“ศักดิ์สยาม” ชี้แจง 4 ข้อสงสัย ยันไม่เคยแทรกแซงหน่วยงานภายใน 

กรุงเทพฯ 20 ก.ค.-รมว.คมนาคม ชี้แจงทุกข้อกล่าวหาของฝ่ายค้านในประเด็นที่ดินเขากระโดง, การขายหุ้น หจก.บุรีเจริญ คอนสตรัคชั่น เป็นนิติกรรมอำพราง, การจัดงบประมาณของกระทรวงคมนาคมไป จ.บุรีรัมย์มากผิดปกติ รวมถึงการจัดทำโครงการ MR-MAP เป็นการลงทุนซ้ำซ้อนว่า ข้อกล่าวหาทั้งหมดไม่เป็นความจริง

นายศักดิ์สยาม กล่าวว่า ประเด็นเขากระโดงทั้งหมดนั้น ได้มีการหยิบยกมาอภิปรายหลายครั้งแล้ว ซึ่งปัญหาที่ดินเขากระโดงเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นมานาน มีข้อพิพาทระหว่างหน่วยงานของรัฐกับประชาชนตั้งแต่ปี 2502 ซึ่งเรื่องนี้ยังอยู่ระหว่างการตรวจสอบสิทธิ์หน่วยงานของรัฐระหว่างกรมที่ดิน และรฟท. ทั้งนี้ ขอยืนยันว่า ตนไม่เคยแทรกแซงการดำเนินการใด ๆ แต่ได้มอบหมายให้ การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ยึดหลักการตามระเบียบกฎหมายและหลักธรรมาภิบาลมาโดยตลอด ตามที่กล่าวหาว่า บ้านพักของ รมว.คมนาคม บริเวณเขากระโดง เป็นที่ดินของ รฟท. ซึ่งตนและเครือญาติทราบมาตั้งแต่ตอนนั้น เคยชี้แจงไปแล้วว่า ตนเป็นเพียงผู้อยู่อาศัยในที่ดิน ซึ่งเป็นที่ดินโฉนดเลขที่ 3466 ที่ออกตั้งแต่ 26 ต.ค. 2515 ซึ่งในขณะนั้นตนอายุเพียง 10 ปี เพราะฉะนั้นขอยืนยันว่า เอกสารสิทธิ์ฉบับดังกล่าว เป็นเอกสารสิทธิ์ที่ออกตามขั้นตอนและกระบวนการของกฎหมาย โดยกรมที่ดิน


สำหรับประเด็นที่กล่าวหาว่าตนแทรกแซงการทำงานของ รฟท. ขอยืนยันว่า ตั้งแต่เข้ามารับหน้าที่ รมว.คมนาคม เมื่อเดือนกรกฎาคม 2562 ได้บริหารจัดการ และพัฒนาการดำเนินการในที่ดินของ รฟท. โดยมีการแต่งตั้งคณะทำงานเพื่อกำหนดยุทธศาสตร์การบริหารพื้นที่ให้สอดคล้องกับแผนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน พร้อมมีนโยบายให้ รฟท. ติดตามความก้าวหน้าการดำเนินการของกรมที่ดินในการพิจารณาเพิกถอนเอกสารสิทธิ์ให้ดำเนินการตามกฎหมายและหลักธรรมาภิบาลอย่างเคร่งครัด ให้ปฏิบัติด้วยความเท่าเทียม เสมอภาค โปร่งใส และให้รายงานความคืบหน้าเป็นประจำทุกเดือน

ปัจจุบัน รฟท. ใช้สิทธิ์ทางศาลปกครอง โดย รฟท. เห็นว่าต้องดำเนินการให้ถึงที่สุด โดยใช้สิทธิ์ทางศาลปกครอง เพื่อพิสูจน์ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการออกเอกสารสิทธิ์ของกรมที่ดิน โดยการฟ้องกรมที่ดินในฐานะนายทะเบียน ต่อศาลปกครองกลาง เพื่อให้ศาลมีคำสั่งเพิกถอนที่ดินทั้งแปลง ตามประมวลกฎหมายที่ดิน มาตรา 61 ซึ่งจะเป็นการสะดวกรวดเร็ว และรัดกุม มิให้ที่ดินส่วนใดส่วนหนึ่งตกหล่น และระยะเวลาในการพิจารณาคดีจนถึงที่สุด มีเพียง 2 ศาลเท่านั้น


ขณะนี้ศาลปกครองได้มีคำวินิจฉัยรับคำร้องไว้พิจารณาแล้ว ดังนั้น เรื่องนี้ได้เข้าสู่กระบวนการพิจารณาของศาล ซึ่งเป็นกระบวนการยุติธรรมแล้ว หลังจากนี้ต้องรอคำวินิจฉัยของศาล ว่าจะเป็นอย่างไรต่อไป และปฏิบัติไปตามนั้น ซึ่งเรื่องนี้มีข้อพึงระวังในประเด็นการกล่าวหา กรณีเมื่อคดีอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาล หากมีการวิจารณ์ให้เกิดความเสียหายต่าง ๆ อาจเป็นการก้าวล่วงการพิจารณาของศาล และอาจจะสุ่มเสี่ยงต่อการละเมิดอำนาจศาล ซึ่งทุกคนต้องให้ความเคารพต่อกระบวนการยุติธรรม

ส่วนกรณีที่ดินที่นายชัย ชิดชอบ (บิดา) เคยเช่าที่ดินของ รฟท. มีเนื้อที่ประมาณ 6 ไร่ 1 งาน 48 ตารางวา ได้ทำสัญญาเมื่อปี 2516 ซึ่งเป็นคนละแปลงกับโฉนดที่ดินเลขที่ 3466

สำหรับประเด็นข้อกล่าวหา พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง เลขาธิการพรรคประชาชาติ ตามที่กล่าวหาว่า เมื่อศาลฎีกาได้มีคำพิพากษาว่า กรรมสิทธิ์ในที่ดินบริเวณเขากระโดงเป็นของการรถไฟฯ ซึ่งการรถไฟฯ ในฐานะเจ้าของที่ดินสามารถนำผลของคำพิพากษาใช้ยันบุคคลภายนอกได้


รมว.ศักดิ์สยาม กล่าวชี้แจงว่า ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 145 คำพิพากษาหรือคำสั่งนั้นย่อมไม่ผูกพันบุคคลภายนอกเว้นแต่ในข้อต่อไปนี้ (2) คำพิพากษาที่วินิจฉัยถึงกรรมสิทธิ์แห่งทรัพย์สินใด ๆ เป็นคุณแก่คู่ความฝ่ายใด ฝ่ายหนึ่งอาจใช้ยันแก่บุคคลภายนอกได้ เว้นแต่บุคคลภายนอกนั้นจะพิสูจน์ใด้ว่าตนมีสิทธิ์ดีกว่า ทั้งนี้ เมื่อข้อเท็จจริงปรากฏว่าที่ดินแปลงอื่น ๆ ที่ยังไม่มีคำพิพากษาใด ๆ อีกทั้งประชาชนในพื้นที่บริเวณเขากระโดงเป็นผู้ถือเอกสารสิทธิ์ที่ทางราชการออกให้ กฎหมายให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่า ผู้มีชื่อในโฉนดที่ดินเป็นผู้มีสิทธิ์ครอบครอง ในขณะนี้ ผู้ถือเอกสารสิทธิ์ที่ยินยอมโต้แย้งได้ว่าเป็นผู้มีสิทธิ์ดีกว่าการรถไฟฯ ด้วยเหตุดังกล่าว การรถไฟฯ จึงได้ใช้สิทธิ์ในการฟ้องคดีต่อศาลปกครองกลางเพื่อพิสูจน์สิทธิดังกล่าว ซึ่งเป็นการดำเนินการตามกระบวนขั้นตอนของกฎหมาย

ส่วนกรณีเรื่องที่ดินที่เขากระโดง ที่มีการกล่าวหาว่าตนสั่งการถ่วงเวลาไม่ให้มีการดำเนินการในการบังคับใช้ในกรณีที่มีคำพิพากษาศาลฎีกา ได้อ่านคำพิพากษาเมื่อวันที่ 13 มี.ค. 62 ให้มีการดำเนินการกับที่ดินของนาย A การดำเนินการดังกล่าว การรถไฟฯ ได้มีการดำเนินการตามกระบวนการ คือต้องมีการสืบทรัพย์สิน และตั้งเจ้าพนักงานบังคับคดี ขณะนี้อยู่ระหว่างการดำเนินการของกรมบังคับคดี ซึ่งการรถไฟฯ ต้องรอ ทั้งหมดเป็นไปตามขั้นตอนตามกฎหมายทุกประการ ไม่มีการละเว้นหรือเลือกปฏิบัติกับใคร

สำหรับประเด็นการขายหุ้น หจก.บุรีเจริญฯ เป็นนิติกรรมอำพรางนั้น ได้มีการซื้อขายกันจริงกับเพื่อนของที่ชื่อ นายศุภวัฒน์ เกษมสุทธิ์ ตั้งแต่วันที่ 16 ม.ค. 61 โดยมีเอกสารการชำระเงิน จากธนาคารธนชาต มีการรับโอนเงินทั้งหมด 3 ครั้ง รวม 119,500,000 บาท และหนังสือรับรองบริษัทก็ได้รับการแก้ไขแล้ว เมื่อวันที่ 28 มี.ค. 61

ดังนั้น ตั้งแต่วันที่ 28 มี.ค. 61 ตนจึงไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการประกอบธุรกิจของ หจก.บุรีเจริญ เป็นต้นไป ส่วนเงินที่ได้รับมาจากการขายหุ้นนั้น ได้นำไปชำระหนี้สินส่วนตัวและหนี้สินทางธุรกิจ

ขณะที่ประเด็นที่มีข้อซักถามว่า ทำไมการจดการซื้อขายหุ้นครั้งนี้ จึงไม่ยื่นหลักฐานไปที่กรมพัฒนาธุรกิจการค้า นายศักดิ์สยาม กล่าวว่า ตามหลักเกณฑ์ของกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กรณีที่ต้องยื่นมีเรื่องเดียว คือ กรณีที่มีการเพิ่มเงินลงทุนหรือจดใหม่ แต่กรณีที่มีการซื้อขายไม่ต้องยื่น

นอกจากนี้ กรณีที่มีการตั้งข้อสงสัยว่า ทำไมเรื่องนี้ไม่มีการรายงานทรัพย์สินต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เพราะเป็นผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ขอระบุว่า กิจกรรมทั้งหมดที่เกิดขึ้นนั้น เกิดขึ้นในช่วงที่ตนยังไม่ได้เข้าสู่ตำแหน่ง ส.ส. เมื่อวันที่ 5 พ.ค. 62 ซึ่งตามกฎหมายต้องแจ้งบัญชีทรัพย์สิน ณ ขณะนั้นภายใน 30 วัน ซึ่งตนได้แจ้งไปเรียบร้อยแล้ว

นายศักดิ์สยาม กล่าวว่า เรื่องต่อมาที่มีการตั้งข้อกล่าวหาว่า มีการฮั้วประมูลงานของกระทรวงคมนาคม ขอยืนยันว่า เป็นไปไม่ได้ และไม่จริง เนื่องจากงานของกระทรวงคมนาคม ต้องดำเนินการด้วยการคำนึงถึง 4 ข้อหลัก ที่ข้าราชการต้องยึดถือปฏิบัติ คือ 1) ต้องเป็นไปตามระเบียบและกฎหมาย 2) ต้องถูกต้องตามมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) 3) ต้องเป็นไปตามหลักธรรมาภิบาล และ 4) ต้องรับฟังความเห็นของพี่น้องประชาชน

ทั้งนี้ การประมูลไม่ได้ทำโดยกระทรวงคมนาคม แต่เป็นการดำเนินการประมูลโดยใช้วิธีอิเล็กทรอนิกส์ที่เรียกว่า e-Bidding ซึ่งดำเนินการโดยกรมบัญชีกลาง ตาม พ.ร.บ.การจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ 2560 นอกจากนี้การดำเนินการยังมีกฎหมายอื่นที่ต้องปฎิบัติตาม เช่น พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ. 2552 หากมีการฮั้วประมูล ผู้เสนอราคาจะมีความผิดต้องรับโทษตามกฎหมาย

ส่วนข้อกล่าวหาว่า กระทรวงคมนาคม มีการจัดงบประมาณของกรมทางหลวงชนบท และกรมทางหลวงไปที่จังหวัดบุรีรัมย์มากผิดปกติ ขอชี้แจงว่า ในการดำเนินการจัดทำงบประมาณ จะต้องพิจารณาการขอตั้งและงบประมาณที่ได้รับปี 57-66 ของกรมทางหลวง และกรมทางหลวงชนบท ซึ่งเมื่อดูข้อมูลย้อนหลัง 10 ปี พบว่า จังหวัดอื่น ๆ ได้รับงบประมาณมากกว่าจังหวัดบุรีรัมย์ ทั้งนี้ ในช่วงปีหลัง ๆ ได้รับการจัดสรรงบประมาณเพิ่ม เพราะในอดีตได้รับการจัดสรรงบน้อย จึงเกิดความเหลื่อมล้ำในการพัฒนา ขณะเดียวกันการจัดสรรงบประมาณไม่ได้กระจุกตัวอยู่ที่จุดใดจุดหนึ่งในจังหวัดบุรีรัมย์ กระทรวงคมนาคมได้พิจารณาจัดสรรงบประมาณให้กระจายทั่วทุกจังหวัดบุรีรัมย์ ในปี 64-26

สำหรับประเด็นที่ว่ามีการประกวดราคา คู่เทียบ หรือฮั้วประมูลหรือไม่นั้น งานจัดซื้อจัดจ้างของกรมทางหลวงและกรมทางหลวงชนบท ดำเนินการตาม พ.ร.บ.การจัดซื้อจัดจ้าง และการบริหารพัสดุภาครัฐ ปี 2560 ซึ่งได้มีระเบียบ วิธีการจัดซื้อจัดจ้าง กำหนดไว้ ทั้งหมด 3 วิธี ได้แก่ การประกาศเชิญชวนทั่วไป วิธีคัดเลือก และวิธีเฉพาะเจาะจง

ทั้งนี้ โดยทั่วไปกรมทางหลวงและกรมทางหลวงชนบท จะใช้วิธีการประกาศเชิญชวนทั่วไป ด้วยการประกวดราคา e-Bidding โดยการประกวดราคาด้วยวิธี e-Bidding ผู้ประกอบการจะต้องซื้อเอกสารประกวดราคาและยื่นเสนอราคาผ่านระบบ e-GP ของกรมบัญชีกลาง กระทรวงการคลัง โดยไม่ได้พบปะกัน ซึ่งหน่วยงานของรัฐจะไม่ทราบรายชื่อผู้เสนอราคาและราคาที่ยื่นเสนอ จนกว่าระบบ e-GP จะแจ้งผลให้ทราบ จึงทำให้การจัดซื้อจัดจ้างมีความโปร่งใส และเกิดการแข่งขันอย่างเป็นธรรม เนื่องจากผู้ประกอบการและหน่วยงานของรัฐไม่มีโอกาสได้เจอกันก่อนวันทำสัญญา

สุดท้าย ข้อกล่าวหาโครงการ MR-MAP มีความซ้ำซ้อนโครงการรถไฟทางคู่ ความเร็วสูง และมอเตอร์เวย์ ทำให้เกิดการแย่งปริมาณผู้โดยสารกันเอง เกิดการขาดทุน ทำให้รัฐต้องแบกรับภาระ เกิดหนี้สูงถึง 5.7 ล้านล้านบาท ผลประโยชน์ไม่ตกถึงประชาชนในระดับพื้นที่ นายศักดิ์สยาม กล่าวชี้แจงว่า รัฐบาลมีกรอบแนวคิดในการวางแผนแม่บท MR-MAP คือ 1. แก้ปัญหาของประเทศในระบบคมนาคมขนส่งที่มีมาในอดีตการปะปนกันของรถบรรทุกขนาดใหญ่และรถส่วนบุคคลที่สัญจรในเมือง 2. สร้างโอกาสสร้างโครงสร้างพื้นฐานอย่างเป็นระบบเชื่อมภูมิภาคเพื่อให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางคมนาคมขนส่งของภูมิภาคได้อย่างแท้จริง และ 3. วางรากฐานโครงสร้างพื้นฐานที่ถูกต้องแก่ประเทศไทยอย่างเป็นระบบ วางแผนพร้อมกัน แต่ไม่จำเป็นต้องก่อสร้างพร้อมกัน

นอกจากนี้ ในเรื่องรูปแบบการลงทุน จะเน้นให้ลดการลงทุนของภาครัฐ ภาครัฐจะลงทุนบางส่วนร่วมกับเอกชน และจำเป็นต้องพิจารณาให้นักลงทุนต่างชาติสามารถเข้าร่วมลงทุนได้ด้วย.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่มซิ่งกระบะชนเสาไฟฟ้าล้มขวางถนน 12 ต้น

ชลบุรี 28 ก.ย. – หนุ่มซิ่งกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรตลอดทั้งวัน คาดจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) รถกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน ต.บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น เป็นเสาไฟฟ้าแรงสูง 6 ต้น เสาไฟฟ้าสูง 12 เมตร อีก 6 ต้น ระยะทาง 500 เมตร โชคดีนายสิทธิพงษ์ อายุ 41 ปี คนขับ บาดเจ็บเล็กน้อย แต่ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรบนถนนสายบึง-บ่อวิน ตลอดทั้งวัน คาดว่าจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) จากการสอบสวนทราบว่า นายสิทธิพงษ์ เพิ่งเลิกงาน ขับรถกลับบ้านด้วยความเร็ว อาจหลับใน ทำให้รถเปลี่ยนเลนข้ามไปชนกับเสาไฟฟ้าอีกฝั่ง ส่วนความเสียหายยังประเมินค่าไม่ได้.-สำนักข่าวไทย

“อนุทิน” ร่วมงานศพพ่อ “อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้า ภท.

ราชบุรี 28 ก.ย.- “อนุทิน” ร่วมสวดอภิธรรมศพพ่อ “สส.อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้าภูมิใจไทย ลั่นได้ส่งจิตขออนุญาตคุณพ่อแล้ว นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตาีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วยนายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายศักดา วิเชียรศิลป์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นายสรอรรถ กลิ่นประทุม อดีต สส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย ได้ร่วมไว้อาลัยและสวดอภิธรรมศพ คุณพ่อวุฒิพงศ์ วงษ์พิทักษ์โรจน์ บิดาของนายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สส.ราชบุรี พรรครวมไทยสร้างชาติ เมื่อค่ำวันที่ 27 ก.ย. ที่จังหวัดราชบุรี โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี หัวหน้าส่วนราชการ และประชาชนกว่า 2,000 ร่วมพิธีโดยเป็นการสวดอภิธรรมเป็นคืนที่ 4 และจะมีพิธีบรรจุศพในวันที่ 30 ก.ย. นี้ ในช่วงท้าย นายอนุทิน ได้กล่าวกับผู้ที่ร่วมสวดอภิธรรมศพ ว่า ตนเองมีความสนิทสนมกับ นายอัครเดช มาหลายปีแล้ว นายอัครเดชเป็นคนมีความวิริยะอุสาหะ ตั้งใจทำงานให้พี่น้องประชาชน ตนมีความชื่นชมและศรัทธา ในความขัยนขันแข็งของท่าน ยิ่งไปกว่านั้นการปฏิบัติหน้าที่ในสภาผู้แทนราษฎร ท่านก็ทำหน้าที่ได้ดีเป็นดาวสภา […]

โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA

กรุงเทพฯ 28 ก.ย. – โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA หลัง “อนุทิน” มอบดาบการทูตสู้กัมพูชา ขณะนายกฯ ย้ำยึดสันติในการแก้ปัญหา เพื่อประโยชน์ของประเทศ ภายหลังจากที่นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวในเวทีการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ หรือ UNGA สมัยสามัญ ครั้งที่ 80 ที่นครนิวยอร์ก ทำให้กระแสโซเชียลในประเทศไทย พึงพอใจกับการทำหน้าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ในรัฐบาลของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี เป็นอย่างมาก ทั้งนี้ การเดินทางไปเวที UNGA ของนายสีหศักดิ์ ครั้งนี้ยึดแนวทางแก้ปัญหาความมั่นคงและการต่างประเทศ ที่นายอนุทิน มอบหมายให้ดำเนินการ โดยใช้มาตรการทางการทหารควบคู่กับการทูต เพื่อรักษาอธิปไตยอย่างสันติ เพื่อผลประโยชน์ของประชาชน โดยเฉพาะในกรณีพิพาทไทย-กัมพูชา ขณะที่นายอนุทิน เชื่อว่า การกล่าวถ้อยแถลงในที่ประชุม UNGA ของนายสีหศักดิ์ ทำให้คนไทยมีความเชื่อมั่นอย่างชัดเจนต่อจุดยืนของรัฐบาล สำหรับนโยบาย 4 เดือน 4 ภารกิจหลัก คืนความมั่นใจให้ประเทศไทย ตามนโยบายรัฐบาลของนายอนุทิน […]

กรมอุตุฯ เตือนฝนถล่มทั่วไทย รับมืออิทธิพลพายุบัวลอย

กทม. 28 ก.ย.- กรมอุตุฯ เตือนทั่วไทยรับมือฝนถล่ม อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง จับตาอิทธิพลพายุไต้ฝุ่น “บัวลอย” คาดเคลื่อนขึ้นฝั่งเวียดนามตอนบน พรุ่งนี้ (29 ก.ย.) กรมอุตุนิยมวิทยาเผยประเทศไทยมีฝนตกหนักหลายพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออก โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดสกลนคร นครพนม อุดรธานี ขอนแก่น กาฬสินธุ์ มุกดาหาร จันทบุรี และตราด ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่าน พื้นที่ลุ่ม และพื้นที่น้ำท่วมขัง เนื่องจากร่องมรสุมกำลังแรงพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังแรง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง พายุไต้ฝุ่น […]

ข่าวแนะนำ

สีสัน! อภิปรายนโยบายรัฐบาลวันแรก

29 ก.ย.- การแถลงนโยบายรัฐบาลวันนี้ เหมือนเป็นการซ้อมศึกซักฟอกย่อย เพราะมีการตอบโต้และตั้งฉายามากมาย ติดตามสีสันการอภิปรายนโยบายฯ วันแรก .-สำนักข่าวไทย

เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดฝนหนักคืนนี้

29 ก.ย.- หลายพื้นที่เฝ้าระวังฝนตกหนัก จากอิทธิพล #พายุบัวลอย เชียงใหม่เปิดประตูระบายน้ำทุกจุด เร่งระบายน้ำปิงลงทะเลสาบดอยเต่า พร่องน้ำในเขื่อนแม่งัดฯ เตรียมรับน้ำฝน คาดตกหนักคืนนี้ ขณะที่ จ.นครราชสีมา น้ำล้นสปิลเวย์ เตือนประชาชนระวังน้ำท่วมฉับพลัน พายุฝนตกกระหน่ำหลายพื้นที่จังหวัดสระแก้ว โดยพื้นที่ ต.บ้านแก้ง อ.เมืองสระแก้ว นายก อบต.บ้านแก้ง พร้อมผู้นำชุมชน และอาสาสมัครกู้ภัย ได้นำเรือเครื่องยนต์ท้องแบน เข้าช่วยเหลือ ตาชู-ยายทองคำ และสุนัข 1 ตัว ออกจากบ้านที่โดนน้ำป่าไหลหลาก เข้าท่วมเกือบมิดหลังคา  มาอยู่ในที่ปลอดภัย ยายทองคำ เล่าว่าเมื่อคืนพักอยู่กับตาและหมา กำลังจะเข้านอนแต่ก็มีฝนตกตลอดทั้งคืน น้ำที่คลองก็ยังไม่เห็นว่าจะขึ้นล้นตลิ่งเท่าไร แต่ก็กังวล จึงเฝ้าดูกระทั่งน้ำไหลมาและเข้าท่วม ตกใจ จึงได้นำสุนัขขึ้นบนบ้าน ส่วนข้าวของก็เก็บไม่ทัน จากนั้นจึงอยู่แต่บนบ้านจนถึงเช้า กู้ภัยมาช่วยนำออกมาจากบ้าน อยู่มาหลายสิบปีไม่เคยเจอแบบนี้มาก่อนเลย  ผู้ว่าฯ เชียงใหม่ เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดตกหนักคืนนี้ เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา หลายพื้นที่เชียงใหม่ เริ่มมีฝนตกลงมาบ้างแล้ว ระดับน้ำในลำน้ำปิงที่ไหลผ่านตัวเมืองเชียงใหม่ ที่จุดวัดพี1 เชิงสะพานนวรัฐ ยังอยู่ที่ 2 เมตร 49 เซนติเมตร ต่ำกว่าจุดวิกฤติแจ้งเตือนที่ […]

แถลงนโยบายวันแรกเดือด ประท้วงกันวุ่น

29 ก.ย.- สภาเดือด! แถลงนโยบายรัฐบาลวันแรก อภิปรายตอบโต้-ประท้วงกันเป็นระยะ เมื่อมีการพาดพิงปมเขากระโดง-ฮั้ว สว. แต่ประธานฯ คุมสถานการณ์ได้ ด้านนายกฯ ไม่กังวลวาทกรรมของฝ่ายค้าน ชี้ประเด็นซ้ำๆ และมีการแถลงข้อเท็จจริงไปแล้ว -สำนักข่าวไทย

ฝ่าดงทุ่นระเบิดเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก “ผลักดัน-รื้อถอน”

29 ก.ย.- ทหารเรือฝ่าดงทุ่นระเบิดเข้าเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก จ.ตราด ผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้าม-รื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง 3 หลัง รุกล้ำเขตอธิปไตยไทย ขณะที่ชาวบ้านหนองจาน จ.สระแก้ว นำอาหารมอบให้ทหารแนวหน้า ยังไม่พบความเคลื่อนไหวผิดปกติ พลเรือเอก จิรพล ว่องวิทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ และพลเรือเอก ไพโรจน์ เฟื่องจันทร์ ว่าที่ ผู้บัญชาการทหารเรือ คนใหม่ มอบหมายพลเรือโทอภิชาติ ทรัพย์ประเสริฐ ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน และผู้บัญชาการกองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรี-ตราด (กกล.กปช.จต.) เข้าเคลียร์พื้นที่ชายแดนบ้านชำราก อันเป็นอธิปไตยของไทย โดยหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินตราด กองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรีตราด จึงได้ผลักดันกองกำลังกัมพูชา ออกจากพื้นที่บริเวณตรงข้ามบ้านหนองรี ตำบลชำราก ไม่มีกำลังฝ่ายกัมพูชาวางกำลังแล้ว ผลจากการปฏิบัติการ บรรลุเป้าหมายสำคัญ คือ สามารถทำลายสิ่งปลูกสร้างทั้ง 3 หลังลงได้อย่างสิ้นเชิง ที่สำคัญที่สุดคือ สามารถผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้ามให้ออกจากพื้นที่รุกล้ำได้อย่างสมบูรณ์ ประชาชนนำอาหารมอบทหารแนวหน้า บ้านหนองจาน จ.สระแก้ว ส่วนที่บ้านหนองจาน จังหวัดสระแก้ว บรรยาศเงียบเหงา แต่ยังคงมีประชาชนเดินทางนำอาหาร เช่น ไข่ไก่ น้ำดื่ม นำมามอบให้กับทหารแนวหน้า ถึงแม้จะไม่คึกคักเหมือนวันก่อนๆ […]