มกอช. ย้ำไทยคุมเข้มสารเร่งเนื้อแดงต่อเนื่อง ปกป้องสุขภาพผู้บริโภค

กรุงเทพฯ 13 ส.ค. – เลขาธิการ มกอช. เรียกร้องทุกภาคส่วนรักษามาตรฐานสินค้าเกษตรและปศุสัตว์ปลอดสารเร่งเนื้อแดง เพื่อความปลอดภัยของผู้บริโภคและเพิ่มศักยภาพแข่งขันในตลาดโลก นายสัตวแพทย์ ชัยวัฒน์ โยธคล เลขาธิการสำนักงานมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหารแห่งชาติ (มกอช.) ชื่นชมสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ที่ตรึงมาตรฐานและบังคับใช้กฎหมายห้ามใช้สารเร่งเนื้อแดงอย่างเข้มงวดในอาหารสัตว์และผลิตภัณฑ์เนื้อสัตว์ เพื่อปกป้องสุขภาพคนไทยและยกระดับคุณภาพชีวิตผู้บริโภค จนตลอดเวลากว่า 20 ปีที่ผ่านมา ไม่เคยมีรายงานการสูญเสียจากการบริโภคสารดังกล่าว ทั้งนี้ ภายหลัง มกอช.ได้ลงนามบันทึกความร่วมมือกับ อย. กรมอนามัย และสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร เพื่อบูรณาการการดำเนินงานด้านความมั่นคงทางอาหารอย่างมีคุณภาพและปลอดภัย เลขาธิการ มกอช.ได้ย้ำว่า กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยกรมปศุสัตว์ สั่งห้ามเกษตรกรใช้สารเร่งเนื้อแดงอย่างเด็ดขาด และ อย.กำหนดให้อาหารทุกชนิดต้องไม่พบการปนเปื้อนของสารกลุ่มเบต้าอะโกนิสต์ พร้อมทั้งมีการตรวจสอบเข้มตั้งแต่ต้นทางการผลิตจนถึงปลายทางจำหน่าย เพื่อสร้างความมั่นใจให้ผู้บริโภค นายสัตวแพทย์ ชัยวัฒน์ เรียกร้องให้ทุกภาคส่วนร่วมรักษามาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหารไทยให้มีคุณภาพและปลอดภัยต่อเนื่อง ซึ่งการควบคุมสารเร่งเนื้อแดงเป็นนโยบายสำคัญในการสร้างความเชื่อมั่นและเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของสินค้าไทยในตลาดโลก พร้อมย้ำว่า การดำเนินงานของ อย. เป็นการปกป้องสุขภาพประชาชนและสร้างความเชื่อมั่นให้กับทั้งผู้บริโภคในประเทศและคู่ค้าต่างชาติอย่างยั่งยืน. -512 – สำนักข่าว​ไทย​

กรมอุทยานฯ แจงเจ้าหน้าที่​ใช้​หนังสติ๊ก​ปลูก​ป่าทับลาน​ ไม่ใช่ทหาร​

กรุงเทพฯ​ 11​ ​ส.ค.​ – กรมอุทยานฯ ย้ำชัด ภาพเจ้าหน้าที่ไทยใช้หนังสติ๊กซึ่งปรากฏในสื่อกัมพูชา​ เป็นกิจกรรมปลูกป่าลอยฟ้า​ ยืนยันบุคคลในภาพคือเจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่า ร่วมงานอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ไม่เกี่ยว​กับ​ภารกิจ​ชายแดน กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ชี้แจงกรณีมีการเผยแพร่ภาพเจ้าหน้าที่ในชุดลายพรางใช้หนังสติ๊กขนาดใหญ่ โดยถูกเชื่อมโยงกับสถานการณ์ชายแดนไทย–กัมพูชา ว่า บุคคลในภาพเป็นเจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่า ไม่ใช่ทหาร และกำลังปฏิบัติงานในกิจกรรมปลูกป่าตามภารกิจอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ไม่มีความเกี่ยวข้องกับภารกิจทางทหาร กรณีที่เพจข่าว Angkor Fresh ของกัมพูชาเผยแพร่ภาพบุคคลในชุดลายพราง ขณะใช้หนังสติ๊กขนาดใหญ่ พร้อมข้อความ “Don’t know what their brains are thinking” จนกลายเป็นกระแสในสื่อออนไลน์กัมพูชา โดยมีการตั้งข้อสังเกตว่าเป็นเจ้าหน้าที่ทหารไทยจำลองการใช้อาวุธและอาจเชื่อมโยงกับความขัดแย้งชายแดนระหว่างสองประเทศนั้น กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ได้ออกแถลงการณ์ชี้แจงว่า​ บุคคลในภาพไม่ใช่ทหาร แต่เป็นเจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่า สังกัดอุทยานแห่งชาติทับลาน ซึ่งแต่งกายด้วยชุดลายพรางตามระเบียบปฏิบัติงานของหน่วยงาน ภาพดังกล่าวถ่ายขึ้นเมื่อวันที่ 18 มิถุนายน 2568 ในงาน “เทศกาลปลูกป่าลอยฟ้า ครั้งที่ 4” ณ ผาเก็บตะวัน อำเภอวังน้ำเขียว […]

เขื่อนเจ้าพระยาทยอยปรับลดระบายน้ำ-สิริกิติ์​ช่วย​รับน้ำภาค​เหนือ

กรุงเทพฯ​ 8 ส.ค.​ – กรมชลประทาแจ้งทยอยปรับลดอัตราการระบายน้ำจากเขื่อน​เจ้าพระยา​ลง หลังระดับน้ำจากภาคเหนือชะลอตัว ขณะที่เขื่อนสิริกิติ์ทำหน้าที่สำคัญในการรองรับน้ำในลุ่มน้ำน่าน ลดผลกระทบตอนล่างของภาคกลาง โดยยังคงแผนบริหารจัดการน้ำเชิงรุกช่วงฝนชุกปลาฤดู ศูนย์​ปฏิบัติการ​น้ำอัจฉริยะ​ กรม​ชลประทาน​รายงานสถานการณ์น้ำแม่น้ำเจ้าพระยา ที่สถานี C.2 อำเภอเมือง จังหวัดนครสวรรค์มีปริมาณน้ำไหลผ่าน 1,148 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที​ ระดับน้ำ 20.35 เมตร (ต่ำกว่าตลิ่ง 5 เมตร​โดยแนวโน้มระดับน้ำลดลงต่อเนื่อง​ ส่งผล​ให้​การระบาย​น้ำที่เขื่อน​เจ้าพระยา​ทยอย​ลดลง​ โดยระบายที่​ 750 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที กรมชลประทานระบุว่า ขณะนี้มีการบริหารจัดการน้ำเหนือเขื่อนเจ้าพระยา ด้วยการรับน้ำเข้าสู่ระบบชลประทานทั้งสองฝั่งตามศักยภาพของคลอง เพื่อช่วยลดผลกระทบในพื้นที่ท้ายน้ำให้ได้มากที่สุด อย่างไรก็ตาม ยังมีบางพื้นที่นอกคันกั้นน้ำที่ได้รับผลกระทบจากระดับน้ำที่เอ่อล้นในจังหวัด​อ่างทอง​และ​พระนครศรีอยุธยา ขณะเดียวกัน เขื่อนสิริกิติ์ ซึ่งเป็นเขื่อนหลักในลุ่มน้ำน่าน ยังทำหน้าที่รองรับน้ำจากพื้นที่ตอนบนของภาคเหนือ ช่วยชะลอและลดผลกระทบที่จะเกิดกับพื้นที่ลุ่มน้ำตอนล่างในจังหวัดพิษณุโลก พิจิตร และนครสวรรค์ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยปัจจุบันปริมาณฝนในพื้นที่ต้นน้ำลดลงอย่างต่อเนื่อง สถานการณ์เริ่มคลี่คลาย กรมชลประทานร่วมกับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ติดตามสถานการณ์ฝนและปริมาณน้ำอย่างใกล้ชิด ร่วมกับกรมอุตุนิยมวิทยาและสถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำ (องค์การมหาชน) เพื่อวางแผนการระบายน้ำจากเขื่อนสิริกิติ์ในปริมาณที่เหมาะสม​ โดยเฉพาะ​ในช่วง​ฝนตก​ชุกช่วง​ปลาฤดู​ ดังนั้น​จึง​มีการปรับเพิ่ม​การระบาย​น้ำโดยไม่ให้เกิดผล​กระทบ​ต่อ​พื้นที่​ด้านท้าย​ ทั้งยังทำให้​อ่างเก็บน้ำ​มีพื้นที่​สำหรับ​เก็บกักน้ำไว้สำหรับ​ฤดู​แล้ง. -512-สำนักข่าว​ไทย​

กรมน้ำบาดาลเร่งผลิตน้ำดื่ม 50,000 ขวด ช่วยชาวบ้านชายแดนไทย-กัมพูชา

กรุงเทพฯ 27 ก.ค. – รมว.ทส. สั่งกรมทรัพยากรน้ำบาดาลระดมเจ้าหน้าที่เร่งผลิตน้ำดื่มสะอาดจากน้ำบาดาลกว่า 50,000 ขวด เพื่อนำไปแจกจ่ายช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ความไม่สงบและเหตุปะทะตามแนวชายแดนไทย–กัมพูชา นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (รมว.ทส.) เปิดเผยว่า ได้สั่งการให้นายภาดล ถาวรกฤชรัตน์ อธิบดีกรมทรัพยากรน้ำบาดาล ระดมเจ้าหน้าที่เร่งผลิตน้ำดื่มสะอาดจากน้ำบาดาลกว่า 50,000 ขวด เพื่อนำไปแจกจ่ายช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ความไม่สงบและเหตุปะทะตามแนวชายแดนไทย–กัมพูชา เหตุปะทะที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องส่งผลให้พี่น้องประชาชนในพื้นที่ชายแดน โดยเฉพาะจังหวัดอุบลราชธานีและศรีสะเกษ ได้รับผลกระทบและต้องอพยพไปอยู่ตามศูนย์พักพิงชั่วคราว เพื่อบรรเทาความเดือดร้อน จึงมอบหมายให้กรมทรัพยากรน้ำบาดาลเร่งดำเนินการผลิตน้ำดื่มสะอาดและจัดส่งไปยังพื้นที่โดยด่วน นายภาดล ถาวรกฤชรัตน์ อธิบดีกรมทรัพยากรน้ำบาดาลกล่าวว่า สำนักทรัพยากรน้ำบาดาล เขต 11 (อุบลราชธานี) ซึ่งรับผิดชอบพื้นที่ 5 จังหวัด ได้แก่ อุบลราชธานี ศรีสะเกษ ยโสธร อำนาจเจริญ และร้อยเอ็ด ได้ระดมกำลังเจ้าหน้าที่เข้าดำเนินการผลิตน้ำดื่มสะอาดบรรจุขวด รวมแล้วกว่า 50,000 ขวด พร้อมส่งมอบให้ประชาชนในศูนย์พักพิงชั่วคราวในจังหวัดอุบลราชธานีและศรีสะเกษอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้หน่วยงานในสังกัดกระทรวงเร่งช่วยเหลือประชาชนในทุกด้านจนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลายและประชาชนสามารถกลับมาใช้ชีวิตได้ตามปกติ.-512-สำนักข่าวไทย

เตือนเรือประมงไทยหลีกเลี่ยงพื้นที่เสี่ยงใกล้เขตแดนไทย-กัมพูชา

กรุงเทพฯ 26 ก.ค.​ – กรมประมงออกประกาศเตือนเรือประมงไทยทุกประเภท ให้เพิ่มความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการทำประมงในบริเวณใกล้เขตแดนไทย-กัมพูชา หลังสถานการณ์ความไม่สงบตามแนวชายแดนยังคงมีเหตุปะทะเกิดขึ้นต่อเนื่อง เพื่อความปลอดภัยของชาวประมง ลูกเรือ และทรัพย์สิน นายสุวัฐน์ วงศ์สุวัฒน์ รองอธิบดีกรมประมง ในฐานะโฆษกกรมประมง เปิดเผยว่า ศูนย์ปฏิบัติการเฝ้าระวังการทำการประมง (FMC) มีความห่วงใยต่อความปลอดภัยในการประกอบอาชีพประมง จึงขอให้ผู้ประกอบการเรือประมงติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และหลีกเลี่ยงพื้นที่เสี่ยงที่อาจเกิดอันตรายหรือได้รับผลกระทบจากเหตุปะทะดังกล่าว ทั้งนี้ ผู้ประกอบการสามารถตรวจสอบตำแหน่งเรือได้อย่างแม่นยำผ่านแอปพลิเคชัน “Fisheries Next” ที่กรมประมงพัฒนาขึ้น เพื่อเพิ่มความสะดวกในการเฝ้าระวังและติดตามเรือประมงในทะเล พร้อมสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ศูนย์ FMC โทรศัพท์ 0 2561 3132, 0 2561 2296, 0 2561 2297, 0 2579 0341 หรือทาง Line ID : @114velss และ Facebook Page : กองบริหารจัดการเรือประมงและการทำการประมง กรมประมง รวมทั้งติดตามข่าวสารจากศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล (ศรชล.) กรมประมงเน้นย้ำให้ผู้ประกอบการคำนึงถึงความปลอดภัยเป็นสำคัญ […]

กรมอุทยานฯ​ เฝ้าระวังหมู่บ้าน-ทรัพย์สินชุมชนชายแดน​ไทย​-กัมพูชา​

กรุงเทพฯ​ 25 ก.ค.​ – “เฉลิม​ชัย​” สั่ง​กรม​อุทยาน​ฯ​ สนับสนุนฝ่ายความมั่นคง เฝ้าระวังหมู่บ้าน-ทรัพย์สินชุมชนชายแดน​ไทย​-กัมพูชา​ ตามแผน “พิทักษ์พื้นที่ส่วนหลัง” นาย​เฉลิม​ชัย​ ศรี​อ่อน​ รัฐมนตรี​ว่าการ​กระทรวง​ทรัพยากร​ธรรมชาติ​และ​สิ่ง​แวดล้อม ​กล่าว​ว่า​ สั่งการ​ให้​กรมอุทยาน​แห่งชาติ​ สัตว์ป่า​ และ​พันธุ์พืช​ สนับสนุนหน่วยงานความมั่นคงและช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ในสังกัดสนับสนุนแผน “พิทักษ์พื้นที่ส่วนหลัง (หมู่บ้าน)” โดยจัดกำลังจากอุทยานแห่งชาติ (อช.) และเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า (ขสป.) เฝ้าระวังบ้านเรือนและทรัพย์สินของชุมชนที่ต้องอพยพออกจากพื้นที่เสี่ยง รวมถึงสนับสนุนการจัดตั้งเต็นท์พักพิงสำหรับทหารและประชาชน เพื่อสร้างความเชื่อมั่นและความปลอดภัยให้แก่ชุมชน นายอรรถ​พล​ เจริญ​ชันษา​ อธิบดี​กรม​อุทยาน​แห่งชาติ​ สัตว์ป่า​ และ​พันธุ์พืช​ กล่าว​ว่า​ ขณะนี้สถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ยังคงต้องเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะพื้นที่เสี่ยง เช่น ด่านตรวจสัตว์ป่าช่องจอม ที่ได้สั่งอพยพเจ้าหน้าที่ออกจากพื้นที่เพื่อความปลอดภัยแล้ว นอกจากนี้เจ้าหน้าที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยศาลาได้สนับสนุนการเคลื่อนย้ายประชาชนในตำบลดงรัก อำเภอภูสิงห์ จังหวัดศรีสะเกษ ไปยังศูนย์พักพิงที่จัดตั้งขึ้น พร้อมจัดเตรียมรถยนต์ราชการและกำลังเจ้าหน้าที่เพื่ออำนวยความสะดวกในการอพยพ โดยเฉพาะผู้ที่ไม่มีรถยนต์ส่วนตัว นายวิเชียร ชิณวงษ์ หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยศาลา พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่เขตฯ ได้ร่วมกับผู้ใหญ่บ้านแซร์สะโบว์ ฝ่ายปกครอง และชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน ปฏิบัติหน้าที่เฝ้าระวังเหตุการณ์ในพื้นที่ตามแผนพิทักษ์พื้นที่ส่วนหลัง และอำนวยความสะดวกให้ชาวบ้านเดินทางไปยังศูนย์พักพิงและบ้านญาติในอำเภอไพรบึง […]

ทส.เร่งเตรียมพร้อมรับมืออุทกภัย-แผ่นดินถล่มในฤดูน้ำหลาก

กรุงเทพฯ​ 25​ ก.ค. – “เฉลิมชัย” กำชับทุกหน่วยงานสังกัด​กระทรวง​ ทส. เฝ้าระวัง-ปฏิบัติการเชิงรุก ป้องกันและบรรเทาความเดือดร้อนประชาชนจากเหตุ​อุทกภัย​และ​แผ่นดินถล่ม​ในฤดู​น้ำหลาก​ ย้ำวิเคราะห์​ข้อมูล​เพื่อ​แจ้ง​เตือน​อย่าง​ทันท่วงที​ พร้อม​ระดม​เจ้าหน้าที่​ช่วย​เหลือ​ประชาชน นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) เปิดเผยว่า​ สั่งการ​ให้​ทุก​หน่วยงาน​เตรียมความพร้อมป้องกันและแก้ไขปัญหาอุทกภัย แผ่นดินถล่ม และการช่วยเหลือผู้ประสบภัย โดยเน้นย้ำทั้งการเฝ้าระวัง​ ประเมินสถานการณ์​ และบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน ในช่วงฤดูฝนที่อาจเกิดสถานการณ์น้ำท่วมและดินถล่มในหลายพื้นที่ของประเทศ ทั้งนี้ สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) และกรมอุตุนิยมวิทยา คาดการณ์ว่าตั้งแต่เดือนสิงหาคมจนถึงสิ้นสุดฤดูฝน ปริมาณฝนจะเพิ่มขึ้นและอาจมีพายุเข้าสู่ประเทศไทย 1-2 ลูก ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อหลายพื้นที่ จึงต้องเตรียมความพร้อมทั้งในด้านการป้องกันและการช่วยเหลือประชาชนอย่างต่อเนื่องตลอดฤดูฝน สำหรับ​มาตรการเร่งด่วนในพื้นที่เสี่ยงภัยได้​มอบหมาย​ให้​หน่วยงาน​ที่​เกี่ยวข้อง​ดำเนินการ​ดังนี้ ส่วน​การเตรียมความพร้อมระยะยาวได้​กำชับ​แนวทาง​ดำเนินการ​ได้​แก่ นายเฉลิมชัย กล่าวว่า ได้กำชับให้ทุกหน่วยงานในสังกัด ทส. รายงานผลการปฏิบัติและสถานการณ์ภัยพิบัติให้ศูนย์อำนวยการและประสานงานให้ความช่วยเหลือประสบอุทกภัยของกระทรวง (ศอป.ทส.) ทุกวัน เวลา 10.00 น. จนกว่าสถานการณ์จะเข้าสู่ภาวะปกติ โดยเน้นย้ำการปฏิบัติการเชิงรุก เพื่อปกป้องชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนเป็นสำคัญ. – 512-สำนักข่าว​ไทย​

เตือนเฝ้าระวังดินถล่มใน 21 จังหวัด แม้ “วิภา” อ่อนกำลัง

กรุงเทพฯ 23 ก.ค.-กรมทรัพยากรธรณี แจ้งเตือนให้เฝ้าระวังดินถล่มในพื้นที่ 21 จังหวัด จากผลกระทบพายุ “วิภา” แม้ขณะนี้อ่อนกำลังลงเป็นหย่อมความกดอากาศต่ำแล้ว แต่อิทธิพลของร่องมรสุมยังคงส่งผลให้หลายพื้นที่ในภาคเหนือและภาคตะวันตกมีฝนตกหนักต่อเนื่อง นายพิชิต สมบัติมาก อธิบดีกรมทรัพยากรธรณี เปิดเผยว่า กรมฯ ยังคงเปิดศูนย์ปฏิบัติการธรณีพิบัติภัย (War Room) เพื่อเฝ้าระวังสถานการณ์ตลอด 24 ชั่วโมงอย่างต่อเนื่องจนถึงวันที่ 25 กรกฎาคม 2568 หรือจนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย โดยมีเป้าหมายเพื่อประเมินความเสี่ยง วิเคราะห์ข้อมูล และแจ้งเตือนประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ จากการวิเคราะห์ข้อมูลฝนสะสมควบคู่กับแบบจำลองธรณีพิบัติภัย พบว่า มีพื้นที่เสี่ยงต่อการเกิดดินถล่มกระจายอยู่ใน 21 จังหวัด ได้แก่ -ภาคเหนือ: แม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย พะเยา น่าน แพร่ ลำปาง ตาก อุตรดิตถ์ พิษณุโลก เพชรบูรณ์-ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ: เลย อุดรธานี หนองคาย-ภาคตะวันออก: จันทบุรี ตราด-ภาคตะวันตก: กาญจนบุรี ราชบุรี-ภาคใต้ฝั่งตะวันตก: ระนอง พังงา […]

หย่อมความกดอากาศต่ำจาก “พายุวิภา” เคลื่อนปกคลุมภาคเหนือวันนี้​ 40​ จว. ​เสี่ยง​ฝนตกหนัก

กรุงเทพฯ​ 23​ ก.ค.-กรม​อุตุฯ ​ระบุ​พายุดีเปรสชัน “วิภา” อ่อนกำลังลงเป็น​หย่อม​ความกดอากาศ​ต่ำ​แล้ว​ จะเคลื่อนเข้าปกคลุม​ภาคเหนือ​วันนี้​ ส่งผลให้​ 40 จังหวัด​เสี่ยงฝนตกหนัก เตือนประชาชนเฝ้าระวัง​ต่อเนื่อง​ถึง​พรุ่งนี้​ ฝนที่ตก​สะสม​อาจทำให้​เกิดภาวะน้ำหลาก ตลอด​จนมีลมแรง​และ​คลื่น​สูง​ เรือเล็กควรงดออกจากฝั่ง กรมอุตุนิยมวิทยาออกประกาศเตือนภัยฉบับที่ 14 เรื่อง พายุ “วิภา” และฝนตกหนักถึงหนักมากบริเวณประเทศไทย โดยระบุว่า เมื่อเวลา 01.00 น. ของวันนี้ (23 ก.ค.68) พายุโซนร้อน “วิภา” ได้อ่อนกำลังลงเป็นพายุดีเปรสชัน และเมื่อเวลา 04.00 น. ศูนย์กลางพายุอยู่บริเวณแขวงเชียงขวาง สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ห่างจากจังหวัดน่านประมาณ 180 กิโลเมตร และคาดว่าจะอ่อนกำลังลงเป็น “หย่อมความกดอากาศต่ำ” ในระยะต่อไป พร้อมเคลื่อนปกคลุมบริเวณภาคเหนือของประเทศไทย นายสมควร ต้นจาน ผู้อำนวยการกองพยากรณ์อากาศเปิดเผยว่า​ จากภาพถ่ายดาวเทียมและเรดาร์ในช่วงเช้าวันนี้​ ประเทศไทยตอนบนมีเมฆหนาแน่นปกคลุมโดยทั่วไป และมีฝนปานกลางถึงตกหนักในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะภาคเหนือและตะวันออกเฉียงเหนือ​ตอนบน ใกล้แนวศูนย์กลางพายุ ซึ่งยังคงได้รับอิทธิพลจากร่องมรสุมที่พาดผ่านตอนบนของประเทศเมียนมา ลาว และเวียดนาม ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่มีกำลังแรงยังคงปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย […]

สทนช.เตือนรับมือพายุวิภา-น้ำทะเลหนุนสูงเกินจุดวิกฤติ 23-28 ก.ค.

กรุงเทพฯ 22 ก.ค.- สทนช. เตือนรับมือพายุ “วิภา” และน้ำทะเลหนุนสูง แม่น้ำเจ้าพระยา แม่น้ำท่าจีน และแม่น้ำแม่กลอง สูงเกินจุดวิกฤติ ช่วงวันที่ 23-28 ก.ค.นี้ เวลา 20.00-23.00 น. สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) สรุปสถานการณ์น้ำภาพรวมของประเทศ วันที่ 22 ก.ค.68 เวลา 07.00 น. ว่าปริมาณฝนสะสม 24 ชม. สูงสุด ได้แก่ ภาคเหนือ : จ.พะเยา (55 มม.) ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ : จ.บึงกาฬ (21 มม.) ภาคกลาง : จ.นนทบุรี (3 มม.) ภาคตะวันออก : จ.ตราด (16 มม.) ภาคตะวันตก : จ.กาญจนบุรี (38 […]

“เฉลิมชัย” ท้าสาบาน ไม่มีเรียกรับเงินแลกการแต่งตั้ง “ปลัด ทส.”

กรุงเทพฯ 21 ก.ค. – “เฉลิมชัย” รมว.ทส. ท้าสาบานที่วัดพระแก้ว ใครกล่าวหาตนเรียกรับเงิน 100 ล้านบาท แลกกับการแต่งตั้งปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติฯ คนใหม่ ให้ไปสาบานด้วยกัน ลั่นแม้แต่คิด ยังไม่เคย ไม่ใช่คนเลวขนาดนั้น บริหารงานโดยยึดประโยชน์สูงสุดขององค์กรและประชาชนเป็นสำคัญ นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวถึงการแต่งตั้งผู้มาดำรงตำแหน่งปลัดกระทรวงคนใหม่ แทนนายจตุพร บุรุษพัฒน์ ซึ่งได้ลาออกไปเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ โดยระบุว่า อยู่ระหว่างการพิจารณาบุคคลที่เหมาะสม โดยผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงมีความสามารถหลายคน ส่วนที่มีผู้ปล่อยข่าวว่า ตนเรียกรับ “กล้วย 100 หวี” หรือเงิน 100 ล้านบาท เพื่อแลกกับการแต่งตั้งนั้น ยืนยันว่า ไม่เป็นความจริง พร้อมท้าให้คนที่ปล่อยข่าว ไปสาบานกับตนที่วัดพระศรีรัตนศาสดาราม หรือวัดพระแก้ว ว่า สิ่งที่ปล่อยข่าวมาเป็นจริงหรือไม่ หากเป็นจริง เหตุใดที่โพสต์ในโซเชียลมีเดียก่อนหน้านี้ จึงลบออกไป นายเฉลิมชัย ย้ำว่า อย่าว่าแต่จะทำเลย แม้แต่คิด ยังไม่เคยคิดเพราะไม่ใช่คนเลวที่หาประโยชน์จากการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการ หากเป็นคนเช่นนั้นจริง ขอให้ตนเองได้รับผลจากการกระทำ ทุกครั้งที่มีการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการ มักจะมีข่าวเช่นนี้ […]

เตือนน้ำทะเลหนุนสูง 23–28 ก.ค. ช่วงค่ำระดับ​สูงกว่าจุดวิกฤติ​ เสี่ยง​ท่วมพื้นที่​ริมแม่น้ำ

กรุงเทพฯ​ 21​ ก.ค. – สทนช.ออกประกาศเตือนน้ำทะเลหนุนสูง 23–28 ก.ค. ชี้ช่วงค่ำระดับน้ำสูงกว่าระดับวิกฤติ เตือนสมุทรปราการ–กทม.–สมุทรสาคร–นครปฐม–สมุทรสงคราม เสี่ยงน้ำเอ่อหรือท่วมพื้นที่​ริมแม่น้ำ​เจ้าพระยาและแม่น้ำ​แม่กลอง สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ออกประกาศฉบับที่ 13/2568 เตือนสถานการณ์น้ำทะเลหนุนสูงในช่วงวันที่ 23–28 กรกฎาคม 2568 ระหว่างเวลา 20.00–23.00 น. โดยคาดว่าระดับน้ำบริเวณป้อมพระจุลจอมเกล้าและพื้นที่ใกล้เคียงอาจสูงถึง 1.70–2.00 เมตร จากระดับทะเลปานกลาง ซึ่งสูงกว่าระดับน้ำวิกฤติประมาณ 0.30 เมตร อาจทำให้เกิดน้ำเอ่อล้นในพื้นที่ลุ่มต่ำริมแม่น้ำเจ้าพระยา ท่าจีน และแม่กลอง โดยเฉพาะบริเวณที่ไม่มีแนวป้องกันถาวร ประกาศระบุว่า จากการติดตามข้อมูลจากกรมอุทกศาสตร์ ประกอบกับอิทธิพลของมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังแรงที่ยังคงพัดปกคลุมประเทศไทย ทำให้มีฝนตกหนักในบางพื้นที่ ส่งผลให้ระดับน้ำในแม่น้ำสายหลักเพิ่มสูงขึ้น และเมื่อประกอบกับน้ำทะเลหนุน อาจทำให้หลายพื้นที่ได้รับผลกระทบจากน้ำล้นตลิ่ง โดยเฉพาะในจังหวัดสมุทรปราการ กรุงเทพมหานคร สมุทรสาคร นครปฐม และสมุทรสงคราม สทนช.ขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเตรียมการรองรับสถานการณ์ดังนี้ ทั้งนี้ สทนช. จะติดตามสถานการณ์อย่างต่อเนื่องและประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อเตรียมการรับมือ โดยขอให้ประชาชนติดตามข้อมูลข่าวสารจากทางราชการอย่างใกล้ชิด และเตรียมพร้อมหากมีคำสั่งอพยพหรือแจ้งเตือนเพิ่มเติมในพื้นที่เสี่ยง. -512-สำนักข่าว​ไทย​

1 5 6 7 8 9 127
...