อาชญากรรม

กรุงเทพฯ 2 ก.ค. – ตำรวจเร่งตรวจสอบเส้นทางการเงินบัญชีวัดตรีทศเทพ ว่ามีเส้นเงินไปถึงใครบ้าง หากพบเชื่อมโยงกับสีกา อดีตเจ้าอาวาส อาจมีความผิด พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ได้เปิดเผยความคืบหน้ากรณีอดีตเจ้าอาวาสวัดตรีทศเทพ ลาสิกขาอย่างเร่งด่วนโดยไม่ทราบสาเหตุ ก่อนเดินทางข้ามชายแดนไปยังประเทศเพื่อนบ้าน ว่า วันนี้ทางตำรวจกำลังเร่งตรวจสอบเส้นทางการเงินที่เกี่ยวข้อง หลัก ๆ จะเป็นการตรวจสอบบัญชีวัดว่ามีเส้นเงินไปถึงใครบ้าง โดยตรวจสอบเส้นทางการเงินหลายคนแต่ไม่สามารถบอกได้ ถ้าพบว่ามีเส้นทางการเงินไปถึงสีกา ท่านอดีตเจ้าอาวาสก็มีความผิด แต่ถ้าตรวจสอบแล้วเป็นเงินส่วนตัวของท่านก็ไม่ผิด และถ้าสีการู้ว่านั่นคือเงินวัดและยังรับไปถือว่ามีความผิดฐานสนับสุนน แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ต้องตรวจสอบให้ละเอียดก่อน เมื่อถามว่า ท่านอดีตเจ้าอาวาสเคยมีประวัติแบบนี้ในอดีตหรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ระบุว่า เบื้องต้นยังเช็คประวัติท่านไม่ละเอียด แต่ท่านเป็นพระใหม่ อายุน้อย แต่ก็ได้รับเลื่อนตำแหน่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว เรียกได้ว่าเป็นพระดาวรุ่ง แต่เราก็ไม่รู้ว่าท่านมีความดีความชอบอะไรถึงเลื่อนตำแหน่งไว เบื้องต้นในขณะนี้ยังไม่พบความผิด การตรวจสอบต้องใช้เวลาพอสมควรเพราะเป็นเรื่องเส้นทางการเงินของหลายคน เส้นเงินไปที่ไหนก็ต้องตรวจสอบทั้งหมด พร้อมยืนยันว่า เรื่องนี้มีความชัดเจนแน่นอน เมื่อถามถึงเรื่องสีกา ว่าจะมีการเรียกมาสอบปากคำหรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ระบุว่า ต้องรอตรวจสอบเส้นทางการเงินก่อน ถ้าพบความชัดเจนก็จะดำเนินการขั้นต่อไป บรรยากาศที่วัดตรีทศเทพ เขตพระนคร วันนี้ยังไม่มีความเคลื่อนไหวใดๆ จากทางวัดหรือตัวแทน ซึ่งทีมข่าวได้สอบถามเจ้าหน้าที่ที่อยู่ภายในสำนักงานสำนักงานของวัดให้ข้อมูลว่า หากต้องการข้อมูลเรื่องของอดีตเจ้าอาวาส รวมถึงรายละเอียดบัญชีทรัพย์สินของวัดสามารถสอบถามได้ที่ไวยาวัจกร ที่เพิ่งมีการแต่งตั้งใหม่ […]

กรุงเทพฯ 2 ก.ค. – ตำรวจรวบทันควันหนุ่มวัย 28 ปี บุกเดี่ยวงัดธนาคารย่านนวมินทร์ พบกรรไกรของกลางซุกในกระเป๋า สารภาพสิ้นเคยก่อเหตุมาแล้วหลายครั้ง ภาพจากกล้องวงจจรปิดภายในธนาคารแห่งหนึ่ง สาขานวมินทร์ มีชายบุกเข้าไปรื้อค้นตามลิ้นชักโต๊ะทำงาน เมื่อได้ของที่ต้องการก็เดินลงมาจากชั้น 2 ของธนาคาร ก่อนหลบหนีไปทางซอยนวมินทร์ 103 เมื่อเวลาประมาณ 01.20 น. วานนี้ (1 ก.ค.) จากเหตุการณ์ดังกล่าวมีพลเมืองดีพบเห็นแจ้งตำรวจ สน.ลาดพร้าว จนสามารถติดตามจับกุมตัวนายณัฐวุฒิ อายุ 28 ปี ผู้ก่อเหตุ ขณะกำลังนอนอยู่ที่บริเวณป้ายรถประจำทางปากซอยนวมินทร์ 89 ตำรวจค้นตัวพบกรรไกรด้ามสีส้ม 1 เล่ม ซุกซ่อนอยู่ในกระเป๋ากางเกง นายณัฐวุฒิยอมรับว่าทำลายกระจกบานเลื่อนเข้าไปลักกรรไกรในธนาคารจริง ก่อเหตุมาแล้วหลายครั้ง หลายสถานที่ ทั้งร้านไก่ทอด ร้านอาหาร ส่วนใหญ่ขโมยทิปพนักงาน เบื้องต้นตำรวจแจ้งข้อหาลักทรัพย์ในเวลากลางคืน, บุกรุกยามวิกาล และทำให้เสียทรัพย์.-สำนักข่าวไทย

กทม. 1 ก.ค.-ออกหมายจับ 5 คนแก๊ง “เสือปุ่น” ปล้นเงินสด 3.4 ล้านตุ๋นแลกคริปโตฯ ชุดสืบปูพรมล่า จากกรณีกลุ่มคนร้าย 7 คน ก่อเหตุปล้นทรัพย์ เงินสด 3.4 ล้านบาท โดยใช้อาวุธมีดจี้ ข่มขู่ผู้เสียหาย 3 คน ที่มาซื้อเงินคริปโตเคอร์เรนซี่ สกุลเวิน USDT จำนวน 100,000 ดอลล่า ภายในลานจอดรถศูนย์การค้าชื่อดังย่านลาดพร้าว แขวงและเขตจตุจักร กทม. เมื่อช่วงเวลา 19.30 น. ของวานนี้ (30 มิ.ย.) ภายหลัง พล.ท.สยาม บุญสม ผบช.น. และ พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. นำชุดสืบสวนเร่งรัดติดตามตัว จนสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ 2 ราย คือ นายเฌอพัชญ์ หรือหนาว อายุ 25 ปี […]

1 ก.ค. – นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้เดินทางออกจากศาลอาญา หลังสืบพยานโจทก์นัดแรกในคดีหมายเลขดำ อ.1860/2567 เสร็จสิ้น ด้านนายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความของนายทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เปิดเผยภายหลัง การสืบพยานแล้วเสร็จว่า ในวันนี้ศาลได้มีการสืบพยานฝั่งโจทก์ จำนวน 3 ปาก ซึ่งตลอดทั้งวันนี้นายทักษิณไม่ได้มีอาการกังวลหรือเครียดเกี่ยวกับคดีนี้ และมีท่าทีปกติ รวมถึงนายทักษิณยังได้มีการซักถามความกับฝั่งโจทก์ด้วยตนเองอีกด้วย เบื้องต้นตัวเองในฐานะทนายความไม่ได้มีความกังวลใจเกี่ยวกับการทำคดีดังกล่าว แต่ยังไม่สามารถที่จะตอบได้ว่าแนวโน้มทิศทางของคดีจะไปในรูปแบบใด ส่วนคำตัดสินจะออกมาแบบใดอยู่ในดุลยพินิจของศาล ยืนยันหลังจากนี้นายทักษิณ จะร่วมรับฟังการสืบพยานด้วยตัวเองทั้ง 3 วัน เมื่อถามถึงกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งให้นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ยุติการปฎิบัติหน้าที่นั้น นายวิญญัติ บอกว่า นายทักษิณก็ยังคงมีท่าทีปกติ ส่วนจะมีอาการเครียดหรือกังวลหรือไม่นั้นตัวเองไม่ได้พูดคุยเกี่ยวกับประเด็นดังกล่าว แต่ก็คาดว่านายทักษิณน่าจะทราบข้อมูลดังกล่าวแล้ว สำหรับกระบวนการสืบพยานในคดีนี้จะมีการนัดสืบพยานฝั่งโจทก์ สัปดาห์นี้รวม 3 วัน คือ วันที่ 1-3 ก.ค.รวม 10 ปาก โดยในวันนี้มีการสืบพยานฝั่งโจทก์ไปแล้ว 3 ปาก วันพรุ่งนี้จะมีการสืบพยานฝั่งโจทก์อีก 4 […]

1 ก.ค. – “รวมพลังแผ่นดิน” ยืนยันยังไม่มีกิจกรรมแสดงออกต่อคำสั่งศาลรัฐธรรมนูญ เพราะจะเป็นการแทรกแซงอำนาจศาล เตรียมชุมนุมใหญ่อีกครั้งกลางเดือนสิงหาคม ประเด็นหลักยังคงเป็นขับไล่นายกฯ และพรรคร่วมรัฐบาล ระหว่างนี้ขอให้ประชาชนทำกิจกรรมร่วมกับ คปท. และวันพรุ่งนี้จะนำมวลชนไป ป.ป.ช. ให้ส่งเรื่องไต่สวนมาตรา 144 ให้ศาลรัฐธรรมนูญ นายแก้วสรร อติโพธิ หนึ่งในแกนนำกลุ่ม “รวมพลังแผ่นดิน” แถลงจุดยืนภายหลังศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งให้นางสาวแพทองธาร ชินวัตร หยุดปฏิบัติหน้าที่นายกรัฐมนตรี เซ่นปมคลิปเสียงพูดคุยสมเด็จฮุน เซน ว่า กลุ่ม “รวมพลังแผ่นดิน” ดีใจมากที่ศาลทำงานตามกฎหมาย ส่วนการไต่สวนของศาล กลุ่ม “รวมพลังแผ่นดิน” จะไม่ขอล่วงละเมิดอำนาจศาล และตอนนี้จะไม่เคลื่อนไหวใดๆ ทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นการกดดัน หรือดีใจโห่ร้อง เพราะจะเป็นการแทรกแซงอำนาจศาล ซึ่งอาจทำให้เข้าทางกลุ่มที่รอจะใส่ร้ายกลุ่ม “รวมพลังแผ่นดิน” ส่วนนายจตุพร พรหมพันธุ์ กล่าวว่า เครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย หรือ คปท. ที่ตั้งเวทีอยู่บริเวณสะพานชมัยมรุเชษฐ์ ถือเป็นทัพหน้าติดทำเนียบรัฐบาล มีการเคลื่อนไหวไปเรียกร้องพรรคต่างๆ และคอยประคับประคองสถานการณ์กว่า กลุ่ม “รวมพลังแผ่นดิน” จะได้รวมตัวกัน ดังนั้นระหว่างนี้ประชาชนสามารถไปร่วมชุมนุมกับ คปท.ได้ทุกวัน […]

สน.เพชรเกษม 1 ก.ค. – เร่งล่าโจรย่องลักทรัพย์กุฏิเจ้าอาวาสวัดม่วง เงินสดส่วนตัวหาย 10 ล้านบาท-ทองคำหนัก 250 บาท เจ้าหนัาที่ตำรวจ สน.เพชรเกษม เข้าตรวจสอบเหตุคนร้ายลักทรัพย์ ภายในกุฏิเจ้าอาวาสวัดม่วง ซอยเพชรเกษม 63 ถนนเพชรเกษม แขวงหลักสอง เขตบางแค เมื่อวันที่ 29 มิ.ย.ที่ผ่านมา หลังนายศักดา เลิศฤทธิ์สมบูรณ์ ไวยาวัจกรประจำวัดม่วง ซึ่งเป็นผู้เสียหาย เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวนจากการตรวจสอบบริเวณสำนักงานเจ้าอาวาส พบพระราชวัชรพัฒนาทร เจ้าอาวาสวัดม่วง อยู่ภายในสำนักงานฯ ให้การกับเจ้าหน้าที่ว่า ได้จ้างวานให้ นายธวัชชัย หรือเดี่ยว และนายทิณกร หรือเบียร์ โดยทั้ง 2 เป็นลูกศิษย์เจ้าคณะ ไปเบิกเงินที่ธนาคาร TMB ธนชาติ สาขา ศาลายา ประมาณจำนวน 10 ล้านบาท นำใส่กระเป๋าเดินทาง และนำกลับมายังอาคารที่สำนักงานเจ้าอาวาสฯ โดยนำมาวางเก็บไว้ในสำนักงานเจ้าอาวาสภายในวันนั้น ต่อมาเมื่อถึงเช้าวันที่ 29 มิ.ย. เวลา 08.00 […]

ดีเอสไอ 1 กค. – ภายหลังจากที่คณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษกรณีความผิดฐานฟอกเงินของบุคคลหรือคณะบุคคลที่เกี่ยวข้องกับการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา (สว.) รวมถึงผู้ที่เป็นสมาชิกอั้งยี่และผู้สนับสนุน ได้ทำการสืบสวนสอบสวน รวบรวมพยานหลักฐาน ลงพื้นที่จริงและจำลองเหตุการณ์ที่อิมแพ็ค ฟอรัม ฮอลล์ 4 เมืองทองธานี ซึ่งเป็นสถานที่ใช้เลือก สว.ระดับประเทศ กระทั่งสืบสวนเส้นทางการเงินพบบุคคลกลุ่มแรก จำนวน 7 ราย มีเส้นทางการเงินใกล้ชิดขบวนการจัดฮั้ว สว. คณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ จึงออกหมายเรียกพยานล็อตแรก เพื่อสอบสวนปากคำในวันนี้ (1 ก.ค.) โดยการตรวจสอบเส้นทางการเงินของสมาชิกวุฒิสภา (สว.) และผู้ที่เกี่ยวข้องพบพฤติการณ์ คือ 1.มีการโอนเงินในลักษณะเครือข่ายที่มีการจ้างผู้สมัคร จำนวน 3 จังหวัด ได้แก่ สุราษฎร์ธานี ลำพูน และหนองบัวลำภู 2.พบเส้นทางการเงินที่เกี่ยวพันกับสมาชิกวุฒิสภา (สว.) จำนวน 24 จังหวัด ประกอบด้วย ภาคใต้ 7 จังหวัด คือ สุราษฎร์ธานี, สตูล, สงขลา, ระนอง, กระบี่, ภูเก็ต […]