กรุงเทพฯ 16 เม.น.- “พิชัย” หารือ ปตท.เตรียม 3 แผนพลังงาน ทำสัญญา 15 ปี นำเข้า LNG ปีละ 1 ล้านตัน 500 ล้านดอลลาร์ ส่งทีมไทยแลนด์เดินทางไปสหรัฐ สัปดาห์นี้
นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ประชุมร่วมคณะเจรจาการค้าสหรัฐอเมริกา ระหว่างรัฐบาลและบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) เพื่อวางแผนดำเนินการรับมือนโยบายกำแพงภาษีสหรัฐอเมริกา เพื่อเตรียมความพร้อมเจรจาใน “Sector พลังงาน” ประกอบด้วย 3 แผนพลังงานเจรจาสหรัฐ ได้แก่
1.แผนพลังงาน นำเข้าก๊าซธรรมชาติ LNG ของ ปตท. 1,000,000 ตัน มูลค่า 500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในปี 2569 โดยลอตแรกจะเซ็นสัญญาสัมปทานระยะเวลา 15 ปี ส่วนราคาซื้อขายจะต้องไปเจรจาต่อรองเพิ่มเติมโดยราคานำเข้าก๊าซธรรมชาติ LNG รวมค่าขนส่งแล้ว ย้ำว่าราคาจะต้องคุ้มทุนด้วย (โดยแผนดังกล่าวเป็นเดิมของ ปตท. อยู่แล้ว แต่นายพิชัย จะไปย้ำเตือนกับสหรัฐอีกครั้ง)
2.แผนพลังงานในอีก 5 ปีข้างหน้า เตรียมทำสัญญาซื้อขายปิโตรเคมี (อีเทน) จำนวน 400,000 ตัน มูลค่า 100 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เนื่องจาก ปทต. วิเคราะห์ว่า ปริมาณน้ำมันดิบและก๊าซธรรมชาติในอ่าวไทยมีปริมาณลดลง ในอนาคตอาจจะไม่เพียงพอกับความต้องการภายในประเทศ จึงจะใช้โอกาสนี้เข้าเจรจาสหรัฐ หากสำเร็จจะให้ ปตท. เข้าดำเนินการเจรจาขั้นตอนต่อไปทันที
3.แผนในอนาคต เล็งให้ ปตท. เป็นผู้ซื้อและผู้ขายก๊าซ LNG ที่นำเข้าสหรัฐ เพื่อต้องการเป็นฮับรายใหญ่ในภูมิภาค ส่วนรายละเอียดทั้งเงื่อนไขสัญญาจะต้องเจรจากันอีกครั้ง ยืนยันว่า หากราคาแพงเกินตลาดอื่นๆ หรือไม่เป็นไปตามเป้าหมาย จะไม่ซื้อขาย ต้องคำนึงถึงจุดคุ้มทุน
นายพิชัย ยอมรับว่าการเจรจาใน Sector พลังงาน เป็นกลยุทธ์ Win-Win ทั้งไทยและสหรัฐได้ประโยชน์ทั้งคู่ เพราะไทยต้องนำเข้าก๊าซธรรมชาติ ทำให้สหรัฐได้ดุลการค้าไทยเพิ่ม 600 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และต้องดำเนินแผนใน Sector อื่นๆ เพิ่มเติม เช่น นำเข้าสินค้าเกษตรเพื่อแปรรูปอาหารสัตว์และส่งออก เนื่องจากไทยเกินดุลการค้าสหรัฐ ร้อยละ 72% หากทำให้ดุลการค้าลดลงมี 2 วิธี คือ 1. ไทยจึงต้องนำเข้าเพิ่ม 20,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เหลือร้อยละ 36 และ 2. ไทยต้องนำเข้ามาและขยายการส่งออกเพิ่ม ทำให้ขนาดเศรษฐกิจไทยโตขึ้น
ส่วนการหารือร่วมกับนายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย
ยืนยันไม่ได้กดดันให้ ธปท. นำเงินสำรองออกมาใช้ เนื่องจากเงินสำรองเป็นเงินทุนเพื่อสำรองการนำเข้าและส่งออกเท่านั้น ในส่วนของรัฐบาลจะทำผ่านขั้นตอนการปรับเพิ่ม-ลดการขาดดุลมากกว่า ส่วนรัฐบาลต้องการให้ค่าเงินบาทอ่อน ต้องปล่อยให้เป็นไปตามกลไก แต่ละประเทศมีวิธีการบริหารจัดการของแต่ละประเทศ
ส่วนประเด็นการนำเข้าอาหารสัตว์ (ชิ้นส่วนโค) ซึ่งพรุ่งนี้กลุ่มเกษตรกรจะประท้วงการนำเข้าชิ้นส่วนโค) ที่กระทรวงเกษตร นายพิชัย ยืนยันว่าไม่กระทบเกษตรกรในประเทศแน่นอน เนื่องจากเป็นชิ้นส่วนเครื่องในที่บริษัทเอกชน นำเข้าเพื่อแปรรูปอาหารสัตว์และส่งออก โดยทีมไทยแลนด์ เตรียมเดินทางไปตั้งแต่วันที่ 17 เม.ย.นี้ หลังจากนั้น นายพิชัยจะเดินทางตามไปอีก 2-3 วันนี้ หลังจากนัดหมายการเจรจากับสหรัฐสรุปชัดเจน.- 515 สำนักข่าวไทย
