เกษตรฯ รับมือความมั่นคงทางอาหารจากสถานการณ์โลก

กรุงเทพฯ 20 ก.ค.- กระทรวงเกษตรฯ พร้อมรับมือสถานการณ์ความมั่นคงด้านอาหารที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โลก แต่ยังมั่นใจว่า ผลผลิตแหล่งอาหารมีเพียงพอต่อประชากรในประเทศ พบส่งออกได้มากขึ้น พร้อมรับรองปฏิญญาความมั่นคงอาหารเอเปคร่วมกับสมาชิกเอเปค 21 เขตเศรษฐกิจ


นายฉันทานนท์ วรรณเขจร เลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) โฆษกกระทรวงเกษตรและสหกรณ์กล่าวว่า ได้วิเคราะห์สถานการณ์ด้านความมั่นคงอาหารที่หลายประเทศต่างวิตกกังวล โดยพบว่า ประชากรโลกเกือบ 200 ล้านคนกำลังประสบปัญหาความไม่มั่นคงด้านอาหาร ตั้งแต่การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 เมื่อปลายปี 2562 การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ล่าสุดคือ สถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างรัสเซีย-ยูเครน ที่ถือเป็นการจุดชนวนให้เกิดผลกระทบเศรษฐกิจโลกหลายด้าน เนื่องจากทั้งสองประเทศมีบทบาทด้านสินค้าเกษตร โดยมีสัดส่วนการส่งออกข้าวสาลีประมาณร้อยละ 30 ของการค้าข้าวสาลีทั่วโลก ยูเครนส่งออกน้ำมันดอกทานตะวันประมาณร้อยละ 50 ของโลกในขณะที่และรัสเซียส่งออกปุ๋ยประมาณร้อยละ 20 ของโลก ส่งผลให้ราคาพลังงานและปุ๋ยมีราคาสูงขึ้น ต่อมากลายเป็นกระแสผลักดันให้ประเทศผู้ผลิตอาหารออกนโยบาย “ห้ามส่งออก” เพื่อรักษาสมดุลอาหารเพื่อเลี้ยงคนในประเทศ 

ทั้งนี้ นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์สั่งการให้ทุกหน่วยงานพร้อมรับมือวิกฤตดังกล่าว แต่จากการประเมิน มั่นใจว่า ไทยมีผลผลิตเพียงพอต่อประชากรในประเทศ ทั้งกลุ่มสินค้าคาร์โบไฮเดรต ไขมันและโปรตีนได้แก่ ข้าว มันสำปะหลัง ปาล์มน้ำมัน สุกร ไก่เนื้อ และไก่ไข่ ขณะที่กลุ่มสินค้าวัตถุดิบที่สำคัญของอุตสาหกรรม ได้แก่ ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์และถั่วเหลือง ซึ่งไทยยังต้องพึ่งพาการนำเข้า ดังนั้น ไทยจึงต้องขับเคลื่อนการดำเนินงานด้านความมั่นคงอาหารทั้งระบบ ผ่านกลไกคณะกรรมการอาหารแห่งชาติ 


สำหรับวันที่ 26 สิงหาคมนี้ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เป็นเจ้าภาพจัดการประชุมรัฐมนตรีความมั่นคงอาหารเอเปคครั้งที่ 7 (The 7th APEC Virtual Food Security Ministerial Meeting) ซึ่งเป็นการแสดงเจตนารมณ์และความมุ่งมั่นในการส่งเสริมความมั่นคงอาหารในภูมิภาค และจะมีการรับรองปฏิญญาความมั่นคงอาหารเอเปคร่วมกับสมาชิกเอเปค 21 เขตเศรษฐกิจ ซึ่งไทยจะผลักดันประเด็นหลักที่จะช่วยสนับสนุนนโยบายความมั่นคงด้านอาหารและครัวไทยสู่ครัวโลก

ขณะนี้ สศก. ประเมินว่า ไทยสามารถใช้วิกฤตการณ์กลายเป็นโอกาสสำคัญของไทยในการขับเคลื่อนการส่งออกสินค้าเกษตรและอาหารไปยังประเทศต่าง ๆ ได้มากขึ้น โดยจากข้อมูลการส่งออกสินค้าเกษตรปี 2565 ช่วง 5 เดือน (มกราคม-พฤษภาคม) เทียบกับปี 2564 ในช่วงเวลาเดียวกัน พบว่า มีการเติบโตอย่างเห็นได้ชัด โดยมีการส่งออกสินค้าเกษตรไทยไปโลกเพิ่มขึ้นจาก 5.48 แสนล้านบาท เพิ่มเป็น 6.91 แสนล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นกว่า 142,986 ล้านบาท คิดเป็นอัตราการเพิ่มขึ้นร้อยละ 26 กลุ่มสินค้าเกษตรส่งออกสำคัญ 10 อันดับแรก ได้แก่ ทุเรียน ข้าว ยางธรรมชาติ ไก่ปรุงแต่ง อาหารสุนัขหรือแมวปรุงแต่ง ปลาทูน่ากระป๋อง สตาร์ชทำจากมันสำปะหลัง น้ำยางธรรมชาติ เครื่องดื่มที่ไม่มีแอลกอฮอล์ และอาหารปรุงแต่งอื่น ๆ (เช่น เต้าหู้ แอลกอฮอล์ผง และครีมเทียม) 

จากการที่ไทยยังคงรักษาการขยายการส่งออกสินค้าเกษตรได้เป็นอย่างดี และได้ประโยชน์จากราคาสินค้าโภคภัณฑ์เกษตรอาหารและอาหารแปรรูปสูงขึ้น เพราะสภาพภูมิประเทศเอื้อต่อการทำเกษตรกรรม สามารถผลิตเพื่อบริโภคและส่งออกได้ดีจึงมีความมั่นคงในด้านอาหารระดับหนึ่ง


นายฉันทานนท์กล่าวต่อว่า กระทรวงเกษตรฯ ได้จัดการระบบฐานข้อมูลขนาดใหญ่ที่ครอบคลุมและเชื่อมโยงกันทั้งระบบ (BIG DATA) โดยได้มอบหมาย สศก. ดำเนินการจัดทำปฏิทินผลผลิตสินค้าเกษตรรายเดือนระดับจังหวัด (Provincial Crop Calendar) เพื่อคาดการณ์ปริมาณการผลิตสินค้าเกษตรแบบรายชนิดสินค้าที่จะออกสู่ตลาดเป็นรายเดือนตลอดปี เพาะปลูกล่วงหน้าในแต่ละจังหวัด อำเภอ และตำบล รวมทั้งจะทำให้ทราบปริมาณสารอาหารที่มีอยู่ในแต่ละจังหวัดด้วย ซึ่งจะช่วยให้สามารถบริหารจัดการความมั่นคงด้านอาหารและโภชนาการได้ทั้งระบบทั้งในภาวะปกติ และภาวะวิกฤต

หากพิจารณาภาพรวมการผลิตสินค้าเกษตร รวมทั้งความต้องการใช้ในประเทศและการส่งออกสินค้าเกษตรหลักที่ให้คุณค่าทางโภชนาการ จะเห็นได้จากกลุ่มสินค้าสำคัญ ๆ ประกอบด้วย แหล่งคาร์โบไฮเดรตคือ สินค้าข้าว โดยช่วง 3 ปีที่ผ่านมา ไทยมีปริมาณผลผลิตข้าวสารเฉลี่ยปีละ 20.67 ล้านตัน มีความต้องการใช้เฉลี่ย 12.27 ล้านตัน และปริมาณการส่งออกเฉลี่ย 6.48 ล้านตัน 

ขณะที่มันสำปะหลังโรงงาน มีปริมาณผลผลิตมันสำปะหลังโรงงาน เฉลี่ย 31.72 ล้านตัน โดยมีความต้องการใช้หัวมันสดเฉลี่ย 11.83 ล้านตัน และปริมาณการส่งออกมันเส้น มันสำปะหลังอัดเม็ด แป้งมันสำปะหลังเฉลี่ย 6.67 ล้านตัน แหล่งไขมัน ได้แก่ ปาล์มน้ำมัน ไทยมีปริมาณผลผลิตปาล์มน้ำมันเฉลี่ย 16.52 ล้านตัน โดยมีความต้องการใช้น้ำมันปาล์มเฉลี่ย 1.25 ล้านตัน และปริมาณการส่งออกน้ำมันปาล์มเฉลี่ย 489,427 ตัน แหล่งโปรตีน ได้แก่ ไข่ไก่ ไทยมีปริมาณผลผลิตไข่ไก่เฉลี่ย 14,970 ล้านฟอง โดยมีความต้องการใช้เฉลี่ย 14,720 ล้านฟอง และปริมาณการส่งออกเฉลี่ย 250 ล้านฟอง ไก่เนื้อ ไทยมีปริมาณผลผลิตไก่เนื้อเฉลี่ย 2.63 ล้านตัน โดยมีความต้องการใช้เฉลี่ย 1.57 ล้านตัน และปริมาณการส่งออกเฉลี่ย 903,584 ตัน สุกรไทยมีปริมาณผลผลิตสุกรเนื้อเฉลี่ย 1.92 ล้านตัน โดยมีความต้องการใช้เฉลี่ย 1.34 ล้านตัน และปริมาณการส่งออกเนื้อสุกรและผลิตภัณฑ์เนื้อสุกรเฉลี่ย 23,168 ตัน จะเห็นได้ว่าปริมาณผลผลิตพืชและปศุสัตว์ที่สำคัญ ได้แก่ ข้าว มันสำปะหลัง ปาล์มน้ำมัน สุกร ไก่เนื้อ และไก่ไข่ มีปริมาณเพียงพอต่อการใช้ภายในประเทศ

อย่างไรก็ตาม ยังมีกลุ่มสินค้าในส่วนของข้าวโพดเลี้ยงสัตว์และถั่วเหลือง ที่เป็นวัตถุดิบสำคัญของอุตสาหกรรมหลายประเภท ทั้งอุตสาหกรรมแปรรูปผลิตภัณฑ์อาหาร อุตสาหกรรมสกัดน้ำมัน และอุตสาหกรรมอาหารสัตว์ ที่ไทยยังต้องพึ่งพาการนำเข้า โดยข้าวโพดเลี้ยงสัตว์จะนำเข้าจากประเทศเพื่อนบ้าน ลาว กัมพูชา เมียนมา ส่วนถั่วเหลืองนำเข้าจากบราซิลและอเมริกา ประกอบกับ ปัญหาความขัดแย้งระหว่างรัสเซีย–ยูเครน ทำให้เกิดการขาดแคลนพืชวัตถุดิบ  

ดังนั้น กระทรวงเกษตรและสหกรณ์จึงได้มีมาตรการ ประกอบด้วย มาตรการระยะสั้น ซึ่งข้าวโพดและข้าวสาลี ส่วนใหญ่ใช้เป็นแหล่งพลังงานในสูตรอาหารสัตว์กระเพาะเดี่ยว (ไก่เนื้อ ไก่ไข่ ไก่พื้นเมือง และสุกร) กรมปศุสัตว์จึงได้สนับสนุนให้เกษตรกรและผู้ประกอบการเพิ่มการใช้วัตถุดิบอาหารสัตว์ที่สามารถผลิตได้เองภายในประเทศในสูตรอาหารสัตว์ เช่น การใช้ข้าวกะเทาะเปลือกหรือมันสำปะหลังในสูตรอาหาร เพื่อทดแทนข้าวโพดและข้าวสาลี เพื่อให้เกษตรกรได้เลือกสูตรอาหารสัตว์ที่เหมาะสมกับบริบทของพื้นที่และเศรษฐกิจ เช่น สามารถใช้ข้าวกะเทาะเปลือกแทนข้าวโพดหรือข้าวสาลีในสูตรอาหาร โดยได้มีการเผยแพร่ประชาสัมพันธ์สูตรอาหารสัตว์ 90 สูตร (สูตรอาหารสัตว์กระเพาะรวม (โค กระบือ แพะ แกะ) 75 สูตร และ สัตว์กระเพาะเดี่ยว (ไก่ สุกร เป็ด) 15 สูตร ผ่านสื่อออนไลน์ รวมทั้งสนับสนุนเกษตรกรรายย่อยใช้วัตถุดิบที่มีในท้องถิ่นเป็นส่วนผสมและผลิตอาหารสัตว์ใช้เอง โดยให้บริการยืมเครื่องกลด้านอาหารสัตว์ (Motor Pool) และศูนย์บริการอาหารสัตว์กรมปศุสัตว์ (Feed Center) ตลอดจนมีทีมหน่วยบริการจัดการอาหารสัตว์เคลื่อนที่ “Feeding Management Mobile Unit (FMMU)” ให้คำแนะนำการจัดการด้านอาหารสัตว์ เพื่อการจัดการอาหารสัตว์ที่มีความแม่นยำ (precision feeding) ซึ่งจะช่วยลดต้นทุนได้ประมาณ 1-2 บาท/กิโลกรัม โดยสามารถขอรับบริการได้ที่สำนักพัฒนาอาหารสัตว์ และศูนย์วิจัยและพัฒนาอาหารสัตว์ทั้ง 33 แห่ง

สำหรับมาตรการระยะยาว (ปี 2565–2567) ส่งเสริมเกษตรกรปลูกพืชอาหารสัตว์และถั่วเหลือง เพื่อทดแทนการนำเข้า โดยกรมส่งเสริมสหกรณ์ ได้ส่งเสริมและผลักดันให้สมาชิกสหกรณ์และเกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการผลิตข้าวโพดหลังนาเพื่อทดแทนการขาดแคลนข้าวโพดเลี้ยงสัตว์คุณภาพในประเทศ ได้เห็นถึงประโยชน์ของการใช้พื้นที่หลังจากการทำนาเพื่อปรับสมดุลของปริมาณการผลิตข้าวและข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ในการลดรอบการปลูกข้าว ซึ่งเป็นการสร้างสมดุลอุปสงค์ อุปทาน เพื่อลดปัญหาผลผลิตล้นตลาด ราคาผลผลิตตกต่ำ และเพิ่มรายได้ให้กับเกษตรกรต่อไป และ สศก. ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการกำกับ ดูแล เมล็ดถั่วเหลือง ได้ส่งเสริมผลักดันการปลูกถั่วเหลืองในประเทศ โดยขอความร่วมมือจากผู้มีสิทธินำเข้าเมล็ดถั่วเหลือง รับซื้อเมล็ดถั่วเหลืองจากเกษตรกรตามชั้นคุณภาพ และเพื่อสร้างความเข้มแข็งให้กับสหกรณ์การเกษตร/วิสาหกิจชุมชน โดยผู้มีสิทธินำเข้ายินดีที่จะสนับสนุนค่าใช้จ่ายในการรวบรวมผลผลิตเมล็ดถั่วเหลืองให้กับสหกรณ์การเกษตร/วิสาหกิจชุมชน ที่ขึ้นทะเบียนตามพระราชบัญญัติสหกรณ์ พ.ศ. 2542 และพระราชบัญญัติส่งเสริมวิสาหกิจชุมชน พ.ศ. 2548 เพิ่มขึ้นอีกกิโลกรัมละ 1 บาท ในทุกชั้นเกรดคุณภาพอีกด้วย รวมถึงคณะกรรมการบริหารกองทุนเพื่อพัฒนาการผลิตถั่วเหลือง ซึ่งมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เป็นประธาน และมี สศก.เป็นฝ่ายเลขานุการ พร้อมให้การสนับสนุนงบประมาณ เพื่อดำเนินโครงการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตถั่วเหลืองของไทยรองรับกับความต้องการใช้ที่เพิ่มขึ้นในอนาคต

ทั้งนี้ การขับเคลื่อนความมั่นคงด้านอาหาร สิ่งที่ต้องคำนึง คือ 4 ประเด็น ได้แก่ 1) Availability : อาหารเพียงพอ 2) Access : การเข้าถึงอาหาร 3) Stability : เสถียรภาพด้านอาหาร 4) Utilization : การใช้ประโยชน์จากอาหาร ซึ่งแน่นอนว่า ประเทศไทย มีการผลิตอาหารที่พอเพียง ส่วนประเด็นการเข้าถึงอาหาร พบว่า ยังมีประชาชนบางส่วนที่ยังไม่สามารถเข้าถึงอาหารได้ ดังนั้น ภาครัฐจำเป็นต้องเพิ่มขีดความสามารถในการเข้าถึงอาหาร ด้วยการสร้างระบบอาหารชุมชนหรือธนาคารอาหาร (Food Bank) สนับสนุนเครือข่ายเพื่อการแลกเปลี่ยน/เข้าถึงอาหาร โดยเฉพาะในกรณีมีภัยพิบัติ ขณะที่มาตรการในการส่งเสริมการส่งออก ควรมีการเจรจาขยายตลาดส่งออกใหม่ ๆ จัดทำความตกลงความร่วมมือทางการค้าเสรีกับกลุ่มประเทศที่มีศักยภาพ เช่น FTA ไทยและ EU รวมทั้งเร่งส่งเสริมการส่งออกสินค้าเกษตรและอาหารไปยังตลาดที่มีความต้องการนำเข้า จากช่วงวิกฤตที่บางประเทศมีการจำกัดการส่งออกสินค้าวัตถุดิบอาหาร.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่มซิ่งกระบะชนเสาไฟฟ้าล้มขวางถนน 12 ต้น

ชลบุรี 28 ก.ย. – หนุ่มซิ่งกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรตลอดทั้งวัน คาดจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) รถกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน ต.บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น เป็นเสาไฟฟ้าแรงสูง 6 ต้น เสาไฟฟ้าสูง 12 เมตร อีก 6 ต้น ระยะทาง 500 เมตร โชคดีนายสิทธิพงษ์ อายุ 41 ปี คนขับ บาดเจ็บเล็กน้อย แต่ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรบนถนนสายบึง-บ่อวิน ตลอดทั้งวัน คาดว่าจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) จากการสอบสวนทราบว่า นายสิทธิพงษ์ เพิ่งเลิกงาน ขับรถกลับบ้านด้วยความเร็ว อาจหลับใน ทำให้รถเปลี่ยนเลนข้ามไปชนกับเสาไฟฟ้าอีกฝั่ง ส่วนความเสียหายยังประเมินค่าไม่ได้.-สำนักข่าวไทย

“อนุทิน” ร่วมงานศพพ่อ “อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้า ภท.

ราชบุรี 28 ก.ย.- “อนุทิน” ร่วมสวดอภิธรรมศพพ่อ “สส.อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้าภูมิใจไทย ลั่นได้ส่งจิตขออนุญาตคุณพ่อแล้ว นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตาีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วยนายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายศักดา วิเชียรศิลป์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นายสรอรรถ กลิ่นประทุม อดีต สส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย ได้ร่วมไว้อาลัยและสวดอภิธรรมศพ คุณพ่อวุฒิพงศ์ วงษ์พิทักษ์โรจน์ บิดาของนายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สส.ราชบุรี พรรครวมไทยสร้างชาติ เมื่อค่ำวันที่ 27 ก.ย. ที่จังหวัดราชบุรี โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี หัวหน้าส่วนราชการ และประชาชนกว่า 2,000 ร่วมพิธีโดยเป็นการสวดอภิธรรมเป็นคืนที่ 4 และจะมีพิธีบรรจุศพในวันที่ 30 ก.ย. นี้ ในช่วงท้าย นายอนุทิน ได้กล่าวกับผู้ที่ร่วมสวดอภิธรรมศพ ว่า ตนเองมีความสนิทสนมกับ นายอัครเดช มาหลายปีแล้ว นายอัครเดชเป็นคนมีความวิริยะอุสาหะ ตั้งใจทำงานให้พี่น้องประชาชน ตนมีความชื่นชมและศรัทธา ในความขัยนขันแข็งของท่าน ยิ่งไปกว่านั้นการปฏิบัติหน้าที่ในสภาผู้แทนราษฎร ท่านก็ทำหน้าที่ได้ดีเป็นดาวสภา […]

โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA

กรุงเทพฯ 28 ก.ย. – โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA หลัง “อนุทิน” มอบดาบการทูตสู้กัมพูชา ขณะนายกฯ ย้ำยึดสันติในการแก้ปัญหา เพื่อประโยชน์ของประเทศ ภายหลังจากที่นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวในเวทีการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ หรือ UNGA สมัยสามัญ ครั้งที่ 80 ที่นครนิวยอร์ก ทำให้กระแสโซเชียลในประเทศไทย พึงพอใจกับการทำหน้าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ในรัฐบาลของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี เป็นอย่างมาก ทั้งนี้ การเดินทางไปเวที UNGA ของนายสีหศักดิ์ ครั้งนี้ยึดแนวทางแก้ปัญหาความมั่นคงและการต่างประเทศ ที่นายอนุทิน มอบหมายให้ดำเนินการ โดยใช้มาตรการทางการทหารควบคู่กับการทูต เพื่อรักษาอธิปไตยอย่างสันติ เพื่อผลประโยชน์ของประชาชน โดยเฉพาะในกรณีพิพาทไทย-กัมพูชา ขณะที่นายอนุทิน เชื่อว่า การกล่าวถ้อยแถลงในที่ประชุม UNGA ของนายสีหศักดิ์ ทำให้คนไทยมีความเชื่อมั่นอย่างชัดเจนต่อจุดยืนของรัฐบาล สำหรับนโยบาย 4 เดือน 4 ภารกิจหลัก คืนความมั่นใจให้ประเทศไทย ตามนโยบายรัฐบาลของนายอนุทิน […]

กรมอุตุฯ เตือนฝนถล่มทั่วไทย รับมืออิทธิพลพายุบัวลอย

กทม. 28 ก.ย.- กรมอุตุฯ เตือนทั่วไทยรับมือฝนถล่ม อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง จับตาอิทธิพลพายุไต้ฝุ่น “บัวลอย” คาดเคลื่อนขึ้นฝั่งเวียดนามตอนบน พรุ่งนี้ (29 ก.ย.) กรมอุตุนิยมวิทยาเผยประเทศไทยมีฝนตกหนักหลายพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออก โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดสกลนคร นครพนม อุดรธานี ขอนแก่น กาฬสินธุ์ มุกดาหาร จันทบุรี และตราด ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่าน พื้นที่ลุ่ม และพื้นที่น้ำท่วมขัง เนื่องจากร่องมรสุมกำลังแรงพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังแรง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง พายุไต้ฝุ่น […]

ข่าวแนะนำ

สีสัน! อภิปรายนโยบายรัฐบาลวันแรก

29 ก.ย.- การแถลงนโยบายรัฐบาลวันนี้ เหมือนเป็นการซ้อมศึกซักฟอกย่อย เพราะมีการตอบโต้และตั้งฉายามากมาย ติดตามสีสันการอภิปรายนโยบายฯ วันแรก .-สำนักข่าวไทย

เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดฝนหนักคืนนี้

29 ก.ย.- หลายพื้นที่เฝ้าระวังฝนตกหนัก จากอิทธิพล #พายุบัวลอย เชียงใหม่เปิดประตูระบายน้ำทุกจุด เร่งระบายน้ำปิงลงทะเลสาบดอยเต่า พร่องน้ำในเขื่อนแม่งัดฯ เตรียมรับน้ำฝน คาดตกหนักคืนนี้ ขณะที่ จ.นครราชสีมา น้ำล้นสปิลเวย์ เตือนประชาชนระวังน้ำท่วมฉับพลัน พายุฝนตกกระหน่ำหลายพื้นที่จังหวัดสระแก้ว โดยพื้นที่ ต.บ้านแก้ง อ.เมืองสระแก้ว นายก อบต.บ้านแก้ง พร้อมผู้นำชุมชน และอาสาสมัครกู้ภัย ได้นำเรือเครื่องยนต์ท้องแบน เข้าช่วยเหลือ ตาชู-ยายทองคำ และสุนัข 1 ตัว ออกจากบ้านที่โดนน้ำป่าไหลหลาก เข้าท่วมเกือบมิดหลังคา  มาอยู่ในที่ปลอดภัย ยายทองคำ เล่าว่าเมื่อคืนพักอยู่กับตาและหมา กำลังจะเข้านอนแต่ก็มีฝนตกตลอดทั้งคืน น้ำที่คลองก็ยังไม่เห็นว่าจะขึ้นล้นตลิ่งเท่าไร แต่ก็กังวล จึงเฝ้าดูกระทั่งน้ำไหลมาและเข้าท่วม ตกใจ จึงได้นำสุนัขขึ้นบนบ้าน ส่วนข้าวของก็เก็บไม่ทัน จากนั้นจึงอยู่แต่บนบ้านจนถึงเช้า กู้ภัยมาช่วยนำออกมาจากบ้าน อยู่มาหลายสิบปีไม่เคยเจอแบบนี้มาก่อนเลย  ผู้ว่าฯ เชียงใหม่ เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดตกหนักคืนนี้ เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา หลายพื้นที่เชียงใหม่ เริ่มมีฝนตกลงมาบ้างแล้ว ระดับน้ำในลำน้ำปิงที่ไหลผ่านตัวเมืองเชียงใหม่ ที่จุดวัดพี1 เชิงสะพานนวรัฐ ยังอยู่ที่ 2 เมตร 49 เซนติเมตร ต่ำกว่าจุดวิกฤติแจ้งเตือนที่ […]

แถลงนโยบายวันแรกเดือด ประท้วงกันวุ่น

29 ก.ย.- สภาเดือด! แถลงนโยบายรัฐบาลวันแรก อภิปรายตอบโต้-ประท้วงกันเป็นระยะ เมื่อมีการพาดพิงปมเขากระโดง-ฮั้ว สว. แต่ประธานฯ คุมสถานการณ์ได้ ด้านนายกฯ ไม่กังวลวาทกรรมของฝ่ายค้าน ชี้ประเด็นซ้ำๆ และมีการแถลงข้อเท็จจริงไปแล้ว -สำนักข่าวไทย

ฝ่าดงทุ่นระเบิดเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก “ผลักดัน-รื้อถอน”

29 ก.ย.- ทหารเรือฝ่าดงทุ่นระเบิดเข้าเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก จ.ตราด ผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้าม-รื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง 3 หลัง รุกล้ำเขตอธิปไตยไทย ขณะที่ชาวบ้านหนองจาน จ.สระแก้ว นำอาหารมอบให้ทหารแนวหน้า ยังไม่พบความเคลื่อนไหวผิดปกติ พลเรือเอก จิรพล ว่องวิทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ และพลเรือเอก ไพโรจน์ เฟื่องจันทร์ ว่าที่ ผู้บัญชาการทหารเรือ คนใหม่ มอบหมายพลเรือโทอภิชาติ ทรัพย์ประเสริฐ ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน และผู้บัญชาการกองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรี-ตราด (กกล.กปช.จต.) เข้าเคลียร์พื้นที่ชายแดนบ้านชำราก อันเป็นอธิปไตยของไทย โดยหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินตราด กองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรีตราด จึงได้ผลักดันกองกำลังกัมพูชา ออกจากพื้นที่บริเวณตรงข้ามบ้านหนองรี ตำบลชำราก ไม่มีกำลังฝ่ายกัมพูชาวางกำลังแล้ว ผลจากการปฏิบัติการ บรรลุเป้าหมายสำคัญ คือ สามารถทำลายสิ่งปลูกสร้างทั้ง 3 หลังลงได้อย่างสิ้นเชิง ที่สำคัญที่สุดคือ สามารถผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้ามให้ออกจากพื้นที่รุกล้ำได้อย่างสมบูรณ์ ประชาชนนำอาหารมอบทหารแนวหน้า บ้านหนองจาน จ.สระแก้ว ส่วนที่บ้านหนองจาน จังหวัดสระแก้ว บรรยาศเงียบเหงา แต่ยังคงมีประชาชนเดินทางนำอาหาร เช่น ไข่ไก่ น้ำดื่ม นำมามอบให้กับทหารแนวหน้า ถึงแม้จะไม่คึกคักเหมือนวันก่อนๆ […]