กรุงเทพฯ 30 ส.ค.เผยวงหารือตัวแทนองค์กรโทรคมนาคม 98 ชาติเอเชียแปซิฟิก เห็นตรงกนรวมตัวป้องกันธุรกิจดาวเทียม
พล.อ.ต.ดร.ธนพันธุ์ หร่ายเจริญ รองเลขาธิการ กรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) กล่าวว่า จากการเป็นตัวแทนประเทศไทยไปประชุมองค์กรโทรคมนาคมแห่งเอเชียแปซิฟิก (เอพีที) ที่มีสามาชิก 38 ประเทศ มีประเด็นในการหารือ คือ การกำหนดคลื่นความถี่สำหรับกิจการเคลื่อนที่สากลที่จะนำมาใช้กับ 5G และ 6G ได้มีการเสนอคลื่นความถี่ 12 ย่านความถี่ โดยเป็นย่านความถี่ที่สูงกว่า 24 กิกะเฮิรตซ์ ทั้งหมด โดยที่ประชุมมีข้อสรุปร่วมกัน 3 ย่านความถี่ คือ 24.25-27.5 กิกะเฮิรตซ์ 37-43.5 กิกะเฮิรตซ์ แ 66-71 กิกะเฮิรตซ์
ที่ประชุมได้สะท้อนความเห็นถึงความสำคัญของคลื่นความถี่และสิทธิวงโคจรดาวเทียมที่มีอยู่อย่างจำกัด จึงระดมสรรพกำลังจากทุกภาคส่วนปกป้องและให้ได้มา จึงได้มีการเสนอความถี่ย่าน 17.7-19.7 กิกะเฮิรตซ์ (อวกาศสู่โลก) และย่าน 27.5-29.5 กิกะเฮิรตซ์ (โลกสู่อวกาศ) สำหรับสถานีภาคพื้นโลกที่เคลื่อนที่ ที่จะนำไปใช้ให้บริการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงบนเครื่องบิน เรือ รถไฟ หรือยานพาหนะเคลื่อนที่ในอนาคต โดยที่ประชุมเห็นว่าหากดาวเทียม สเปซเอ็กซ์ ของอีลอนมัส และดาวเทียมวันเว็บ ขึ้นสู่วงโคจะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงบนโลกมากขึ้น
นอกจากนี้ที่ประชุมได้มีการพิจารณาคลื่นความถี่สำหรับระบบส่งสัญญาณอินเทอร์เน็ตในระดับสูง โดยประเทศไทยสนับสนุนการใช้คลื่นย่าน 47.2-47.7/47.9-48.2 กิกะเฮิรตซ์ทั่วโลก ย่าน 27.9-28.2 กิกะเฮิรตซ์ และ31-31.3 กิกะเฮิรตซ์ ที่ประชุมยังได้มีข้อสรุปการใช้ย่านความถี่ให้เหมือนกับสากล สำหรับระบบขนส่งอัจฉริยะ และระบบขนส่งระบบราง ภายใต้ความถี่ 335.4-480 เมกกะเฮิรตซ์ 873-915 เมกกะเฮิรตซ์ และ918-960 เมกกะเฮิรตซ์