กรมชลฯ เปิดแผนรับน้ำรับหลาก-พายุปลายฤดูฝน

กรุงเทพฯ 24 ส.ค. – อธิบดีกรมชลประทานระบุ เดินหน้าตามแผนรับสถานการณ์น้ำในช่วงฤดูน้ำหลากเดือนก.ย. -พ.ย. ที่อาจมีพายุจรเคลื่อนสู่ประเทศไทย เน้นบริหารจัดการน้ำต่อเนื่องตลอดลุ่มน้ำ “ต้นเก็บ-กลางหน่วง-ปลายระบาย” เพื่อป้องกันและบรรเทาอุทกภัย ขณะเดียวกันเมื่อสิ้นสุดฤดูฝนต้องมีน้ำในอ่างเก็บน้ำเพียงพอใช้ตลอดฤดูแล้ง นายประพิศ จันทร์มา อธิบดีกรมชลประทานกล่าวว่า ได้ดำเนินการตาม 13 มาตรการรับมือฤดูฝนในปี 2565 โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเตรียมรับสถานการณ์ช่วงฤดูน้ำหลากระหว่างเดือนกันยายน-พฤศจิกายน ตั้งแต่เดือนมกราคมจนถึงขณะนี้ ปริมาณฝนมากกว่าค่าปกติซึ่งเป็นค่าเฉลี่ย 30 ปีย้อนหลังประมาณ 16% กองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) คาดการณ์ว่า จะมีพายุเคลื่อนเข้าสู่ประเทศไทยในเดือนกันยายน-ตุลาคมและมีทิศทางการเคลื่อนตัวผ่านพื้นที่ภาคเหนือตอนล่าง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือล่าง และภาคกลางตอนบน โดยคาดว่า จะส่งผลต่อปริมาณน้ำของเขื่อนอุบลรัตน์ เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ และพื้นที่ลุ่มน้ำเจ้าพระยา ขณะนี้สั่งการให้โครงการชลประทานในพื้นที่เฝ้าระวังสถานการณ์น้ำในอ่างเก็บน้ำที่อยู่ตามเแนวร่องฝนและที่มีแนวโน้มว่า จะได้รับอิทธิพลจากพายุ โดยบริหารจัดการน้ำในอ่างเก็บน้ำให้อยู่ในเกณฑ์ปฏิบัติการอ่างเก็บน้ำแบบพลวัต (Dinamic Operation Curve) ซึ่งต้องสอดคล้องกับการคาดการณ์ปริมาณน้ำไหลลงอ่างเนื่องจากคำนึงการเก็บกักน้ำให้มากที่สุด สำหรับการบริหารจัดการน้ำในลุ่มน้ำต่างๆ เป็นไปตามแนวทาง “ต้นเก็บ-กลางหน่วง-ปลายระบาย” คือ ต้นน้ำต้องเก็บน้ำไว้ในอ่างเก็บน้ำ กลางน้ำต้องหน่วงน้ำเพื่อไม่ให้น้ำเหนือไหลลงสู่ตอนล่างอย่างรวดเร็วเกินไปจนทำให้เกิดน้ำท่วม และปลายน้ำต้องเร่งระบายน้ำและพร่องน้ำในลำน้ำเพื่อรองรับน้ำจากพื้นที่ตอนบน นายประพิศกล่าวถึงสถานการณ์น้ำปัจจุบันว่า ปริมาณฝนบริเวณตอนบนของประเทศไทยลดลงจึงอาศัยจังหวะนี้เร่งระบายน้ำจากเขื่อนต่างๆ ได้แก่ เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์และเขื่อนอุบลรัตน์ซึ่งมีน้ำเกินเกณฑ์ปฏิบัติการอ่างเก็บน้ำ พร้อมกันนี้กำลังพิจารณาปรับเพิ่มการระบายจากเขื่อนจุฬาภรณ์และเขื่อนแม่งัดสมบูรณ์ชลซึ่งปริมาณน้ำไหลเข้ามีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยจะติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด […]

สศก. ทำ Big data หนุนมะม่วงน้ำดอกไม้ GI สู่ E-Commerce

สศก. ขยายผลการทำฐานข้อมูล Big data ของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ไปสู่สินค้าเกษตรอัตลักษณ์หรือ GI ใช้มะม่วงน้ำดอกไม้สระแก้วเป็นต้นแบบเพื่อพัฒนาคุณภาพมาตรฐานส่งออกและสนับสนุนเกษตรกรเข้าสู่แพลตฟอร์ม E-Commerce รวมถึงการลดต้นทุนด้วยนวัตกรรม “แอร์บัส” ที่จะช่วยให้มีรายได้เพิ่มขึ้น 25%

กอนช. สั่งปรับเพิ่มระบายน้ำเขื่อน รองรับฝนระลอกใหม่

เลขาธิการสทนช. ติดตามสถานการณ์น้ำและเตรียมความพร้อมรับมือในพื้นที่ลุ่มน้ำเจ้าพระยาฝั่งตะวันออกที่จ.ปทุมธานี และฉะเชิงเทรา พร้อมสั่งหน่วยงานปรับอัตราการระบายน้ำจากเขื่อนต่างๆ ให้เหมาะสม เพิ่มพื้นที่รองรับน้ำ โดยไม่ให้กระทบประชาชน

เพิ่มระบายน้ำเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ เตือน 6 จังหวัดเฝ้าระวัง

กรมชลประทาน ทำหนังสือแจ้งเตือน 6 จังหวัด รวม กทม.และปริมณฑล ให้เฝ้าระวังระดับน้ำแม่น้ำป่าสัก เนื่องจากจำเป็นต้องปรับเพิ่มการระบายน้ำเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์อีกครั้ง ตั้งแต่วันที่ 29 ส.ค. เพื่อรองรับน้ำเหนือที่จะไหลลงมาจาก จ.เพชรบูรณ์ ซึ่งจะส่งผลให้น้ำแม่น้ำป่าสัก ตั้งแต่เขื่อนพระรามหก ลงไปถึง อ.พระนครศรีอยุธยา มีระดับสูงขึ้น 1.00-1.50 เมตร

พร่องน้ำหน้าเขื่อนเจ้าพระยา รับน้ำเหนือ

กรมชลประทาน พร่องน้ำหน้าเขื่อนเจ้าพระยา เพื่อรองรับน้ำเหนือที่จะไหลลงมาเพิ่ม จึงปรับเพิ่มการระบายขึ้นอีก 50 ลบ.ม./วินาที จะส่งผลให้ระดับน้ำด้านท้ายเขื่อนเพิ่มขึ้นอีก 10 ซม. และไม่ขยายวงพื้นที่น้ำท่วมขัง ขณะเดียวกัน สั่งการให้โครงการชลประทานลุ่มเจ้าพระยาตอนล่าง พร้อมรับสถานการณ์น้ำทะเลหนุนสูง ระหว่างวันที่ 24-29 ส.ค.นี้

หวั่น “ปลาเรืองแสง” กระทบอุตสาหกรรมปลาสวยงาม

กรุงเทพฯ 24 ส.ค.- อธิบดีกรมประมงเผย พบการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำตัดต่อพันธุกรรมหรือ GMOs ซึ่งเสี่ยงต่อการปนเปื้อนทางพันธุกรรมกับชนิดพันธุ์ท้องถิ่น รวมถึงถูกกีดกันทางการค้า กระทบอุตสาหกรรมปลาสวยงามไทยทั้งระบบ  หากมีในครอบครองให้ส่งคืนกรมประมง หากพบมีมีโทษทั้งจำคุกไม่เกิน 1 – 2 ปีและปรับไม่เกิน 1 – 2 ล้านบาท

Shrimp Board ประกันราคาขั้นต่ำรับซื้อกุ้ง

Shrimp Board ประกาศประกันราคาขั้นต่ำเพื่อรักษาเสถียรภาพราคา พร้อมอนุมัติโครงการอาหารกุ้งทะเลธงเขียวเพื่อช่วยลดต้นทุนอาหารของเกษตรกร

ระดมทุกมาตรการระบายน้ำชี-มูล ป้องกันล้นตลิ่ง

อธิบดีกรมชลประทานระบุ เดินหน้าช่วยเหลือภาคอีสาน ระดมติดตั้งเครื่องจักรเครื่องมือเพื่อเร่งระบายน้ำแม่น้ำชีและมูลออกสู่แม่น้ำโขง ป้องกันน้ำล้นตลิ่ง พร้อมสูบระบายน้ำที่ท่วมขังออกจากพื้นที่ ย้ำให้เจ้าหน้าที่เฝ้าระวังตลอด 24 ชั่วโมงเนื่องจากจะยังคงมีฝนตกหนักบางพื้นที่ระหว่าง 24-26 ส.ค. นี้ตามการคาดการณ์ของกรมอุตุนิยมวิทยา 

อุตุฯ คาด 24-26 ส.ค. ประเทศไทยตอนบนยังมีฝนตกหนัก

กรุงเทพฯ 24 ส.ค. – อธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยาระบุ พายุโซนร้อนกำลังแรง “หมาอ๊อน” ที่คาดว่า จะเคลื่อนขึ้นฝั่งบริเวณประเทศจีนตอนใต้พรุ่งนี้ จะไม่ส่งผลกระทบโดยตรงต่อประเทศไทย แต่จะมีอิทธิพลของร่องมรสุมที่ทำให้มีฝนตกเพิ่มขึ้นและฝนตกหนักบางแห่งระหว่างวันที่ 24-26 สค นี้  นางสาวชมภารี ชมภูรัตน์ อธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยากล่าวว่า จากการติดตามการเคลื่อนตัวของพายุโซนร้อนกำลังแรง“หมาอ๊อน” (MA-ON) บริเวณทะเลจีนใต้ตอนบน คาดว่า จะเคลื่อนขึ้นฝั่งบริเวณประเทศจีนตอนใต้ในวันที่ 25 ส.ค. 65 โดยพายุนี้ไม่ส่งผลกระทบโดยตรงต่อประเทศไทย แต่จะมีอิทธิพลจากร่องมรสุมที่พาดผ่านบริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณประเทศเวียดนามตอนบน ในขณะที่มรสุมตะวันตกเฉียงใต้พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย ทำให้ในช่วงวันที่ 24 – 26 ส.ค. 65 ประเทศไทยยังคงมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลางรวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังอ่อนลง โดยมีคลื่นสูง 1-2 เมตร ส่วนบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร  จากนั้นในช่วงวันที่ 27 – 30 ส.ค. 65 ร่องมรสุมที่พาดผ่านบริเวณประเทศไทยตอนบนมีกำลังอ่อนลง ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยมีกำลังอ่อนลง ทำให้ประเทศไทยมีฝนลดลง อย่างไรก็ตามขณะนี้มีข่าวปลอมเรื่องพายุที่จะทำให้เกิดผลกระทบต่อประเทศไทยบ่อยครั้งซึ่งกรมอุตุนิยมวิทยาได้ชี้แจงข้อเท็จจริงทราบแก่ประชาชนอย่างต่อเนื่อง พร้อมขอให้ประชาชนติดตามประกาศแจ้งเตือนจากกรมอุตุนิยมวิทยาอย่างใกล้ชิด และหากมีสงสัยหรือต้องการ  ข้อมูลเพื่อเติม เกี่ยวกับการพยากรณ์อากาศและประกาศเตือนภัย สภาพอากาศ สามารถสอบถามได้ที่เว็บไซต์กรมอุตุนิยมวิทยา https://www.tmd.go.th, Facebook กรมอุตุนิยมวิทยา Application Thai weather สายด่วน  1182 ตลอด 24 ชั่วโมง.-สำนักข่าวไทย

กอนช. เตือนน้ำชีล้นตลิ่ง 5 จังหวัดอีสาน 26-31 ส.ค.

กอนช. ออกประกาศเตือน 5 จังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เฝ้าระวังน้ำจากแม่น้ำชี ล้นตลิ่งไหลหลากท่วมพื้นที่ลุ่มต่ำ 0.30-1.50 เมตร ช่วงวันที่ 26-31 ส.ค.นี้

GISTDA เปิดภาพจากดาวเทียม พบสุโขทัย-พิษณุโลก น้ำท่วมแล้วกว่า 9 หมื่นไร่

GISTDA เปิดเผยภาพจากดาวเทียม พบพื้นที่น้ำท่วมขังใน จ.สุโขทัย และพิษณุโลก รวมกว่า 9 หมื่นไร่ พื้นที่ปลูกข้าวได้รับผลกระทบแล้วกว่า 3 หมื่นไร่

1 97 98 99 100 101 485
...