“คมนาคม” เตรียมพร้อมการเดินทางวันหยุดยาว

กรุงเทพฯ 8 ก.ค.- กระทรวงคมนาคม เตรียมความพร้อมหน่วยงานในสังกัด อำนวยความสะดวกการเดินทางในช่วงวันอาสาฬหบูชาและวันเข้าพรรษา และช่วงวันเฉลิมพระชนมพรรษาฯ พ.ศ. 2565 เน้นย้ำต้องส่งประชาชนเดินทางถึงที่หมายอย่างสะดวก ปลอดภัยจากอุบัติเหตุและการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อ COVID-19


นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า กระทรวงคมนาคม (คค.) เตรียมการรองรับการเดินทางของประชาชนในช่วงวันหยุดยาวเดือนกรกฎาคม 2565 ในวันอาสาฬหบูชา และวันเข้าพรรษา ระหว่างวันที่ 13-17 กรกฎาคม 2565 และวันเฉลิมพระชนมพรรษาฯ ระหว่างวันที่ 28-31 กรกฎาคม 2565 โดยกำชับหน่วยงานในสังกัดบูรณาการร่วมกันให้ประชาชนเดินทางสะดวก ปลอดภัย และห่างไกล COVID-19 และมอบหมายให้สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) จัดทำมาตรการอำนวยความสะดวกและความปลอดภัยรองรับการเดินทางของประชาชน ในช่วงวันอาสาฬหบูชาและวันเข้าพรรษา ระหว่างวันที่ 13-17 กรกฎาคม 2565 และวันเฉลิมพระชนมพรรษาฯ ระหว่างวันที่ 28-31 กรกฎาคม 2565 ของ คค. โดยตั้งเป้าหมายการดำเนินการดังนี้ (1) จัดบริการขนส่งสาธารณะ ทั้งรถโดยสารสาธารณะ รถไฟ เรือโดยสารสาธารณะ และเครื่องบิน ให้เพียงพอต่อการเดินทาง (2) ตรวจความพร้อมระบบขนส่งสาธารณะ พนักงาน และผู้โดยสาร อย่างต่อเนื่อง และมีมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) อย่างเข้มงวด และ (3) อำนวยความสะดวกการเดินทางบนโครงข่ายถนน มีการบริหารจัดการจราจรและมาตรการป้องกันอุบัติเหตุทางถนน

นายศักดิ์สยาม กล่าวเพิ่มเติมว่า หน่วยงานในสังกัด คค. ได้จัดเตรียมแผนงาน/มาตรการอำนวยความสะดวกและความปลอดภัยรองรับการเดินทางของประชาชน ช่วงวันอาสาฬหบูชาและวันเข้าพรรษา และช่วงวันเฉลิมพระชนมพรรษาฯ 2565 ของ คค. ที่ครอบคลุมในมิติอำนวยความสะดวกในการเดินทาง มิติความปลอดภัยในการเดินทาง มิติด้านการควบคุม COVID-19 ประกอบด้วย


1. มิติอำนวยความสะดวกในการเดินทาง  

– เตรียมบริการขนส่งสาธารณะ ทั้งทางถนน ราง น้ำ และอากาศ ให้เพียงพอ ไม่ให้มีผู้โดยสารตกค้าง และจัดบริการรถสาธารณะเชื่อมต่อกับท่าอากาศยานและสถานีรถไฟฟ้า เพื่อให้ประชาชนเดินทางด้วยระบบขนส่งสาธารณะได้อย่างสะดวกและปลอดภัยมากที่สุด

– เตรียมมาตรการสำหรับบริหารจัดการจราจรบนเส้นทางถนนสายหลักและสายรองที่มีการจราจรหนาแน่นติดขัด โดยได้คาดการณ์ปริมาณจราจรขาเข้าและขาออกกรุงเทพฯ บนทางหลวงสายหลัก 5 Corridor ได้แก่ สายเหนือ สายอีสาน สายตะวันออก สายตะวันตก และสายใต้ โดยในช่วงวันอาสาฬหบูชา-เข้าพรรษา มีปริมาณจราจรขาเข้ารวม 2.39 ล้านคัน และขาออกรวม 2.41 ล้านคัน และช่วงวันเฉลิมพระชนมพรรษาฯ มีปริมาณจราจรขาเข้ารวม 2.15 ล้านคัน และขาออกรวม 2.15 ล้านคัน ซึ่งในช่วงวันหยุดยาวดังกล่าวมีปริมาณการจราจรใกล้เคียงกับความสามารถในการรองรับ (Capacity) ของสายทาง ซึ่ง คค.ได้เตรียมการบริหารจัดการจราจรเพื่อรองรับไว้ด้วยแล้ว อาทิ จัดเจ้าหน้าที่จัดการจราจร รวมทั้งให้ดำเนินการคืนพื้นผิวจราจรบริเวณโครงการก่อสร้าง ตั้งจุดกวดขันวินัยจราจร และประชาสัมพันธ์ให้ใช้เส้นทางเลี่ยงจากถนนสายหลัก เพื่อลดปริมาณการจราจร


– ให้บริการฟรี อาทิ ยกเว้นการจัดเก็บค่าธรรมเนียมทางพิเศษ 3 เส้นทาง ได้แก่ ทางพิเศษศรีรัช อุดรรัถยา และเฉลิมมหานคร ในช่วงวันอาสาฬหบูชาและวันเข้าพรรษา ระหว่างวันที่ 13-14 กรกฎาคม 2565 และช่วงวันเฉลิมพระชนมพรรษาฯ ในวันที่ 28 กรกฎาคม 2565 และบริการที่จอดรถฟรี ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ บริเวณลานจอดรถยนต์ระยะยาว โซน C

2. มิติความปลอดภัยในการเดินทาง 

– ตรวจสอบปรับปรุงแก้ไขจุดเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ (Black Spot) เช่น บริเวณจุดกลับรถ ทางแยก ทางโค้ง/ทางลาดชัน และจุดตัดถนนกับรถไฟ/ทางลักผ่าน รวมทั้งขอความร่วมมือผู้ประกอบการขนส่งสินค้า เลี่ยงการขนส่งสินค้าด้วยรถบรรทุกในช่วงดังกล่าว เพื่อให้เกิดการเดินทางอย่างปลอดภัยในช่วงฤดูฝนที่อาจเกิดความเสี่ยงจากถนนลื่นและทัศนวิสัยในการขับขี่

– เข้มงวดการบังคับใช้กฎหมาย กำกับดูแลด้านวินัยจราจร และรณรงค์ประชาสัมพันธ์สร้างความตระหนักรู้ และลดพฤติกรรมเสี่ยงในการขับขี่ อาทิ การขับรถเร็วเกินกฎหมายกำหนด ดื่มแล้วขับ ไม่คาดเข็มขัดนิรภัย/ไม่สวมหมวกนิรภัย โดยการตรวจจับความเร็ว การติดตามด้วยระบบ GPS การตั้งจุดตรวจ (Checking Point)

– การกำกับดูแลความพร้อม ตรวจสอบพนักงานขับขี่และพนักงานประจำรถโดยสารสาธารณะ เรือโดยสาร และรถไฟ ให้ปฏิบัติตามกฎหมายกฎระเบียบ เช่น ไม่ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ไม่ใช้สารเสพติด พักผ่อนให้เพียงพอ รวมถึงตรวจความพร้อมความปลอดภัยของรถโดยสารสาธารณะ เรือโดยสาร รถไฟ และเครื่องบิน รวมถึงภายในสถานีขนส่งผู้โดยสาร สถานีรถไฟ ท่าเรือ และท่าอากาศยาน ตลอดจนตั้งศูนย์ปฏิบัติการของหน่วยงานในส่วนกลางและส่วนภูมิภาค เพื่อกำกับดูแล/สั่งการให้เกิดความปลอดภัยและรับเรื่องร้องเรียน

3. มิติด้านการควบคุม COVID-19

– เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานต้องดำเนินมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของ COVID-19 โดยถือปฏิบัติตามข้อกำหนด พ.ร.ก.ฉุกเฉิน และคำสั่ง ศบค. อย่างเคร่งครัด โดยตรวจสอบกำกับดูแลการให้บริการขนส่งสาธารณะตามแนวทางที่กำหนด อาทิ จัดจุดตรวจคัดกรอง จัดให้มีการเว้นระยะห่าง การปฏิบัติตามมาตรการด้านสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด

นอกจากนี้ นายศักดิ์สยาม ได้สั่งการให้มีมาตรการรองรับปริมาณการเดินทางในช่วงวันอาสาฬหบูชา-เข้าพรรษา และช่วงวันเฉลิมพระชนมพรรษาฯ ดังนี้

1. เส้นทางสู่ภาคเหนือ เน้นการประชาสัมพันธ์ส่งเสริมการใช้ ทล.340 (กรุงเทพฯ-สุพรรณบุรี-ชัยนาท-นครสวรรค์) เป็นเส้นทางเลี่ยงสู่ภาคเหนือ เพื่อแบ่งเบาภาระ ทล.32

2. เส้นทางสู่ภาคใต้ จัดเจ้าหน้าที่เพื่ออำนวยความสะดวกการจราจรบริเวณพื้นที่ก่อสร้าง โครงการทางยกระดับ ทล.35 ช่วงบางขุนเทียน-เอกชัย บริเวณหน้าวัดพันท้ายนรสิงห์ และโครงการทางยกระดับบน ทล.35 ช่วงเอกชัย-บ้านแพ้ว บริเวณพื้นที่ก่อสร้างสะพานกลับรถบ้านแพ้ว รวมถึงเน้นการประชาสัมพันธ์การปิดสะพานกลับรถหน้า รพ.วิภาราม (กม.34)

3. เส้นทางสู่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เน้นการประชาสัมพันธ์ และรณรงค์ให้ประชาชนใช้ทางเลี่ยงเส้นทาง ทล.304 เพื่อกระจายปริมาณจราจรจากเส้นทางหลัก (ทล.2) ไปยังพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และจัดเจ้าหน้าที่เพื่ออำนวยความสะดวกการจราจร ขณะดำเนินการและติดตั้งป้ายเตือนการก่อสร้างและเส้นทางเลี่ยง บนทางหลวงหมายเลข 2 ระหว่าง กม.75+500 – กม.77+500

4. เส้นทางสู่ภาคตะวันออก รณรงค์ให้ใช้ทางหลวงหมายเลข 36 หมายเลข 344 และหมายเลข 34 เป็นการเลี่ยงรถติดบนทางหลวงพิเศษหมายเลข 7 เพื่อไปยังภาคตะวันออก

นอกจากนี้ นายศักดิ์สยาม ได้มีข้อสั่งการเน้นย้ำให้หน่วยงานในสังกัด คค. ดำเนินการเพื่ออำนวยความสะดวกและความปลอดภัยการเดินทางในช่วงวันอาสาฬหบูชาและวันเข้าพรรษา และช่วงวันเฉลิมพระชนมพรรษาฯ พ.ศ. 2565 ดังนี้

– ให้หน่วยงานในสังกัด คค. เข้มงวดการประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนทราบถึงแนวทางการป้องกัน COVID-19 โดยเฉพาะการเดินทางในระบบขนส่งสาธารณะ เช่น การสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลาการเดินทาง

– ให้ ทล. เปิดให้บริการทางหลวงระหว่างเมืองหมายเลข 6 (M6) ช่วงสีคิ้ว-ขามทะเลสอ ระยะทาง 64 กม. โดยให้บริการฟรี ในช่วงวันอาสาฬหบูชาและวันเข้าพรรษา ขาออก วันที่ 13-14 กรกฎาคม 2565 และขาเข้า วันที่ 15-17 กรกฎาคม 2565 และช่วงวันเฉลิมพระชนมพรรษาฯ ขาออก วันที่ 28-29 กรกฎาคม 2565 และขาเข้า วันที่ 30-31 กรกฎาคม 2565

– ให้จัดเตรียมสิ่งอำนวยความสะดวกและเจ้าหน้าที่ เช่น บริเวณจุดพักรถ สถานีให้บริการน้ำมัน รวมทั้งเฝ้าระวังบริเวณจุดเสี่ยง เช่น ทางลาดชัน ทางโค้ง พร้อมประสานตำรวจทางหลวงช่วยดำเนินงาน

– ให้ทุกหน่วยงานประชาสัมพันธ์เรื่องการอำนวยความสะดวกและความปลอดภัยในการเดินทางในช่วงวันหยุดให้ประชาชนรับทราบผ่านช่องทางต่างๆ.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่มซิ่งกระบะชนเสาไฟฟ้าล้มขวางถนน 12 ต้น

ชลบุรี 28 ก.ย. – หนุ่มซิ่งกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรตลอดทั้งวัน คาดจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) รถกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน ต.บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น เป็นเสาไฟฟ้าแรงสูง 6 ต้น เสาไฟฟ้าสูง 12 เมตร อีก 6 ต้น ระยะทาง 500 เมตร โชคดีนายสิทธิพงษ์ อายุ 41 ปี คนขับ บาดเจ็บเล็กน้อย แต่ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรบนถนนสายบึง-บ่อวิน ตลอดทั้งวัน คาดว่าจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) จากการสอบสวนทราบว่า นายสิทธิพงษ์ เพิ่งเลิกงาน ขับรถกลับบ้านด้วยความเร็ว อาจหลับใน ทำให้รถเปลี่ยนเลนข้ามไปชนกับเสาไฟฟ้าอีกฝั่ง ส่วนความเสียหายยังประเมินค่าไม่ได้.-สำนักข่าวไทย

“อนุทิน” ร่วมงานศพพ่อ “อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้า ภท.

ราชบุรี 28 ก.ย.- “อนุทิน” ร่วมสวดอภิธรรมศพพ่อ “สส.อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้าภูมิใจไทย ลั่นได้ส่งจิตขออนุญาตคุณพ่อแล้ว นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตาีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วยนายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายศักดา วิเชียรศิลป์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นายสรอรรถ กลิ่นประทุม อดีต สส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย ได้ร่วมไว้อาลัยและสวดอภิธรรมศพ คุณพ่อวุฒิพงศ์ วงษ์พิทักษ์โรจน์ บิดาของนายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สส.ราชบุรี พรรครวมไทยสร้างชาติ เมื่อค่ำวันที่ 27 ก.ย. ที่จังหวัดราชบุรี โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี หัวหน้าส่วนราชการ และประชาชนกว่า 2,000 ร่วมพิธีโดยเป็นการสวดอภิธรรมเป็นคืนที่ 4 และจะมีพิธีบรรจุศพในวันที่ 30 ก.ย. นี้ ในช่วงท้าย นายอนุทิน ได้กล่าวกับผู้ที่ร่วมสวดอภิธรรมศพ ว่า ตนเองมีความสนิทสนมกับ นายอัครเดช มาหลายปีแล้ว นายอัครเดชเป็นคนมีความวิริยะอุสาหะ ตั้งใจทำงานให้พี่น้องประชาชน ตนมีความชื่นชมและศรัทธา ในความขัยนขันแข็งของท่าน ยิ่งไปกว่านั้นการปฏิบัติหน้าที่ในสภาผู้แทนราษฎร ท่านก็ทำหน้าที่ได้ดีเป็นดาวสภา […]

โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA

กรุงเทพฯ 28 ก.ย. – โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA หลัง “อนุทิน” มอบดาบการทูตสู้กัมพูชา ขณะนายกฯ ย้ำยึดสันติในการแก้ปัญหา เพื่อประโยชน์ของประเทศ ภายหลังจากที่นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวในเวทีการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ หรือ UNGA สมัยสามัญ ครั้งที่ 80 ที่นครนิวยอร์ก ทำให้กระแสโซเชียลในประเทศไทย พึงพอใจกับการทำหน้าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ในรัฐบาลของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี เป็นอย่างมาก ทั้งนี้ การเดินทางไปเวที UNGA ของนายสีหศักดิ์ ครั้งนี้ยึดแนวทางแก้ปัญหาความมั่นคงและการต่างประเทศ ที่นายอนุทิน มอบหมายให้ดำเนินการ โดยใช้มาตรการทางการทหารควบคู่กับการทูต เพื่อรักษาอธิปไตยอย่างสันติ เพื่อผลประโยชน์ของประชาชน โดยเฉพาะในกรณีพิพาทไทย-กัมพูชา ขณะที่นายอนุทิน เชื่อว่า การกล่าวถ้อยแถลงในที่ประชุม UNGA ของนายสีหศักดิ์ ทำให้คนไทยมีความเชื่อมั่นอย่างชัดเจนต่อจุดยืนของรัฐบาล สำหรับนโยบาย 4 เดือน 4 ภารกิจหลัก คืนความมั่นใจให้ประเทศไทย ตามนโยบายรัฐบาลของนายอนุทิน […]

กรมอุตุฯ เตือนฝนถล่มทั่วไทย รับมืออิทธิพลพายุบัวลอย

กทม. 28 ก.ย.- กรมอุตุฯ เตือนทั่วไทยรับมือฝนถล่ม อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง จับตาอิทธิพลพายุไต้ฝุ่น “บัวลอย” คาดเคลื่อนขึ้นฝั่งเวียดนามตอนบน พรุ่งนี้ (29 ก.ย.) กรมอุตุนิยมวิทยาเผยประเทศไทยมีฝนตกหนักหลายพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออก โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดสกลนคร นครพนม อุดรธานี ขอนแก่น กาฬสินธุ์ มุกดาหาร จันทบุรี และตราด ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่าน พื้นที่ลุ่ม และพื้นที่น้ำท่วมขัง เนื่องจากร่องมรสุมกำลังแรงพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังแรง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง พายุไต้ฝุ่น […]

ข่าวแนะนำ

สีสัน! อภิปรายนโยบายรัฐบาลวันแรก

29 ก.ย.- การแถลงนโยบายรัฐบาลวันนี้ เหมือนเป็นการซ้อมศึกซักฟอกย่อย เพราะมีการตอบโต้และตั้งฉายามากมาย ติดตามสีสันการอภิปรายนโยบายฯ วันแรก .-สำนักข่าวไทย

เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดฝนหนักคืนนี้

29 ก.ย.- หลายพื้นที่เฝ้าระวังฝนตกหนัก จากอิทธิพล #พายุบัวลอย เชียงใหม่เปิดประตูระบายน้ำทุกจุด เร่งระบายน้ำปิงลงทะเลสาบดอยเต่า พร่องน้ำในเขื่อนแม่งัดฯ เตรียมรับน้ำฝน คาดตกหนักคืนนี้ ขณะที่ จ.นครราชสีมา น้ำล้นสปิลเวย์ เตือนประชาชนระวังน้ำท่วมฉับพลัน พายุฝนตกกระหน่ำหลายพื้นที่จังหวัดสระแก้ว โดยพื้นที่ ต.บ้านแก้ง อ.เมืองสระแก้ว นายก อบต.บ้านแก้ง พร้อมผู้นำชุมชน และอาสาสมัครกู้ภัย ได้นำเรือเครื่องยนต์ท้องแบน เข้าช่วยเหลือ ตาชู-ยายทองคำ และสุนัข 1 ตัว ออกจากบ้านที่โดนน้ำป่าไหลหลาก เข้าท่วมเกือบมิดหลังคา  มาอยู่ในที่ปลอดภัย ยายทองคำ เล่าว่าเมื่อคืนพักอยู่กับตาและหมา กำลังจะเข้านอนแต่ก็มีฝนตกตลอดทั้งคืน น้ำที่คลองก็ยังไม่เห็นว่าจะขึ้นล้นตลิ่งเท่าไร แต่ก็กังวล จึงเฝ้าดูกระทั่งน้ำไหลมาและเข้าท่วม ตกใจ จึงได้นำสุนัขขึ้นบนบ้าน ส่วนข้าวของก็เก็บไม่ทัน จากนั้นจึงอยู่แต่บนบ้านจนถึงเช้า กู้ภัยมาช่วยนำออกมาจากบ้าน อยู่มาหลายสิบปีไม่เคยเจอแบบนี้มาก่อนเลย  ผู้ว่าฯ เชียงใหม่ เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดตกหนักคืนนี้ เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา หลายพื้นที่เชียงใหม่ เริ่มมีฝนตกลงมาบ้างแล้ว ระดับน้ำในลำน้ำปิงที่ไหลผ่านตัวเมืองเชียงใหม่ ที่จุดวัดพี1 เชิงสะพานนวรัฐ ยังอยู่ที่ 2 เมตร 49 เซนติเมตร ต่ำกว่าจุดวิกฤติแจ้งเตือนที่ […]

แถลงนโยบายวันแรกเดือด ประท้วงกันวุ่น

29 ก.ย.- สภาเดือด! แถลงนโยบายรัฐบาลวันแรก อภิปรายตอบโต้-ประท้วงกันเป็นระยะ เมื่อมีการพาดพิงปมเขากระโดง-ฮั้ว สว. แต่ประธานฯ คุมสถานการณ์ได้ ด้านนายกฯ ไม่กังวลวาทกรรมของฝ่ายค้าน ชี้ประเด็นซ้ำๆ และมีการแถลงข้อเท็จจริงไปแล้ว -สำนักข่าวไทย

ฝ่าดงทุ่นระเบิดเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก “ผลักดัน-รื้อถอน”

29 ก.ย.- ทหารเรือฝ่าดงทุ่นระเบิดเข้าเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก จ.ตราด ผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้าม-รื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง 3 หลัง รุกล้ำเขตอธิปไตยไทย ขณะที่ชาวบ้านหนองจาน จ.สระแก้ว นำอาหารมอบให้ทหารแนวหน้า ยังไม่พบความเคลื่อนไหวผิดปกติ พลเรือเอก จิรพล ว่องวิทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ และพลเรือเอก ไพโรจน์ เฟื่องจันทร์ ว่าที่ ผู้บัญชาการทหารเรือ คนใหม่ มอบหมายพลเรือโทอภิชาติ ทรัพย์ประเสริฐ ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน และผู้บัญชาการกองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรี-ตราด (กกล.กปช.จต.) เข้าเคลียร์พื้นที่ชายแดนบ้านชำราก อันเป็นอธิปไตยของไทย โดยหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินตราด กองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรีตราด จึงได้ผลักดันกองกำลังกัมพูชา ออกจากพื้นที่บริเวณตรงข้ามบ้านหนองรี ตำบลชำราก ไม่มีกำลังฝ่ายกัมพูชาวางกำลังแล้ว ผลจากการปฏิบัติการ บรรลุเป้าหมายสำคัญ คือ สามารถทำลายสิ่งปลูกสร้างทั้ง 3 หลังลงได้อย่างสิ้นเชิง ที่สำคัญที่สุดคือ สามารถผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้ามให้ออกจากพื้นที่รุกล้ำได้อย่างสมบูรณ์ ประชาชนนำอาหารมอบทหารแนวหน้า บ้านหนองจาน จ.สระแก้ว ส่วนที่บ้านหนองจาน จังหวัดสระแก้ว บรรยาศเงียบเหงา แต่ยังคงมีประชาชนเดินทางนำอาหาร เช่น ไข่ไก่ น้ำดื่ม นำมามอบให้กับทหารแนวหน้า ถึงแม้จะไม่คึกคักเหมือนวันก่อนๆ […]