เกษตรฯ

กรุงเทพฯ 23 ก.พ. – เลขาธิการส.ป.ก. เผยกำลังเร่งตรวจสอบแนวเขตปฏิรูปที่ดินในตำบลกลางดง อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมาซึ่งมีการพบหมุดส.ป.ก. โดยถูกตั้งข้อสังเกตว่า อาจอยู่ในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ หากเป็นความบกพร่องของเจ้าหน้าที่ปฏิรูปที่ดิน จะต้องลงโทษ นายวิณะโรจน์ ทรัพย์ส่งสุข เลขาธิการสำนักงานปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมกล่าวว่า สั่งการให้เจ้าหน้าที่เร่งตรวจสอบกรณีที่พบหมุดส.ป.ก. ในตำบลกลางดง อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา โดยมีผู้ตั้งข้อสงสัยว่า ออกเอกสารส.ป.ก. 4-01 ในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าดงพญาเย็นในความรับผิดชอบของกรมป่าไม้หรือไม่ เบื้องต้นได้รับรายงานว่า พื้นที่นี้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน โดยต้องตรวจสอบว่า มีการออกส.ป.ก. 4-01 ไปแล้วหรือยัง หรืออยู่ขั้นตอนใด ตลอดจนต้องตรวจสอบสภาพพื้นที่ว่า มีศักยภาพทำการเกษตรได้หรือไม่ หากมีสภาพหรือศักยภาพทำการเกษตรไม่คุ้มค่า จะต้องกันคืนกรมป่าไม้ตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 1 มีนาคม 2537 และตามข้อตกลงที่ทำร่วมกันในพ.ศ. 2538 ทั้งนี้ร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์สั่งการให้ set zero การออกส.ป.ก. โดยมิชอบทั่วประเทศ หากพบในพื้นที่ใด จะเพิกถอน แล้วพิจารณาว่า เกิดจากความคลาดเคลื่อนของแผนที่ซึ่งแต่ละหน่วยงานถือ หรือจากความบกพร่อง หรือเจตนาทุจริต หากบกพร่องหรือทุจริตจะถูกดำเนินการอย่างเด็ดขาดทั้งทางอาญาและวินัย นายวิณะโรจน์กล่าวว่า […]

เลขาธิการ ส.ป.ก. และอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติฯ หารือเพื่อกำหนดแนวทางแก้ไขปัญหาเรื่องแนวเขตพื้นที่ทับซ้อน เสนอให้คณะกรรมการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมตั้งคณะทำงานร่วมแก้ไขปัญหา นำขอบเขตทับซ้อนทุกพื้นที่มากำหนดเป้าหมายการตรวจสอบร่วมกัน

นครราชสีมา 23 ก.พ. – อธิบดีกรมป่าไม้เผย สั่งสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 8 (นครราชสีมา) ขอผังการจัดแปลงส.ป.ก. จากสำนักงานปฏิรูปที่ดินจังหวัด เร่งตรวจสอบว่า มีการออกส.ป.ก. 4-01 ทับสวนป่าและเขตป่าสงวนแห่งชาติหรือไม่ หากพื้นที่ในตำบลกลางดงซึ่งพบหมุดส.ป.ก. ไม่เหมาะสมที่จะทำการเกษตร ต้องกันคืนกรมป่าไม้ นายสุรชัย อจลบุญ อธิบดีกรมป่าไม้กล่าวว่า ได้รับรายงานจากนายสราวุธ อุเทนรัตน์ ผู้อำนวยการสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 8 (นครราชสีมา) ซึ่งได้นำเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบพื้นที่ตำบลกลางดง อำเภอปากช่องตามที่นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร ผู้อำนวยการสำนักอุทยานแห่งชาติ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืชพบหมุดส.ป.ก. แล้วแจ้งมายังกรมป่าไม้ เบื้องต้นพบว่า บริเวณที่พบหมุดส.ป.ก. ไม่ได้อยู่ในแปลงสวนป่าปางอโศก แต่ยังต้องตรวจสอบเพิ่มเติมว่า มีการปักหมุดส.ป.ก. หรือออกเอกสารส.ป.ก. 4-01 ล้ำเข้าไปในแปลงสวนป่าปางอโศกหรือไม่ โดยหากตรวจพบจะต้องให้ปฏิรูปที่ดินจังหวัดนครราชสีมาเพิกถอนเนื่องจากกรมป่าไม้ใช้งบประมาณรัฐในการปลูกป่าจึงเป็นพื้นที่ที่มีภาระผูกพันกับงบประมาณที่ใช้ไปแล้ว จะนำพื้นที่ดังกล่าวไปใช้ประโยชน์อย่างอื่นไม่ได้ พื้นที่นี้ ยังมีสถานะเป็นป่าสงวนแห่งชาติ แม้กรมป่าไม้จะมอบให้สำนักงานปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) และมีพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตปฏิรูปที่ดิน แต่ไม่ได้หมายความว่า มีผลเป็นการเพิกถอนป่าสงวนแห่งชาติทันที พระราชกฤษฎีกากำหนดเขตปฏิรูปที่ดินเป็นเพียงการกำหนดขอบเขตของที่ดินที่จะทำการปฏิรูปที่ดินเท่านั้น แต่ส.ป.ก. มีหน้าที่ต้องกันพื้นที่ที่ใช้ในกิจกรรมของกรมป่าไม้ตามความเหมาะสมของแต่ละพื้นที่ส่งคืนให้แก่กรมป่าไม้ตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 1 […]

กรุงเทพฯ 23 ก.พ. – อธิบดีกรมป่าไม้เผยสั่งตรวจสอบหมุดส.ป.ก. ในสวนป่าปางอโศก ตำบลกลางดง อำเภอกลางดง จังหวัดนครราชสีมา ตามที่ “ชัยวัฒน์” พบเพิ่มวานนี้ ขณะเข้าตรวจยึดรถแบคโฮและรถแทรกเตอร์คันที่เข้าแผ้วถางพื้นที่อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ชี้สวนป่าดำเนินการโดยกรมป่าไม้ ถือเป็นพื้นที่มีภาระผูกพันจากการใช้งบประมาณของรัฐบาล จะนำไปใช้ประโยชน์อย่างอื่นไม่ได้ นายสุรชัย อจลบุญ อธิบดีกรมป่าไม้กล่าวว่า สั่งการให้นายสราวุธ อุเทนรัตน์ ผู้อำนวยการสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 8 (นครราชสีมา) เข้าตรวจสอบบริเวณแปลงส่วนป่าปางอโศก ตำบลกลางดง อำเภอกลางดง จังหวัดนครราชสีมาซึ่งวานนี้ (21 ก.พ.) นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร ผู้อำนวยการสำนักอุทยานแห่งชาติ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืชตรวจพบหมุดส.ป.ก. ในขณะเข้าตรวจยึดรถแบคโฮและรถแทรกเตอร์ที่ใช้ในการบุกรุกแผ้วถางพื้นที่อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ซึ่งสำนักงานปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมออกส.ป.ก. 4-01 ในอุทยานแห่งชาติ ทั้งนี้จะต้องตรวจสอบแนวเขตให้ชัดเจนว่า หมุดส.ป.ก. อยู่ในสวนป่าจริงหรือไม่ หากอยู่ในพื้นที่นั้นจริง ต้องตรวจสอบว่า มีการออกเอกสารส.ป.ก. 4-01 แล้วหรือยัง เบื้องต้นหากพบมีการตัดไม้ ให้แจ้งความดำเนินคดี นายสุรชัยกล่าวย้ำว่า การออกเอกสารส.ป.ก. 4-01 ในแปลงสวนป่าปางอโศกนั้นไม่สามารถทำได้ เนื่องจากการปลูกสวนป่าเพื่อฟื้นฟูทรัพยากรป่าไม้ดำเนินการโดยกรมป่าไม้ซึ่งใช้งบประมาณของรัฐบาล ถือว่า […]

กรุงเทพฯ 21 ก.พ. – นายกรัฐมนตรีเรียกหน่วยงานที่เกี่ยงข้องประชุมหาทางออกกรณีออกส.ป.ก. 4-01 ทับซ้อนกับอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ เร่งสำรวจแนวเขตเพื่อยุติข้อพิพาทระหว่างหน่วยงาน อีกทั้งกรมอุทยานและส.ป.ก. รวมถึงหน่วยงานที่รับผิดชอบที่ดินของรัฐทุกประเภทจะทำ MOU ร่วมตรวจสอบพื้นที่ทับซ้อน นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีโพสต์เฟซบุ๊ก “เศรษฐา ทวีสิน” ระบุว่า ได้เชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาพูดคุยเพื่อแก้ปัญหาทับซ้อนบริเวณเขาใหญ่ซึ่งถือเป็นปัญหาเร่งด่วนเพราะกระทบต่อประชาชนหลายภาคส่วน โดยเชิญร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช นายวิณะโรจน์ ทรัพย์ส่งสุข เลขาธิการสำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) และพลโทชาคร บุญภักดี​ เจ้ากรมแผนที่ทหารมาพูดคุยเพื่อมาหาทางออกร่วมกัน เบื้องต้นกรมแผนที่ทหารจะเข้าไปสำรวจแผนที่ที่เป็นมาตรฐานของรัฐแผนที่เดียวเพื่อให้ยุติข้อพิพาทก่อนซึ่งจะใช้เวลาสำรวจประมาณ 3 สัปดาห์ ส่วนกรมอุทยานแห่งชาติฯ และส.ป.ก. รวมถึงหน่วยงานที่รับผิดชอบเกี่ยวกับที่ดินของรัฐทุกประเภทจะทำบันทึกข้อตกลงในการร่วมกันสำรวจพื้นที่พิพาทร่วมกัน สำหรับกระทรวงเกษตรฯ จะประกาศยกเลิกไม่ให้มีการจัดสรรที่ดินที่กินในแนวเขตกันชน (พื้นที่คาบเกี่ยว) ในความรับชอบของกรมอุทยานฯ และส.ป.ก. เพื่อป้องกันปัญหาในระยะยาว.- 512 – สำนักข่าวไทย

กรุงเทพฯ 20 ก.พ. – รมว.เกษตรฯ สั่งเลขาธิการ ส.ป.ก. กำหนดพื้นที่กันชนบริเวณแนวเชื่อมต่อระหว่างเขตปฏิรูปที่ดินกับป่าอนุรักษ์ โดยไม่จัดสรรที่ดินให้เกษตรกรเข้าทำกิน แต่อาจให้ทำเป็นป่าชุมชน ลดปัญหาการรุกป่าอนุรักษ์และความเสียหายจากการที่สัตว์ป่าเข้าทำลายพืชผล เตรียมหารือในที่ประชุมคณะกรรมการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม ร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์กล่าวว่า สั่งการให้นายวิณะโรจน์ ทรัพย์ส่งสุข เลขาธิการสำนักงานปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) กำหนดพื้นที่กันชนหรือ buffer zone บริเวณรอยต่อเขตปฏิรูปที่ดินซึ่งอยู่ในความรับผิดชอบของส.ป.ก. กับป่าอนุรักษ์ทั้งในความรับผิดชอบของกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช รวมถึงกรมป่าไม้ สำหรับพื้นที่กันชนจะไม่จัดสรรที่ดินให้เกษตรกรเข้าทำกิน โดยอาจสงวนไว้ให้เป็นป่าชุมชนหรือรูปแบบอื่นที่เหมาะสมตามที่ได้ให้นโยบายแก่ส.ป.ก. ในการเพิ่มต้นไม้ในเขตปฏิรูปที่ดิน ที่ผ่านมาส.ป.ก. ปลูกป่าเพิ่มขึ้นมากกว่า 45,000 ไร่ต่อปี แนวทางดังกล่าว มีประโยชน์ทั้งเพื่อลดปัญหาการทับซ้อนของแนวเขตที่ดินของรัฐ ป้องกันไม่ให้เกษตรกรที่อยู่ตามแนวเขตปฏิรูปที่ดินรุกเข้าไปในป่าอนุรักษ์ ขณะเดียวกันลดปัญหาสัตว์ป่าออกจากป่าอนุรักษ์มาทำลายพืชผลของเกษตรกรในเขตปฏิรูปที่ดิน ขณะนี้สั่งให้ส.ป.ก. ชะลอการอนุญาตเข้าใช้ประโยชน์ในเขตปฏิรูปที่ดินบริเวณที่แนวเขตอาจทับซ้อนกับป่าอนุรักษ์ แล้วจะหาพื้นที่ใหม่ให้เกษตรกร ไม่ใช่เฉพาะในตำบลหมูสี อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมาที่มีปัญหาอยู่ แต่จะทำทั่วประเทศ โดยให้เลขาธิการส.ป.ก. เตรียมนำเรื่องพื้นที่กันชนเข้าพิจารณาในที่ประชุมคณะกรรมการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมซึ่งจะได้มีมติและออกเป็นระเบียบปฏิบัติต่อไป สำหรับการขับเคลื่อนการปรับปรุงแผนที่แนวเขตที่ดินของรัฐแบบบูรณาการ มาตราส่วน 1 : 4000 (One Map) ของคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ […]

กรุงเทพฯ 20 ก.พ. – “ชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร” เผยไม่กลัวอะไรแล้ว หลังจากถูกป.ป.ช. ชี้มูลความผิดการก่อสร้างหน่วยหน่วยพิทักษ์ป่าห้วยคมกฤตในอุทยานแก่งกระจานเมื่อปี 2556 ตามมาตรา 157 ละเว้นการปฏิบัติและผิดวินัยอย่างร้ายแรง ให้กระทรวงทส. ลงโทษใน 30 วัน ชี้หากความถูกต้องในสังคมไม่มีและสำนึกไม่เกิด ก็พร้อมจะต่อสู้เพื่อความถูกต้อง นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร ผู้อำนวยการสำนักอุทยานแห่งชาติ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืชกล่าวถึงการที่มีรายงานข่าวว่า สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้ส่งผลการพิจารณาไต่สวนข้อกล่าวหาที่มีต่อนายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร ขณะดำรงตำแหน่งหัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน จังหวัดเพชรบุรี กับพวกดำเนินโครงการก่อสร้างอาคารที่ทำการหน่วยพิทักษ์อุทยาน (ห้วยคมกฤต) ในพื้นที่อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน โดยมิชอบด้วยกฎหมาย มาที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) แล้วเมื่อปลายเดือนมกราคม 2567 โดยนายชัยวัฒน์ระบุว่า ไม่รู้สึกกลัวอะไรแล้วเพราะผ่านเหตุการณ์มามากมายในชีวิตราชการ ทั้งนี้ยืนยันว่า มุ่งมั่นพิทักษ์ป่าและสัตว์ป่ามาโดยตลอด แต่ขบวนการของผู้เสียประโยชน์ที่ตนเข้าไปขัดขวางพยายามกำจัดให้พ้นทาง โดยไม่สามารถใช้เรื่องทุจริตมาจัดการได้เนื่องจากตนไม่เคยทุจริต จึงนำประเด็นอื่นๆ มาร้องเรียน นายชัยวัฒน์กล่าวว่า การก่อสร้างหน่วยพิทักษ์อุทยานห้วยคมกฤตเกิดขึ้นในช่วงที่เป็นหัวหน้าแก่งกระจาน ในปีงบประมาณ 2556 ขณะนั้นมีปัญหาขบวนการลักลอบค้าช้างป่าเพื่อเอางา โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้เป็นแหล่งอาศัยของสัตว์ป่าและเป็นที่พักของเจ้าหน้าที่ลาดตระเวน ภายในโครงการมีสิ่งปลูกสร้าง 7 […]