร้างขึ้นผิด MOU43 โดยที่ผ่านมา ฝ่ายไทยได้ทำหนังสือประท้วงไปหลายรอบ แต่กัมพูชาก็เมินเฉยมาโดยตลอด ล่าสุดทหารไทยได้มีการเผยแพร่ภาพตัดสลิงกระเช้า ก่อนรื้อถอนตัวฐานกระเช้า และบันไดภูมะเขือ เรียบร้อยแล้ว ตัดเส้นทางไม่ให้ทหารกัมพูชาขึ้นมาบนภูมะเขืออีก ซึ่งปัจจุบันทหารกัมพูชาประจำบริเวณด้านล่างหน้าผาภูมะเขือ.-313.-สำนักข่าวไทย
น่าน 27 ก.ค.-น้ำที่ท่วมตัวเมืองน่านแห้งลงแล้วแทบทุกชุมชน แต่ยังคงทิ้งดินโคลนและซากความเสียหายไว้ทั่วเมือง ร้านค้าหลายแห่งยังเปิดกิจการทำมาค้าขายไม่ได้ บริเวณถนนข้าหลวงเชื่อมต่อไปยังตลาดศรีคำ ย่านการค้าสำคัญกลางเมืองน่าน ตรงนี้เคยน้ำท่วมสูงมิดหัว ตอนนี้น้ำแห้งแล้ว เหลือไว้แต่ดินโคลนพร้อมเศษซากความเสียหายที่กลายเป็นขยะเละเทะเต็มพื้นที่ ชาวเมืองน่านหลายคนขนข้าวของเครื่องใช้ ตู้โตะที่เสียหาย กลายเป็นขยะออกมากองไว้ริมถนน เจ้าของกิจการหลายคนในพื้นที่ได้รับความเสียหายอย่างหนัก อย่าง “ลุงจักรวาล” อายุ 64 ปีเจ้าของร้านขายอุปกรการประมง ย่านถนนข้าหลวง ซึ่งกำลังเก็บล้างทำความตู้โต๊ะข้าวของ เล่าว่า ค้าขายที่นี่มากว่า 30 ปี น้ำท่วมเมืองน่านปีนี้ถือว่าหนักหนาสาหัสที่สุด แม้บริเวณนี้จะอยู่ใกล้แม่น้ำนาน ถูกน้ำท่วมมาหลายรอบ แต่ครั้งนี้ท่วมสูงจนมิดหัว ข้าวของที่ยกไว้สูงกว่าเมตรครึ่ง จมน้ำเสียหายหมด เช่นเดียวกับ “ลุงสุทธี” อายุ 64 ปี เจ้าของร้านขายนาฬิกาและวิทยุเก่าแก่บนถนนข้าหลวง เล่าว่า ปกติน้ำท่วมเข้าบ้านสูงไม่เกินเมตร แต่ปีนี้น้ำท่วมสูงมิดหัว รถมอเตอร์ไซค์ที่ไปฝากจอดไว้บนที่สูงถูกน้ำพัดลอยไปไกลกว่า 1 กิโลเมตร เสียหายหนัก นาฬิกา วิทยุ ตู้โต๊ะ สินค้าชิ้นเล็กชิ้นน้อย เสียหายนับแสนบาท ตอนนี้คงต้องรีบล้างโคลนขนของที่เสียหายออกมาทิ้ง แม้น้ำยังไม่ไหลไฟฟ้ายังไม่มา ก็ต้องรองน้ำฝนมาล้างข้าวของไปก่อน ตัวเมืองน่านตอนนี้หลายพื้นที่ยังไม่มีน้ำประปาให้ชาวเมืองน่านได้ล้างข้าวล้างของ หลายคนต้องขับรถไปซื้อน้ำและรองน้ำฝนมาใช้ล้างบ้านเท่าที่ทำได้ไปก่อน และยังมีขยะชิ้นใหญ่ชิ้นเล็กตกค้างอยู่ตามถนนตรอกซอกซอย รอเทศบาลเข้ามาจัดการออกไป.-สำนักข่าวไทย
จันทบุรี 27 ก.ค. – หวิดเหยียบกันตาย ชาวกัมพูชากว่า 3 หมื่นคน ทะลักหน้าด่านบ้านแหลม แห่ขนสัมภาระกลับประเทศ เจ้าหน้าที่เปิดประตูใหญ่เร่งระบาย เวลา 08.30 น. วันที่ 27 ก.ค 68 บริเวณหน้าจุดผ่านแดนถาวรตลาดบ้านแหลม ตำบลเทพนิมิตร อำเภอโป่งน้ำร้อนจังหวัดจันทบุรี ก่อนถึงกำหนดเปิดประตูด่าน 09.00 น. มีชาวกัมพูชาหลายหมื่นคน แห่ขนสัมภาระรอข้ามกลับประเทศ มีบางคนหน้ามืดเป็นลม หวิดเหยียบกันตาย เจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยจำเป็นต้องเปิดประตูใหญ่เร่งระบาย ก่อนปิดด่าน 15.00 น. – สำนักข่าวไทย
27 ก.ค. – ศบ.ทก. ยันไทยจะหยุดยิงต่อเมื่อกัมพูชาแสดงความจริงใจและหยุดยิงเป็นที่ประจักษ์ ชี้เลี่ยงเจรจาหลายครั้ง และยังเสริมกำลังและอาวุธหนักต่อเนื่อง ซัดใช้กระแสรักชาติปลุกระดม ขณะ กต.ไทยย้ำจุดยืนในวง UNSC กัมพูชา ใช้ประชาชนเป็นโล่กำบัง โจมตีพลเรือนต่อเนื่องไร้มนุษยธรรม จ่อยื่น ICRC หลังยิงอาวุธหนัก เข้า รพ. และ รพ.สต.-บ้านเรือนประชาชน จ.สุรินทร์ พล.ร.ต.สุรสันต์ คงสิริ โฆษกศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา (ศบ.ทก.) แถลงข่าวประเด็นสำคัญเกี่ยวกับสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา แถลงว่าจากประเด็นที่ปรากฏเป็นข่าวในเรื่องของการเรียกร้องของบางประเทศให้ไทยและกัมพูชาหยุดยิง ฝ่ายไทยขอชี้แจงว่าด้วยในหลักการดังกล่าว แต่จะกระทำได้ก็ต่อเมื่อฝ่ายกัมพูชาแสดงความจริงใจและเข้าร่วมหารือในขั้นตอนในรายละเอียดต่างๆ ด้วย รวมทั้งหยุดยิงเป็นที่ประจักษ์ อย่างไรก็ตามจากสถานการณ์ที่ผ่านมาก็เห็นได้ว่าฝ่ายกัมพูชาก็ยังคงมีการส่งกำลังทหารเข้าปะทะบริเวณใกล้เคียงพื้นที่เขาพระวิหารในเวลา 02.10 น. ประกอบด้วยการยิงจรวดบีเอ็มสองหนึ่ง เข้ามายังฝ่ายไทยและตกบริเวณบ้านตาโส หมู่10 ตำบลบ้านพลวง อำเภอปราสาท จังหวัดสุรินทร์ เมื่อเวลา 06.10 น. ซึ่งเป็นเป้าหมายของพลเรือน ทำให้บ้านของพลเรือนเสียหายและนอกจากนี้ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 26 กรกฎาคม ในเวลา 15.30 น. กระสุนปืนใหญ่ของกัมพูชาก็พุ่งเป้าใส่โรงพยาบาลในพื้นที่ ได้แก่ โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลศรีสะเกษ และโรงพยาบาลบ้านกรวดจังหวัดบุรีรัมย์ […]
กรุงเทพฯ 26 ก.ค.-กรมบัญชีกลางเพิ่มเงินทดรองจ่ายอีก 100 ล้าน ให้ผู้ว่าอีก 3 จังหวัด ชายแดนไทย – กัมพูชา ให้อธิบดี ปภ. เพื่อรับมือพายุวิภา นางแพตริเซีย มงคลวนิช อธิบดีกรมบัญชีกลาง เปิดเผยว่า กรมบัญชีกลางได้อนุมัติขยายวงเงินทดรองราชการในอำนาจผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว จันทบุรี ตราด ซึ่งได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์บริเวณชายแดนไทย – กัมพูชาและมีแนวโน้ม ยกระดับความรุนแรงและขยายวงกว้างมากยิ่งขึ้น อีกจังหวัดละ 100 ล้านบาท พร้อมทั้งขยายวงเงินทดรองราชการในอำนาจอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเพิ่มเติมเป็น 100 ล้านบาท เพื่อให้สามารถช่วยเหลือพี่น้องประชาชนที่ได้รับผลกระทบได้อย่างรวดเร็ว ทั่วถึง และทันต่อสถานการณ์ นอกจากนั้น กรมบัญชีกลางยังได้อนุมัติขยายวงเงินทดรองราชการที่อยู่ในอำนาจหน้าที่ของอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เป็น 100 ล้านบาท เพื่อให้เกิดความคล่องตัวในการปฏิบัติงานให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน กรณีอุทกภัยจากพายุวิภา เพิ่มเติมจากที่ได้อนุมัติวงเงินให้ผู้ว่าราชการจังหวัดน่าน จังหวัดเชียงราย จังหวัดพะเยา จังหวัดลำปาง จังหวัดเชียงใหม่ และจังหวัดแพร่ไปแล้ว จังหวัดละ 50 ล้านบาท.-515 สำนักข่าวไทย
26 ก.ค.- เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ” ทหารไทยยึดอาวุธปืน-โดรน 11 รายการ พร้อมมือถือ 7 เครื่อง ใช้ถ่ายคลิปยั่วยุทหารไทย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 รายงานข่าวจากกองทัพภาคที่ 2 ระบุว่า สำหรับปฏิบัติการ ของเจ้าที่ทหารกองทัพภาคที่ 2 บนภูมะเขือที่สามารถยึดกลับคืนมาได้ ทำให้ทหารกัมพูชาเสียชีวิต 10 นาย พร้อมทั้งตรวจพบและสามารถยึดอาวุธ ยุทโธปกรณ์ จำนวน 11 รายการ ประกอบด้วย นอกจากนี้ยังพบโทรศัพท์มือถือ 7 เครื่อง ที่ทางทหารกัมพูชาชอบถ่ายในเวลาทำคลิปเมื่อเจอกับทหารไทยบริเวณแนวชายแดน -สำนักข่าวไทย
26 ก.ค. – ผบ.ตร. สั่งทุกโรงพักยกระดับสืบสวนเชิงลึก จับตาอินฟลูฯ ทำคอนเทนต์ยุยงปลุกปั่นทำร้ายชาวกัมพูชา-เปิดเพจรับบริจาคลวง พล.ต.ท.อาชยน ไกรทอง โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า จากเหตุการณ์ปะทะบริเวณชายแดน สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ติดตามการพิทักษ์ส่วนหลังในการดูแลทรัพย์สินของประชาชน และผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ สั่งการให้ตำรวจทุกนายยกระดับสั่งการให้ทุกกองบัญชาการ ตำรวจทุกสถานี สืบสวนหาข่าวกลุ่มบุคคลอินฟลูเอนเซอร์ใช้โซเชียลมีเดียทำคอนเทนต์บิดเบือนข้อมูลอันเป็นเท็จ ยุยงปลุกปั่นให้เกิดความขัดแย้งระหว่าง 2 ประเทศ อาจทำให้เกิดเหตุบานปลาย อาทิ มีอินฟลูฯ บางคนยุยงให้มีการทำร้ายชาวกัมพูชา ซึ่งถือว่ามีความผิดฐานตามกฎหมาย รวมถึงเพจหลอกลวงและเปิดรับบริจาคเงินและสิ่งของให้กับเจ้าหน้าที่และช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบ ส่วนในพื้นที่จังหวัดตราด ที่ได้เกิดการปะทะขึ้นเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา (26 ก.ค.) เบื้องต้นได้รับรายงานว่าตั้งแต่กลางดึกของคืนวันที่ 26 กรกฎาคม ตำรวจภูธรภาค 2 ได้สนธิกำลังกับหน่วยงานความมั่นคงทางทหาร ประเมินความเสี่ยงและเข้าไปช่วยเหลืออพยพประชาชนไปอยู่ในพื้นที่ศูนย์พักพิงและที่ปลอดภัยแล้ว ขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงานว่ามีผู้บาดเจ็บหรือเสียชีวิต ขณะที่มาตรการดูแลบริเวณด่านชายแดนในพื้นที่จังหวัดจันทบุรี และตราด ยุทธการจะขึ้นกับฝ่ายทหาร โดยจะมีการเปิด-ปิดด่านเป็นช่วงเวลา เพื่อให้คนไทยและคนกัมพูชาที่ต้องการจะกลับบ้านได้เดินทางเข้า-ออก และขอให้ประชาชนติดตามประกาศเพื่อให้การดำเนินการเป็นไปอย่างเรียบร้อย ส่วนกรณีที่ตำรวจควบคุมตัวชาย 2 คน ในพื้นที่อำเภอกาบเชิง จังหวัดสุรินทร์ ไว้สอบสวน เนื่องจากพบว่ามีการพกพากล้องนำไปถ่ายตามพื้นที่ต่างๆ ขณะนี้อยู่ระหว่างดำเนินการเพิกถอนใบอนุญาตอยู่ในราชอาณาจักร มีความผิดเป็นภัยค่อความมั่นคง และรอการผลักดันส่งกลับประเทศ […]
สระแก้ว 26 ก.ค. – กองกำลังบูรพาผลักดันทหารกัมพูชาออกจาก 4 พื้นที่ จ.สระแก้ว สำเร็จ พร้อมตรึงกำลังเข้มตลอดแนว เดินหน้าอพยพประชาชนออกจากจุดเสี่ยง เมื่อเวลา 08.00 น. (วันที่ 26 ก.ค. 68) ตามที่เกิดสถานการณ์การสู้รบตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 1 สรุปผลการปฏิบัติที่สำคัญ ดังนี้ สถานการณ์และการปฏิบัติ ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 1 โดยกองกำลังบูรพา ปฏิบัติภารกิจตามแผนจักรพงษ์ภูวนารถ 681 ทบ. ด้วยการใช้กำลังปฏิบัติในการผลักดันต่อกำลังฝ่ายกัมพูชาออกจากเขตแดนอธิปไตยของประเทศไทย และบริเวณพื้นที่อ้างสิทธิตาม MOU43 จำนวน 4 พื้นที่ บริเวณแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ด้านจังหวัดสระแก้ว ได้แก่ อำเภอตาพระยา จำนวน 2 พื้นที่ และอำเภอโคกสูง จำนวน 22 พื้นที่ ผลการปฏิบัติ สามารถผลักดันกำลังฝ่ายกัมพูชาออกจากพื้นที่ทั้ง 4 พื้นที่ ปัจจุบันได้ดำเนินการวางกำลังตรึงพื้นที่ตลอดแนวชายแดนในพื้นที่รับผิดชอบ เพื่อรักษาอธิปไตย และรักษาความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนชาวไทย การอพยพประชาชน […]
อุบลราชธานี 26 ก.ค.- “ทักษิณ” ลงพื้นที่ จ.อุบลราชธานี เยี่ยมให้กำลังใจผู้ประสบภัยชายแดน พร้อมมอบสิ่งของฉลองวันคล้ายวันเกิด เมื่อเวลา 09.30 น.นายทักษิณ ชินวัตร เดินทางมายังเทศบาลเมืองเดชอุดม พบปะผู้อพยพจากการสู้รบพื้นที่จังหวัดอุบลราชธานี พร้อมมอบสิ่งของ ทำอาหารแจกจ่ายชาวบ้านในพื้นที่ ซึ่งวันนี้เป็นวันคล้ายวันเกิดนายทักษิณ 26 ก.ค. ศูนย์ของพรรคเพื่อไทย ทำโรงครัวแจกจ่ายผู้อพยพในจังหวัดอุบลราชธานี จำนวน 2 มื้อ รองรับมื้อละ 4,000 กล่อง– 716. – สำนักข่าวไทย
26 ก.ค.- “กองทัพภาค 2” แจ้งเตือนประชาชนเฝ้าระวัง “ขีปนาวุธ PHL-03” วิถีไกล 130 กม. ยืนยันกองทัพมีแผนรองรับสถานการณ์ แนะติดตามการแจ้งเตือนจากทางการใกล้ชิด เพจเฟซบุ๊กกองทัพภาคที่ 2 โพสต์ข้อความแจ้งเตือนเฝ้าระวัง “ขีปนาวุธ PHL-03” เป็นระบบขีปนาวุธที่มีความสามารถในการยิงหลายลูกพร้อมกันในระยะทางไกลถึง 130 กิโลเมตรจากตำแหน่งยิง ขีปนาวุธชนิดนี้สามารถทำลายที่หมายทางยุทธศาสตร์ และที่ตั้งกำลังทางทหาร ซึ่งกองทัพได้เตรียมการรองรับสถานการณ์ ในการปฏิบัติตามแผนพิทักษ์พื้นที่ส่วนหลัง และมีเครื่องมือในการทำลายขีปนาวุธชนิดนี้ แต่เพื่อไม่ประมาทในการป้องกันชีวิตและทรัพย์สินของพลเรือน ขอให้ระมัดระวังการถูกโจมตีที่ไม่พึงประสงค์นี้ ขอให้ประชาชนไม่ตื่นตระหนก และติดตามการแจ้งเตือนจากทางการ
ทำเนียบฯ 25 ก.ค.- “ภูมิธรรม” อ่านแถลงการณ์รัฐบาลไทย นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณในหลวง-พระราชินี รับผู้บาดเจ็บทุกคนจากเหตุการณ์ปะทะชายแดนไทย-กัมพูชา ไว้ในพระบรมราชานุเคราะห์ ชี้ กัมพูชา ใช้กำลังทหารโจมตีพื้นที่ชุมชน-โรงพยาบาล ขัดกรอบกฎหมายระหว่างประเทศและหลักมนุษยธรรม ลั่น เป็นอาชญากรรมสงครามขั้นรุนแรง ขอประชาคมโลกร่วมประณามการกระทำไร้ซึ่งมนุษยธรรม พร้อมแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อผู้สูญเสีย ยืนยัน รัฐบาลไทยไม่นิ่งนอนใจ บอก กองทัพไทยตอบโต้ทันทีนับตั้งแต่เสียงกระบอกปืนนัดแรกดัง นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยในฐานะรักษาการนายกรัฐมนตรี อ่านแถลงการณ์รัฐบาลไทย ฉบับแรก ต่อสถานการณ์ความไม่สงบที่บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา เพื่อสื่อสารกับประชาชน โดยระบุว่า “พี่น้องประชาชนชาวไทยทุกท่าน จากสถานการณ์ที่ประเทศไทยของเรากำลังถูกคุกคามจากประเทศกัมพูชา แม้ที่ผ่านมาเราจะอดทนอดกลั้นต่อการยั่วยุและเลือกที่จะใช้สันติวิธีภายใต้กรอบกฎหมายระหว่างประเทศและตามหลักมนุษยธรรมแล้ว แต่เป็นที่น่าผิดหวังมากที่ฝ่ายกัมพูชาเลือกที่จะใช้กำลังทางทหารก่อนและยังเป็นการปฏิบัติที่ขัดต่อกรอบกฎหมายระหว่างประเทศและหลักมนุษยธรรมอย่างรุนแรง ด้วยการโจมตีโรงพยาบาล และพื้นที่ชุมชนที่ประชาชนอาศัยอยู่ซึ่ง เลยแนวชายแดนมากว่า 20 กิโลเมตร ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตเป็นพลเรือน 13 รายรวมไปถึงเด็ก สตรีและคนชรา รวมทั้งทรัพย์สินของพี่น้องประชาชนเสียหายอย่าง ใหญ่หลวง ถือเป็นอาชญากรรมสงครามขั้นรุนแรง ซึ่งเมื่อวานนี้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศได้ชี้แจงข้อเท็จจริงกับเลขาธิการสหประชาชาติ และรัฐบาลได้มีหนังสือถึงคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติเพื่อชี้แจงข้อเท็จจริง ประณามการโจมตีโดยไม่เลือกเป้าหมายโดยเฉพาะอย่างยิ่งต่อประชาชนผู้บริสุทธิ์ รวมทั้งขอเชิญชวนให้ประชาคมโลกร่วมประณามการกระทำอันไร้มนุษยธรรมนี้ รัฐบาลขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อการสูญเสียของพี่น้องประชาชน ทุกท่าน และขอยืนยันว่าตลอดระยะเวลาที่ผ่านมารัฐบาล กองทัพ และหน่วยราชการทุกหน่วยไม่ได้นิ่งนอนใจแม้แต่น้อย นับแต่เสียงจากกระบอกปืนนัดแรกดังขึ้น กองทัพไทยได้มีการตอบโต้โดยจำกัดวงอยู่เฉพาะเป้าหมายทางการทหารของกัมพูชา […]